ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Killer! รัก/ลวง/ฆ่า [GengZen feat.TonoRitz]

    ลำดับตอนที่ #2 : The Killer...Chap1 [NC Rate15+]

    • อัปเดตล่าสุด 15 ต.ค. 54


    01

    ครืดด ครืดดด

    เสียงโซ่ตรวนลากกับพื้นสากดังเป็นทอดไม่ขาดสาย ชายหนุ่มร่างใหญ่ ผู้มีใบหน้าหล่อคม หากแต่ใบหน้ากลับมีตำหนิเป็นรอยแผลเล็กน้อย แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ความหล่อเหลาของเขาลดลงเลยแม้แต่น้อย เขาถูกเจ้าหน้าที่ของที่คุมขังแห่งนี้นำตัวออกมาจากห้องขังที่เขาต้องมาติดอยู่เป็นเวลาสามปีเต็ม และวันนี้เขากำลังได้รับอิสรภาพกลับคืนมา

    “ไป!

    เสียงของเจ้าหน้าที่ตะวาดลั่นทันทีที่ปลดโซ่ที่ขา และกุญแจมือออก ชายหนุ่มขบกรามแน่น พลางหันขวับไปมองเจ้าหน้าที่คนนั้นตาขวาง ก่อนจะเดินปึงปังออกไปจากบริเวณนี้

     

    เมื่ออิสรภาพคืนมา ก็ถึงเวลาของการแก้แค้น!

     

     

     

    ………………………………………………………………………………………………………

     

     

    ภายในห้องที่มีเพียงความเงียบ และแสงไฟสลัวๆพอแค่ได้มองเห็น ปรากฏร่างแกร่งของโตโน่ ชายหนุ่มอดีตผู้ต้องหาคดีอาชญากรรมที่โด่งดังไปทั่วหมู่เกาะฮ่องกงกำลังนั่งที่โต๊ะทำงานตรงมุมห้องของเขา ที่บัดนี้ผู้คนต่างรู้จักเขาในฐานะผู้มีอิทธิพลรายใหม่  พร้อมกับลูกน้องอีกสองคนที่ยืนนิ่งขนาบทั้งสองข้างของเขาอยู่

    ครืด ครืดด

    เสียงสั่นของโทรศัพท์มือถือของลูกน้องคนหนึ่งดังขึ้น เขาก้มหัวให้กับเจ้านายเพื่อเป็นการขออนุญาตก่อนจะเดินออกจากห้องที่บรรยากาศชวนอึดอัดนี้ไป

    “แกว่าชั้นทำถูกใช่ไหม?”

    เขาหันไปถามความเห็นกับลูกน้องอีกคนที่ยังยืนอยู่ข้างๆเขา  

    “แน่นอนสิครับ การตัดสินใจของคุณโตโน่ย่อมถูกเสมอ”

    สิ้นประโยคของลูกน้อง เขาถึงกับยิ้มร่าอย่างพึงพอใจในคำตอบ

    “หึหึ ชั้นปล่อยแกไว้นานเกินไปแล้ว ถึงเวลาที่ชั้นจะได้แก้แค้นแกให้มันสาสมกับที่แกทำกับชั้นไว้!

    เขาพูดกับตัวเอง พร้อมยิ้มร้ายที่ตรงมุมปาก สายตาแข็งกร้าวเริ่มฉายแววความโกรธแค้นที่สุมอยู่ในใจเขามาเนิ่นนาน

    ก๊อก ก๊อก ก๊อก

    เสียงเคาะประตูดังขึ้น ส่งผลให้เขาหันไปเบนความสนใจไปยังประตูบานใหญ่ทันที

    “เข้ามา!

    เสียงใหญ่ตะโกนลั่นห้อง ก่อนที่ลูกน้องคนที่เพิ่งขอตัวออกไปเมื่อครู่จะเปิดประตูเข้ามา

    “เขามาแล้วครับ”

    เขาพูดขึ้นทันที เมื่อมายืนอยู่ตรงเบื้องหน้าของผู้เป็นเจ้านาย ใบหน้าคมพยักหน้าเป็นการรับรู้ก่อนจะมองไปยังประตูอีกครั้ง

    เพียงไม่กี่อึดใจ ก็ปรากฏร่างของชายหนุ่มเสื้อสูทสีดำสนิทเดินเข้ามาที่ประตูนั่น แม้เขาจะปกปิดหน้าตาตัวเองด้วยแว่นตาสีดำ แต่นั่นก็ไม่ได้บดบังความดูดีของใบหน้านั้นได้ หากแต่กลับส่งเสริมให้เขาดูมีรัศมีมากยิ่งขึ้นไปอีก

    “นั่งก่อนสิ”

    เสียงทุ้มเชื้อเชิญ แขกผู้มาใหม่ยกยิ้มที่มุมปากครั้งหนึ่ง ก่อนจะเดินลงมานั่งฝั่งตรงข้ามกับเขา

    “ได้ข่าวว่านายก็วางมือมานาน แต่ทำไมนายถึงรับงานของชั้นหล่ะ”

    เขาถามพลางสายตาก็สอดส่ายพิจารณาใบหน้าได้รูปของอีกคนอย่างไม่วางตา

    “วางมือ ก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะทิ้งมันนะครับ คุณโตโน่”

    ผู้มาเยือนว่า พร้อมกับถอดแว่นตาดำออก เผลให้เห็นใบหน้าของเขาได้ชัดเจนกว่าเดิม คิ้วคมเข้มยักขึ้นน้อยๆ ดวงตาคมมองจ้องสายตาของอีกฝ่ายอย่างเอาเรื่อง

    “หึหึ ก็ดี แต่ก่อนจะเริ่มงานชั้นว่า เราควรทำความรู้จักกันให้มากกว่านี้นะ”

    โตโน่ว่าพลางทำสีหน้ากรุ้มกริ่ม เซนยิ้มตอบกลับเงียบๆ ก่อนจะผุดลุกจากเก้าอี้ของตน พร้อมกับเดินเข้ามาข้างอีกคน จนเข้ามาใกล้อีกฝ่ายที่ยังนั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวใหญ่เดิม เซนยกยิ้มน้อยๆที่มุมปากข้างหนึ่ง ก่อนจะส่งสายตาเจ้าเล่ห์แล้วก้มหน้าลงไปประชิดใบหน้าหล่อคมของอีกคนจนปลายสันจมูกของทั้งคู่แทบจะสัมผัสกัน ก่อนจะเลือนใบหน้าของตนมาบริเวณข้างใบหู

    “นานๆไป ก็รู้จักกันเองแหละครับ”

    เขากระซิบเสียงแผ่วที่ข้างหูของนายจ้าง ก่อนจะผละตัวออกมา โตโน่ส่ายหัวน้อยๆพลางมองกลับด้วยสายตามีเลศนัย ก่อนจะวางมือบนโต๊ะแล้วลุกขึ้นอย่างเต็มความสูง

    “เอาเถอะ ชั้นฝากงานนี้ไว้กับนายแล้ว ทำให้สำเร็จ แล้วนายจะได้ค่าตอบแทนตามที่เราได้ตกลงกันไว้แน่นอน!

    “แน่นอนครับ แล้วผมจะกลับมาทวงค่าตอบแทนตามที่เราตกลงไว้ หลังงานสำเร็จ”

    เขาว่ากับร่างใหญ่ที่สูงกว่าเขา ก่อนจะเดินวกกลับมาหยิบแว่นตากันแดดที่ติดตัวมา สวมเข้าที่เดิม แล้วเดินจากไป

    โตโน่ยืนกอดอกพลางมองตามหลังอีกคนจนประตูบานใหญ่ปิดลง

    “ไอ้เก่ง ในเมื่อแกทำลายชีวิตชั้นได้ วันนี้ชั้นก็กลับไปทำลายชีวิตแกได้เหมือนกัน ฮ่าๆๆๆๆๆๆ”

    เขาพูดกับตัวเอง พร้อมหัวเราะลั่นอย่าพึงพอใจที่สุดในชีวิต

    “เฮ้ยยย ไอ้โชติ ไปเตรียมรถออกมาทีสิ ชั้นจะออกไปข้างนอก”

    เขาสั่งลุกน้องเสียงลั่น

    “ครับ”

    นายติ ลุกน้องของเขาตอบรับคำในทันที ก่อนจะรุดหน้าออกไปเพื่อเตรียมรถ ร่างใหญ่สอดสายตาไปรอบห้องด้วยสายตาดุดันอย่างเงียบๆ ก่อนจะเดินออกไปจากห้องทำงานของเขา พร้อมกับลูกน้องอีกคนที่เดินเจ้านายอย่างเขาออกไปไม่ห่าง

     

     

    ………………………………………………………………………………………………………

     

     

       เสียงอึกทึกอื้ออึง ของบทเพลงในจังหวะชวนให้ขยับตัวตามดังอย่างไม่ขาดสาย แสงไฟวิบวับประดับประดาก็สาดส่องไปทั่วร้าน หากแต่เป็นเพียงแสงสีออกสลัวๆแค่พอให้มองเห็นทางเดินเท่านั้น กลิ่นแอลกอฮอล์รวมทั้งควันบุหรี่ ต่างส่งกลิ่นอบอวลไปทั่วบริเวณ หากแต่ผู้คนที่อยู่ในนี้กลับชินชากับมันเสียแล้ว บรรดาหนุ่มสาวต่างโลดแล่นกันบนฟลอร์บ้าง ตามเคาท์เตอร์บ้าง หรือแม้จะเป็นตีเก้าอี้โซฟาชุดใหญ่ของเหล่านักเที่ยวระดับวีไอพี ก็ถูกจับจองเสียเต็มไปหมด

       ชายหนุ่มร่างเล็กผิวเข้มในเสื้อเชิร์ตสีขาว พร้อมด้วยสูสีเทาสวมทับ เดินถือแก้วแชมเปญในมือข้างหนึ่ง ส่วนมืออีกข้างเขาเลือกซุกมันไว้ในกระเป๋ากางเกง พลางเดินสำรวจไปทั่วบริเวณร้านของตัวเอง

    “อุ๊ยยย ย”

    เขาร้องขึ้นอย่างตกใจ เมื่อพบว่าตนถูกสวมกอดมาจากด้านหลังโดยที่เขายังไม่ทันตั้งตัว

    “แหมๆ แค่นี้ทำขวัญอ่อนนะกัน”

    ชายปริศนาว่าพร้อมกับปล่อยอ้อมกอดของตน แล้วจับร่างคนตัวเล็กกว่าหันมาประจันหน้ากับเขา ยิ้มเจ้าเล่ห์ แสยะออกมาน้อยๆ ก่อนจะจัดการกดจูบลงบนริมฝีปากได้รูปของอีกคนทันที

    อื้ออ อื้อ อ

    ร่างบางร้องครางอย่างพึงพอใจ ก็จะไม่ให้เขาพอใจได้อย่างไรกัน ในเมื่อนี่ คือสิ่งที่เขาใฝ่หาจากคนตรงหน้า

    หลังกดจูบกันเนิ่นนานจนพึงพอใจเป็นที่เรียบร้อย กันถึงกับหอบแฮก จนอีกคนอดไม่ได้ที่จะแซว

    “แหมๆ จูบแค่นี้ยังหอบขนาดนี้ แล้วถ้ามากกว่านี้ ไม่นอนพับคาเตียงก่อนจบเกมส์ไปเลยรึไง”

    สุ่มเสียง สายตาเจ้าเล่ห์ของอีกคนว่า ทำเอาคนที่ยืนหอบถึงกับขมวดคิ้วมุ่นอย่างไม่พอใจ ก่อนจะเดินหันหลังออกไป

    “เดี๋ยวสิ พี่จะกลับแล้วไม่ให้รางวัลหน่อยรึไง?”

    ร่างสูงว่าพลางคว้ามือข้างหนึ่งของอีกคนไว้  พอดีกับที่พนักงานของร้านคนหนึ่งเดินผ่านมา กันเลยเรียกให้มารับแก้วแชมเปญไปจากมือของเขาก่อนจะหมุนตัวกลับเผชิญหน้ากับอีกคนอีกครั้ง

    “อยากได้อะไรหล่ะครับ หอม กอด จูบ หรือว่า

    เขาลากเสียงยาวก่อนจะเดินเข้าประชิดตัวร่างสูง พลางใช้นิ้วเรียวทาบลงบนแผ่นอกหนา

    “เซ็กส์!

    ร่างสูงต่อประโยคของอีกคนในทันที ก่อนจะจัดการผลักร่างบางเข้าชิดติดกำแพง

    “ผมรู้ว่าพี่เก่งต้องการมัน

    กันว่าก่อนจะค่อยๆปลดกระดุมเสื้อเชิร์ตสีดำของอีกฝ่าย

    “แต่ผมไม่ต้องการ!!!

    จู่ๆ เสียงใสของใครอีกคนก็ดังลั่นขึ้น ก่อนจะมากระชากตัวกันออกมาจากเก่งในทันที แล้วจัดการใช้ฝ่ามือของตัวเองฟาดลงบนหน้าของกันอย่างแรง

    กันถึงกับเซถลาล้มลงไปกองกับพื้น เขายกมือขึ้นซับเลือดที่มุมปาดน้อยก่อนจะมองอีกคนพลางยิ้มเหยียด เก่งจัดการจับแขนริทไว้ในทันทีก่อนจะตะคอกใส่อย่างโมโห

    “ริท นายเป็นบ้าอะไรฮะ!

    “ทำไมครับ ถ้าริทจะทนไม่ได้ที่เห็นพี่เก่งทำแบบนี้กับคนอื่น พี่เก่งมีริทแล้วยังไม่พออีกหรอครับ”

    ร่างบางตอบกลับ พลางหยดน้ำใสๆก็เริมเอ่อออกมา

     

    ก็ในเมื่อมีเขาอยู่ทั้งคนแล้ว ทำไมยังไปสนใจคนอื่นอีก

     

    “เพ้อเจ้อ! นายมันแค่ลูกน้อง นายไม่มีสิทธิ์มาห้ามชั้น และนายก็ไม่มีสิทธิ์มาหวงชั้น!

    เก่งดุ พลางถลึงตาใส่อีกคนอย่างโมโห

    “พอเถอะพี่เก่ง ดูสิริทคงเจ็บมากแน่เลย ริทอย่าร้องไห้นะ”

    กันที่ล้มลงไปกองกับพื้นค่อยๆลุกขึ้นมา ก่อนจะเดินเข้ามาใช้มือของตัวเองเช็ดน้ำตาให้ริท หากแต่กลับส่งรอยยิ้มเยาะหยันไปให้ ริทกัดฟันกรอดอย่างเคืองแค้น ก่อนจะสะบัดแขนตัวเองให้หลุดออกจากมือแกร่งของเก่ง ก่อนใช้มือปาดน้ำตาตัวเองแล้วเดินปึงปังออกไป

    “อย่าโกรธเขาเลยนะพี่เก่ง เขาคงรักพี่เก่งมาก เรื่องของเราไว้ว่ากันวันหลังเถอะ ตอนนนี้พี่เก่งตามไปดูริทเถอะครับ”

    กันว่าพลางเดินเข้ามาจับมือเก่ง

    “ขอบใจนะ ทำไมริทถึงไม่เข้าใจอะไรง่ายๆ เหมือนกันบ้างนะ พี่ไปหล่ะ แล้วเจอกันครับ”

    เก่งบอกลา ก่อนจะกดจูบลงบนริมฝีปากของกันครั้งหนึ่งแล้วเดินออกไป

    กันเบ้หน้าน้อย พลางมองตามคนที่เดินจากไปอย่างไม่วางตา

    “หึหึ เรืองฤทธิ์ ซักวันแกได้ตกกระป๋องแน่ๆ”

    เขาสบถกับตัวเอง ก่อนจะหันหลังเดินกลับเข้าไปในตัวร้าน จนมาถึงบริเวณห้องน้ำ กันจัดการทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำจนเรียบร้อย ก่อนจะเดินออกมาด้านนอกอีกครั้ง บรรยากาศตอนนี้แม้จะล่วงเลยมาค่อนคืน หากแต่กลับครึกครื้นมากกว่าเดิม สายตาคมสอดส่องไปทั่วอย่างพึงพอใจ ก่อนจะตัดสินใจเดินมานั่งที่เคาท์เตอร์เครื่องดื่ม

    “สวัสดีครับ”

    ชายหนุ่มผู้ที่นั่งอยู่ก่อนแล้วพูดขึ้น กันใช้สายตาเพ่งมองใบหน้าอีกคนจากด้านข้างผ่านแสงไฟสลัวของร้าน

    ชายหนุ่มในชุดสีดำทั้งชุดยิ้มกับตัวเองครั้งหนึ่ง ก่อนจะหันหน้าขึ้นมายิ้มให้กับเจ้าของร้านเป็นมิตรก่อนจะกล่าวแนะนำตัว

    “ผม โตโน่ครับ”

    “อ่อ ครับ ผมกัน เป็นเจ้าของที่นี่ครับ”

    กันว่าก่อนจะยื่นมือไปด้านหน้าเพื่อเป็นการทักทาย ฝ่ายโตโน่ก็ยื่นมือเข้ามาสัมผัสมือของอีกคน หากแต่เขาเริ่มรู้สึกว่าอีกคนไม่ยอมปล่อยมือเขาเสียแล้ว

    “เอ่อ อ ปล่อยเถอะครับ”

    ได้ยินเช่นนั้นกันก็ปล่อยมือช้าๆ ก่อนจะยิ้มยั่วให้อีกฝ่ายทันที โตโน่ส่ายหัวน้อยๆอย่างรู้ทันเกมสืของอีกคน ก่อนจะยกเครื่องดื่มขึ้นมาดื่มครั้งหนึ่งแล้วพูดว่า

    “เจอกันครั้งแรกเองนะครับ”

    กันยกยิ้มให้กับคำพูดนั่น พลางส่งสายตาวาวให้กับอีกคน

    “ก็นั่นแหละครับ จะได้รู้จักกันไวๆไง”

    พูดจบกันก็จัดการจูงมืออีกคนแล้วพาขึ้นไปบนห้องรับรองด้านบนทันที ฝ่ายโตโน่ก็เดินตามโดยไม่ขัดขืน และปล่อยให้เกมส์นี้ดำเนินไป

     

    เมื่อเข้ามาในห้อง กันไม่รอช้า จัดการผลักร่างสูงนอนนาบลงบนเตียงหนาทันที ก่อนจะใช้ร่างของตัวเองขึ้นคร่อมลงไป

    “จะทำเองเลยหรอครับ คุณจะไหวเหรอ”

    โตโน่เอ่ยถาม ในขณะที่มือเรียวกำลังจัดการปลดกระดุมเม็ดสุดท้ายให้กับเขา

    “ก้พิสูจน์ตอนนี้เลยสิครับ”

    กันว่า ก่อนจะจัดการประกบริมฝีปากของตัวเองเข้ากับริมฝีปากของอีกคนทันที

    อื้อ อือ อ

    เสียงร้องบอกความพึงพอใจของโตโน่ดังขึ้นเบาๆ ก่อนที่เขาจะจัดการกลับตัวเองให้มาเป็นฝ่ายอยู่ด้านบนแทน เมื่อผละออกจากกันได้โตโน่ไม่รอช้า จัดการจู่โจมเข้าที่วอกคออย่างโหยหาเร้าร้อน ก่อนจะจัดการฉีเสื้อของอีกฝ่ายจนหลุดออก เผยให้เห็นแผ่นออกเนียนชวนสัมผัส เขาไม่รอช้าจัดการเลื่อนริมฝีปากของตัวเองลงมาครอบครองยอดอกของอีกฝ่าย พลางใช้อีกมือบีบเข่นยอดอกอีกข้าง

    “ดะ เดี๋ยว คะครับ”

    กันร้องห้ามอย่างยากลำบาก โตโน่เองก็ยอมหยุดการกระทำโดยไม่ขัดขืนอะไร หากแต่ฝ่ามือยังคงเข่นคลึงอย่างไม่หยุดหย่อน

    “ขอแรงๆนะครับ”

    ร่างบางเอ่ยอย่างโหยหา ร่างใหญ่ยกยิ้มอย่างพึงใจ ก่อนจะจัดการดำเนินเกมส์รักร้อนนี้อีกครั้ง





    ......
    ตอนนี้มันช่างงง =,.=

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×