ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ~คลื่นซัดทราย~

    ลำดับตอนที่ #5 : ตอนที่ 5

    • อัปเดตล่าสุด 11 มิ.ย. 51


    ตอนที่ 5
                    ค่ำนี้อุสิชากลับมาถึงห้องพักเร็วกว่าปกติ เมื่อหญิงสาวเปิดประตูเข้ามาก็พบกับห้องที่ว่างเปล่า จึงเดินเข้าห้องส่วนตัวไป อุสิชาเดินมาหยุดที่หน้ากระจกพบกระดาษโน้ตของณัชชาแปะไว้เพื่อบอกว่าจะกลับดึกเพราะต้องไปทำรายงานกับเพื่อนๆ หญิงสาวขมวดคิ้วเล็กน้อย พร้อมกับคำถามในใจว่าทำไมหลานสาวจึงไม่ยอมโทรศัพท์ไปแจ้ง แต่เมื่อหอบแฟ้มเอกสารวางลงบนโต๊ะก็นึกออกว่าตนเองเป็นคนปิดโทรศัพท์มือถือตั้งแต่ตอนประชุมไว้นั่นเอง
              อุสิชารู้สึกเหนื่อยล้ากับการทำงานในวันนี้เป็นพิเศษ ลำพังงานหนักที่ต้องทำนั้นไม่ทำให้หญิงสาวรู้สึกเหนื่อยมากเท่าการที่จะต้องมาทำสงครามประสาทกับคุณนายพวงผกาและสุรตา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเผชิญหน้ากับสุรตายิ่งทำให้อุสิชาต้องรู้สึกหนักใจขึ้นมาอีกจากข่าวคราวที่ได้รู้มาใหม่
                    ตอนหัวค่ำอุสิชาอาสาไปส่งทินกรที่บ้านเพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับไกรพที่กำลังอารมณ์เสียสุดๆ ระหว่างทางทั้งคู่จึงมีโอกาสสนทนากันค่อนข้างมาก อุสิชาไม่อยากพูดถึงไกรพจึงตั้งหัวข้อสนทนาเกี่ยวกับการทำงาน และถือโอกาสหาข่าวจากทินกรอีกด้วย และหญิงสาวก็ไม่ผิดหวังทินกรเองก็รู้สึกระแคะระคายเกี่ยวกับการประมูลโครงการใหญ่ที่เพิ่งผ่านมาสองสามครั้งนี้เช่นกัน เขาเป็นผู้ช่วยของปองภพผู้เป็นบิดาของสุรตาและเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรงเกี่ยวกับการประมูลส่วนใหญ่ของบริษัท ด้วยความสนิทสนมทินกรจึงกล้าแสดงความสงสัยในตัวผู้ร่วมงานตั้งแต่ระดับสูงลงมายังระดับล่างซึ่งเขาสงสัยว่าน่าจะมีส่วน อุสิชาจึงได้แต่รับฟังเพื่อนำข้อมูลต่างๆ ที่ได้ยินได้ฟังมาวิเคราะห์หาหลักฐานอีกที
              หลังจากอาบน้ำเปลี่ยนเป็นชุดสบายๆ สำหรับใส่นอนแล้ว อุสิชาก็ออกมาเอนหลังที่โซฟาหน้าโทรทัศน์เพื่อรอหลานสาวกลับจนกระทั่งผล็อยหลับไปด้วยความเหนื่อยและเพลีย รู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่ณัชชาไขกุญแจห้องเข้ามา
                    อ้าวอา ยังไม่นอนอีกหรือคะเด็กสาวพูดพลางเลิกคิ้วสูงด้วยเพราะคาดไม่ถึง ขณะที่มองอุสิชายันตัวขึ้นพลางใช้มือข้างหนึ่งขยี้ตาเบาๆ พร้อมกับเสียงอือในลำคอ
                    เผลอหลับน่ะ งั้นอาเข้าไปนอนก่อนนะหญิงสาวพูดตอบพลางลุกขึ้นยืนเอื้อมมือไปปิดโทรทัศน์และเดินโผลเผลเข้าไปในห้องนอน
     
                    วันรุ่งขึ้นอุสิชาตื่นสายกว่าปกติเพราะลืมตั้งนาฬิกาปลุกไว้ตั้งแต่ก่อนนอนทำให้ไปทำงานสาย ดีที่ณัชชาไม่มีเรียนตอนเช้าไม่เช่นนั้นคงสายไปตามๆ กันเมื่อไปถึงบริษัทเลขาของวีรเดชก็โทรตามเพื่อให้ไปพบท่านประธานที่ห้องเป็นการด่วนทันที
                    แรกทีเดียวหญิงสาวคิดว่าอาจถูกตำหนิเรื่องมาทำงานสาย แต่จะเป็นไรไป ในรอบหลายปีนี้อุสิชามาทำงานก่อนเวลาและกลับบ้านหลังเวลางานเกือบทุกวัน แต่น้ำเสียงของเลขาหน้าห้องของวีรเดชนั้นฟังดูเครียดชอบกลจึงทำให้หญิงสาวกังวลไม่น้อย
                    นั่งสิหนูทรายวีรเดชผายมือเชื้อเชิญขณะที่มืออีกข้างหนึ่งยังคาอยู่บนแฟ้มข้อมูล อุสิชาได้แต่ยิ้มแห้งๆ พลางทิ้งตัวลงบนเก้าอี้หนังสีดำ
                    คืบหน้าไหมวีรเดชเอ่ยถามทั้งๆ ที่ยังไม่ละสายตาจากแฟ้ม ทำให้หญิงสาวรู้สึกโล่งใจเล็กน้อย น้ำเสียงที่ตึงเครียดของเลขาอาจะเป็นเพราะวีรเดชกำลังร้อนใจที่จะทราบความคืบหน้า และให้เธอโทรหาอุสิชาหลายรอบแล้วภายในเช้านี้
                    เอ่อ...ค่ะ พนักงานบางคนก็รู้สึกถึงความน่าสงสัยค่ะ แต่ก็ยังไม่มีใครกล้าพูดอะไรมากเพราะ เอ่อ ... หลักฐานไม่แน่ชัด และ ... เอ่อ ... ไม่มีใครเห็นว่าคนๆ นั้นมีเหตุผลต้องทำแบบนี้ค่ะอุสิชารายงานตะกุกตะกัดผิดปกติ ทำให้วีรเดชละสายตาจากเอกสาร และวางแฟ้มสีดำนั้นลงบนโต๊ะทำงาน
                    มีอะไรลำบากใจหรือหนูทราย ผมว่าวันนี้หนูทรายผิดปกตินะวีรเดชตั้งข้อสังเกตและพยายามทำสีหน้าให้ดูผ่อนคลายกว่าเดิม
                    คือทรายยังไม่แน่ใจ และยังไม่มีหลักฐานค่ะ เป็นแค่ข้อสันนิษฐานของทรายและพนักงานบางคนเกี่ยวกับผู้บริหารบางท่าน หากทรายพูดออกไปมันจะทำให้คนๆนั้นเสื่อมเสียได้ค่ะอุสิชาให้เหตุผลอย่างฉะฉานผิดกับเมื่อครู่
                    ให้ผมเดาไหม ว่าคุณกำลังพูดถึงใครอยู่วีรเดชยิ้มเล็กๆ
                    ท่านก็รู้หรือคะ แล้ว...อุสิชาเลิกคิ้วถามด้วยความงุนงง หญิงสาวไม่เข้าใจว่าหากวีรเดชทราบดีแล้วว่าใครน่าสงสัยแล้วเหตุใดจึงต้องใช้เธอเพื่อสืบเรื่องนี้ด้วย
                    หนูคงหมายถึงนายปองภพ และหนูทรายก็คงกำลังสงสัยด้วยว่าในเมื่อผมรู้แล้วผมจะต้องใช้หนูทรายไปสืบทำไม ใช่หรือเปล่าวีรเดชพูดอย่างรู้ทัน อุสิชานั่งนิ่งแทนคำตอบ
                    ผมกับปองภพเป็นเพื่อนกันมานาน ผมจึงไม่อยากเอาผิดเขา แต่เมื่อผมคำนึงถึงบริษัทที่แม้ผมจะเป็นประธาน แต่ก็ยังมีพนักงานอีกนับร้อยต้องเสียผลประโยชน์ไปเพราะการกระทำของเพื่อนผู้เป็นหุ้นส่วนผม ผมก็คิดว่าผมควรทำอะไรบางอย่าง และที่ผมให้หนูทรายไปสืบก็เพราะหนูทรายเหมาะสมที่สุดวีรเดชอธิบายอย่างยืดยาว
                    ผมรู้หนูทรายอาจรู้สึกอึดอัดที่ต้องทำงานนี้ แต่หนูก็ทำให้ผมเห็นแล้วว่าผมไว้ใจคุณได้ ผมเชื่อว่าคุณจะช่วยผมหาหลักฐานเพื่อเอาผิดปองภพได้ ก่อนที่อะไรมันจะเลยเถิดไปมากกว่านี้ผมหวังว่าเขาจะกลับตัวทัน
              “แต่ท่านประธานคะ คือดิฉันไม่เข้าใจว่าดิฉันเหมาะสมอย่างไรคะอุสิชาถามด้วยความสงสัยที่มีมาแต่แรก
                    ประการแรกหนูทรายเป็นคนที่เกี่ยวข้องกับการประมูลน้อยที่สุด ประการต่อมาหนูทรายเป็นคนที่ผมสามารถไว้ใจได้มากที่สุด และประการสุดท้ายผมคิดว่าวันหนึ่งหนูทรายจะต้องกลายมาเป็นผู้ดูแลบริษัทนี้โดยตรงกับเจ้ารพ หนูทรายจึงน่าจะเป็นผู้รักษาผลประโยชน์ของบริษัทและพนักงานทุกคนได้ดีที่สุดเหตุผลของวีรเดชยิ่งทำให้อุสิชารู้สึกอึดอัดใจและรู้สึกเหมือนถูกบังคับมากกว่าเดิม การมอบหมายงานนี้ให้เธอทำยิ่งเป็นการตอกย้ำสงครามเย็นระหว่างตัวเธอเองกับคุณนายพวงผกาอย่างเต็มมือ ความกังวลของอุสิชาในครั้งนี้ไม่อาจถูกควบคุมให้รอดพ้นสายตาของวีรเดชซึ่งก็ทราบดีถึงความตึงเครียดในสถานการณ์ขณะนั้นได้ดี
                    ผมคิดว่าหลังจากนี้ หนูทรายคงต้องเจอศึกหนัก ทั้งศึกในบริษัทและศึกนอกบริษัท เอาอย่างนี้ก็แล้วกันนะ ผมอนุญาตให้หนูทรายลาพักร้อนสักสองเดือน ก่อนจะมาลุยงานนั้นกันอีกทีวีรเดชยื่นข้อเสนอ อุสิชาตอบตกลงทันที อย่างน้อยหญิงสาวก็จะได้ถือโอกาสไปพักผ่อนหลังจากที่ทุ่มเทให้กับงานมานานหลายปี
     
              อุสิชากลับมาถึงห้องพักเร็วกว่าปกติ ทั้งโทรทัศน์และเครื่องเสียงต่างถูกเปิดประชันเสียงกัน แต่เจ้าของห้องกลับจดจ่ออยู่กับหน้าจอโน้ตบุ๊คที่วางอยู่ตรงหน้า เวปไซต์เกี่ยวกับสถานที่พักผ่อนต่างๆ ถูกเปิดขึ้นมา อุสิชาพยายามหาสถานที่ที่ถูกใจตนเองที่สุดเพราะคิดว่าคงจะพักที่นั่นยาวจนกระทั่งครบกำหนดพักร้อน ภาพรีสอร์ทบนเกาะแห่งหนึ่งต้องใจหญิงสาวเป็นอย่างมาก แต่ด้วยเพราะเพิ่งไปเที่ยวทะเลมาจึงทำให้ลังเล รีสอร์ทบรรยากาศพื้นบ้านทางภาคเหนือจึงเป็นตัวเลือกหนึ่งที่ทำให้อุสิชาตั้งลังเลอยู่เป็นนาน
                    อาคะ วันนี้กลับเร็วจังนะคะเสียงณัชชาดังขึ้นทันทีหลังจากที่เสียงปิดประตูยังไม่ทันเงียบ หญิงสาวได้แต่หันมายิ้มบางๆ ให้กับหลานสาวเป็นการทักทายแทนคำตอบ
                    อาจะไปไหนอีกแล้วคะ นี่เพิ่งกลับจากมาเที่ยวทะเลหยกๆเด็กสาวโพล่งขึ้นหลังจากเดินอ้อมไปเห็นเวปไซต์ที่ผู้เป็นอาเปิดข้างไว้
                    อาได้ลางานสองเดือนเป็นกรณีพิเศษ เลยอยากไปพักผ่อนสักหน่อย นัทช่วยอาเลือกหน่อยสิว่าจะไปที่ไหนดีระหว่างภูเขาทางเหนือ กับเกาะทางตะวันออกหญิงสาวพูดพลางจับคอโน้ตบุ๊คหันไปทางเด็กสาว
                    ไปเกาะสิคะอา รีสอร์ทดูเงียบสงบดีออก แบบที่อาชอบเลยค่ะเด็กสาวออกความเห็น
                    นัทนี่รู้ใจอานะ แต่เราก็เพิ่งไปทะเลด้วยกันมา อาเลยกลัวเบื่อ
              “โธ่อาคะ ถ้าใจเรารักทะเลสักอย่าง ไปกี่ครั้งๆ ก็ไม่เบื่อหรอกค่ะ แต่เสียดายนัทไปด้วยไม่ได้ กลางเดือนนี้มีสอบครั้งสำคัญเสียด้วยสิเด็กสาวหน้าจ๋อยลงเมื่อพูดถึงการสอบ
                    ถ้าที่นี่ดีจริง คราวหน้าอาพานัทไปอีกทีก็ได้จ้ะหญิงสาวตัดบทก่อนจะหันไปอ่านรายละเอียดในเวปไซต์ของรีสอร์ทบนเกาะ ขณะที่ณัชชาเดินหายเข้าไปในห้องส่วนตัว
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×