คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : The Killer...Chap2
02
“หยุดงี่เง่าซักทีได้ไหม!!!!!”
เสียงใหญ่ตวาดขึ้นอย่างก้าวร้าว พร้อมกับตวัดสายตาดุดัน ที่มองไปยังคนตัวบางที่นั่งกองอยู่กับพื้นห้องนอนหรู ที่ปูด้วยพรมสีเลือดนก
“ฮึก ฮึก ทำไมหล่ะครับพี่เก่ง พี่เก่งมีริทแล้ว ทำไมพี่เก่งยังไม่เลิกยุ่งกับคนอื่นอีก”
ริทว่าทั้งน้ำตา พลางเงยหน้ามองอีกคนอย่างเอาเรื่องเอาราว ทำไมนะ ทำไมเขาไม่เคยรู้จักพอเสียที
“หึ! ริทพี่เคยบอกริทแล้วไม่ใช่หรอ ว่าริทไม่มีสิทธิ์มาหึงมาหวงพี่ หรืออยากจะให้พี่ย้ำอีกทีว่าริทไม่มีสิทธิ์อะไรในตัวพี่เลยทั้งสิ้น!”
เขาตะคอกเสียงลั่น ทำเอาคนที่นั่งอยู่กับพื้นถึงกับสะดุ้งตัวน้อยๆ ยังไม่ทันที่เรืองฤทธิ์จะได้ตอบโต้อะไร อีกคนก็นั่งลงแล้วใช้มือหนาของเขาบีบปากของอีกคนอย่างแรง เรืองฤทธิ์ทำได้แค่อยู่นิ่งให้อีกคนทำร้ายเพราะไม่กล้าตอบโต้อะไร
ก็ทั้งตัวและหัวใจของเขาตอนนี้ มันเป็นของบุคคลตรงหน้าไปเสียหมดแล้วหน่ะสิ!
“จำไว้นะริท ถ้านายไม่อยากให้พี่ใจร้ายกับนาย ก็เลิกทำตัวงี่เง่าแบบนี้อีกไม่อย่างงั้นนายโดนเขี่ยทิ้งแน่!”
เขาพูดเสียงเบา แต่น้ำเสียงนั่นกลับเย็นชา จนทำเอาคนฟังแทบอยากจะอุดหูไม่อยากได้ยินคำพูดร้ายๆ จากคนที่เขารัก
พูดจบเก่งก็สะบัดมือปล่อยทันที ซึ่งนั่นก็สร้างความเจ็บปวดได้ไม่น้อย ริทมองอีกคนที่ลุกขึ้นแล้วเดินไปยังตู้เสื้อผ้าพร้อมกับถอดเสื้อสูทสีดำออก เหลือเพียงเสื้อเชิร์ตสีขาวบางตัวใน
“มัวแต่นั่งสำออย ออกไปได้แล้วไป!”
เขามองอีกคนผ่านกระจกเงาบานใหญ่ แล้วตะวาดไล่ ริทเงยหน้ามองเข้าไปในกระจกเงานั่น พลางมองหน้าเก่งผ่านกระจกเงาทั้งดวงหน้าที่เปรอะไปด้วยหยาดน้ำตา
“ริทขอโทษ
”
เสียงหวานออกสั่นน้อยๆ ว่าขึ้น
“ริทไม่ได้ตั้งใจ พี่เก่งอย่าไล่ริทแบบนี้ได้ไหม ริทยอมแล้ว ริทรู้แล้วว่าริทควรทำตัวยังไง อย่าให้ริทไปจากพี่เก่งเลยนะ ริทรักพี่เก่งนะครับ”
คนร่างบางว่า พลางคลานไปกอดขาของคนร่างสูงเอาไว้ เก่งเบนสายตาลงมองอีกคน อย่างไม่สบอารมณ์ ก่อนจะเบ้ปากอย่างแสดงความเหนื่อยหน่าย
ทำตัวน่ารำคาญจริงๆ ไอ้ของเล่นบ้าๆแบบนี้ ถ้าไม่เห็นว่าเล่นแล้วสนุก เขาเขี่ยทิ้งไปนานแล้วหล่ะ!
“เออๆ นายหยุดเซ้าซี้ชั้นแล้วออกไปจากห้องชั้นได้แล้ว ชั้นเหนื่อย”
เก่งพูดขณะที่เขายังจดจ่ออยู่กับการแกะกระดุมเสื้อทีละเม็ดของเขา ริทเงยหน้ามองเจ้านายสุดที่รักอีกครั้งก่อนจะค่อยๆ คลายมือออกช้าๆ ก่อนจะลุกขึ้นยืน เขาใช้มือเรียวสวยปาดน้ำตาตัวเอง แล้วค่อยหันหลังจะเดินออกไป แต่
“พรุ่งนี้ เตรียมตัวต้อนรับลูกน้องคนใหม่ของชั้นด้วยหล่ะ”
เก่งสั่งแค่นั้น ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป ด้วยชุดคลุมอาบน้ำสีขาว ริทหันมามองตามคนสั่งที่บัดนี้ปิดประตูปังเข้าห้องน้ำไปแล้ว จู่ๆสองนัยน์ตาก็เริ่มกลบด้วยหยดน้ำตาอีกครั้งริทปาดน้ำตาตัวเองอย่างเสียไม่ได้ ก่อนจะค่อยเดินออกไปจากห้องนี้เบาๆทั้งน้ำตา โดยไม่ลืมปิดล็อกประตูห้องให้เจ้านายของเขา
หลังจากที่ใช้เวลาเกือบชั่วโมงกว่าในการจิบไวน์อยู่ในอ่างจากุชชี่สุดหรูเพื่อผ่อนคลายร่างกายที่เหนื่อยล้า เขาวางแก้วไวน์ไว้ที่ขอบอ่างก่อนจะลุกขึ้น แล้วจัดการล้างตัวให้หลุดจากฟองสบู่ที่ปกคลุมอยู่ทั่วร่าง ก่อนสวมชุดคลุมสีขาวตัวเดิม ก่อนจะคว้าผ้าขนหนูผืนเล็กสีขาวบนราวในห้องน้ำขึ้นมาเช็ดผมที่เปียกอยู่ แล้วเดินออกจากห้องน้ำไป
วาโย เดินตรงไปหยิบซองเอกสารสีน้ำตาลที่ตนเอามาวางไว้บนโต๊ะที่ตั้งไว้สำหรับวางของที่ติดกับหัวเตียง ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งบนเตียงขนาดใหญ่ของเขา ก่อนจะหยิบเอกสารด้านในออกมาอ่านอย่างพิจารณา
“เซน ปฏิภาณ”
เขาอ่านออกมาเบาๆ ก่อนจะหยิบรูปที่แนบมากับเอกสารด้วยขึ้นมาดู รอยยิ้มร้ายค่อยๆเผยขึ้นบนดวงหน้าคม ดวงตาเพ่งมองภาพนั้นอย่างมีแผนการ
“หึหึ ของเล่นชิ้นใหม่ ที่ชั้นตามหามานาน มันถึงเวลาแล้วหล่ะ ที่ชั้นต้องแก้แค้นให้พ่อชั้น แล้วเจอกัน”
เขาว่ากับรูปภาพ ก่อนจะจรดริมฝีปากลงบนภาพนั้นครั้งหนึ่ง แล้วเก็บลงซองเอกสารไป
ได้เวลาเล่นสนุกกับของเล่นชิ้นที่เขาตามหามานานแล้วสินะ!
..
ณ ห้องทำงานของมาเฟียหนุ่ม ปรากฏร่างของเจ้าของห้องเนื้อหอม ที่ไม่ว่าใครต่อใครก็ต่างหมายปองในตัวเขา และตัวเขาเอง ไม่ว่าใครต่อใครจะต้องการเขา เขาก็จะตอบสนองให้จนพึงพอใจ แต่อย่าได้หาข้อผูกมัดมาใช้กับเขา เพราะคนอย่างเขาไม่คิดจะผูกมัดอยู่กับใครแน่นอน
เขายกถ้วยกาแฟขึ้นจิบกาแฟดำอุ่นๆที่อยู่ในถ้วยนั้นก่อนวางมันลง แล้วจัดการกางหนังสือพิมพ์ขึ้นอ่าน
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
จู่ๆ เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นขัดจังหวะการพักผ่อนหย่อนใจของเขา เขาจิปากอย่างหัวเสียอย่างไม่สบอารมณ์อย่างที่เคยเป็นอยู่ในทุกๆวันที่มีคนมาขัดเวลาส่วนตัว
“เข้ามา!”
เข้าตะโกนเสียงดังลั่น ตามมาด้วยบานประตูที่ค่อยๆเปิดออก
“อ้าวริท ว่าไง ลูกน้องคนใหม่ของชั้นมาหรือยัง?”
เก่งถามผู้มาเยือน พร้อมกับในมือที่พับหนังสือพิมพ์เก็บ ริทยิ้มบางๆให้ก่อนจะเดินมายืนตรงหน้าโต๊ะทำงานของเจ้านาย
“อีกไม่ถึงสิบนาทีครับพี่เก่ง”
วาโยยกยิ้มพอใจในคำตอบ ก่อนจะลุกขึ้นจากเก้าอี้ แล้วเดินออกมาจากโต๊ะทำงานแล้วข้าประชิดตัวริท ก่อนจะใช้สองมือกอดเข้าที่เอวบางจากด้านหลัง
“พ พี่เก่ง ห หายโกรธริทแล้วใช่ไหมครับ”
ริทถามอย่างดีใจ
“ใช่ พี่หายโกรธริท แต่ริทต้องให้สัญญาว่าจะเลิกทำตัวงี่เง่าแบบนั้นอีก”
ร่างสูงกระซิบแผ่วเบาที่หู ก่อนจะใช้ลิ้นสากโลมเลียใบหูเล็กนั่น ทำเอาผู้ถูกกระทำถึงกับขนลุกซู่ขึ้นมาเสียดื้อๆ ไม่วายมือใหญ่ยังเล่นซนกับเข็มขัดกางเกงเขา
“ค ครับ ริทสัญญา ริทจะเลิกงี่เง่า ริทจะไม่ดื้อกับพี่เก่งแล้วครับ”
“หึหึ ตอบดีนี่ เห็นทีต้องให้รางวัลหน่อยแล้วมั้ง”
เสียงทุ้มพูดจบ ก็ไม่รอช้าจัดการขบเม้มซอกคอขาวของอีกคนเพื่อ จนเกิดรอยแดงช้ำขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูดังขัดอารมณ์เขาขึ้นเป็นครั้งที่สอง แต่คราวนี้กลับแปลกที่หัวหน้ามาเฟียหนุ่มไม่มีทีท่าหัวเสียเลยซักนิด เขาผละออกจากริทอย่างไม่คิดจะใยดีอะไร ก่อนจะเดินไปนั่งไขว่ห้างบนเก้าอี้ใหญ่ประจำตำแหน่งของตัวเอง
“แต่งตัวให้มันดีซะ แล้วไปเปิดประตูซะ”
เขาออกคำสั่ง ริทหลุบตาลงต่ำ ความรู้สึกน้อยใจแปลบเข้ามาในหัวใจของเขา ริทจัดการกับตัวเองโดยไม่นานก็เร่งฝีเท้าเดินไปเปิดประตูรับแขกผู้มาเยือน ทันทีที่ประตูเปิดออกก็เผยให้เห็นร่างของบุคคลที่วาโยตั้งหน้าตั้งตารอมานานปี
“มาแล้วสินะ หึหึ”
เขาพูดเบาๆกับตัวเอง ดวงตาคมฉายแววความร้ายกาจขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด พร้อมกับรอยยิ้มที่ไม่น่าไว้ใจ
บุคคลมาใหม่ค่อยก้าวขาเข้ามาด้านใน เสื้อผ้าสีเข้มทำให้ผิวนวลของเขาดูโดดเด่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด หากแต่ดวงหน้าสวยกลับปกปิดด้วยแว่นกันแดดสีทึบอย่างเช่นเคยที่เขาใส่อยู่เป็นประจำ เก่งมองคนตรงหน้าที่กำลังเดินเข้ามาอย่างไม่วางตา ก่อนจะใช้สายตามองตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างพึงพอใจ จนกระทั่งผู้มาเยือนนั่งลงบนเก้าอี้ตรงหน้าเขาแล้ว
“สวัสดีครับ คุณวาโย”
เขากล่าวทักทายขึ้นก่อนที่หัวหน้ามาเฟียจะเอ่ยปาก เขาพยักหน้าน้อยก่อนจะกล่าวทักทายกลับไป
“สวัสดี นายเซนสินะ หึหึ คิดดีแล้วหรอ ที่จะมาเป็นลุกน้องชั้นหน่ะ งานมันหนักนะ คนร่างบางอย่างนาย จะทนได้สักกี่น้ำเชียว”
ประโยคทักทายแกมเหยียดหยามเอ่ยออกมา พร้อมรอยยิ้มที่บ่งบอกถึงการดูถูกบุคคลตรงหน้า
“ผมไม่ขอพูดอะไรมากครับ ผมว่าคุณควรเห็นผลงานผมก่อนจะมาดูถูกกันนะครับ”
ปฏิภาณว่า พร้อมๆกับที่มือเรียวจัดการถอดแว่นกันแดดที่ใส่อยู่ออกจากใบหน้า เผยให้เห็นดวงตากลมมีเสน่ห์หน้าหลงไหลที่มองจ้องเขามาพร้อมรอยยิ้มที่มองแล้วใครต่อใครก็อยากเข้าไปครอบครองมัน
“ก็ดี จากนี้นายเป็นลูกน้องชั้นแล้ว ชั้นสั่งอะไรนายก็ต้องทำตามที่ชั้นบอก และถ้านายไม่ทำหล่ะก็ หึหึ ชั้นมีบทลงโทษอย่างดีให้นายแน่!”
วาโยว่าอย่างดุร้าย แต่ไม่วายสายตาที่มองกลับเป็นายตาโลมเลีย ทำเอาอีกคนถึงกับตกใจไม่น้อย แต่เขาก็ตกลงรับคำผู้ที่จะเป็นเจ้านายเขาต่อจากนี้แต่โดยดี
ริทยืนมองเหตุการณ์มาตลอด จู่ๆก็รู้สึกใจหายวูบ ราวกับว่ากลัวว่าตนจะสูญเสียคนที่ตนรักไป สายตาเศร้ากลับแปรเปลี่ยนเป็นสายตาของความริษยาในบุคคลที่เพิ่งมาเยือน ก่อนจะเดินเข้าไปแทรกการสนทนาของทั้งสองคน
“พี่เก่ง วันนี้เราต้องไปตรวจโกดังขนสินค้าเถื่อนนะครับ อย่ามัวเสียเวลาเลย ไปกันเถอะ”
เก่งมองริทที่เดินเข้ามา ก่อนจะมองหน้าเซนสลับไปมาครั้งหนึ่ง ก่อนจะแนะนำริทให้เซนรู้จัก
“อ่อๆ นี่ลูกน้องชั้น ชื่อริท”เขาพูดกับเซนก่อนจะหันไปพูดกับริท “วันนี้นายไม่ต้องไปกับชั้นนะ ชั้นจะให้นายเซนนี่ไปฝึกงานซักหน่อย ส่วนนายจะไปไหนก็ไป”
สีหน้าท่าทางออกคำสั่งทำเอาริทถึงกับตัวหด ริทมองเจ้านายสุดที่รักของเขาครั้งหนึ่งก่อนจะเดินออกจากห้องไปด้วยความรู้สึกน้อยใจในสิ่งที่เก่งทำกับเขาไม่น้อย
แต่เขาจะเรียกร้องอะไรได้ ก็แค่ลูกน้อง อย่าทำตัวงี่เง่าให้เจ้านายเขารำคาญสิ!
ริทคิดต่อว่าตัวเอง
“ส่วนนายเซน วันนี้ออกไปกับชั้น ชั้นจะพานายไปเรียนรู้งาน!”
เขาว่าก่อนจะลุกขึ้นจากเก้าอีกแล้วเดินนำไป เซนสวมแว่นกลับเข้าดังเดิมก่อนจะเดินตามหลังมาติดๆ
นายคนนี่หน่ะเหรอ หัวหน้ามาเฟียที่เขาต้องฆ่า หึหึ
เซนคิดพลางยิ้มร้ายออกมาอย่างมีชั้นเชิง ก่อนจะเดินออกจากประตูที่มีลูกน้องของเก่งเปิดไว้ก่อนแล้วตามเก่งออกไป
....
เจอกันแล้วสินะ ติดตามต่อไปนะคะว่าสองคนนี้เขาจะล้างแค้นกันยังไง?
ความคิดเห็น