คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : The Killer...Chap9
09
คืนร้อนผันผ่านไป จวบจนเวลาบ่ายคล้อย แสงแดดอุ่นๆในยามบ่ายที่สาดส่องเข้ามาทำให้คนที่หลับใหลอยู่อยู่ในห้วงนิทรารู้สึกตัว หากแต่กลับลืมตาที่หลับพริ้มอยู่อย่างยากเย็น เขาค่อยๆพยายามหรี่ตาของตัวเองขึ้นช้าๆ พลางขยับเขยื้อนร่างกายของตนที่ปวดเมื่อยอย่างยากลำบาก
ความรู้สึกอึดอัดเหมือนถูกใครสวมกอดไว้เป็นสิ่งที่เขารับรู้ได้ในเวลาต่อมา ก่อนที่สมองจะประมวลผลได้ในเหตุการณ์ที่ผ่านมาเมื่อคืน
หยดน้ำใสๆเอ่อออกมาอย่างช่วยไม่ได้ เมื่อสิ่งเลวร้ายได้เกิดขึ้นกับตัวเขา โกรธตัวเองที่ไม่มีทางหักห้ามทำตามอารมณ์อย่างพลั้งเผลอ เกลียดอีกคนที่ทำร้ายเขา ข่มเหงรังแกกันทั้งร่างกายและจิตใจ
“เสียใจหรอที่ได้เป็นเมียฉัน”
น้ำเสียงของคนที่นอนข้างๆเอ่ย ขึ้น ก่อนดันตัวเองขึ้น มือสากยกขึ้นไล้เรียวแก้มสวยอย่างแผ่วเบา ไม่มีคำตอบใดๆออกจากปากของปฏิภาณ มีเพียงน้ำตาและร่างกายของเขาที่สั่นเทิ้ม
“ทำไมฮะ ฉันถามไม่ได้ยินหรือไง”
มาเฟียหนุ่มถามเสียงเย็น
“อย่ามายุ่งกับผม”
อีกคนตอบกลับด้วยเสียงเย็นชา พร้อมน้ำตาที่มันไม่คิดจะหยุดไหล ในใจก็นึกสมเพชตัวเองที่อ่อนแอไม่สามารถอดทนกับอารมณ์บ้าๆนั่นได้
“หึหึ อย่ามาเล่นตัวไปหน่อยเลย ทีเมื่อคืนนายยังร้องครางซะจนชั้นอึ้ง และนายก็ติดใจฉันด้วยไม่ใช่หรอ ฮ่าๆๆๆๆ”
น้ำเสียงถากถางเย้ยหยันกล่าว ซึ่งนั่นก็ทำให้อีกคนถึงกับฉุนกึก เขาเด้งตัวขึ้นนั่งก่อนผลักอีกคนที่นอนเท้าแขนอยู่อย่างแรงจนล้มลงไปนอนบนเตียง
“คุณมันหยาบคาย ผมเกลียดคุณ เฮ้ย ย!”
ยังไม่ทันที่จะจบประโยค เก่งก็ลุกขึ้นมา กดร่างของอีกคนลงบนเตียงอีกครั้ง สายตาคมเป็นประกายวาวโรจน์อย่างหน้าเกรงขาม กับอีกคนที่มองกลับด้วยสายตาของคนที่จะเอาเรื่อง
“หยาบคาย เลว ป่าเถื่อน ยังไงมันก็ผัวนาย หรือว่าความจำเสื่อม ได้ นายคงต้องการมันมาก ฉันจะจัดการให้นายจนพอใจ”
เขาว่าก่อนจะจู่โจมซุกไซ้ซอกคอขาวที่เต็มไปด้วยร่องรอยการกระทำเมื่อคืน ผู้ถูกกระทำทุบตีคนกระทำพลางดิ้นขลุกขลัก นี่เป็นการต่อสู้ดิ้นรนกับชะตากรรมแบบนี้ในครั้งที่สอง ไม่ว่ายังไงเขาก็จะไม่ยินยอมให้เรื่องอย่างเมื่อคืนต้องเกิดขึ้นอีกแล้ว
“ออกไปซะ!!!”
เขาพูดพร้อมใช้แรงกำลังทั้งหมดผลักร่างของอีกคนจนกระเด้งออกจากตัวเขา เมื่อหาหนทางรอดได้คนร่างบางก็พยายามดิ้นรนพาร่างกายเปื่อยเปล่าที่ถูกอีกคนรังแกลงจากเตียงเพื่อจะหนีเอาตัวรอดให้ได้
“โอ้ย ย ย!”
ผลักก ก!
เสียงร้องโอยดังขึ้นพร้อมกับร่างบางที่ล้มลงไปกองกับพื้นอย่างไม่เป็นท่า ร่างของเขามันเจ็บปวดไปเสียหมด โดยเฉพาะช่วงล่างที่เจ็บทรมานจนเขาไม่สามารถจะทรงตัวอยู่ได้
สายตาร้ายกาจจ้องมองลงมาอย่างเย้ยหยันก่อนจะยกยิ้มขำในลำคอ เขาส่ายหัวน้อยๆในความดื้อด้านของอีกคนก่อนจะเดินมาโอบอุ้มร่างบางนั้น แล้ววางลงบนเตียงอีกครั้ง
“นายมันอ่อนหัด นอนพักไปซะ”
น้ำเสียงทุ้มว่า ก่อนจะยกผ้าห่มมาคลุมร่างนั้น แม้การกระทำจะดูอ่อนโยนแต่มันก็เหมือนเขาถูกตบหัวแล้วลูบหลังชัดๆ น้ำตาแห่งความเจ็บช้ำไหลพรั่งพรูออกมาอีกครั้ง ไม่มีการโต้เถียงใดๆจากคนปากกล้าคนนี้อีกแล้ว มีเพียงแววตาเศร้าที่ไม่แม้แต่จะมองหน้าอีกคน
ร่างสูงมองยืนมองและพอเข้าใจว่าเซนจะรู้สึกยังไง เสียงเรียกร้องของหัวใจมันบอกว่าอยากจะคว้าตัวของอีกคนขึ้นมากอดปลอบ แต่เขาก็ฉุกคิดได้เพียงอย่างเดียวว่า เขาไม่ควรจะทำแบบนั้น
“เฮ้ออ อ”
เขาถอนหายใจแรงๆออกมาตรงนั้น ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไปอย่างคนที่ไม่เข้าใจในความรู้สึกของตัวเอง
จะให้เขาเข้าใจได้อย่างไร ในเมื่อเขาไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใครเลยสักครั้งเดียว
ร่างสูงจัดการเปิดน้ำฝักบัวพลางยืนนิ่ง ส่งผลให้เขาแสบที่แผลเล็กๆบนหน้าผากน้อยๆ เขาทำหน้าเหยเกในครั้งแรก ก่อนที่บาดแผลนั้นจะคุ้นชินกับความเจ็บแสบ ในสมองของเขาก็ยังคงครุ่นคิดไม่ตกกับสิ่งที่มันเกิดขึ้น เขาไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้เลยสักนิด ความรู้สึกที่ไม่สามารถจะทำตามใจตัวเองได้ หลายสิ่งหลายความคิดมันตีรวนอยู่ในสมองจนหัวเขาแทบระเบิด หากมองข้ามเหตุผลบางอย่างเขาอาจจะไม่ต้องทรมานความรู้สึกตัวเองแบบนี้ แต่สิ่งที่อีกคนกระทำต่อเขามันร้ายแรงเกินกว่าที่เขาจะรับในสิ่งนั้นได้
“โธ่ เว้ยยย ย !”
เขาอุทานอย่างหงุดหงิด พร้อมยกกำปั้นทุบกำแพงอย่างนึกโมโหตัวเอง
สายน้ำจากฝักบัวที่ยังไหลไม่หยุด ไหลผ่านจากศีรษะผ่านลำตัวจรดปลายเท้าเพื่อชำระล้างสิ่งสกปรกออกจากร่างกาย แต่นั่นก็ไม่อาจชำระล้างความรู้สึกต่างๆไปจากความคิดและจิตใจเขาได้
เก่งยังคงติดอยู่ในห้วงความคิดและความรู้สึกหวิวๆในใจก็บังเกิดกับตัวเขาอย่างไม่อาจจะหยุดมันได้ สิ่งที่เขาไม่อยากให้มันเกิดเริ่มก่อตัวมากขึ้น มากขึ้น จนตัวเขาเองก็หวาดหวั่นอยู่ไม่น้อย หากจะปล่อยให้มันเป็นไปตามนั้นมันคงไม่ใช่สิ่งที่ดี เขาไม่ควรมีความรู้สึกอะไรต่อคนๆนั้น แม้ว่าใจจะเรียกร้องมากเท่าใดก็ตาม
ด้านเซนเขายังคงนอนจมกองน้ำตาอยู่เช่นนั้น ร่างกายของเขามันปวดระบมไปหมด บาดแผลที่ถูกก่อไว้บนหน้าผากก็ยังคงเจ็บแสบไม่แพ้กัน ใจก้อยากจะหนีไปให้ไกล แต่จะให้หนีตอนนี้ มันก็ยากเกินกว่าที่ร่างกายเขาจะทำได้ เขาจึงทำได้เพียงยินยอมกับสิ่งที่ได้เกิดขึ้นกับตัวเขาแล้ว แม้จะในใจจะรับรู้กับตัวเองได้ว่ารู้สึกกับอีกคนอย่างไร แต่สิ่งที่เกิดมันยากเกินกว่าหัวใจของเขาจะรับมันไหว สายตาที่อ่อนโยนที่ถูกหลบซ่อนไว้ใช่ว่าเขาจะมองไม่เห็น และเขาก็ไม่ปฏิเสธว่าเขาอ่อนไหวกับสิ่งที่หลบซ่อนไว้ในตัวอีกคนมากเพียงใด อีกใจก็ยังนึกโกรธตัวเองที่พลั้งเผลอปล่อยอารมณ์ไปตามอีกคน ทั้งที่รู้ดีว่าสุดท้ายตอนจบคนที่เสียใจก็คือเขาเองทั้งนั้น
เขานอนนึกเหม่อลอยไปเรื่อยเปื่อย พร้อมน้ำตาที่มันไม่ยอมจะหยุดไหลไปซักที จู่ๆสมองของเขาก็ประมวลไปถึงเรื่องของภารกิจที่เขาต้องทำ ภารกิจที่เขาต้องฆ่าอีกคน เพียงแค่นึกหัวใจของเขามันก็หล่นวูบไม่เป็นท่า มือเรียวกำผ้าปูที่นอนแน่นก่อนปล่อยน้ำตาออกมาอย่างช่วยไม่ได้
“ทำไม ทำไม ฮึก ฮึก”
เขาพูดออกมาแค่นั้นพร้อมเสียงสะอื้น
นั่นคือหน้าที่ที่เขาไม่อาจละทิ้ง แต่ทำไมหน้าทีนี้กลับกลายเป็นสิ่งที่เขาหวาดกลัว หวาดกลัวเสียจนเพียงนึกถึงแล้วก็ใจหายเอาเสียดื้อๆ
เมื่อหน้าที่ที่สำคัญสวนทางกับสิ่งที่หัวใจต้องการ เขา จะจัดการกับมันได้อย่างไร?
ชั่วเวลาครึ่งชั่วโมงผ่านไป มาเฟียหนุ่มออกมาพร้อมชุดเสื้อผ้าสุดหรูอย่างที่เขาเคยสวมใส่ในทุกวัน เก่งยืนมองอีกคนที่ตอนนี้นอนหลับตาพริ้มอยู่บนเตียงของเขา ก่อนจะเดินเข้าไปใกล้ๆ แล้วหย่อนตัวลงบนเตียง
คราบน้ำตาที่ยังไม่แห้งดีนักเปรอะเต็มแก้มใส ยิ่งเห็นภาพตรงหน้า เขากลับยิ่งรู้สึกปวดใจ มือสากหนาที่เคยใช้ทำร้ายกลับยื่นลงมาสัมผัสสองข้างแก้มนั้นอย่างอ่อนโยน
“ฉันขอโทษ”
เขาพูดกับคนที่นอนหลับอยู่ คำพูดที่ไม่คิดอยากจะพูดกับใคร คำพูดที่ไม่กล้าที่บอกออกไปตรงๆ หลุดออกมาจากปากเขา มือหนาค่อยๆเช็ดคราบน้ำตาก่อนจะเลื่อนไปสัมผัสที่เรือนผมสีดำขลับอย่างเอ็นดู
อาจจะไม่ค่อยเข้าใจในสิ่งที่ตัวเองทำ แต่เขาก็อยากทำตามใจตัวเอง แม้จะมีความแค้นอยู่ท่วมอกก็ตาม
สายตาแข็งกร้าวกลับแปรเปลี่ยนอย่างที่ใครๆก็ไม่เคยเห็นชำเลืองมองหน้าของใครคนนั้น ก่อนจะก้มลงประทับริมฝีปากลงบนหน้าผากอย่างช้าๆ ก่อนค่อยไล้ลงมาที่จมูก จรดริมฝีปากสีสวย แล้วค่อยๆผละออก
ร่างสูงลุกขึ้นยืนจนเต็มความสูง ก่อนจะหันมามองอีกครั้ง สองมือหนาถูกเก็บลงกระเป๋ากางเกงทั้งสองข้างแล้วเดินออกจากห้องไป
วันนี้เป็นอีกวันที่เขาต้องไปตรวจสินค้าที่โกดังเก็บสินค้าเถื่อนของเขา เก่งเดินลงบันไดมาจากชั้นสองของคฤหาสน์หลังโตของตัวเอง พร้อมลุกน้องผู้ติดตามที่เดินตามประกบหลังสองคน
“ริทไปไหน”
เสียงทุ้มเอ่ยถามกับลูกน้องอย่างไร้หางเสียง พอดีกันกับที่อีกคนกำลังเดินเข้ามาหาเขาพอดี
“ริทมาแล้วครับพี่เก่ง”
เสียงใสๆว่าพลางเดินยิ้มร่าเข้ามาหาเขา เก่งยกยิ้มน้อยให้ๆ เป็นการทักทายเขา
“มาแล้วก็ดี วันนี้ไม่ต้องไปกับพี่นะ”
จบประโยคก็สร้างความมึนงงให้แก่อีกไม่น้อย เพราะปกติเขาจะเป็นผู้ติดตามคนสำคัญที่เก่งต้องเรียกหา และพาเขาไปด้วยตลอด
“อ อ้าว ทำไมหล่ะครับ”
นัยน์ตาหวานเงยหน้าขึ้นถาม
“ฉันจะให้นายคอยดูนายเซนหน่อย เขาอยู่ในห้องพี่ ป่านนี้แม่บ้านคงจัดอาหารขึ้นไปแล้ว แค่นายอย่าให้หนีไปไหนได้ก็พอ”
เพียงจบประโยค ก็เหมือนสายฟ้าฟาดลงกลางใจเขา
เหตุผลที่อีกคนไม่ให้เขาติดตามไปเป็นเหตุผลที่เขาไม่อยากที่จะรับฟังและทำตาม น้ำเสียงเวลาที่เก่งพูดถึงใครอีกคนมันทำให้เขารู้สึกได้ถึงความห่วงใยที่เก่งมีต่อเซน ยิ่งคิดความนึกอิจฉาก็พุ่งเข้ามาในหัวใจ จิตใต้สำนึกที่เกลียดคนๆนั้นมันสั่งให้เขาต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อกำจัดคนๆนั้นให้ไปพ้นๆทางของเขาสักที
ริทพยักหน้าน้อยๆอย่างน้อมรับคำสั่ง ก่อนที่มาเฟียหนุ่มที่เขารักจะเดินผ่านร่างเล็กๆของเขาออกไปอย่างไม่ใส่ใจอะไรในตัวเขาแม้แต่น้อยเลย
ริทมองตามเก่งออกไปจนรถคันสีดำขลับแล่นออกจากประตูรั้วใหญ่ของบ้าน ใบหน้าหวาน ดวงตาใสซื่อกลับแปรเปลี่ยน เหลือเพียงสายตาของความชิงชัง ริษยาฉาบบนดวงหน้าสวย มือบางกำหมัดแน่นอย่างเคืองแค้น
.............................................................................................................................................
ไม่มีอะไรจะพูดจ้าาาา
อ่านเรื่องนี้แล้วก้อย่าเพิ่งเกลียดริทน้อยกลอยใจเลยเน้อะ 555555
ความคิดเห็น