ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่ 1
ตอนที่ 1
แม้จะเลยเวลาเลิกงานมาหลายชั่วโมงแล้ว แต่มือเรียวยาวของอุสิชายังคงติดหนึบอยู่กับแป้นพิมพ์ ตาสวยคมก็ยังคงจ้องมองไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์อย่างไม่ลดละ จนกระทั่งบันทึกข้อมูลสุดท้ายแล้วหญิงสาวจึงเหยียดเรียวขานั้นออกอย่างช้าๆ มือที่เพิ่งละจากแป้นพิมพ์ก็ถูกนำมาประสาน ก่อนจะยกขึ้นไปด้านบนทั้งแขนเพื่อไล่ความเมื่อยขบจากการนั่งทำงานท่าเดิมอยู่หลายชั่วโมง สายตาที่เมื่อยล้าเหลือบไปมองดูนาฬิการะบบดิจิตอลที่ตั้งอยู่บนโต๊ะทำงานบอกเวลา 21 นาฬิกา 48 นาที อุสิชาเลิกคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะหันไปปิดคอมพิวเตอร์อย่างเสียดาย หากยังไม่ดึกดื่นเช่นนี้เธอก็คงยังไม่เลิกทำงาน หญิงสาวอยากจะจัดการงานที่ค้างคาไว้ให้หมดภายในพรุ่งนี้ เพราะเหลือเวลาอีกเพียงสองวันก่อนจะหยุดปีใหม่ อุสิชาอยากไปเที่ยวอย่างสบายใจ ไม่ต้องกังวลกับงานที่ยังสะสางไม่เสร็จ ขณะรอระบบปฏิบัติคอมพิวเตอร์ดำเนินการปิดตัวเองอยู่ เธอก็เอื้อมมือไปหยิบกระเป๋าถือที่ลิ้นชักโต๊ะทำงานแล้วเหยียดตัวยืนขึ้นจับชายเสื้อนอกที่พับขึ้นมาเล็กน้อยขณะนั่งทำงานให้เข้าที่ เมื่อเห็นว่าเสื้อผ้าเรียบร้อยดีแล้วหญิงสาวจึงเดินมาทางประตูและเอื้อมมือปิดไฟก่อนจะเดินออกจากห้องไป
“อ้าวคุณอุสิชา ยังทำงานอยู่อีกหรือครับ ผมนึกว่าจะไม่มีใครอยู่แล้วเสียอีก”
เป็นเสียงของบุญสุขพนักงานรักษาความปลอดภัยประจำบริษัทที่ผ่านมาพบระหว่างตรวจตราความเรียบร้อย
“ค่ะลุงสุข ออกไปพร้อมคนอื่นๆ ก็รถติด ทรายเลยคิดว่าทำงานให้เสร็จก่อนค่อยกลับบ้านก็ยังทันค่ะ”
หญิงสาวหันไปแย้มยิ้มพลางสนทนากับผู้สูงวัยกว่า
“ขยันแบบนี้สิครับคุณ ท่านประธานถึงอยากได้ไว้นัก”
ลุงบุญสุขพูดกระเซ้า
“แหมลุงสุขก็เป็นไปกับเขาอีกคน อ้อ ลุงสุขคะท่านประธานกลับไปหรือยังคะ”
“ยังอยู่ครับคุณ ผมเห็นไฟในห้องท่านเปิดอยู่”
ชายสูงวัยกว่ายิ้มตอบ
“ผมขอตัวไปดูความเรียบร้อยที่อื่นๆ ก่อนนะครับ อย่ากลับดึกนักนะครับคุณ มันอันตราย”
ลุงบุญสุขกล่าวเสร็จก็เดินจากไป
เมื่อร่างของชายสูงวัยลับไปแล้ว อุสิชาก็คว้าโทรศัพท์บนโต๊ะพนักงานด้านนอกกดหมายเลขภายในเพื่อต่อไปยังห้องท่านประธาน แม้จะเป็นหญิงสาวที่มีความมั่นใจในตัวเองสูง แต่สถานการณ์ขณะนี้ทำให้หญิงสาวลังเลอยู่เป็นนาน
“ท่านประธานคะ ไม่ทราบว่าดิฉันจะขอเข้าไปปรึกษาเรื่องงานตอนนี้ได้หรือเปล่าคะ” หญิงสาวกรอกเสียงไปเมื่อมีเสียงรับสายจากผู้เป็นนาย
“ได้สิ มาตอนนี้เลยก็แล้วกันหนูทราย” ผู้เป็นนายตอบกลับมาอย่างสนิทสนมและอ่อนโยน บ่งว่ามีความสัมพันธ์เกินว่าจะเป็นแค่นายจ้างและลูกจ้าง
อุสิชาวางโทรศัพท์ไว้ที่เดิมแล้วจึงเดินไปยังห้องท่านประธาน เมื่อเดินมาถึงประตูไม้บานใหญ่สไตล์เรียบหรู ฉาบทาด้วยสีดำเข้มแบบสมัยใหม่ หญิงสาวก็พบว่าประตูเปิดไว้อยู่แล้ว
“อ้าวหนูทราย มาเร็วดีนะ นั่งสิมีอะไรจะคุยกับผมล่ะ”
คุณวีรเดชผู้มีตำแหน่งเป็นถึงประธานบริษัทกล่าวเชื้อเชิญ พร้อมกับเดินออกมาจากโต๊ะทำงาน
“ขอบคุณค่ะท่าน คือทรายจะมาปรึกษาท่านเรื่อง...ความผิดปกติเกี่ยวกับการประมูลงานคราวก่อนที่ท่านให้ทรายตรวจสอบน่ะค่ะ”
หญิงสาวพูดเสียงอ้อมแอ้มพลางหลบสายตาคู่สนทนา
“แล้วหนูทรายได้เรื่องอะไรหรือเปล่า”
ผู้เป็นนายกล่าวเสียงประหลาดใจที่งานที่สั่งให้ทำอย่างเงียบๆ มีความคืบหน้าเร็วกว่าที่คาดไว้
“ทราย เอ่อ ทรายสงสัยว่าจะมีคนในของเราเอาความลับการประมูลงานไปเปิดเผยกับคู่แข่งของเราน่ะค่ะ”
อุสิชาเงยหน้าอธิบายกับผู้เป็นนาย
“หนูทรายพอจะรู้แล้วหรือยังว่าใครเป็นคนทำ”
“ยังค่ะท่าน”
หญิงสาวหลีกเลี่ยงที่จะพูดความจริงที่ตนเองก็ยังไม่แน่ใจนัก
“ไม่เป็นไร แต่ผมว่าคืนนี้เรากลับไปพักผ่อนกันได้แล้วล่ะมันดึกมากแล้ว”
“ถ้าอย่างนั้น ทรายขอตัวนะคะ”
หญิงสาวพูดพลางขยับตัวลุกขึ้นยืน
“ดีแล้วล่ะ กลางค่ำกลางคืนมันอันตรายนะผู้หญิงขับรถคนเดียว น่าจะมีคนคอยขับรถรับส่งสักคนนะหนูทราย ผมว่ามีคนยินดีรับตำแหน่งอย่างน้อยหนึ่งคนละ”
ท่านประธานพูดพลางปรายตามองชายหนุ่มที่ประตู
“นั่นสิครับทราย ผมไม่ขอเงินเดือนเพิ่มนะครับ ยอมควบสองตำแหน่งให้เลยฟรีๆ”
เสียงนุ่มทุ้มดังขึ้นตอบ พร้อมๆ กับมองหน้าหญิงสาวพลางพาร่างสูงโปร่งเข้ามาในห้อง
“ไม่เป็นไรค่ะคุณรพ คอนโดฯทรายอยู่ไม่ไกลทรายลานะคะ”
อุสิชาหันไปยกมือไหว้ลาทั้งวีรเดช และไกรพระหว่างที่เดินไปที่โถงลิฟท์ ร่างสูงโปร่งของไกรพก็เดินตามหญิงสาวมาอย่างกระชั้นชิด
“ทรายวางแผนไปเที่ยวปีใหม่กับใครหรือยัง” ไกรพเอ่ยเสียงเขียวทันทีที่อุสิชาหันมาสบตาเขา
“ค่ะ”
“คุณโกรธอะไรผมหรือเปล่า ไม่ยอมมองหน้าผมบ้างเลย” ชายหนุ่มยังคงต้องการคำตอบ
“ทรายไม่ได้โกรธอะไรคุณค่ะคุณรพ ทรายขอตัวนะคะ ทรายเหนื่อยแล้ว” หญิงสาวพูดพลางเบี่ยงตัวเดินไปที่ลิฟต์
“เดี๋ยวทราย!” ชายหนุ่มวิ่งตามเข้าไปในลิฟต์พร้อมกับคว้าข้อมือหญิงสาว
“ปล่อยนะคะคุณรพ เดี๋ยวใครเห็นเข้าจะเอาไปนินทาอีก” หญิงสาวทำเสียงเขียวใส่บ้าง
“อ๋อคุณกลัวคนนินทา”
ชายหนุ่มปล่อยมือพลางยิ้มที่มุมปาก
“คุณจะกลัวไปทำไม ในเมื่อมันเป็นเรื่องจริง เราสองคนก็คบหากันมาตั้งแต่ก่อนที่คุณจะเข้ามาทำงานที่นี่แล้วนี่”
“ทรายไม่ได้กลัวใครนินทาค่ะ แค่ไม่อยากให้คุณสุรตาเข้าใจผิด”
หญิงสาวยังคงใช้เสียงเรียบเฉย
“แหม ที่แท้คุณก็หึง ผมดีใจจริงๆนะเนี่ย”
ชายหนุ่มกล่าวอย่างอารมณ์ดี
“ค่อยโล่งอกหน่อยที่เป็นเรื่องนี้ ไม่ต้องห่วงหรอกทราย คุณก็รู้ ผมรักคุณคนเดียว”
ชายหนุ่มพูดเสร็จลิฟท์ก็ลงถึงชั้นล่างสุดพอดี แม้ในใจของอุสิชาจะยอมรับว่าที่ชายหนุ่มพูดนั้นมีส่วนจริงอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้กล่าวอะไรตอบออกมา
“ทราย คุณจะไม่พูดอะไรกับผมหน่อยหรือครับ”
ไกรพกล่าวเสียงออดอ้อน
“ก็ได้ค่ะคุณไกรพ ราตรีสวัสดิ์นะคะ”
หญิงสาวพูดพลางเข้าไปนั่งที่คนขับและปิดประตูดังปังก่อนที่จะทิ้งชายหนุ่มให้ยืนดูรถญี่ปุ่นสีดำขลับเลื่อนหายลับไปกับตา
“เฮ้ย ไอ้ลูกชาย ง้อสาวไม่สำเร็จเหรอไง”
เสียงของผู้เป็นพ่อตะโกนถามมาจากประตู ชายหนุ่มเพียงแค่เลิกคิ้วทำหน้าเซ็งโดยไร้คำตอบ
“แต่ไม่รู้ว่าคราวนี้งอนอะไรผม”
ไกรพบ่นอุบขณะเดินไปประจำที่ด้านคนขับ
“รักสาวก็ต้องหมั่นเกี้ยวนะไอ้ลูกชาย”
วีรเดชพูดพลางตบไหล่ แล้วหัวเราะร่วนขณะเดินไปนั่งข้างคนขับ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น