คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : The Killer...Chap13
13
ร่างบางสมส่วนยืนมองประตูห้องทำงานของหัวหน้ามาเฟียหนุ่ม พลางถอนหายใจเบาๆ ความรู้สึกหลากหลายยังคงถาโถมเข้ามาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ทั้งเจ็บปวดผิดหวังในสิ่งที่ตนได้สูญเสียไปอย่างไม่เต็มใจ ทั้งความรู้สึกที่มันอัดอั้นในอกที่ไม่มีใครเข้าใจเขาได้นอกจากตัวเขาเอง ดวงตาคู่สวยฉายแววของความกังวลก่อนที่เขาจะตัดสินใจเคาะประตูตรงเบื้องหน้า
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“ใครหน่ะ”
เสียงทุ้มตวาดลั่นตามวิสัยของคนเจ้าอารมณ์เล็ดลอดออกมา ร่างบางสะดุ้งตัวน้อยๆ ก่อนที่ประตูบานใหญ่จะค่อยแง้มออก โดยลูกน้องที่อยู่ด้านใน ก่อนจะถูกปิดลงไปอีกครั้ง เพียงชั่วเวลาอึดใจประตูลายสวยก็ถูกเปิดออก และเขาก็ถูกเชื้อเชิญให้เข้าไปด้านใน
ภาพของชายร่างสูงสง่ายืนเต็มความสูงหันหลังมองออกไปด้านนอกหน้า นัยน์ตาสวยมองแผ่นหลังอย่างนึกกล้าๆกลัว ดวงใจของเขามันกระตุกวูบไหวจนเขาแทบควบคุมจังหวะการหายใจของตัวเองไม่อยู่ สองเท้าเดินเก้าเข้ามาด้านใน ก่อนจะยืนนิ่ง
ร่างสูงหันมามองเขาด้วยสายตาที่ยากเกินจะอ่านออก ก่อนจะออกคำสั่งแก่ลูกน้อง
“พวกนายออกไปก่อน ฉันจะคุยธุระสำคัญ”
เสียงห้วนไร้หางเสียงกล่าวจบ เหล่าลูกน้องก็เดินออกไปในทันทีอย่างเชื่อฟัง ตาคู่คมหันมามองร่างบางที่ยืนเงียบอยู่ก่อนจะส่ายหัวน้อยๆอย่างเบื่อหน่าย
“ว่าไง มีอะไรกับฉัน จะมาเอาค่าตัวที่เป็นของเล่นให้ฉันก่อนจะไปงั้นเหรอ จะเอาเท่าไหร่หล่ะ”
ปฏิภาณแทบสะอึกเมื่อได้ยินในสิ่งที่วาโยพูด ความเจ็บปวดพุ่งเข้ามาในหัวใจ
“ดูถูกกันเกินไปไหมครับคุณวาโย”
ร่างบางว่าพลางมองจ้องเขม็ง หากแต่นั่นไม่ได้ทำให้คนอย่างวาโยรู้สึกอะไรได้ เขาหันมายิ้มเยาะให้ครั้งหนึ่งก่อนเดินเข้ามาใกล้
“ทำไมหล่ะ? ในเมื่อฉันไล่นายให้ไปนายกลับไม่ไป อยากจะได้เงินค่าตัวก่อนถึงจะไปใช่ไหมหล่ะ หรือว่ายังไง หรือนายจะให้ฉันรับผิดชอบตัวนาย”
เพี้ยะ!
จบประโยคดูถูก มือบางๆก็ฟาดลงบนหน้ามาเฟียหนุ่มอย่างเต็มแรง การที่เข้ามาวันนี้ไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการจะพูดเลยสักนิด เขาไม่ได้ต้องการมาทวงความรับผิดชอบใดๆจากคนไร้หัวใจตรงหน้า เขาแค่ต้องการเหตุผลว่าทำไมเขาต้องไป และต้องการจะอยู่ที่แห่งนี้ต่อ แต่สิ่งที่เกิดมันกลับตาลปัตร
“คุณมันเลว!”
ปฏิภาณสบถพลางหยดน้ำใสๆแห่งความเจ็บปวดที่มันอัดแน่นในหัวใจก็เอ่อคลอออกมา ไม่เคยเลยหัวใจเขาที่ต้องมาเจ็บปวดขนาดนี้ ไม่เคยมีใครทำให้เขารู้สึกแย่ได้เท่าคนตรงหน้านี้อีกแล้ว
ร่างสูงกัดฟันกรอดพลางทอดถอนหายใจยาว มือหนายกขึ้นลูบข้างแก้มของตัวเองที่เจ็บจนชา ดวงตาคมเหลือบมองบุคคลที่มองเขาอย่างเจ็บแค้น
ถูกแล้วที่เขาต้องเจอแบบนี้ ถูกแล้วที่คนๆนี้ต้องเกลียดเขา เขาเองมันเลวแค่ไหนที่ทำร้ายคนตรงหน้ามามากมาย ใช่ว่าเขาจะไม่เจ็บปวด เขาเองก็เจ็บปวดไม่น้อย หัวใจของเขาเหมือนถูกบดขยี้เมื่อเห็นหยาดน้ำตาคนตรงหน้า แต่เขาไม่ต้องการให้คนๆนี้อยู่กับคนสันดานไม่ดีอย่างเขา
“ใช่ ฉันมันเลว ตบฉันอีกสิ”
เสียงทุ้มกล่าวเรียบๆ จนสังเกตได้ถึงความผิดแปลกไป ดวงตากลมสวยที่สั่นไหวขึ้นสีแดงก่ำ หันมองค้อนพร้อมดวงหน้าที่เต็มไปด้วยรอยน้ำตา ก่อนจะยกมือฟาดลงบนใบหน้านั้นอีกครั้งหนึ่ง
เพี้ยะ!
ร่างสูงถึงกับหน้าหัน หากแต่กลับไม่ตอบโต้กลับแต่อย่างใด พลางในใจก็คิดว่านี่คงเป็นการไถ่โทษได้อย่างดีที่สุดเท่าที่คนอย่างเขาจะทำได้ ร่างบางยืนมองร่างสูงอย่างเจ็บปวดสองมือกำหมัดแน่น พลางหยาดน้ำตาก็ไหลออกมาไม่หยุด
วาโยหันเหลือบตามองคนที่ยืนนิ่งสนิท ก่อนจะยกมือหนาขึ้นจับไหล่บาง
“ตบอีกสิ ทำอีกสิ ทำให้มันสาสมกับที่ฉันทำร้ายนาย!”
เสียงตวาดลั่น พลางดวงตาคมก็มีหยาดน้ำใสๆหากแต่เขาก็เก็บซ่อนมันไว้ไม่ให้ใครอีกคนเห็น ใครหล่ะจะอยากให้รู้ว่าเขาเสียใจมากแค่ไหนที่เห็นคนตรงหน้านั้นเจ็บปวดในสิ่งที่เขาทำลงไป มันเจ็บ เจ็บจนคนหยาบกระด้างอย่างเขาก็เผลอมีน้ำตาได้ มือหนาสองข้างยกขึ้นคว้าจับไหล่บางเขย่าจนร่างของอีกคนสั่นไหวไปตามแรง ปฏิภาณยกมือเรียวบางขึ้นผลักอกแกร่งอย่างเต็มแรง จนคนร่างหนากระเด้งออก
“คุณมันเป็นบ้าอะไร!!!! นึกจะให้ผมอยู่คุณก็ทำร้ายผม แต่คุณรู้ไหม คุณทำร้ายผมมากแค่ไหน หัวใจของผมมันกลับบอกว่าต้องการคุณ แต่วันนี้คุณนึกจะให้ผมไป คุณก็ไล่ผมไปง่ายๆ ผมเจ็บแค่ไหนคุณรู้รึเปล่า”
ร่างบางโพล่งสิ่งที่อัดอั้นในใจเสียงสั่น พลางสะอึกสะอื้นจนตัวโยน ก่อนทรุดลงกองไปกับพื้นพรหมสีเลือดนก
วาโยยืนมองร่างบางที่ทรุดลงร้องไห้ตัวโยนอย่างอึ้งงัน สมองเขาประมวลผลประโยคของร่างบางซ้ำไปซ้ำมา พาลความรู้สึกผิดก็แน่นคับอกมากกว่าเดิม
ร่างสูงเงยหน้ามองเพดานอย่างนึกไม่เข้าใจในความรู้สึกตัวเอง มันเจ็บ เจ็บเหลือเกินที่หัวใจเขา มันทรมานเหลือเกิน วาโยถอนหายใจยาวพลางหันมาปรายตามองอีกคนที่นั่งก้มหน้าสองมือปิดตาร้องไห้ครั้งหนึ่ง ก่อนจะเดินออกไปจากห้องนี้โดยไร้ซึ่งคำพูดใดๆ
ใช่ เขากำลังวิ่งหนี วิ่งหนีความรู้สึกตัวเอง
“อย่าให้ผมไปได้ไหม ผมไม่อยากไปจากคุณ”
เสียงหวานสั่นเครือพูดเสียงแผ่ว พลางหันไปมองคนที่กำลังจะเปิดประตูออกไป ร่างสูงหยุดชะงัด พลางกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก หัวใจเขามันอยากเดินเข้าไปหา อยากวิ่งเข้าไปกอด แต่เขากลับเลือกที่จะทำตามสมอง
“ไปซะ ฉันไม่ต้องการนายอีกแล้ว”
น้ำเสียงเย็นชาว่าโดยไม่หันมามอง ก่อนจะเดินจากไปอย่างไร้เยื่อใย
ทำไมจะไม่อยากมอง ทำไมจะไม่ต้องการ แต่คนเลวๆอย่างเขาไม่สมควรที่จะได้รับอะไรดีๆจากคนๆนั้นต่างหากหล่ะ
เพียงประโยคเดียว ทำเอาหัวใจของเขาแทบแตกสลาย มันเจ็บจนชาไปหมด น้ำตาก็หลั่งไหลออกมาจนยากเกินที่จะเก็บกลั้นมันไว้ เพียงคำว่าไม่ต้องการจากซาตานใจร้ายกลับทำลายหัวใจของเขาได้อย่างไม่มีชิ้นดี อีกใจก็โกรธตัวเองที่ไปรู้สึกแบบนั้นกับคนพรรค์นี้ แต่เขาเองก็ไม่อาจจะห้ามความรู้สึกที่มีได้
เขาไม่ต้องการให้อะไรๆมันเป็นแบบนี้สักหน่อยไม่ต้องการเลยสักนิดเดียว
มือเรียวยกขึ้นปาดน้ำตาตัวเองช้าๆ ก่อนจะลุกขึ้นเต็มความสูง พลางสายตาก็มองไปรอบๆห้อง จนไปสะดุดกับกรอบรูปที่ตั้งอยู่บนตู้โชว์ ปฏิภาณค่อยๆเดินเข้าไปใกล้ๆ ก่อนคว้ามันขึ้นไว้กับมือ
“ใช่คุณมันเลว เลวจนผมอยากจะเกลียดคุณแต่ผมทำไม่ได้”
เขาพร่ำออกมาทั้งน้ำตาที่ยังคงไหลออกมา พลางยืนมองภาพนั้นอยู่ครู่ใหญ่ ก่อนจะตัดสินใจวางมันลงเข้าที่เดิมเบาๆ
เขาไตร่ตรองดีแล้วว่าเขาควรไปจากที่นี่ เขาไม่ควรอยู่ที่นี่อีกต่อไป พอกันทีกับภารกิจบ้านั่น เขารู้ตัวดีว่าเขาไม่มีทางทำมันได้สำเร็จ เพราะหัวใจของเขามันอ่อนแอเกินกว่าที่จะทำร้ายคนๆนี้ เขาทำไม่ได้จริงๆ
ปฏิภาณถอนหายใจยาวออกมาพลางเดินไปยังประตู แต่ยังไม่วายหันกลับมามองภาพของมาเฟียหนุ่มอีกครั้ง ก่อนจะตัดสินใจเดินออกจากห้องนี้
จะให้เขาทนอยู่ทำภารกิจนี้ได้อย่างไร ในเมื่อหัวใจเขามันไม่สามารถทำร้ายคนที่เขารักได้ สิ่งที่ดีที่สุด คือเขาควรไป ไปจากตรงนี้ให้พ้นๆ พ้นจากคนใจร้ายที่คว้าเอาหัวใจของเขาไป
วาโยที่ยืนหลบมุมอยู่ มองตามหลังคนที่เดินออกไปด้วยนัยน์ตาเศร้า ใครกันอยากให้คนๆนั้นไป ใครกันไม่ต้องการคนๆนั้น กลับกัน เขากลับอยากให้คนๆนั้นอยู่เคียงข้างเขา เขารู้ใจตัวเองดีว่าตนต้องการปฏิภาณมากที่สุด อยากขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป แต่ที่เขาเลือกที่จะเป็นแบบนี้ เลือกที่จะหนีความรู้สึกตัวเองแบบนี้ เพราะเขากลัว กลัวว่าเขาจะทำร้ายคนๆนี้ให้เจ็บปวดซ้ำสอง เขาไม่อยากทำร้ายคนๆนี้ไปมากกว่านี้อีกแล้ว
“พี่เก่ง มาทำอะไรตรงนี้ครับ แล้วนั่นเซนจะไปไหนหรอครับ”
จู่ๆเสียงหวานหูที่คุ้นเคยก็ดังมาจากด้านหลัง เพียงได้ยินเสียงความแค้นก็ถูกปลุกปะทุขึ้นมาในใจในทันที นัยน์ตาเศร้ากลับเหือดหายแปรเปลี่ยนเป็นนัยน์ตาเย็นชาว่างเปล่าหันไปมองเจ้าของเสียง
“พี่เก่งเป็นอะไรรึเปล่าทำไมมองริทแบบนั้นหล่ะครับ”
บุคคลมาใหม่ถามทันทีที่เห็นแววตาของอีกคนที่มองเขาแปรเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม วาโยยกยิ้มร้าย ก่อนจะคว้าตัวคนร่างเล็กเข้ามุมแล้วดันจนหลังชิดติดผนังนั้น
“ริท นายมีอะไรจะพูดกับพี่ไหม?”
วาโยถาม เรืองฤทธิ์มองกลับอย่างงุนงงในคำถาม
“ไม่มี ไม่มีครับ”
เขาส่ายหัวพลางตอบปฏิเสธ หากแต่ในใจก็เกิดความกังวลขึ้นมา ความกลัวบางอย่างเริ่มปะทุขึ้นในใจ เก่งยกยิ้มให้หากแต่รอยยิ้มนั้นกลับดูไม่น่าไว้ใจเสียทีเดียวนัก
“ริทรักพี่ใช่ไหม?”
ร่างสูงกระซิบถาม ขณะที่เลื่อนหน้ามาใกล้ๆ จนต่างสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆ ริทพยักหน้าน้อยๆเป็นการตอบรับ
“ถ้าพี่ให้ริททำอะไร ริททำให้พี่ได้ใช่ไหม?”
“ได้ๆ พี่เก่งให้ริททำอะไร ริทก็ยอม”
วาโยยกยิ้มอย่างพอใจให้ พลางหัวเราะในลำคอ สายตาคมหันมองสบตากับสายตาคู่สวย ก่อนจะเดินจากไป ทิ้งไว้เพียงความงุนงงที่เกิดขึ้นในใจใครอีกคน
คนร่างบางออกมาจากมุม พลางมองแผ่นหลังคนที่เดินออกไปจนลับตา พลางสมองก็ครุ่นคิดถึงท่าที แววตาที่แปรเปลี่ยนไปจองเจ้านายสุดที่รัก
“ไม่มีอะไรหรอกมั้ง”
เขาว่ากับตัวเอง ก่อนจะสะบัดความคิดสงสัยออกไปจากสมอง ก่อนจะเดินออกจากตรงนี้ไปอย่างไม่นึกคิดติดใจอะไรในตัวเก่ง
ผิดกับอีกคนที่เดินจากไป ในใจของเขามันแค้นจนอยากจะบทขยี้คนตรงหน้าให้แหลกลานเป็นผงเสียตรงนี้ หากแต่ทำอะไรวู่วามไปก็เหมือนเป็นการปลุกให้เหยื่อไหวตัวทัน ปล่อยไว้ก่อนแล้วกัน เขาอยากจะรู้นักเชียวว่าคนร้อยเล่ห์มารยาตรงนี้ จะปกปิดความลับนั้นได้สักกี่น้ำ
......................................................................................................................................
แต่งเสร็จปุ๊ปจัดให้ปั๊ปค้าบบบบบ
ความคิดเห็น