ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : BeLoveD 4: บทเพลงยามค่ำคืน
ครบ 100% แล้วน้า อย่าลืมเม้นด้วยล่ะ
แล้วจารีบอัพนา(ถ้าไม่ขี้เกียจ แต่คงไม่ขี้เกียจหรอก(มั้งค่ะ)) วงเล็บแล้ววงเล็บอีก
*******************************************************************************
“หืมมม”
ฉันลืมตาตื่นขึ้นมา เหลือบไปมองนาฬิกาที่สภาพยับเยือนเนื่องจากฉันจะเขวี้ยงมันทิ้งทุกเช้าแต่มันก็ยังทันทานอยู่
ตอนนี้ก็ทุ่มนึงแล้ว นัดกับหยกไว้ 2 ทุ่ม คงไปทันนะ ฉันเริ่มบิดขี้เกียจทั้งๆที่อยู่บนเตียง แล้วก็อยู่ก็ต้องสะดุดเมื่อมือฉันไปโดนอะไรเข้า นุ่มๆ พิลึก
    “เฮ้ย”
ฉันหันหน้าไปดูปรากฏว่าฉันพบล่างไอ้บ้าที่ใช้ให้ทำความสะอาดอยู่ข้าง แต่มันขึ้นมาข้างบนได้ไงฟะ เออแล้วอะไรเนี่ยนุ่มๆ ฉันก็มองไปตามแขนอันยาวเหยียดเหมือนเปรตของตัวเองจนพบมือของตัวเองอยู่ที่
อยู่ที่
อยู่ที่
อยู่ที่พุงของหมอนั่น โอวมายก๊อด มันนะจะลงไปต่ำกว่านี้อีก เอ้ยๆๆ ไม่ได้ ต้องรีบปลุก เรื่องอะไรจะมานอนบนเตียงฉันยะ
“นี่นาย” ไม่มีเสียงตอบรับ
“นาย!!!!” ฉันเลยตะโกนกรอกหูซะเลย
“เฮ้ยอะไรยัยหวีดเสียงดัง คนจะนอน แจ๊บๆ” ทุ เรศลูกตาจริงดูทำเข้า
“ลุกออกไปจากห้องฉันซิยะ แล้วนายมาทำอะไรบนนี้เนี่ย”
“หือ” ยังไม่ตื่นรึไงนะ
“ฉันถามว่านายมาทำอะไรบนนี้!!!”
“อ่อ ก็มาปลุกไง เธอสั่งเองไม่ใส่หรอเลอะเลือนใหญ่แล้ว” เออเนอะ
“แค่มาปลุกแล้วทำไมมานอนบนเตียงฉันได้ยะ หรือว่านาย...”
“เฮ้ยๆ ฉันไม่กล้าหรอกมันน่ากลัว แล้วฉันก็ปลุกเธอตั้งนานไม่ตื่นซักทีก็เลยนอนเป็นเพื่อนไง” อะไรน่ากลัวฟะไอ้บ้านี่
“พูดดีๆหน่อย” ในที่สุดนายนั่นก็ลุกออกไปจากเตียงฉันสักที
“แล้วทำไมห้องเธอสภาพมันเป็นแบบนี้ล่ะ อย่างกับสนามรบเลย” เค้าพูดพลางมองไปรอบๆห้อง
“เหอๆ ไม่มีอะไร”
“แน่ใจนะ หน้าตาก็หวีดสยองอยู่แล้ว อย่าพยายามทำให้ห้องหวีดหยองไปด้วยเลย”
“ไอ้บ้านี่ ออกไปได้แล้ว”
“เออ”
“เดี๋ยวเราไปที่อื่นต่อ”
“ห๊าไปไหนอีกอ่ะ เธอยังไม่ปล่อยฉันไปอีกเรอะ”
“ยังไม่เที่ยงคืนเฟ้ย”
“อ้อๆ เหมือนเจ้าหญิงนินทาอ่ะหรอ” นินทาบ้าอะไรฟะ
“สโนว์ไวท์ต่างหากออกไปได้แล้ว” (พอกันทั้งคู่เลย -_- :ฟ่าง)
เค้าทำตามที่ฉันพูดพลางเดินเขย่งๆไปที่ประตูเพราะกลัวโดนแก้วบาด แต่ก่อนจะไปเค้าก็หันมาถามฉันประโยตนึง
“เธอชื่ออะไรหรอ”
“ฉันหรอ”
“แล้วมีคนอื่นอีกรึไงฟะ”
“ข้าวตู” ฉันตอบเบาๆกลัวมันจะเอาชื่อฉันไปดัดแปลงแบบคนอื่นๆ
“อะไรนะ”
“ข้าวตูเฟ้ย ชื่อข้าวตูได้ยินรึยางงงง” หูตึงดีนักตะโกนซะเลย
“อ๋อ ชื่อข้าวบูดหรอ เหมาะสมกับหน้าดีนี่”
ปัง~ตุ้บ~
เค้าพูดพลางปิดประตูดังปังก่อนที่หมอนที่ฉันโยนจะไปถึงตัวเค้า หนอยไม่วายเอาชื่อฉันไปทำมิดีมิร้าย
“ข้าวตูเฟ้ย ไม่ใช่ข้าวบูด!!!” ฉันตะโกนตามหลังไป
เออแล้วไอ้บ้านั่นชื่ออะไรอ่ะลืมถามไปเลย แต่ช่างเหอะรู้จักกันแค่วันนี้วันเดียว วันหน้าคงไม่พบไม่เจอกันอีกแล้วล่ะ ไม่ถามดีกว่า
ฉันเข้าไปอาบน้ำแต่งตัวอย่างรวดเร็วเพราะว่านัดไอ้หยกไว้สองทุ่ม เดี๋ยวไม่ทัน เมื่อกี้ก็เสียเวลาถึงกับไอ้บ้านั่นไปหลายนาทีแล้ว
ฉันออกมาจากห้องน้ำ แล้วก็มาหวีผม ตั้งใจว่าจะไม่ทำแบบเมื่อเช้าอีกแล้ว ทาแป้งเด็กแคร์ แล้วก็ลิปมันอีกนิดหน่อย ปล่อยผมที่ยาวเหยีดตรงถึงกลางหลังลง สวมเสื้อแขนกุดสีชมพู มีลายนิดหน่อย แล้วก็กระโปรงยีนส์สีดำที่ยาวประมาณเหนือเข่าขึ้นมานิดหน่อย แล้วก็ไปควานหากระเป๋าในตู้
อุ๊ยเจอแล้ว กระเป๋าใบเล็กที่ดูเหมาะกับฉันมากกว่ากระเป๋าที่จะซื้อไปฝากคุณยาย แต่ทำเมื่อเช้าฉันหาไม่เจอฟะ ฉันถอดแว่นคุณป้าออก เพราะว่าฉันจะไม่ใส่ไปไหนอีกเด็ดขาดยกเว้นเวลาไปเรียนถึงแม้มันจะทำให้ฉันมองไม่ค่อยชัดก็ตามเถอะ
“มาแล้วๆ”
ฉันพูดพลางวิ่งลงมาจากข้างบน
“O_o”
“อะไรของนาย”
“คุณป้าหวีดสยองไปไหน แล้วเธอเป็นใคร”
“นายว่าใครป้าหวีดสยองยะ”
“ก็คุณป้าที่ใส่แว่นกรอบหนาๆ หัวฟูๆ แล้วก็ ”
“พอเลยๆ ฉันเนี่ยล่ะ อย่าเรื่องมากเร็วๆเดี๋ยวไปไม่ทันนัดไอ้หยกมันฆ่าฉันตายแน่”
“ชิ เชื่อแล้วว่าเธอคือยัยหวีดสยอง สั่งๆๆๆ เหมือนกันไม่มีผิด” ตาบ้านี่หันหลังเดินไปพลางบ่นพึมพำๆ ที่ไม่ค่อยพึมพำๆ
“บ่นอะไรยะ”
“ไม่รู้ไม่ชี้” อะไรฟะ
บนรถของตาบ้านั่นที่วันนี้มันเป็นของฉัน
ลันลาๆ ลันลา ตุ๊ดตูด~~
เสียงโทรศัพท์ฉันดังขึ้นทำให้ไอ้คนที่นั่งข้างๆหันมามองด้วยแววตาสงสัย
“อะไรยะ โทรศัพท์ฉันจะดังมั่งไม่ได้เลยรึไง”
“ป๊าว ฉันแค่คิดว่าใครมันจะหลงผิดโทรมาหายัยหวีดสยองอย่างเธอ”
“มีแล้วกันน่ะ”
“รับโทรศัพท์ซิ เสียงเรียกเข้าเธอมันทำให้ฉันปวดหัว”
“ย่ะ”
ฉันยกโทรศัพท์ขึ้นมาดูปรากฏชื่อ ‘ข้าวตัง’ อยู่บนหน้าจอ
“เฮ้อ” ฉันถอนหายใจก่อนรับ
“ฮัลโหล”
(ตูจ๋า) เสียงอ้อนมาเลยนะเนี่ยจะเอาอะไรอีกล่ะ
“อือ”
(แหม อย่าทำเสียงไร้เยื่อใยกับพี่ขนาดนี้ซิ)
“มีอะไรก็ว่ามาซิ รำคาญแล้ว”
(โถ่ โมโหแล้วแก่เร็วนะ)
“เรื่องของฉัน พี่ตังมีอะไรล่ะ”
(จะโทรมาบอกว่าวันนี้ไม่กลับนะ เข้าเวรดึก)
“เฮ้ย อะไรอ่ะ หมอฟังบ้านพี่รึไงเข้าเวรยันเช้าอ่ะ”
(อือ) ตอบหน้าตาเฉยอีกเฟ้ย
“จะไปไหนจะบอกมาดีๆรึจะให้ไปเค้นคือถามเลย”
(เอ่อ...)
“แล้วนายจอดรถทำไมเนี่ย”
“แล้วเธอจะไปไหนล่ะไม่บอกฉันแล้วจะไปตรัสรู้ได้ไง”
“เออลืม ไปร้าน for you รู้จักใช่มั๊ย”
“คิดว่ารู้จัก”
“งั้นก็ดีขับรถไปเลย”
(อะไรตูอยู่กับใครทำไมมีเสียงผู้ชายด้วย)
“เรื่องของฉัน นายตอบมาดีกว่าว่าจะไปไหน”
(ป...ไป)
“ไปไหนก็ตอบมาซิอ้ำๆอึ้งๆอยู่ได้”
(ไปกินข้าวกับหมี่) อ๋อมิน่าถึงว่ายัยหมี่ชวนแล้วไม่ยอมไป แต่เดี๋ยวๆ
“ไปกินข้าวอย่างเดียวแน่ใจนะ”
(ก็กะไปต่อที่อื่นด้วย)
“ที่ไหน”
(ที่ไหนดีล่ะ มันเขินนะ)
หึๆ ดีเหมือนกันฉันอยากอุ้มหลานไวๆ พยายามเข้านะพี่ตัง แต่นี่มันก็คือสิ่งที่ฉันคิดซึ่งฉันไม่ได้พูดออกไปหรอก
“ตาแก่หัวงู ถ้าหมี่ท้องฉันเอาแกตายแน่” นี่ๆเป็นไงฉันต้องทำแบบเป็นห้องเพื่อนหน่อย แต่ใจจริงอ่ะ
พีตังพยายามเข้านา ตูชอบหลานสาวมากกว่า ฮ่าๆ
    (มือระดับพี่แล้วไม่มีพลาดหรอกน่า)
    พี่ฉันพูดได้ไม่อายปาดเลย
    “เออ ดีพี่ตังไม่อยู่ตูก็ได้ไปเที่ยวมั่งบ๊ายบาย”
    (เดี๋ยวไอ้ตูดแกจะไปไหนไปกับใคร ไม่ได้นะเฟ้ย พ่อรู้เอาพี่ตายเลย)
    ปิ๊ป
    ฉันรีบวางสายไปก่อน ฮ่าๆดีมันจะได้มีต้องสงบสุขกันนัก (ไหนแกว่าอยากได้หลานไง ;ฟ่าง) (อยากแกล้งคนมากกว่าว่ะ ;ตู)
    “มองอะไรยะ”
    “มองคนบ้านั่งยิ้มอยู่คนเดียว อยากอุ้มหลานจนทนไม่ไหวเลยหรอ ถ้าไงเรามามีของเราเองเลยดีมั๊ย”
    ในรู้ความคิดฉันได้ไงฟะ
    “ตาบ้า”
    “ฮ่าๆๆ พร้อมเมื่อไหร่ก็บอกนะยัยข้าวบูด”
    ไม่เถียงแล้วเฟ้ย
ร้าน ‘for you’
    ร้านนี้เป็นร้านเหล้าเล็กๆ เป็นร้านประจำที่ฉันแอบมากับหมี่หยก
    “ต๊ายตายน้องตูนั่นเอง ยังสวยเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลยนะค๊า” กรี๊ดมีคนชมว่าฉันสวย
    “ไม่เห็นสวยเลย” เอ๊ะใครพูดไม่เข้าหู หนอยที่แท้ก็ไอ้บ้านี่ๆเอง
    “ต๊ายน้องฟลุ๊ทก็มาด้วยหรอเนี่ย”
    ชื่อฟลุ๊ทหรอกหรอเนี่ย เหมือนเคยได้ยินคุณเพื่อนไอ้หมอนี่เรียกเหมือนกันแต่สงสัยตอนนั้นตกใจอยู่ แล้วตาบ้ารู้จักร้านนี้ด้วยรึไง
    “ครับ” พูดครับกับยัยกระเทยนี่ด้วย แหมทีฉันหญิงแท้ๆไม่มีจะครับมั่งเลยนะ
    “แหมมาก็ดีแล้วค่ะ พี่พึ่งปรับปรุงร้านใหม่น่ะค่ะ ทำเป็นแบบอินเตอร์เน็ตคาร์เฟ่เลยค่ะ โต๊ะอื่นก็สามารถคุยกับเราได้นะคะ” แหะ แต่ฉันไม่อยากได้อินเตอร์เน็ตตอนนี้เลย
    “เอ่อ พี่คะหยกมารึยังคะ”
    “มาแล้วค่ะ นู่นอยู่นั่นไงคะ”
    พี่กระเทยพูดพลางชี้ไปที่โต๊ะประจำด้านใน
    “ขอบคุณมากนะคะ”
    ฉันเดินไปที่โต๊ะนั้น โดยผ่านสายตาจากหนุ่มๆสาวๆโต๊ะที่เดินผ่าน
    “ไงจ๊ะ” ฉันทัก
    “ไงจ๊ะบ้านแกดิ มาสายนะ”
    “ก็ยัยคนนี้ซิครับนอนไม่ยอมตื่น”
    “นายยุ่งไรกับฉันด้วย นั่งเลยๆ” ฉันพูดพลางชี้ไปที่เก้าอี้ตัวใกล้ๆ
    “คุณฟลุ๊ทใช่ป่าวค่ะ” หยกถาม
    “ใช่ครับ แหมคุณรู้จักผมด้วยหรอครับเนี่ยไม่เหมือนยัยข้าวบูด”
    “นายเป็นใครฉันไม่สนใจหรอกย่ะ”
    “ตู แกไม่รู้หรอว่าเค้าเป็นใคร”
    “รู้ดิ ก็ไอ้บ้ากามไง”
    “อ้าวยัยหวีดสยองเดี๋ยวเหอะมากล่าวหา”
    “แบร่ๆ” ฉันแลบลิ้นให้เค้า
    “เออหยก รู้รึยังพี่สาวเธอน่ะไปกับพี่ชายฉันแล้ว”
    ฉันหมายถึงยัยบะหมี่น่ะค่ะ เค้าเป็นแฝดกับหยก แล้วก็เป็นแฟนพี่ชายฉันด้วย จะเรียกแบบนี้คงไม่ผิดมั้ง
    “รู้แล้ว ฉันเห็นมารับกันหน้าบ้าน”
    “เออว่าแต่แกอยากได้หลานสาวหรือหลานชายอ่ะ”
    “หลานชาย”
    “ฉันว่าผู้หญิงดีกว่านะ”
    “ฉันว่าผู้ชายดีกว่า” เสียงนายฟรุ๊ทแทรกขึ้นมา
    “เอ๊ะใครถามนาย”
    “ป่าว ฉันแค่แสดงความคิดเห็น”
    “เอาน่าๆ แกสั่งๆดีกว่า” หยกปรามเราสองคน
    “สั่งเลยนะหยกวันนี้ฉันพาคนมาเลี้ยง แต่ต้องกลับก่อนเที่ยงคืนนะ”
    “ทำไมวะ”
    “เออน่า เอาแพงๆอ่ะ”
    “แล้วไอ้ที่ฉันกับแกกระเดือกปกติมันไม่แพงรึไง”
    “แพง แต่แพงไม่พอ”
    “นี่แม่คุณกะกระผมนะคร๊าบ”
    “เอ๊ะ ก็ฉันบอกแล้วไงว่าวันนี้มันเป็นของฉัน”
    ฉันสั่งอาหารและเครื่องดื่มที่มายืนรอเราอยู่นานแล้ว
    “หยกทำไรอยู่อ่ะ”
    ฉันหันไปถามหยกที่กำลังเล่นคอมอยู่
    “อ๋อ ป่าวๆ”
    “ไหนๆแกปิดอะไร”
    “เฮ้ยแกอย่ามาดู”
    ยิ่งบอกอย่าฉันยิ่งอยากดูแกไม่รู้รึไง ฮ่าๆ ฉันเอี้ยวตัวไปดูที่จะคอมก็เห็นผู้ชายกับกับผู้หญิงกอดกันอยู่ ดูดีๆมันก็เป็นเว็บที่ฉันเข้ามาตลอดเดือนนึงนั่นเอง
    “พุด...”
    “ฉันบอกแล้วแกอย่าดู”
    “อะไรหรอๆดูมั่ง” นายฟรุ๊ทพูดขึ้น
    “ไม่มีอะไรหรอกค่ะ คุณฟรุ๊ท” หยกบอกฟรุ๊ท
    “ว้า แล้วเธอเป็นอะไรน่ะเงียบไปเลยยัยข้าวบูด”
    “ป่าวนี่”
    ตอนนี้น้ำตาฉันมันเริ่มปลิ่มๆที่อบตาอีกแล้วหลังจากเห็นภาพบาดตาบาดใจ
    “ไอ้ตู ฉันขอโทษ” หยกทำหน้าสำนึกผิด
    “เฮ้ยแกซีเรียสไปได้”
    ขณะนั้นเอง พนักงานเสริ์ฟก็มาเสริ์ฟของที่เราสั่งไป ฉันจึงสั่งเพิ่มไปอีกอย่าง
    “พี่คะ แรงๆแก้วนึง”
    “เฮ้ย ไม่เอาน่าตู”
    “ยัยข้าวบูดเป็นผู้หญิงดื่มแรงๆได้ไง”
    “เดี๋ยวฉันไปห้องน้ำก่อนนะ” ฉันบอกทั้งสองคนพลางลุกไปห้องน้ำ
    “ตูเหล้ามันไม่ช่วยให้แกดีขึ้นหรอกว่ะ” หยกพูด ดูเหมือนฟรุ๊ทจะงงกับพฤติกรรมของเราสองคนเหมือนกัน
    “ฉันรู้”
    ฉันพูดได้แค่นั้นแล้วก็รีบเดินไปห้องน้ำ แล้วปิดประตู ปล่อยให้น้ำตาที่กลั้นไว้ไหลออกมาจนหมด
    “พุด...”
    ฉันไม่เข้าใจทำไมพุดต้องทำแบบนี้ ทำไมหยกต้องเปิดมันขึ้นมาอีก ฉันก็พอจะเข้าใจบ้างว่ามันเป็นห่วง แต่ๆ ฮือๆ พุดนายลืมฉันไปหมดแล้วงั้นหรอ ลืมเวลาที่เราเคยมีร่วมกัน ลืมสายตาที่ฉันเคยมองนายไปแล้วหรอ
    ทุกอย่างในตัวนาย นายยกให้ผู้หญิงคนนั้นไปหมดแล้วใช่มั๊ยพุด ฉันไม่มีสิทธิ์แล้วใช่มั๊ย ตอบฉันมาซิ ฉันควรจะทำยังไงดี ลืมนายให้หมด หรือรอให้นายมาบอกว่าทั้งหมดเป็นเรื่องเข้าใจผิด ฉันจะเชื่อนะพุดถ้านายบอกว่าทั้งหมดมันเป็นแค่ภาพลวงตา ถึงแม้ฉันจะเห็นมันจนตำตาตำใจแล้วก็เถอะ
    ฉันออกมาจากห้องน้ำหลังจากใช้เวลาอยู่ในนั้นนานพอสมควร
    “แกไม่เป็นไรแล้วใช่มั๊ย” หยกถามขึ้นอย่างเป็นห่วง
    “อือ”
    ฟรุ๊ทมองฉันอย่างเป็นห่วง เอ๊ะฉันคิดไปเองรึป่าวเค้าจะมาห่วงฉันทำไม
    “แกไม่ได้หลุดอะไรออกไปใช่มั๊ยไอ้หยก”
    “โห่แกเห็นฉันเป็นพวกช่างเม้าท์เหมือนไอ้หมี่รึไง”
    “ใครจะไปรู้ฟะ ก็แฝดมักมีอะไรเหมือนกันๆ”
    “ไม่ใช่คู่ฉันแน่”
    “เดี๋ยวฉันมานะ” อยู่ๆฟลุ๊ทก็พูดขึ้น
    “อือ อย่าหนีล่ะไม่งั้นฉันตามจิกนายไม่ปล่อยแน่”
    “คร้าบ คุณป้าหวีดสยอง”
    “เอ๊ะ เมื่อไหร่นายจะเลิกเรียกฉันแบบนี้สักทีห๊ะ”
    “จนกว่าเธอจะหายหวีด”
    “เอ๊ะ เดี๋ยวซิว่าเค้าแล้วเดินหนีได้ไง”
    “ยิ้มอะไรหยก”
    “ป่าวก็แค่จะบอกว่าฟรุ๊ทเค้าตาถึง”
    “แกว่าไงนะ เข้าข้างไอ้บ้านั่นหรอ”
    “ป๊าว” แต่น้ำเสียงแกมันมีเล่ห์นัยมากเลย
    อยู่ๆเสียงเพลงที่ดังตลอดเวลา มันก็ทำให้ฉันสะดุด เพราะมันไม่เหมือนกับเพลงที่ผ่านมามันเป็นเสียงที่อบอุ่นแต่เปี่ยมไปด้วยพลัง มันทำให้ฉันรู้สึกว่าไม่ได้อยู่คนเดียงในโลก
    **ความเจ็บปวดของเธอแบ่งมาให้ฉันบ้างได้มั๊ย?
    ความในใจของเธอระบายออกมามั่งรึเปล่า?
    ความรู้สึกของเธอเป็นเหมือนฉันมั่งมั๊ย?
    ความรักของเธอมีไว้เพื่อฉันบ้างรึเปล่า**
    แล้วอยู่ๆหยกก็พูดขึ้นทำให้ฉันต้องละความสนใจไปจากเพลงนั้น
    “เสียงดีจริงๆด้วย”
    “อะไรของแก”
    “ป่าว ก็แค่บอกว่าคนร้องเพลงนี้เสียงดีก็แค่นั้น”
    “อือ จริงของแก”
    “^_^”
    “ยิ้มอะไรหยก”
    “ป๊าว”
*****************************************************************************************
จบตอนแล้วน้า
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น