ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ~คลื่นซัดทราย~

    ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ 4

    • อัปเดตล่าสุด 11 มิ.ย. 51


    ตอนที่ 4
     
                    ไกรพกลับจากพักผ่อนช่วงวันหยุดปีใหม่ด้วยจิตใจเบิกบาน เขาขอตัวกลับเข้ากรุงเทพฯ ก่อน และปล่อยให้อุสิชาเที่ยวทะเลกับหลานสาวจนเต็มอิ่ม ชายหนุ่มต้องรีบกลับเข้ามาเพื่อเตรียมการประชุมสรุปผลกำไรของบริษัท แม้จะมีคนรับผิดชอบงานนี้โดยตรงแต่ไกรพก็ไม่อยากให้เกิดอะไรผิดพลาดขึ้นแม้แต่อย่างเดียวเขาได้กำลังใจเต็มเปี่ยมทั้งคืนมาจากอุสิชาแล้ว ต่อแต่นี้ทั้งปีเขาคิดว่าเขาจะมีแรงใจทำงานให้ก้าวหน้าไปยิ่งกว่าเดิม
                    ไกรพหอบเอกสารรายงานผลกำไรประจำปีเดินมาจากชั้นเก็บแฟ้มเอกสารที่ห้องทำงานส่วนตัว และทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้หนังแท้สีดำนุ่มพร้อมกับทิ้งน้ำหนักเอนหลังและยกเท้าทั้งสองข้างขึ้นมาพาดบนโต๊ะ วันนี้ไม่มีพนักงานคนไหนมาเห็นเขาทำงาน เพราะฉะนั้นท่านั่งท่าใดที่สบายสำหรับเขาที่สุดก็สามารถทำได้ บนโต๊ะทำงานไม่มีกาแฟดำเช่นปกติ หากแต่เต็มไปด้วยกระป๋องเบียร์ที่ทั้งเปิดแล้วและยังไม่ได้เปิด ขณะเปิดอ่านรายงานไม่กี่หน้าเสียงโทรศัพท์สายตรงของเขาก็ดังขึ้น ไกรพวางแฟ้มเอกสารบนหน้าตัก ทำสีหน้าครุ่นคิดถึงคนที่จะโทรมาในวันหยุด แรกทีเดียวเขาคิดว่าจะไม่รับ แต่ด้วยความใคร่รู้ว่าใครกันที่โทรมาไม่รู้จักเวลา จึงตัดสินใจรับโทรศัพท์นั้นในที่สุด
                    พี่รพ ผมเองเสียงของชายหนุ่มดังแว่วมาตามสายโทรศัพท์ ไกรพขมวดคิ้วด้วยความงุนงงเล็กน้อย และเงียบไปเพียงครู่ ก่อนจะทำตาโตเลิกคิ้วสูง
                    นึกว่าใคร นี่แกจะกลับเมืองไทยเมื่อไร คุณแม่ถามพี่ทุกวันไกรพพูดพร้อมกับเอื้อมมือไปวางเอกสารไว้บนโต๊ะ และหยิบเบียร์มาจิบแทน
                    อีกสักพักครับพี่ ขอเที่ยวก่อน ขืนเข้าบ้านตอนนี้คุณแม่คงไม่ให้ออกไปไหนผู้เป็นน้องตอบอย่างสดใส
                    เออ แสดงว่าแกอยู่เมืองไทยแล้วสิ เอาอย่างนี้ก็แล้วกันนะ เข้าบ้านให้ทันงานครบรอบฉลองการก่อตั้งบริษัทก็แล้วกัน มันสำคัญสำหรับคุณพ่อมากไกรพตอบตามหน้าที่พี่ชายและลูกที่ดี ปลายสายเพียงแต่รับคำ และวางสายโทรศัพท์ไปในที่สุด หลังจากวางโทรศัพท์ไกรพหัวเราะเบาๆ ให้กับตนเอง น้องชายตัวดีของเขายอมกลับเมืองไทยจนได้ ต่อจากนี้คุณแม่ของเขาคงจะสาละวนกับการจับคู่ให้กับลูกชายสุดที่รักคนเล็กมากกว่า เรื่องอุสิชากับเขาก็คงราบรื่นขึ้นอีก
     
                    อุสิชารู้สึกอ่อนเพลียเล็กน้อยหลังจากเที่ยวทะเล ในทางกลับกันณัชชากลับรู้สึกสดชื่นเป็นพิเศษ วันรุ่งขึ้นอุสิชาต้องรีบไปทำงานตั้งแต่เช้า เพราะมีประชุมสรุปผลกำไรของบริษัท หญิงสาวเตรียมข้อมูลและเอกสารสำหรับใช้ในการประชุมจนค่อนคืน และตื่นมาด้วยความเพลียในตอนเช้า
                    เมื่อมาถึงที่ทำงาน อุสิชารู้สึกว่าตนเองจำเป็นจะต้องได้รับสารคาเฟอีนจากกาแฟบ้างแล้ว จึงเดินตรงไปยังมุมกาแฟของบริษัท ระหว่างที่เดินไปก็พบคุณนายพวงผกาเดินมาพร้อมกับสุรตาตรงไปยังห้องทำงานของไกรพ อุสิชาเริ่มกังวลแล้วว่าความเหนื่อยเพลียของเธอวันนี้คงต้องถูกซ้ำเติมด้วยคำพูดกระทบกระเทียบของทั้งสองคนอีกเป็นแน่ แม้จะไม่อยากสนใจแต่หญิงสาวก็สังเกตว่าวันนี้สุรตาดูลุกลี้ลุกลนผิดปกติ แต่ด้วยเพราะไม่อยากปวดหัวเพิ่มขึ้นจึงไม่นำเรื่องนี้มาใส่ใจ
                    หลังการประชุมเสร็จสิ้นวีรเดชเรียกอุสิชาไปพบที่ห้องทำงานตลอดจนกระทั่งบ่าย วีรเดชมอบหมายงานสำคัญให้อุสิชาสืบเรื่องการที่มีคนนำความลับของบริษัทไปขาย วีรเดชเองไม่สามารถไว้ใจใครได้ จึงอยากให้อุสิชาซึ่งมีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการประมูลโครงการน้อยที่สุดเป็นผู้สืบความจริงอย่างเงียบๆ
                    กว่าอุสิชาจะออกมาจากห้องของวีรเดชก็เป็นเวลาบ่ายแก่แล้ว หญิงสาวรู้สึกหิวมากเพราะตั้งแต่เช้าได้กาแฟตกถึงท้องเพียงแก้วเดียว อุสิชาเดินมาถึงห้องทำงานของตนเองก็พบไกรพมานั่งรออยู่ก่อนแล้ว
                    ทราย ผมยังไม่ได้ทานข้าวเลยไกรพร้องพร้อมกับยันตัวลุกขึ้นทันทีที่อุสิชาเดินเข้ามาถึง แต่ยังไม่ทันที่จะได้พูดอะไรต่อ สุรตาที่เดินตามอุสิชาเข้ามาก็เบียดตัวเดินไปเกาะแขนไกรพ และพูดเสียงออดอ้อนเอาใจ
                    ถ้าอย่างนั้นตาพาไปทานข้าวนะคะพี่รพ ตาก็หิวเหมือนกัน ไปกันค่ะสุรตาพูดพลางยื้อยุดไกรพให้เดินออกไปพร้อมตนเอง แม้ไกรพจะไม่ตอบตกลงแต่ก็ไม่กล้าตอบปฏิเสธ เพราะเพิ่งได้ยินคำบ่นจากผู้เป็นมารดาเรื่องสุรตาตั้งแต่เช้า ไม่ว่าเขาทำอะไรให้หญิงสาวไม่พอใจ สุรตาก็ต้องรีบเอาไปฟ้องคุณพวงผกาทันที แม้จะไม่รู้สึกมีใจให้ แต่เขาก็พยายามตัดรำคาญโดยไม่ให้สุรตามีเรื่องไปฟ้องแม่ของเขามากกว่า
                    ไกรพทำท่าทีลังเลอยู่นาน อุสิชาไม่ได้พูดอะไรตอบ ได้แต่ยืนมองนิ่งๆ ในเวลาเดียวกัน ทินกรซึ่งเพื่อนสนิทของอุสิชาเดินถือแฟ้มเอกสารเข้ามาเพื่อให้หญิงสาวลงชื่อพอดี
                    กร ยังไม่ได้ทานข้าวเหมือนกันใช่ไหม ไป ไปทานข้าวกับทรายอุสิชาพูดพลางคว้ากระเป๋าที่เก้าอี้ประจำตำแหน่ง แล้วคว้าเอกสารจากทินกรไปวางบนโต๊ะ ทินกรได้แต่ทำหน้าเหรอหราก่อนจะถูกลากตัวเดินตรงไปที่ลิฟท์พร้อมอุสิชา เมื่อเห็นเช่นนั้นไกรพจึงดึงตัวสุรตาเดินตามทั้งคู่ไปด้วย และไปทันที่จะโดยสารลิฟท์พร้อมกัน
                    กรอยากทานร้านไหน วันนี้ทรายเลี้ยงอุสิชาเอ่ยเอาใจเพื่อนชาย
                    ทราย เรา...ทินกรพยายามบอกปัดเพราะอันที่จริงเขาเพิ่งทานอาหารมาจนอิ่มมากแล้ว
                    อ๋อ ร้านประจำของเราใช่ไหม แหมกรนี่รู้ใจทรายจังนะจ๊ะ ทรายกำลังอยากทานต้มข่าไก่ร้านนั้นพอดีเลยอุสิชาพูดพลางเกาะแขนทินกรอย่างสนิทสนม
                    ครับทินกรเห็นท่าไม่ดีหากจะโต้แย้งหรือขัดคออุสิชาจึงได้แต่สงบปากสงบคำ หากถึงสถานที่ที่สะดวกกว่านี้หญิงสาวคงเป็นผู้เริ่มเล่าเองว่าเกิดปัญหาอะไรขึ้นกันแน่
                    ตลอดเวลาที่อยู่ในลิฟท์บรรยากาศรอบๆ ดูอึดอัดเสียจนแทบระเบิด ในใจของไกรพร้อนรุ่ม แม้จะรู้ดีว่าทินกรเป็นเพื่อนที่สนิทสนมกับอุสิชามาตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย แต่เพราะทั้งสองเคยคบหาเป็นคู่รักกันอยู่ก่อนจะจบการศึกษา เขาจึงไม่สามารถวางใจและคลายความระแวงได้เลย ยิ่งอุสิชาทำตัวสนิทสนมกับทินกรเช่นนี้ เขาก็ยิ่งรู้สึกร้อนรน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขาไม่เคยได้รับรู้ถึงสาเหตุที่ทั้งคู่เลิกรากันหลังจากที่คบกันมาเกือบสี่ปีแต่ยังคงสนิทสนมกันอยู่
                    อุสิชายังคงเกาะแขนทินกรแน่น จนกระทั่งออกจากลิฟท์และเดินไปที่รถ ไกรพที่มองตามอยู่ตลอดอย่างไม่ละสายตายิ่งรู้สึกระแวง นี่อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้อุสิชาบอกเลิกเขาเมื่อไม่กี่วันก่อน เพราะจะได้กลับไปคืนดีกับทินกรอย่างสบายใจ ไม่มีทางไกรพคิดในใจ เขาไม่มีทางปล่อยให้อุสิชาไปเป็นของใครแน่ เขาจึงตัดสินใจขับรถตามอุสิชาไปที่ร้านอาหารโปรดของเธอ แม้จะมีสุรตาตามมาติดๆ แต่เขาแทบจะไม่รับรู้การมีตัวตนของสุรตาเลยสักนิด
     
                    อุสิชาเลือกโต๊ะที่มุมเงียบๆ มุมหนึ่งของร้านอาหาร เนื่องจากเป็นเวลาบ่ายแก่แล้วจึงมีลูกค้าไม่มากนัก หญิงสาวทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ที่มุมหนึ่งของโต๊ะขณะรับเมนูจากบริกรที่วิ่งตามมาตั้งแต่ทั้งคู่เดินเข้ามาในร้าน
                    เรารู้นะทรายว่าเธอมีเรื่องอะไรบางอย่างกับคุณรพมา แต่อย่าทำแบบนี้สิ เดี๋ยวเราก็พลอยเดือดร้อนไปด้วยหรอกทินกรพยายามพูดเสียงโทนต่ำเพื่อให้หญิงสาวรู้สึกผิด
                    งอนอะไรคุณรพอีกล่ะชายหนุ่มผิวขาวเนียนกอดอกถามเพื่อนสาวด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงกว่าเดิม ก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่อคำถามไม่ได้รับการใส่ใจเลยแม้แต่นิด
                    ต้มข่าไก่ ไข่เจียวหมูสับ กับข้าวเปล่าหนึ่งจานค่ะ กรคงอิ่มแล้วใช่ไหมล่ะอุสิชาพูดขึ้นเป็นประโยคแรกหลังจากที่ปล่อยให้ทินกรพูดฝ่ายเดียวเสียนาน
                    ทราย ใส่ใจเราหน่อยสิ มีปัญหาอะไรกับคุณรพหรือเปล่าทินการคลายมือที่กอดอกอยู่ขณะพยายามคาดคั้นเพื่อนสนิท
                    น้ำมะนาวใช่ไหมกรอุสิชาหันมาพูดกับทินกร แต่ก็ยังคงไม่ตอบคำถามที่เขาต้องการรู้ และหันไปสั่งกับบริกรที่รอรายการอาหารที่เหลือ น้ำมะนาวเปรี้ยวๆ อีกสองแก้วค่ะ แค่นี้ก่อนนะคะกล่าวจบบริกรโค้งเล็กน้อยก่อนจะเดินหายไปในครัว
                    ทินกรถอดใจที่จะถาม อุสิชาจึงปล่อยให้บรรยากาศรอบๆ เงียบสงัด จนกระทั่งน้ำมะนาวเปรี้ยวๆ ที่สั่งไว้ถูกนำมาเสิร์ฟ
                    ไม่มีอะไรหรอกกร ทรายแค่ไม่อยากมีปัญหาอุสิชาโพล่งขึ้นหลังจากที่ดูดน้ำมะนาวลงคอไปได้ครึ่งแก้ว
                    แต่มันจะนำปัญหามาให้เราน่ะสิทราย คุณรพน่ะขี้หึงจะตาย แล้วนี่ทรายก็ยังไม่ยอมบอกเขาเสียทีว่าทำไมเราสองคนเลิกกัน จะได้ไม่ต้องมาหึงเราสองคนอีกทินกรขมวดคิ้วเล็กน้อยขณะพูดตอบเพื่อนสนิท
                    บ้าสิกร ใครจะกล้าบอก ไม่เอาล่ะถ้าอยากบอกให้กรบอกคุณรพเองก็แล้วกัน อ่ออีกอย่างนะ คุณรพจะเข้าใจว่าอย่างไรก็ไม่สน เพราะถึงอย่างไรคุณสุรตาก็เป็นตัวจริงหญิงสาวพูดด้วยสีหน้าจริงจัง ขณะในมือประสานกันบนโต๊ะ
                    คุณรพนะเหรอ จะเอายัยสุรตา เราดูออกนะทรายว่ายัยสุรตาน่ะไม่เคยอยู่ในสายตาคุณรพเลย
              “ใช้อะไรดูละจ๊ะ ใช้สายตาผู้ชายดูหรือไงกันอุสิชาพูดพลางหัวเราะอย่างอารมณ์ดี ขณะเดียวกันไกรพก็เดินเข้ามาถึงร้านอาหารพร้อมกับสุรตา ชายหนุ่มพยายามมองหาอุสิชา เมื่อเห็นแล้วจึงจงใจเดินมานั่งโต๊ะใกล้ๆ อุสิชาจึงหยุดหัวเราะแล้วขยับตัวมานั่งชิดกับทินกรมากขึ้น ส่วนทินกรพยายามมองสีหน้าของไกรพตลอด ทว่าเขาก็ต้องพบเจอกับสิ่งที่ไม่ต้องการเห็น สายตาที่จ้องเขม็งพร้อมจะเอาเรื่องตลอดเวลา และมองอุสิชาอย่างไม่ลดละประดั่งว่าโลกทั้งโลกมีเพียงอุสิชาเท่านั้นที่เขามองเห็น
                    บรรยากาศในร้านอาหารดูตึงเครียด แม้จะสั่งอาหารมาเต็มโต๊ะแต่ไกรพและสุรตาต่างแทบไม่มีใครแตะอาหารเลย ทินกรเองก็รู้สึกอึดอัดจนแม้น้ำมะนาวแก้วเดียวก็ยังคงปล่อยให้ละลายจืดชืดไปพร้อมกับน้ำแข็ง คงมีเพียงอุสิชาเพียงคนเดียวที่ทานอาหารมื้อนั้นอย่างเอร็ดอร่อย อาจจะด้วยเพราะความหิว หรือเป็นไปได้แม้กระทั่งความเครียดที่ตัวเธอเองไม่อยากจะเปิดเผยให้ใครรู้
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×