ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : เรื่องเล่าจากตัวปลากรอบ: ตอนที่ 1 ปฐมบทแห่งชีวิตสุดแสนธรรมดา
--- ช่วงเวลามัธยมต้นถือได้ว่าเป็นหนึ่งในช่วงชีวิตที่สำคัญที่สุด เพราะเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อและยังเป็นตัวกำหนดอนาคตของเด็นคนนั้นๆ เพราะถ้าเราทำช่วงนี้ได้ออกมาดีละก็ ชีวิตของเราก็คงไม่ลำบากในช่วงมัธยมปลายหรือในช่วงมหาวิทยาลัยเป็นแน่ แต่อย่างไรก็ดี นี้เป็นเพียงแค่ทฎษดีสู่ความสำเร็จที่หาอ่านได้ตามหนังสือทั่วไปเพียงเท่า นั้น เพราะในความเป็นจริงนั้นมันคงเป็นไปไม่ได้หรอก ส่วนสาเหตุที่ผมสามารถพูดได้เต็มปากขนาดนั้นนี้ นั้นก็เพราะสิ่งที่อยู่ตรงหน้าผมมันทำให้ผมปฏิเสธความจริงข้อนี้ไม่ได้ไงล่ะ
ณ ห้องเรียนของนักเรียนมัธยมต้นปี 2 ในโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นห้องที่รวมของนักเรียนตัวเก่งที่ชอบทำกิจกรรมต่างๆของโรงเรียน จนไม่มีใครในแผนกที่จะไม่รู้จักวีรกรรมของนักเรียนห้องนี้ แต่แล้วบรรยากาศในห้องตอนนี้กับแต่ต่าง แต่ก็อาจจะเป็นเพราะ นี้พึ่งเป็นเวลาหมดพักกลางวันก็เป็นได้ เลยทำให้นักเรียนส่วนใหญ่ในห้องวางมือทั้ง 2 ข้างของตนประกบกันลงบนโต๊ะและนอนฟุบลงไปบนโต๊ะเรียนที่ทำจากไม้เนื้ออ่อนกัน อย่างสบายราวกับว่านอนกันอยู่เตียงนอนกันที่บ้านเลยละ แต่นี้ก็คงไม่ผิดแปลกอะไรมากมายก็นีเป็นเพียงแค่ภาพของนักเรียนทีี่กำลังนอน กันเพียงเท่านั้น ถ้าไม่นับความจริงที่ว่านี้ยังอยู่กลางคาบวิทยาศาสตร์ที่ยังเริ่มมาไม่นาน มากนัก
จนบางทีอาจจะเรียกได้ว่านี้อาจจะเป็นสุดยอดความสามารถของ อาจารย์ชาวแคนนาดาคนนี้ก็เป็นได้ เพราะแค่เขาพูดออกมาคำแรกก็ทำให้ตาของคนแทบจะหมดทั้งห้องนั้นปิดลงราวกับว่า กำลังต้องมนต์สะกดอะไรบางอย่างอยู่ ซึ่งแน่นอนว่าผมก็เป็นหนึ่งในคนที่ยอมรับมนต์สะกดนั้นโดยดี
แต่อย่าง ที่เค้าว่ากันว่าความสุขนั้นมักจะอยู่ไม่นานนัก ช่วงเวลาที่แสนสุขกับการได้นอนอย่างสบายใจก็ต้องจบลงเมื่อเสียงกริ่งจบคาบ เรียนนั้นดังขึ้น
"Please stand up!" หัวหน้าห้องรีบกล่าวประโยคสุดคลาสสิกอย่างไม่รีรอ
นักเรียนทั้งหมดที่เหลือในห้องก็ต่างลุกขึ้น ถึงแม้ว่าหน้าของหลายๆคนนั้นยังคงไม่พร้อมที่จะรับแสงในห้องที่สว่างขึ้น หลังจากอาจารย์เดินไปเปิดไฟและปิดคอมพิวเตอร์เรียบร้อย
"Thank you teacher, see you next time have a good day." ทุกคนพูดขึ้นพร้อมโดยไม่มีใครจำเป็นต้องให้สัญญาณ
หลัง จากที่ครูชาวแคนาเดียนเดินออกจากประตูแก้วทางเข้าไปแล้วนั้น บรรยากาศในห้องก็กลับมามีสีสันกันอีกครั้ง เสียงต่างๆ ในห้องก็เริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากคาบต่อที่สมควรจะเป็นคาบพละแต่ในวันนี้ครูสอนที่พละนั้นกับลาป่วย ไว้ซึ่งนั้นหมายความว่าคาบต่อไปอีก 2 คาบเป็นคาบว่าง ยิ่งไปกว่านั้นคือคาบสุดท้ายวันนี้ครูที่สอนก็ติดประชุมอีกเลยทำให้มาสอนไม่ ได้ ซึ่งนี้เลยเป็นโอกาสอันดีที่มีไว้ให้จัดการกับการบ้านที่หมักดองไว้ แต่ว่านั้นก้เป็นเพียงแค่สิ่งที่ครูประจำชั้นพูดไว้ในตอนโฮมรูมช่วงเช้า เพียงเท่านั้น เพราะจริงๆ แล้วนี้เป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการจัดการแข่งขันสุดศักสิทธิ์ระหว่าง 3 เทพแห่งห้องต่างหากละ ซึ่งการแข่งขันสุดยิ่งใหญ่และมีเกียรติในครั้งนี้นั้นก็คือ การแข่งขันเกมส์ Little fighter 2 นั้นเองหรือถ้าจะให้พูดง่ายๆก็คือมารวมตัวกันหน้าคอมพิวเตอร์และเล่นเกมส์ ต่อสู้กันนั้นเอง
ซึ่งการแข่งนั้นก็จะเล่นกันแบบ 4 คนสู้กันเองคนที่ตายเป็นคนแรกในรอบนั้นก็จำต้องออกไปรอ ซึ่งแน่นอน 3 เทพที่ประกอบไปด้วยผม หัวหน้าห้อง และก็เพื่อนผมอีกคนหนึ่งซึ่งชื่อว่ามิ้นต์ แต่เดี๋ยวก่อน มิ้นต์เนี้ยซื่อผู้ชายนะอย่าพึ่งเข้าใจผิดไป
หลังจากที่ 3 เกลอครอบครองความเป็นแชมป์อยู่นาน การแข่งขันสุดศักสิทธิ์ก็จำต้องหยุดชะงักลง เมื่อแก้มสาวร่างใหญ่ประจำห้องได้เข้ามาขอใช้งานคอมพิวเตอร์ ซึ่งก็นะพวกผมก็ไม่มีทางเลือกจำต้องยอมไป
หลังจากนั้นนัทหัวหน้าห้อง ร่างใหญ่ของเราก็ลากมิ้นไป รู้สึกว่าก่อนไปจะบอกว่าจะไปหาครูอะไรนี้ล่ะผมก็ไม่ได้ตั้งใจฟังอะไรขนาด นั้น ส่วนตัวผมเองก็ได้แต่นั่งเหม่อรอให้เวลาของวันนี้หมดไป ถ้าเป็นตามปกติผมก็คงนั่งคุยหนิว ผู้ชายตัวเล็กเด็กลูกครึ่งจีนที่เป็นเพื่อนสนิทผมไปแล้ว แต่ว่าวันนี้หนิวกลับไม่มานี้สิผมเลยไม่รู้จะคุยกะใครดี ถ้าเป็นเพื่อนสนิทผมก็ยังมีอีกคนนะแต่มันอยู่อีกห้องนี้สิเลยไปคุยกะมันไม่ ได้และผมก็มาน่าเบื่อแบบนี้
ส่วนมากเพื่อนในรุ่นของผม เค้าย้ายออกไปตอนช่วงขึ้นมัธยมต้นหมดแล้ว เลยทำให้เหลือเพื่อนสนิทอยู่ไม่มากนัก รวมไปถึงไม่ค่อยได้ติดต่อกันสะเท่าไรด้วยนี้สิเลยไม่รู้ว่าเป็นยังไงกันบาง แล้ว
แต่ถ้าคิดดูดีๆแล้วบางทีมันอาจจะดีก็ได้นะที่พวกนั้นย้ายออกไป มิฉะนั้นคงแย่แน่ๆเลยกับการที่เคยไปเล่นอะไรบ้าๆกันแบบนั้นไว้
ระหว่างที่ผมกำลังคิดอะไรเพลินๆอยู่ พวกกลุ่มเด็กใหม่ที่พึ่งเข้ามาในปีนี้กับเพื่อนผู้ชายคนอื่นๆก็เริ่มเข้ามาชวนผมไปคุยเล่นด้วยเหมือนเช่นเคย
"เห้ยบอส มานี้สิไปนั่งอะไรตรงนั้น"
ซึ่งผมก็ไม่ได้อะไรมาก ก็แค่เข้ามารวมวงกะพวกนี้แล้วก็คุยเล่นกันเหมือนปกติ จะว่าไงดีล่ะนี้ มันยุคของเด็กใหม่ละมั้ง ก็เด็กใหม่ทั้ง 3 คนที่เข้ามาในปีนี้เหมือนจะมีเรื่องเลิฟๆ กันหมดแล้วน่ะสิ แหมะสำหรับเด็กยุคเก่ากึกอย่างผมนี้ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนเลย แต่เดี๋ยวก่อนอย่าพึ่งรีบมาสรุปอะไรเกี่ยวกะผมล..
"ใช่ๆ เมื่อว่านเจอมาด้วยละตอนไปห้างอะ" หนึ่งในเพื่อนผู้ชายในกลุ่มผู้ขึ้นมาในระหว่างวงสนทนาเกี่ยวกะสาวๆในชั้นและการพูดขึ้นมาแบบนี้เหมือนหวังให้คนถามเค้าว่าไปเจออะไรมา
"เจอใครมาละ" และในที่สุด อาร์ต หนึ่งในเด็กใหม่ก็ถามขึ้นมาด้วยความสงสัยจนได้
"บี ไงเพื่อนตอนป.6 ไง" พลตอบด้วยท่าทางมีเลศนัยแปลกๆ "เหมือนไซต์ตัวยังเล็กเหมือนเดิมนะ แต่ไซต์..นี้แบบ"
และ แล้วทุกคนในวงก็เหมือนสนใจกับประเด็นนี้กันแบบสุดๆ ในฐานะผู้ชายคนนึงผมก็สนใจอยู่เหมือนกันนะแต่ ปัญหาคือชื่อนี้สิ แต่แรกๆ ผมก็นั่งเหม่อๆฟังบทสนทนาที่พวกเพื่อนมันคุยกันบ้างไม่คุยกันบ้าง แต่หลังจากที่ไอพลมันเอยชื่อนี้มา ร่างกายผมก็เริ่มมสั่นแล้วเริ่มหลบสายตาออกจากกลุ่มคนนี้
"เห้ย..ว่าแต่บีนี้หน้าตายังไงเนี้ยไม่ยังไม่เคยเห็นเลย เห็นคุยกันมาตั้งนานแล้ว" อาร์ตถามกลุ่มด้วยความสงสัยอีกครั้ง ก็บีออกไปตั้งแต่ป.6 แล้วมันก็คงเป็นไปไม่ได้ที่เด็กใหม่อย่างอาร์ตจะเคยเห็นหน้า
"เออใช่..ไม่มีรูปแล้วอะ ไม่ลองถามบอสมันดูล่ะ?" ---
-- จบ --
G2Neko
ณ ห้องเรียนของนักเรียนมัธยมต้นปี 2 ในโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นห้องที่รวมของนักเรียนตัวเก่งที่ชอบทำกิจกรรมต่างๆของโรงเรียน จนไม่มีใครในแผนกที่จะไม่รู้จักวีรกรรมของนักเรียนห้องนี้ แต่แล้วบรรยากาศในห้องตอนนี้กับแต่ต่าง แต่ก็อาจจะเป็นเพราะ นี้พึ่งเป็นเวลาหมดพักกลางวันก็เป็นได้ เลยทำให้นักเรียนส่วนใหญ่ในห้องวางมือทั้ง 2 ข้างของตนประกบกันลงบนโต๊ะและนอนฟุบลงไปบนโต๊ะเรียนที่ทำจากไม้เนื้ออ่อนกัน อย่างสบายราวกับว่านอนกันอยู่เตียงนอนกันที่บ้านเลยละ แต่นี้ก็คงไม่ผิดแปลกอะไรมากมายก็นีเป็นเพียงแค่ภาพของนักเรียนทีี่กำลังนอน กันเพียงเท่านั้น ถ้าไม่นับความจริงที่ว่านี้ยังอยู่กลางคาบวิทยาศาสตร์ที่ยังเริ่มมาไม่นาน มากนัก
จนบางทีอาจจะเรียกได้ว่านี้อาจจะเป็นสุดยอดความสามารถของ อาจารย์ชาวแคนนาดาคนนี้ก็เป็นได้ เพราะแค่เขาพูดออกมาคำแรกก็ทำให้ตาของคนแทบจะหมดทั้งห้องนั้นปิดลงราวกับว่า กำลังต้องมนต์สะกดอะไรบางอย่างอยู่ ซึ่งแน่นอนว่าผมก็เป็นหนึ่งในคนที่ยอมรับมนต์สะกดนั้นโดยดี
แต่อย่าง ที่เค้าว่ากันว่าความสุขนั้นมักจะอยู่ไม่นานนัก ช่วงเวลาที่แสนสุขกับการได้นอนอย่างสบายใจก็ต้องจบลงเมื่อเสียงกริ่งจบคาบ เรียนนั้นดังขึ้น
"Please stand up!" หัวหน้าห้องรีบกล่าวประโยคสุดคลาสสิกอย่างไม่รีรอ
นักเรียนทั้งหมดที่เหลือในห้องก็ต่างลุกขึ้น ถึงแม้ว่าหน้าของหลายๆคนนั้นยังคงไม่พร้อมที่จะรับแสงในห้องที่สว่างขึ้น หลังจากอาจารย์เดินไปเปิดไฟและปิดคอมพิวเตอร์เรียบร้อย
"Thank you teacher, see you next time have a good day." ทุกคนพูดขึ้นพร้อมโดยไม่มีใครจำเป็นต้องให้สัญญาณ
หลัง จากที่ครูชาวแคนาเดียนเดินออกจากประตูแก้วทางเข้าไปแล้วนั้น บรรยากาศในห้องก็กลับมามีสีสันกันอีกครั้ง เสียงต่างๆ ในห้องก็เริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากคาบต่อที่สมควรจะเป็นคาบพละแต่ในวันนี้ครูสอนที่พละนั้นกับลาป่วย ไว้ซึ่งนั้นหมายความว่าคาบต่อไปอีก 2 คาบเป็นคาบว่าง ยิ่งไปกว่านั้นคือคาบสุดท้ายวันนี้ครูที่สอนก็ติดประชุมอีกเลยทำให้มาสอนไม่ ได้ ซึ่งนี้เลยเป็นโอกาสอันดีที่มีไว้ให้จัดการกับการบ้านที่หมักดองไว้ แต่ว่านั้นก้เป็นเพียงแค่สิ่งที่ครูประจำชั้นพูดไว้ในตอนโฮมรูมช่วงเช้า เพียงเท่านั้น เพราะจริงๆ แล้วนี้เป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการจัดการแข่งขันสุดศักสิทธิ์ระหว่าง 3 เทพแห่งห้องต่างหากละ ซึ่งการแข่งขันสุดยิ่งใหญ่และมีเกียรติในครั้งนี้นั้นก็คือ การแข่งขันเกมส์ Little fighter 2 นั้นเองหรือถ้าจะให้พูดง่ายๆก็คือมารวมตัวกันหน้าคอมพิวเตอร์และเล่นเกมส์ ต่อสู้กันนั้นเอง
ซึ่งการแข่งนั้นก็จะเล่นกันแบบ 4 คนสู้กันเองคนที่ตายเป็นคนแรกในรอบนั้นก็จำต้องออกไปรอ ซึ่งแน่นอน 3 เทพที่ประกอบไปด้วยผม หัวหน้าห้อง และก็เพื่อนผมอีกคนหนึ่งซึ่งชื่อว่ามิ้นต์ แต่เดี๋ยวก่อน มิ้นต์เนี้ยซื่อผู้ชายนะอย่าพึ่งเข้าใจผิดไป
หลังจากที่ 3 เกลอครอบครองความเป็นแชมป์อยู่นาน การแข่งขันสุดศักสิทธิ์ก็จำต้องหยุดชะงักลง เมื่อแก้มสาวร่างใหญ่ประจำห้องได้เข้ามาขอใช้งานคอมพิวเตอร์ ซึ่งก็นะพวกผมก็ไม่มีทางเลือกจำต้องยอมไป
หลังจากนั้นนัทหัวหน้าห้อง ร่างใหญ่ของเราก็ลากมิ้นไป รู้สึกว่าก่อนไปจะบอกว่าจะไปหาครูอะไรนี้ล่ะผมก็ไม่ได้ตั้งใจฟังอะไรขนาด นั้น ส่วนตัวผมเองก็ได้แต่นั่งเหม่อรอให้เวลาของวันนี้หมดไป ถ้าเป็นตามปกติผมก็คงนั่งคุยหนิว ผู้ชายตัวเล็กเด็กลูกครึ่งจีนที่เป็นเพื่อนสนิทผมไปแล้ว แต่ว่าวันนี้หนิวกลับไม่มานี้สิผมเลยไม่รู้จะคุยกะใครดี ถ้าเป็นเพื่อนสนิทผมก็ยังมีอีกคนนะแต่มันอยู่อีกห้องนี้สิเลยไปคุยกะมันไม่ ได้และผมก็มาน่าเบื่อแบบนี้
ส่วนมากเพื่อนในรุ่นของผม เค้าย้ายออกไปตอนช่วงขึ้นมัธยมต้นหมดแล้ว เลยทำให้เหลือเพื่อนสนิทอยู่ไม่มากนัก รวมไปถึงไม่ค่อยได้ติดต่อกันสะเท่าไรด้วยนี้สิเลยไม่รู้ว่าเป็นยังไงกันบาง แล้ว
แต่ถ้าคิดดูดีๆแล้วบางทีมันอาจจะดีก็ได้นะที่พวกนั้นย้ายออกไป มิฉะนั้นคงแย่แน่ๆเลยกับการที่เคยไปเล่นอะไรบ้าๆกันแบบนั้นไว้
ระหว่างที่ผมกำลังคิดอะไรเพลินๆอยู่ พวกกลุ่มเด็กใหม่ที่พึ่งเข้ามาในปีนี้กับเพื่อนผู้ชายคนอื่นๆก็เริ่มเข้ามาชวนผมไปคุยเล่นด้วยเหมือนเช่นเคย
"เห้ยบอส มานี้สิไปนั่งอะไรตรงนั้น"
ซึ่งผมก็ไม่ได้อะไรมาก ก็แค่เข้ามารวมวงกะพวกนี้แล้วก็คุยเล่นกันเหมือนปกติ จะว่าไงดีล่ะนี้ มันยุคของเด็กใหม่ละมั้ง ก็เด็กใหม่ทั้ง 3 คนที่เข้ามาในปีนี้เหมือนจะมีเรื่องเลิฟๆ กันหมดแล้วน่ะสิ แหมะสำหรับเด็กยุคเก่ากึกอย่างผมนี้ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนเลย แต่เดี๋ยวก่อนอย่าพึ่งรีบมาสรุปอะไรเกี่ยวกะผมล..
"ใช่ๆ เมื่อว่านเจอมาด้วยละตอนไปห้างอะ" หนึ่งในเพื่อนผู้ชายในกลุ่มผู้ขึ้นมาในระหว่างวงสนทนาเกี่ยวกะสาวๆในชั้นและการพูดขึ้นมาแบบนี้เหมือนหวังให้คนถามเค้าว่าไปเจออะไรมา
"เจอใครมาละ" และในที่สุด อาร์ต หนึ่งในเด็กใหม่ก็ถามขึ้นมาด้วยความสงสัยจนได้
"บี ไงเพื่อนตอนป.6 ไง" พลตอบด้วยท่าทางมีเลศนัยแปลกๆ "เหมือนไซต์ตัวยังเล็กเหมือนเดิมนะ แต่ไซต์..นี้แบบ"
และ แล้วทุกคนในวงก็เหมือนสนใจกับประเด็นนี้กันแบบสุดๆ ในฐานะผู้ชายคนนึงผมก็สนใจอยู่เหมือนกันนะแต่ ปัญหาคือชื่อนี้สิ แต่แรกๆ ผมก็นั่งเหม่อๆฟังบทสนทนาที่พวกเพื่อนมันคุยกันบ้างไม่คุยกันบ้าง แต่หลังจากที่ไอพลมันเอยชื่อนี้มา ร่างกายผมก็เริ่มมสั่นแล้วเริ่มหลบสายตาออกจากกลุ่มคนนี้
"เห้ย..ว่าแต่บีนี้หน้าตายังไงเนี้ยไม่ยังไม่เคยเห็นเลย เห็นคุยกันมาตั้งนานแล้ว" อาร์ตถามกลุ่มด้วยความสงสัยอีกครั้ง ก็บีออกไปตั้งแต่ป.6 แล้วมันก็คงเป็นไปไม่ได้ที่เด็กใหม่อย่างอาร์ตจะเคยเห็นหน้า
"เออใช่..ไม่มีรูปแล้วอะ ไม่ลองถามบอสมันดูล่ะ?" ---
-- จบ --
G2Neko
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น