ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Killer! รัก/ลวง/ฆ่า [GengZen feat.TonoRitz]

    ลำดับตอนที่ #7 : The Killer...Chap6

    • อัปเดตล่าสุด 13 ต.ค. 54


    06

    “พี่เก่งครับ เขามาแล้วครับ”

    ทันทีที่เขาพาคนที่เจ้านายอยากพบมาถึงห้อง เขาก็เดินตรงเข้ามาบอกเก่งที่นั่งอยู่บนโซฟาตัวใหญ่ใกล้ๆในทันที เก่งพยักหน้ารับรู้ครั้งหนึ่ง แล้วหันไปมองที่ประตูบานใหญ่ที่ยังคงปิดสนิท

    “เอาตัวมันเข้ามา และอย่าให้ใครหน้าไหนมันมารบกวนฉัน”

    เขาสั่งเสียงเย็น ริทตอบรับเป็นการรับทราบก่อนจะหันหลังเดินออกไป แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเสียงหนึ่งหนึ่งเรียกเขา พร้อมกับมือใหญ่ที่คว้าข้อมือเล็กของเขาไว้

    “ริท ขอบใจมาก”

    ริทหันมามองคนที่ตนรัก ก่อนพยักหน้าน้อยๆ

    “ไม่เป็นไรหรอกครับ เพื่อพี่เก่งแล้ว ริททำให้พี่เก่งได้หมด”

    ได้ยินแบบนั้น หัวหน้ามาเฟียก็ยิ้มอย่างพอใจ ก่อนจะจรดริมฝีปากลงบนมือเรียวนั่น คนกระทำไม่ได้คิดอะไร แต่คนถูกกระทำถึงกับใจลอยไปต่อไหนถึงไหน ใบหน้าเรียวสวยขึ้นสีเห็นชัดถนัดตา เพราะไม่เคยเห็นเลยสักครั้งว่าหัวหน้ามาฟียคนนี้จะมีมุมที่อ่อนโยนขนาดนี้ เมื่อถอนริมฝีปากออกสายตาโลมเลียก็มองแทะโลมอีกคน ก่อนจะปล่อยมือนั้นลง

    “ให้มันได้ดั่งใจแบบนี้สิ ไปเถอะ ฉันอยากเจอนายนั่นแล้วหล่ะ”

    เหมือนกับภูเขาสูงที่พังทลายลงในทันตา เมื่อได้ยินว่าคนที่ตนรักอยากจะพบอีกคน แม้จะไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรในใจแต่คนอย่างริทก็คิดไปต่อไหนถึงไหน เขาฝืนยิ้มครั้งหนึ่ง ก่อนจะเดินออกไปหาบุคคลที่พามาด้านนอก

     

    “เข้าไปได้แล้ว”

    ริทพูดเสียงแข็ง ก่อนจะเดินผ่านเซนที่ถูกลูกน้องสองคนคุมตัวไว้ ยังไม่ทันที่จะเปิดประตูบานใหญ่ เขาก็ต้องหยุดชะงัก เมื่อคนที่เพิ่งเดินออกไปหันมาพูดกับเขา

    “อ่อ มารยาหน่ะ ใช้ให้มันน้อยๆหน่อยนะ ฉันไม่ชอบ!

    พูดจบเขาก็เดินออกไป เซนกัดฟันกรอดอย่างโกรธเคืองที่จู่ๆก็มาด่ากันอย่างไร้ซึ่งเหตุผล งี่เง่าสิ้นดี!

    แอ๊ดด

    ทันทีที่ประตูบานใหญ่เปิดออก ก็เผยให้เห็นร่างสูงที่นั่งสบายอารมณ์อยู่บนโซฟา เสียงเพลงที่ใช้เปียโนบรรเลงดังคลอเบาๆพาให้บรรยากาศของห้องดูเบาสบาย หากแต่ความจริงมันก็แค่ภาพที่ฉาบไว้ เพราะความจริงแล้วมันคงเป็นยิ่งกว่านรกที่เขาต้องเผชิญ เผชิญทั้งๆที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเพราะอะไรเขาถึงต้องมาเจอกับอะไรแบบนี้

    ลูกน้องร่างใหญ่สองคนพาตัวเซนเข้ามายืนตรงหน้าเจ้านายในทันที สายตาเหยียดหยามของหัวหน้ามาเฟียมองเขาตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนออกคำสั่ง

    “ปล่อยเขา ปลดกุญแจมือออก แล้วจะไปทำอะไรพวกแกก็ไป แต่อย่าให้ใครเข้ามารบกวนฉันเป็นอันขาด!

    เขาสั่งคำขาด ลูกน้องสองคนจัดการตามคำสั่งเสร็จสรรพก็ค้อมหัวให้แก่เขาอย่างเคารพเจ้านายก่อนจะเดินออกไป เซนมองตามลุกน้องสองคนที่เดินออกไป ก่อนจะหันมามองหัวหน้ามาเฟียอย่างโกรธเคือง

    “ผมทำผิดอะไร?”

    เขาถามเสียงเรียบ หัวหน้ามาเฟียยกยิ้ม ก่อนจะลุกขึ้นเต็มความสูง เพื่อเผชิญหน้ากับของเล่นจอมปากดี

    “นายยังคิดจะมาถามฉันอีกหรอ นี่นายสติฟั่นเฟือนหรือแกล้งโง่กันแน่!

    เขาว่าพลางใช้สองมือจับสองไหล่บางแล้วบีบีอย่างเต็มแรง

    “โอ้ย ย ผมเจ็บนะ”

    เซนว่าพลางส่งสายตาเหวี่ยงใส่

    “เจ็บสิดี หึหึ นายไม่ต้องห่วงนายไม่ได้เจ็บแค่นี้แน่!

    พูดจบร่างสูงก็จัดการเหวี่ยงอีกคนลงบนโซฟา ร่างบางล้มลงไปตามแรงนั้นอย่างง่ายดาย เซนพยายามจะลุกหนีหากแต่ไม่ทันการ ร่างสูงก็ขึ้นคร่อมตัวเขาในทันที

    “ปล่อยผมนะ คุณมันไม่มีเหตุผล คุณมันเลว!

    เขาว่าพลางผลักร่างสูงออกให้พ้นตัวเขาพัลวัน แต่ความพยายามเหมือนไร้ความหมายหมาย ร่างสุงไม่สะทกสะท้านต่อแรงต้านของเขาแม้แต่น้อย หากแต่กลับนึกชอบใจไม่น้อย

    “ใช่ฉันมันเลว เลวได้มากกว่าที่นายเห็น แต่นายหน่ะมันเลวยิ่งกว่าฉันเสียอีก”

    สายตาแข็งกร้าวตะวาดลั่น เซนหลับตาปี๋อย่างนึกกลัวคนตรงหน้าเอาเสียดื้อๆ ความกล้าที่เคยเป็นตัวเขามันหดหายไปจนตัวเขาเองก็แปลกใจ เขาตั้งสติแล้วรวบรวมแรงของตัวเองก่อนจะผลักร่างที่อยู่ด้านบน

    ผลัก!

    ความพยายามเฮือกสุดท้ายของเขาสำเร็จ ร่างสูงถูกผลักกระเด็นลงไปบนพื้นพรมลายสวยของห้อง พร้อมกับศีรษะที่ฟาดเข้ากับขอบโต๊ะกระจก เก่งยกมือขึ้นสัมผัสบริเวณหน้าผากของตัวเองที่รู้สึกถึงอาการเจ็บ ก่อนจะลดมือลง สายตาดุมองเลือดที่เปื้อนที่ปลายนิ้วของตัวเอง และความรู้สึกโกรธแค้นก็พลุ่งพล่านขึ้นเป็นทวีคูณ

    เซนพยายามลุกเพื่อจะหนีออกไปจากห้องนี้เสียให้ได้ เก่งมองอีกคนด้วยสายตาเกรี้ยวกราด ก่อนจะรีบลุกขึ้น แล้วรีบคว้าข้อมือเล็กในทันที แรงกระฉากส่งผลให้อีกคนเข้าแนบชิดกับตัวเขา เก่งจัดการรวบสองแขนมาไขว้หลังไว้ ก่อนจะดึงเน็คไทด์ตัวเองออกมาผูกข้อมือเล็กนั่น

    “โอ้ยยย ย คุณจะทำอะไรหน่ะ”

    เซนร้องโอยออกมาทันทีที่มือของตัวเองถูกรัดไว้แน่น

    “อย่าคิดจะหนีฉัน เพราะนายมันเป็นของเล่น ฉันจะทำอะไรนายไม่มีสิทธิ์มาห้าม และไม่มีสิทธิ์ถามฉัน”

    น้ำเสียงหน้าขยาดกระซิบใกล้ๆใบหูเขา เซนกลืนน้ำลายตัวเองครั้งหนึ่ง ก่อนจะพยายามสะบัดดิ้นให้หลุดจากการพันธนาการ

    “แต่ผมก็มีสิทธิ์ที่จะไม่ยอมคุณ! ปล่อยผมซะ”

    เซนว่าพลางดิ้นอย่างสุดแรง

    “ฉันก็อยากจะรู้ว่าจะไม่ยอมได้นานแค่ไหนเชียว หึหึ ก็ดียากๆหน่อย ฉันอาจจะติดใจนายก็ได้ ฮ่าๆๆๆๆๆ”

    เขาหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง ก่อนจะผลักคนตัวเล็กกว่าให้ล้มลงกับพื้น ก่อนจะขึ้นคร่อมอีกครั้ง ปฏิภาณไม่รีรอให้ตนถูกทำร้าย เขาพยายามถอยหนีอย่างสุดชีวิต จนสุดท้ายก็ต้องจนมุมเมื่อพบว่าตัวเองหลังชิดติดกำแพง เก่งที่ถอยตามเห็นตัวเองได้เปรียบก็หัวเราะเยาะอีกคน

    “เอาหน่ะ บางทีนายอาจจะชอบหน้าที่นี้ก็ได้นะ”

    น้ำเสียง สีหน้าเย้ยหยันว่า ก่อนจะเข้าจู่โจมในทันที ริมฝีปากหน้าทาบทับริมฝีปากได้รูปในทันที วาโยใช้ลิ้นสากพยายามลุกล้ำไปด้านใน หากแต่อีกคนกลับไม่ยินยอมปิดปากตัวเองสนิท เมื่อไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการก็ทำเอาเขาโมโหไม่น้อย วาโยใช้มือแกร่ง บีบเข้าที่ปลายคางของอีกคนเพื่อให้เขาเปิดช่องทางให้ตนได้ลุกล้ำ แต่คนอย่างปฏิภาณเองก็ไม่คิดยินยอม จนสุดท้ายเขาก็จัดการใช้เท้าของตัวเองถีบร่างสูงให้ออกจากตัวเขาอย่างแรง ร่างของหัวหน้ามาฟียกระเด็นไปตามแรงของเขาอีกครั้ง

    เขารู้สึกแสบที่ริมฝีปากนิดๆ คงเป็นเพราะเขากัดปากตัวเองจนเกิดรอยแผล แต่นั่นก็ไม่เจ็บปวดเท่าการที่ถูกมาเฟียคนนี้ข่มเหงรังแกกัน

    ปฏิภาณพยายามลุกขึ้นยืน พร้อมกับสองมือที่ไขว้หลังอยู่พยายามแกะเน็คไทด์ที่ผูกมัดข้อมือเขาอยู่

    เก่งยืนขึ้นมองเซนอย่างโกรธเกรี้ยว

    “นายกล้ามากที่ทำกับฉันแบบนี้!

    พูดจบร่างสูงก็พุ่งถลาเข้ามาจับตัวปฏิภาณแล้วเหวี่ยงลงพื้นอีกครั้ง แต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อร่างที่ถูกเหวี่ยง ล้มลงไปหัวฝาดกับขอบตู้ที่วางแจกันเซรามิค ทำให้แจกันใบใหญ่หล่นลงใส่หัวอีกคนก่อนที่เขาจะหมดสติไป

    เก่งยืนมองร่างของคนที่เขาเรียกว่าเป็นของเล่นนอนสลบอยู่พร้อมกับบนหน้าผากที่มีเลือดไหลอาบ

    จู่ๆความรู้สึกบางอย่างก็ปะทุขึ้นในใจของเขา โดยที่เขาก็ไม่รู้ตัว เขาวิ่งเข้าไปจัดการเอาผาเช็ดหน้าของตัวเองซับบริเวณที่เลือดไหล่ ก่อนจะเรียกคนที่สลบอยู่

    “เซน เซน”

    เขาเรียกพลางใช้มือใหญ่เขย่าแขนอีกคน

     

    ทำไมถึงไม่สบายใจขนาดนี้ ทำไมถึงร้อนรนอย่างไม่เคยเป็น นี่เขาเป็นบ้าอะไรไปนะ!

    เก่งไม่รั้งรออะไรอีกต่อไป เขาจัดช้อนร่างที่สลบอยู่อุ้มขึ้น แล้วพาไปที่ห้องตัวเอง เหล่าลูกน้องที่เดินผ่านต่างมองหน้ากันเลิกลัก เหตุเพราะไม่เห็นเจ้านายของตัวเองจะปฏิบัติกับใครแบบนี้ แต่ก็ไม่กล้าปริปากพูดอะไร

     

    ………………………………………………………….

     

    “ออกมาพบผมหน่อยที่เดิม เรามีเรื่องต้องคุยกัน”

    ติ๊ด

    คนร่างเล็กพูดจบก็กดวางสายโดยไม่สนใจว่าปลายสายจะพูดอะไร แววตาร้ายฉายออกอย่างเห็นได้ชัด ก่อนจะเดินออกจากห้องของตัวเองไป

    วันนี้เห็นทีจะต้องจัดการกับบางสิ่งที่เกิดขึ้นเสียแล้ว ความรู้สึกเหมือนเป็นลางบางอย่างบ่งบอกเขาว่า ความลับบางอย่าง อาจถูกเปิดเผยในไม่ช้า แต่คนอย่างเขาจะไม่มีทางยินยอมให้มันเป็นแบบนั้นแน่

    ทันทีที่ถึงโรงจอดรถ เขาก็กดเปิดกุญแจรถของตัวเอง ก่อนจะขับมันออกไป แล้วมุ่งตรงไปยังสถานที่หนึ่งที่เขาได้นัดกับใครอีกคนไว้

     

    .................................................................................................................................................................................................................

    อ่านติชม คอมเมนท์ กรีดร้องตามอัธยาศัยเลยค่าาา 555555

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×