ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    LoVe is [( f O r y O u )] รักนี้สำหรับเธอ

    ลำดับตอนที่ #3 : BeLoveD 3: การพบเจอที่ทำให้ต้องร้องกรี๊ด

    • อัปเดตล่าสุด 20 พ.ค. 48






    แหะๆดีค่ะ สำหรับคนที่งงๆเดี๋ยวไปคุยกันข้างล่างนะคะ



    *************************************************************************************





        กริ๊งงงงงงงงงง



        เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นในตอนเช้า แต่ฉันไม่ได้สนใจมันกลับรำคาญมันเสียด้วยซ้ำ วันนี้มันเปิดเทอมน้าจะปลุกหาอะไรเนี่ย ฉันเลยสนองความคิดตัวเองด้วยการ



        ตุ้บบบบบบบบ



        โยนนาฬิกาปลุกให้ไปไกลตัวเพื่อให้เสียงมันเบาลง (ทำลายข้าวของไม่ได้นะคะอย่าเอาแบบนังนี่:ฟ่าง)



        “ไอ้ตูดดดดดด” เสียงพี่ตังที่ดังมาอีกทำให้ฉันเริ่มรำคาญยิ่งขึ้น



        ฉันยกผ้าห่มมาคลุมโปงเพื่อจะได้ไม่ต้องได้ยินเสียงไอ้พี่บ้านั่น



        “ไอ้ตูดแกจะไปมั๊ยมหาลัยน่ะ”



        มหาลัยไปทำไม ฉันถามในใจ



        “เฮ้ยตื่น แกต้องไปถึง 10 โมงไม่ใช่หรอ นี่มัน 9 โมงแล้วนะ ตอนนี้รถติดด้วย”



        “OoO”



        “ไม่ต้องอ้าปากเลยแก ฟันยังไม่ได้แปรงหุบๆไปเลย”



        ตุ้บๆๆ



        เสียงฉันวิ่งไปเค้าห้องน้ำ



        จากบ้านไปมหาลัยใช้เวลา 10 นาทีถ้ารถไม่ติด แต่สายขนาดนี้ต้องซัก 50 นาที แสดงว่าฉันมีเวลาอาบน้ำแต่งตัว 10 นาทีงั้นดิ โอยยย เมื่อคืนไม่น่าร้องไห้คุยโทรศัพท์กับไอ้บ้ากวางเลย



        “เร็วๆนะตู”



        “เออรู้แล้วๆ”



        ฉันใช้เวลาอาบน้ำอย่างคุ้มค่า แต่ก็ไม่ได้สระผม ฮือๆ เพราะเวลามันไม่เอื้อ พออาบน้ำเสร็จฉันก็มาดูชุดปรากฏว่าชุดฉันยังไม่รีดเลย



        “พี่ตังทำไมไม่รีดชุดให้ตู”



        “อ้าว ก็แกเป็นคนบอกว่าจะรีดผ้าเอง เร็วๆดิเดี๋ยวสาย”



        ฉันเลยต้องจำใจใส่ชุดที่ไม่ได้รีด แล้วฉันก็ไปหากระเป๋าในตู้ ปรากฏว่ามัน….



        ขาดกระรุ่งกระริ่งเลย สงสัยโดนหนูกัด ฉันเลยจำต้องใช้กระเป๋าอีกใบซึ่งกะจะซื้อไปฝากคุณยาย เพราะว่าตอนนี้เหลือมันแค่ใบเดียวแล้ว



        “ตูโว้ยสายแล้วลงมาเลยที่เหลือไปต่อในรถ”



        “เออออออ”



        ฉันรีบลงไปข้างล่างทั้งที่ยังไม่ได้หวีผม แต่ก็ไม่ลืมที่จะหยิบแว่นคุณป้าสวมด้วย เดี๋ยววันนี้จะเอาไปอวดไอ้หมี่หยกซะหน่อย รับรองมันต้องตะลึง



        “อ๊ากกกกก” พี่ตังร้องเสียงดังราวกับเห็นผี



        “ร้องไม”



        “ผ...ผี”



        “เงียบน่ารับขับรถไปซิ”



        ฉันกะจะมาหวีผมในรถแต่ก็ต้องอารมณ์เสียเนื่องจากลืมหยิบหวีใส่กระเป๋าคุณยาย



        “พี่ตังมีหวีมั๊ย”



        “ไม่มีอ่ะ”



        ฉันเลยจำต้องใช้มีสางๆผมที่ยุ่ง แล้วก็หยิบแป้งเด็กในกระเป๋ามาทา



        “เออนี่ตูเดี๋ยวไปดูหนังสือที่ห้องสมุดให้พี่หน่อยนะ”



        “อือ เรื่องไรอ่ะ ในเน็ตไม่มีรึไง”



        “ไม่มีค้นแล้ว เอาเรื่องนี้นะ” พี่ตังพูดพลางส่งรายการหนังสือกระจุกหนึ่งมาให้ฉัน ดูท่าจะเล่มหนาๆทั้งนั้นเลยนะเนี่ย



        “นี่พี่ตังเย็นนี้พาไปซื้อคอนแทคหน่อยเหอะตูทนสภาพแบบนี้ไม่ไหวอ่ะ”



        “เย็นนี้พี่เข้าเวรนะ ไปด้วยไม่ได้ ไปรับก็ไม่ได้ด้วย”



        “แน่ใจนะว่าเข้าเวร”



        “โห่ พี่เคยโกหกตูหรอ”



        “เคย”



        “เฮ้ย เอาน่าไว้ค่อยพาไป”



        “เชอะ”









        ฉันมาถึงมหาลัยทันเวลาฉิวเฉียด แต่ไม่ได้พูดคุยกับหยกแล้วก็ดูเหมือนหยกจะไม่ได้สังเกตเห็นฉันด้วยพอกลางวันฉันก็ไปที่โรงอาหารที่นัดกับหมี่แล้วก็หยกไว้



        “กรี๊ดดดด!!! OoO” เสียงกรี๊ดแสบแก้วหูดังขึ้นเมื่อฉันไปสะกิดทั้งสองคนแล้วเธอทั้งคู่ก็หันมา



        “เฮ้ย กรี๊ดกันทำไม ฉันข้าวตูเฟ้ย”



        “อ้าวนึกว่าผีตกใจหมด” ไอ้หมี่พูดขึ้นดูมันทำหน้าเข้าทำยังกับฉันเป็นผีจริงๆงั้นล่ะ



        “แล้วทำไมแกกลายเป็นแบบนี้ไปล่ะ” หยกถามขึ้น



        “แบบไหน”



        “ก็ยายเฉิ่ม”



        “ฉันเฉิ่มตรงไหนแกดูยังไงมาว่าดาวโรงเรียน อนาคตดาวมหาลัยว่าเฉิ่ม” จริงๆฉันก็พอรู้อ่ะนะว่าวันนี้ฉันมันเฉิ่มจริงๆ



        “มันเป็นอดีตไปแล้วเฟ้ย ถ้าแกยังเป็นแบบนี้ดาวคณะแกก็ไม่ได้แน่อย่าหวังเลยดาวมหาลัย”



        “แบบนี้อ่ะแบบไหน”



        “ก็ดูหัวแกซิยังกับไปเยี่ยมญาติแทบชายแดนมางั้นล่ะ แล้วตาแกมันก็ยิ่งกว่าหมีแพนด้า แถมยังใส่แว่นคุณทวดเข้าไปอีก อี๋แล้วดูซิแกมาเรียนได้ไงไม่รีดเสื้อเนี่ย แล้วฉันก็จำได้ว่ากระเป๋านี้แกจะซื้อไปฝากยายไม่ใช่หรอ” หยกสาธยายออกมาอย่างไม่เกรงใจฉันเลย



        “กวางโทรมาหาฉันแล้วนะ แต่ฉันไม่นึกว่าแกจะเป็นมากขนาดนี้ ไม่เหลือคราบยัยตูคนเดิมเลย” หมี่พูด



        “ก็อย่างที่กวางว่าล่ะ แล้วเมื่อเช้ามันก็มีเหตุบังที่ทำให้ฉันต้องออกมาในสภาพแบบนี้น่ะ”



        ฉันเล่าเรื่องเมื่อเช้าทั้งหมดให้หมี่หยกฟัง



        “หมอฟันที่ไหนเช้าดึกวะ” หยกถามขึ้น



        “แล้วฉันจะไปรู้หรอ แต่ก็ดีเย็นนี้แกไปหาอะไรดื่มกันหน่อยมะ”



        “เออก็ดี เจอกันสองทุ่มแล้วกันนะฉันจะได้ไปเปลี่ยนเสื้อก่อน” หยกพูดขึ้น



        “ไอ้หมี่แกล่ะจะไปด้วยรึป่าว” ฉันถามเพราะเห็นมันเงียบๆไป



        “ไม่อ่ะ”



        “O_o แกเป็นป่าวไอ้หมี่” หยกถามขึ้น



        “ป่าวนี่ แกสองคนอย่าสนใจเที่ยวให้สนุกนะ”



        แล้วพวกเราก็ลุกออกมากำลังจะเดินออกจากโรงอาหารไปยังโต๊ะม้าหินอ่อน



        “แกเอารถมาป่าวไอ้หยก”



        “อือ”



        “งั้นก็ดีฉันจะได้ไปเปลี่ยนเสื้อที่บ้านแก”



        “ตามใจแก”



        “แล้วเมื่อไหร่แกจะถอนแว่นนี่ล่ะ” หมี่ถามขึ้น



        “ก็รอไอ้พี่ตังว่างก่อน ฉันรับตัวเองไม่ได้เลยว่ะที่เป็นไปได้ขนาดนี้”



        ตุ้บบบบบ



        เหมือนฉันจะชนอะไรเข้า ทำให้ตัวฉันเซไปแต่ก็มีบางอย่างมาหยุดไว้ไม่ให้ฉันล้ม แต่ฉันก็รู้สึกเหมือนมีบางอย่างมันอยู่ในที่ที่ไม่ควรอยู่



        (. .) => o_O => OoO



        “กรี๊ดดดด”



        น่าอกฉันโดนจับอยู่ ไอ้บ้านี่มันเป็นใครบังอาจมาก



        “โอ๊ยเอแสบแก้วหู” ไอ้บ้านนั่นเอ่ยขึ้น



        “กรี๊ดดดด”



        “โอ๊ยเธอฉันบอกแสบแก้วหู”



        “นายก็เอามือออกดิไอ้ฟลุ๊ท” เพื่อนไอ้บ้านี่เป็นคนบอกให้เค้าเอามืออันไม่สุภาพของเค้าออกไปซักที



        “เออจริงด้วย เธอนี่ซ่อนรูปนะเนี่ย ดูจากข้างนอกแล้วไม่คิดว่ามันจะใหญ่ขนาดนี้” ไอ้บ้านั่นบอกพร้อมกับทำมือขยุ้มๆ



        “กรี๊ดดดด”



        “นี่เธอยัยนกหวีดกรี๊ดอยู่ได้”



        “น...นาย”



        “อะไร”



        “นายมีสิทธิ์อะไรมาจับน้องสาวฉันยะ”



        “คิดว่าฉันอยากจับน้องสาวเธอนักรึไงยัยนกหวีดจอมเฉิ่ม”



        “นาย”



        “แล้วถ้านี่น้องสาวเธอ (ชี้มาที่หน้าอกฉัน) แล้วนั่นอะไร (ชี้ไปข้างล่าง)” ไอ้ทะลึ่งเอ๊ย



        “อะนั่นลูกสาวฉันยะ” เจือกตอบมันไปอีกตู



        “อ๋อ”



        “แล้วนายเป็นใครทำแบบนี้แล้วไม่ขอโทษน่ะ”



        “ฉันเป็นใครเธอไม่รู้เลยหรอ แล้วทำไมฉันจะต้องขอโทษเธอ เธอซิต้องขอบคุณฉันด้วยซ้ำ”



        “ห๊า จะให้แนขอบคุณที่นายมาจับน้องสาวฉันเนี่ยนะ บ้าป่าว”



        “ใครๆเค้าก็อยากให้ฉันจับทั้งนั้นล่ะยัยหวีดสยอง” ไอ้บ้านี่เปลี่ยนชื่อเรียกฉันอีกแล้ว



        “นายจะขอโทษฉันมั๊ย”



        “ไม่เธอต้องขอบคุณฉัน”



        “เอ๊ะนายนี่ มาจับของเค้าแล้วยังหน้าด้านๆมาพูดแบบนี้อีกนะ”



        “เธอซิต้องขอบคุณฉันที่ช่วยไม่ให้เธอล้ม”



        “ห๊ะอย่างนายเนี่ยนะจะช่วยไม่ให้ฉันล้ม ใครจะเชื่อ”



        “ฉันไง”



        “เอ๊ะ นายนี่มียางมั่งมั๊ยนะเถียงคำไม่ตกฝาก”



        “ถุงยางหรอ มีซิ แล้วฉันก็ไม่ชอบตกฝากด้วยมันเจ็บ”



        “ไอ้บ้าไม่ใช่ถุงยาง ฉันหมายถึงยางอายน่ะมีมั๊ย”



        “อ๋อ ไม่มีอ่ะ มีแต่ยางมะตอย มันถึงได้ด้านอย่างนี้ไง”



        “นายจะไม่ขอโทษใช่มั๊ย”



        “แน่น๊อน”



        “งั้นนายต้องมาเป็นทาสฉันหนึ่งวัน เที่ยงคืนก็จะเป็นอิสระแบบสโนว์ไวท์ไง” (สโนว์ไวท์บ้านแกดิ :ฟ่าง)



        “O_O” สีหน้าของไอ้บ้า + เพื่อนของเค้า



        “OoO” สีหน้าของคนในโรงอาหารและเพื่อนของฉันที่ฉันลืมไปแล้วว่ามันอยู่ด้วย



        “^o^” สีหน้าของฉันที่ดีใจว่ากำลังจะได้คนรับใช้



        “เธอพูดอะไรออกมาน่ะ”



        “สิ่งที่นายควรทำไง”



        “แล้วทำไมฉันต้องทำ”



        “เอ๊ะ ก็นายจับน้องสาวฉันโดยฉันไม่ยินยอมนายก็แค่ต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่นายทำไปแค่นั้น”



        “ยัยหวีดสยอง เธอหวังอะไรจากฉันกันแน่”



        “ไม่อะไรทั้งนั้นล่ะ แค่วันเดียวเองนะยะ ในนิยายเค้าเป็นอาทิตย์ ตกลงมั๊ย”



        “ตกลงซินะเออดีๆ” ฉันรีบชิ่งตอบไปอย่างรวดเร็ว



        “นี่เธอ....”



        “กรี๊ดดด!!!” เสียงสาวๆแท้และไม่แท้ทั้งหลายต่างกรี๊ดออกมา



        “กรี๊ดหาอะไรกันยะ หนวกหู มาโรงอาหารมีหน้าที่กินข้าวก็กินไป ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านกันจริงนะพวกเธอ” ฉันตวาดออกไป



        “O_O” ดูเหมือนทุกคนจะตะลึงไปกับคำพูดของฉัน



        “เอ๊ะยังมองกันอยู่อีก อยากให้แม่ควักลูกตาออกมารึไง บอกให้กินข้าวก็กินไปซิ”



        “ไปนายไปกับฉัน”



        “ฉัน...”



        “เอ๊ะนายนี่ จะเถียงฉันหรอ” ฉันดุ พลางลากเค้าออกไป



        “คุณเพื่อนของนายคนนี้ขอยืมตัวไอ้บ้านี้ก่อนนะคะ” ฉันหันไปบอกเพื่อนไอ้บ้านี่พลางส่งยิ้มหวานให้ ซึ่งปกติใช้ได้ผลกับทุกคน แต่สภาพฉันวันนี้มันคงไม่มีความหมายอะมากกว่ายิ้มจากยัยหวีดสยอง



        “เธอฉันไม่ไปนะ”



        “เป็นทาสก็เงียบๆเลยมีหน้าที่ทำตามฉันสั่ง”



        “เอ่อยัยหยกเจอกันที่ร้านตอนเย็นเลยแล้วกันนะ” ฉันหันไปบอกหยกที่ยืนเอ๋ออยู่





        

        “เธอจะพาฉันไปไหน” ไอ้บ้านี่ถามฉันหลังจากเดินออกมาจากโรงอาหารแล้ว



        “ห้องสมุด”



        “หือ ห้องสมุด ฉันว่ามันออกจะเกินไปหน่อยสำหรับครั้งแรกของเธอนะ”



        “พูดอะไรระวังปากมั่งนะนาย”



        ฉันตรงไปยังห้องสมุดโดยมีเค้าเดินตามไปด้วย



        “นี่เธอปล่อยมือฉันได้ยัง”



        “เออลืม อย่าคิดหนีล่ะแค่วันเดียวทำอิดออด”



        “เออ”



        “ไปห้องสมุดโลด”



        “เออ”



        พอถึงห้องสมุดฉันก็ไปเปิดคอมพิมพ์รายการหนังสือที่ต้องการละจดเลขทะเบียนลงในกระดาษ



        “นายไปเอาหนังสือพวกนี้มาฉันจะนั่งรออยู่นี่”



        “ห๊า”



        “ทาสไม่มีสิทธิ ขัดขืน เร็วๆบ่ายจะได้ไปที่อื่นต่อ” โชคดีที่วันนี้เป็นวันแรกเลยมีธุระกับที่นี่แค่ครึ่งวัน



        “เออยัยหวีดสยอง”



        ฉันนั่งรอซัก 20 นาที นายนั่นก็เดินกลับมาพร้อมกับหนังสือ 5 เล่มที่ดูหนาเอาการ



        “เธออ่านหนังสือพวกนี้หรอ”



        “มั้ง เอาไปที่เค้าเตอร์เร็วๆเข้า”



        “สั่งจังวุ้ย”



        “บ่นอีกแล้ว อายุแค่นี้ก็บ่นเป็นตาแก่เลยเฟ้ย”



        “ขอบัตรด้วยค่ะ” บรรณารักษ์ที่ห้องสมุดพูดขึ้น ฉันเลยยื่นบัตรให้เค้า



        “ที่นี่เจ้าของบัตรต้องมายืมหนังสือด้วยตัวเองนะคะ” ก็นั่นมันบัตรฉันถูกแล้วนี่



        “คือคนในรูปมันไม่ใช่คุณน่ะ” ยัยนี่พูดขึ้น



        “ไม่ใช่ดิฉันตรงไหนมิทราบคะ”



        “ทั้งหมดเลย”



        “คุณเอาบัตรประชาชนฉันไปดูก็ได้ค่ะ”



        “เอ คุณนี่แม้กระทั่งบัตรประชาชนยังขโมยเค้ามาเลยหรอคะ”



        “เอ๊ะคุณบรรณารักษ์ พูดงี้หมายความว่าไงคะ ทำไมฉันจะต้องขโมยในเมื่อนี่มันบัตรฉัน”



        “ก็คนในรูปไม่เหมือนคุณเลยนี่จะให้ฉันทำไงล่ะ”



        “ฉันบอกว่านี่-บั-ต-ร-ฉั-น เข้าใจมั๊ยคะ”



        “ฉันจะเชื่อคำพูดคุณได้ไงในเมื่อ...”



        “เอ่อเอาบัตรผมแทนได้มั๊ยครับ” ไอ้นี่แทรกขึ้นมาระหว่างเราพูดคุยกันอยู่



        “นายไม่ต้องยุ่ง คุณจะเอาเลือดฉันไปตรวจก็ได้นะถ้าไม่เชื่อ หรือจะเอาอะไรไปตรวจ DNA อีกก็ได้ จะให้ฉันเรียกคุณพ่อมามั๊ยคะจะได้เอามายืนยัน”



        “ไม่ต้องหรอกค่ะ เอาเป็นว่าฉันเชื่อคุณ..ก็ได้” เค้ายอมให้ฉันยืมหนังสือ แต่ก็ทำกิริยากระฟัดกระเฟียดไม่พอใจ



        “คุณคะทำงานบริการทำหน้าตาให้มันดีๆหน่อยซิ มิน่าหอสมุดมันถึงได้โล่งนัก” ฉันบอก



        นายนั่นหอบหิ้วหนังสือกองโตออกมาจากหอสมุด แล้วเดินตรงมาที่รถเค้า



        “เอาไงต่อยัยหวีดสยอง”



        “เอาหนังสือไปเก็บที่บ้านฉัน ขึ้นรถเร็ว”



        “รถเธอรึไง”



        “ถ้าจะให้ฉันพูดตามตรง วันนี้มันเป็นรถฉัน ขับไปซิไปหมู่บ้าน...”



        “คร้าบคุณป้าหวีดสยอง สั่งๆเป็นคนแก่เลย”



        “เอ๊ะนาย”



        “เอ หรือว่าเธอจะให้ฉันไปบ้านเธอเพื่อ…” แล้วเค้าก็เอานิ้วชี้ทั้งสองข้างทำท่าอะไรซักอย่างที่มันส่อความคิดอันอัปลักษณ์ของเค้า



        “ฉันยังไม่ได้พูดแบบนั้นเลย ฉันบอกให้นายขับก็ขับไป”

        







        เรามาถึงบ้านด้วยเวลาไม่นานเพราะรถไม่ค่อยติด



        “นายเอาหนังสือไปวางไว้ที่โต๊ะนู้น แล้วก็ไปทำความสะอาดบ้านชั้นล่างให้หมด ไปตัดหญ้าในสนามด้วยนะ อ่อแล้วก็กำจัดไอ้หนูบ้าที่อยู่ในบ้านนี้ออกไปให้หมด เสร็จแล้วไปเรียกฉันข้างบน ห้องประตูสีฟ้านะ”



        “สั่งเป็นชุดเลยนะ แล้วบ้านเธอมันเล็กที่ไหนเนี่ย”



        “เอาให้เสร็จก่อนทุ่มนะ”



        “นี่เธอฟังฉันพูดอยู่รึป่าวเนี่ย”



        “อย่าลืมมาเรียกนะ”



        ฉันไม่สนใจฟังจึงเดินขึ้นมาบนห้องอย่างรวดเร็วทิ้งตัวลงนอนบนเตียง พร้อมกับดูสภาพห้องตัวเองที่ยังไม่ได้เก็บกวาดเพราะมันยังมือเศษจอคอมแตกอยู่เต็มพื้นห้อง เฮ้อคิดแล้วก็ปวดใจต่อไปนี้ฉันคงรักใครไม่ได้อีกแล้วล่ะมั้งเนี่ย คิดไปคิดมาน้ำตาก็พลานจะไหลออกมาอีก ฉันจึงรีบๆหลับไปให้เร็วที่สุดรอให้นานนั่นมาปลุกดีกว่า



        ขณะนั้นข้างล่างก็



        “หนอยยัยหวีดสยองมาถึงก็สั่งๆๆๆๆ แล้วก็สะบัดตูดขึ้นไปข้างบนเฉยเลย แล้วให้คนอื่นเค้าบ้านได้หน้าตาเฉยได้ไงเนี่ยไม่กลัวโดนขโมยมั่งรึไง ไม่เคยมีใครกล้าสั่งนักร้องที่กำลังดังอย่างฉันนะ แม้แต่....แม่ฉัน”





    ***************************************************************************************

    แหะรู้สึกมันสั้นไปป่าวก็ไม่รู้นะ



    สำหรับคนที่งงๆนะคะก็อยากจะขอโทษก่อนเพราะว่าเราอัดเรื่องที่จะพูดไว้มากไปเลยทำให้คนสับสน คือมันอัดอั้นมาอ่ะค่ะอยากระบาย



    สำหรับ AF 2 ก็เป็นรายการเริยลลิตี้ที่ฉายทางยูบีซีไงคะคราวนี้จะกลับมาฉาย ประมาณเดือนก.ค.ก็เลยตื่นเต้น เพราะอันเก่าติดมากๆ



    สำหรับคิระก็เป็นตัวละครในการ์ตูนเรื่อง กันดั้มอ่ะค่ะ เมื่อวานวันเกิดมันก็เลยอวยพรให้หน่อย



    แล้วสำหรับพิมกะโตโต้เป็นคนที่เข้าไปแข่งในราบการเรียลลิตี้โชว์ที่ฉายช่องไอทีวีอ่ะคงพอเคยได้ยินมั่ง โต้ก้เหมือนไอ้พุดที่นอกใจตูไปหาอีจูดี้ ส่วนพิมก็คงเป็นคล้ายกับจูดี้นั่นล่ะ โดยส่วนตัวเราไม่ชอบรายการนี้เท่าไหร่เพราะเกลียดโต้กะพิม แล้วก็มันไร้สาระ ไม่ทำให้ผู้ชมประทับใจในตัวผู้เข้าแข่งขันเลย ถ้าเทียบกับ AF ที่จะมีการโชว์ความสามารถของตนเองออกมาสร้างความประทับใจให้เราแล้วก็ส่งโหวตอย่างมันส์มือโดยที่ไม่เสียดายตังเลย



    มีไรสงสัยอีกก็ถามได้นะคะ จะเมลล์ไปหรืออะไรก็ได้รับรองจะตอบให้ สำหรับคนที่ลงเรื่องไว้เราเข้าไปอ่านแน่ค่ะแต่ว่าบางทีอาจไม่ได้โพสตอบเพราะว่าเปิดหน้าต่างทั้งไว้แล้วก็ปิดเน็ตไปน่ะ เพื่อใครโทรเข้าบ้าน (เรายังใช้เน็ตโบราณอยู่)



      ****************

    *แล้วพบกันตอนหน้านะคะ*

      ****************
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×