ตอนที่ 9 : MY ONLY 1 | 04 : เมื่อบ้านไฟดับ [2]
พอกลับมาถึงบ้าน เจ้าจันทร์นั่งรออยู่ที่โซฟาหลังที่ณภัทรบอกว่าจะขึ้นไปหาเทียนมาจุดเพิ่มแสงสว่างในบ้านรอระหว่างไฟจะมา บ้านจะได้ไม่มืด ผ่านไปอยู่หลายทีเจ้าของร่างสูงก็เดินลงจากบันไดพร้อมเทียนหนึ่งแพ็คกับไฟแช็คหนึ่งอัน โดยที่แรกที่จุดคือบนโต๊ะของห้องนั่งเล่น
“แล้วงี้นายจะอ่านหนังสือได้เหรอ ถ้าคืนนี้ไฟไม่มา”
“ทำไมถึงคิดว่าผมจะอ่านหนังสือ?” ชายหนุ่มหันหน้าไปมองสาวเจ้าในขณะที่กำลังวุ่นวายกับการวางเชิงเทียนอยู่
“ก็ฉันเห็นว่าห้องนายเปิดไฟจนดึกดื่นทุกคืน ป้าบอกว่านายอ่านหนังสือ” ในบางคืนที่เธอออกจากห้องไปหามื้อดึกกินก็ยังเห็นไฟห้องเขาเปิดอยู่เลย
“คุณสนใจผมขนาดนี้ตั้งแต่ตอนไหน?”
คำถามแบบนั้นทำให้เธอเลิกคิ้ว
“ทำไม? ฉันจะสนใจนายไม่ได้หรือไง” หญิงสาวพูดพร้อมกับสาวเท้าเข้าไปหาเจ้าของร่างสูงซึ่งยืนอยู่ตรงหน้า เธอยกยิ้มขึ้นมาเล็กน้อยเพื่อจะกลั่นแกล้งอีกคน มือเรียวเอื้อมไปจับที่คอเสื้อของเขาและกุมมันไว้แน่น
การกระทำของเจ้าจันทร์ทำให้เขาผงะถอยหลังออกไปโดยทันที ณภัทรแทบจะลืมหายใจเมื่อใบหน้าของเธอยื่นเข้ามาใกล้มากจนอยู่ในระยะประชั้นชิด ยิ่งสาวเจ้ายกส้นเท้าขึ้นเพื่อยืดตัวให้สูงเท่าเขานั้นก็ยิ่งทำให้ใบหน้าเราใกล้กันมากกว่าเดิม นับว่าเป็นโชคดีที่ตอนนี้ยังมืดไม่เช่นนั้นเธอก็คงได้เห็นใบหน้าที่แดงก่ำของเขาไปแล้ว
“ปล่อยผมนะ”ณภัทรก้าวเท้าถอยหลังออกไปอีกเพื่อเพิ่มช่องว่างระหว่างทั้งคู่ เขาพยายามพูดด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลมากที่สุด แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่วายโดนหญิงสาวเข้าใจผิด
“เดี๋ยวนี้นายกล้าสั่งฉันเหรอณภัทร”สิ้นเสียงนั้นเจ้าจันทร์ก็เขยิบเข้าไปใกล้ร่างสูงอีกครั้ง
“ถ้าคุณเขยิบเข้ามาหาผมอีก ผมจะไม่รับประกันความปลอดภัยของคุณ” เพราะท่าทีที่คุกคามของหญิงสาวทำให้ณภัทรต้องพูดอะไรสักอย่างออกไป
“ทำไม นายจะทำอะไรฉัน? นายกล้าทำอะไรฉันเหรอ นายก็น่าจะรู้ผลลัพธ์ของการทำร้ายฉันดีนี่นา” สิ่งที่เธอพูดมันไม่ใช่การขู่ แต่มันคือสิ่งที่อาจจะเกิดจริง เพราะถ้าณภัทรทำอะไรเธอขึ้นมาจริงๆ พ่อของเธอคงตัดหางปล่อยวัดเขาอยู่แล้ว
แน่นอนว่าข้อนั้นชายหนุ่มรู้ดีกว่าใคร ชีวิตตั้งแต่ในวัยเด็กของเขาตั้งแต่เกิดไม่ค่อยดีนัก ทั้งยากจนและลำบาก แม่และเขาต้องสู้ชีวิตกับเรื่องร้ายมานักต่อนัก จนได้ครอบครัวอัศวเมฆาธีร์ที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือทำให้เขากับแม่ไม่ลำบากอีกต่อไป บุญคุณที่ท่วมหัวนั้นทำให้เขาเคารพทุกคนในครอบครัวนี้อยู่เสมอรวมถึงผู้หญิงตรงหน้าที่เป็นถึงลูกสาวคนเล็กของบ้านนี้ด้วย
“ผมกำลังจะจุดเทียนนะ ถ้าคุณเข้ามาอาจจะโดนลวก” เขาตอบ
“ชิ..” เจ้าจันทร์ยอมถอยออกไปเพื่อกลับไปนั่งยังโซฟา แต่ว่าความมืดของบ้านทำให้เธอเผลอไปเดินสะดุดกับขาโต๊ะไม้ตัวหนึ่งในบ้าน “กรี๊ดดด!”
เป็นปฏิกิริยาอัตโนมัติของร่างกายที่หญิงสาวจะต้องรีบหาที่เกาะยึดเอาไว้เพื่อไม่ให้ตนเองล้มหัวฟาดลงไป ซึ่งสิ่งที่เธอเอื้อมไปจับเป็นไหล่ของณภัทรทำให้คนที่ไม่ทันตั้งตัวเผลอเซล้มลงไปด้วย ไฟแช็คและเทียนที่ถือไว้ในมือหล่นลงไป นับว่าเป็นโชคดีที่มันยังไม่มีถูกจุดไฟ ชายหนุ่มรีบคว้าร่างของหญิงสาวเอาไว้ก่อนจะล้มลงไปด้วยกันบนพื้นที่มีพรมตัวยาวปูเอาไว้
“คุณนี่ซุ่มซ่ามขนาดนี้ได้ยังไงกันนะ” ไม่รู้ว่าเป็นกี่รอบแล้วที่เขาต้องมาคอยรับร่างของเธอเอาไว้
“มันเป็นอุบัติเหตุไหม ฉันไม่ได้อยากให้เกิดสักหน่อย” เจ้าจันทร์เถียง
แขนของณภัทรที่รองท้ายทอยเธอเอาไว้อยู่ทำให้ตอนล้มลงไม่เจ็บหัวมากนัก และถ้าตอนนี้มีแสงสว่างก็คงเห็นได้ชัดว่าทั้งสองคนอยู่ในท่าทางล่อแหลมมากแค่ไหน ใบหน้าของเธอกับเขาไม่ได้อยู่ห่างกันมากนักเนื่องจากตอนนี้เจ้าจันทร์ยังคงเกาะร่างสูงเอาไว้แน่น
มันใกล้เสียจนสัมผัสได้ถึงไอร้อนจากลมหายใจของอีกฝ่าย เจ้าจันทร์มั่นใจว่าเมื่อครู่นี้มันไม่ได้ใกล้มากขนาดนี้ ก็แสดงว่าเขาจะต้องก้มหน้าลงมาหาเธอเป็นแน่ หญิงสาวนิ่งเกร็งขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นว่าณภัทรกำลังโน้มใบหน้าเข้ามาหามากขึ้นอีก และถ้ามันยังเป็นแบบนี้ต่อไปไม่กี่วินาทีข้างหน้าริมฝีปากของทั้งคู่คงสัมผัสกัน
แต่ว่า
ไฟที่ดับไปหลายนาทีก็สว่างวาบขึ้นมาเสียก่อน
เธอมองเห็นใบหน้าของเขาชัดเจนกว่าเมื่อครู่นี้มาก ส่วนคนที่ตกใจที่สุดก็คงหนีไม่พ้นร่างสูงที่อยู่คร่อมเธออยู่ด้านบน ณภัทรรีบผละกายออกมาจากหญิงสาวโดยทันทีราวกับว่าเพิ่งรู้ตัวว่าตนเองกำลังทำอะไรอยู่
“คือผม..”
“เมื่อกี้นายจะจูบฉันเหรอ” ร่างเล็กหยัดกายขึ้นมานั่งเมื่ออีกคนลุกออกไปก่อนแล้ว
“ผมเปล่า”
คำตอบที่เจ้าของคำตอบหลบสายตานี่เชื่อได้มากแค่ไหนกันนะ
“ถ้าไฟไม่มาปากเราคงชนกันไปแล้วนายไม่รู้ตัวหรือไง”
“ผมขอโทษ”
ท่าทางเคอะเขินนั่นของณภัทรทำให้เจ้าจันทร์นึกสงสัยแล้วเป็นฝ่ายเขยิบเข้าไปหาเขาแทน หญิงสาวเข้าไปหาเขาด้วยท่าคลานแล้วหยุดอยู่ตรงระหว่างขายาวๆ นั่น
พอเป็นแบบนั้นก็สร้างความตกใจให้ณภัทรมากกว่าเดิมเพราะท่านี้มันล่อแหลมกว่าเมื่อครู่นี้เยอะเลยหละ
“สบตาฉันสิ แล้วบอกว่านายกำลังคิดอะไรกับฉันอยู่”
ผิวขาวที่แก้มของชายหนุ่มเริ่มมีสีแดงเจือจางขึ้นมาอีกครั้ง คราวนี้มันแดงลามไปถึงใบหูด้วย ทำไมวันนี้เธอถึงทำเรื่องแบบนี้กับเขาบ่อยนักนะ ไม่รู้หรือไงว่ามันอันตราย
“นี่คุณคิดจะแกล้งผมเหรอ” เขาไม่ค่อยแน่ใจนัก ถึงแม้ว่าเจ้าตัวจะโดนหญิงสาวแกล้งอยู่บ่อยครั้งก็เถอะ แต่การแกล้งแบบนี้มันไม่เคยเกิดขึ้น
“นายยังไม่ตอบเลยว่านายคิดอะไรกับฉัน” ยังไงวันนี้เธอก็จะคาดคั้นเอาความจริงจากผู้ชายคนนี้ให้ได้ “นายมันเป็นคนที่มักจะฉวยโอกาสกับผู้หญิงสินะ หึ ฉันเชื่ออยู่แล้วว่านายไม่ได้แสนดีขนาดนั้นอย่างที่คนอื่นเขายกยอปอปั้น”
“ถ้าคุณไม่สบายใจขนาดนั้น ผมจะไม่แตะเนื้อต้องตัวคุณอีก” อันที่จริงเขาก็ยอมรับความผิดด้วยส่วนหนึ่งที่ปล่อยให้ความรู้สึกในใจมีอิทธิพลมากกว่าความรู้สึกผิดชอบชั่วดีเลยเกือบจะเกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้น
“ไม่ ฉันจะจับตาดูนายอย่างใกล้ชิดกว่าเดิม” คราวนี้เธอจะต้องหาหลักฐานไปลบล้างความดีของณภัทรให้พ่อเธอได้เห็นให้ได้ ความจริงแล้วเขามันแสร้ง
“เมื่อไหร่คุณจะเลิกอคติกับผมสักที ผมไม่เคยคิดร้ายกับคุณ”
“จนกว่านายจะเปิดเผยธาตุแท้ในตัวเองออกมา”
ณภัทรถอนหายใจ เขาลดสีหน้าตึงเครียดของตัวเองแล้วกระตุกยิ้มออกมา ก่อนจะตอบคำถามที่หญิงสาวตรงหน้าสงสัย
“คุณจะเอาธาตุไหนล่ะ ในร่างกายคนเรามีหลายธาตุนะ ออกซิเจน คาร์บอน แคลเซียม ถ้าคุณสนใจผมจะเอาหนังสือเกี่ยวกับเคมีในร่างกายมนุษย์ให้คุณอ่าน”
“นายนี่มันหน้าด้านที่สุด” เจ้าจันทร์เริ่มทำหน้างอเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายใช้สิ่งที่ตัวเองเรียนมาตอบอะไรแบบนั้นกับเธอ
“เคยลองสัมผัสแล้วเหรอถึงได้รู้ว่าหน้าผมเป็นยังไง”
“เดี๋ยวนี้นายกล้าต่อปากต่อคำกับฉันขนาดนี้เลยเหรอ” หญิงสาวหรี่ตามองคนที่กำลังจะเปิดเผยธาตุแท้ของตัวเองออกมา เธอยอมรับในความกล้าขึ้นเยอะของเขาเลย ทั้งที่เมื่อก่อนแทบไม่เคยหืออืออะไรด้วยซ้ำ “ใช่สินะ อีกไม่นานนายก็จะเรียนจบแล้วนี่ คงไม่ต้องการความช่วยเหลือจากครอบครัวฉันแล้ว ถึงได้ปีกกล้าขาแข็งขนาดนี้ แล้วยังไงล่ะพอยืนด้วยตัวเองได้แล้วก็จะเชิดหน้าชูตาไม่ต้องเจียมเนื้อเจียมตัวเองแล้วล่ะสิ”
“เจ้าจันทร์ ผมไม่เคยคิดแบบนั้น”
“ทำไมจะคิดไม่ได้ ในเมื่อจุดประสงค์ในการเข้าหาครอบครัวของฉันมันไม่เคยมาด้วยความบริสุทธิ์ใจแต่แรกอยู่แล้ว ป้าภัสสรน่ะก็เป็นคนดีมากเลยนะทำไมนายถึงไม่ได้ความดีของเธอมาบ้าง”
ในตอนนั้นที่ณภัทรเข้ามาอยู่ในบ้านอัศวเมฆาธีร์ เขาอายุ 13 ขวบเท่านั้น ในช่วงแรกเธอก็ยังพอเห็นความดีของณภัทรอยู่บ้าง แต่ว่าเวลาผ่านไปอีกสามปีต่อมาเจ้าจันทร์ถึงได้รับรู้เรื่องบางอย่างเข้า
“แต่ลืมไปว่านายก็คงเหมือนพ่อของนายนั่นแหละ”
“อย่าพูดถึงพ่อของผมแบบนั้นนะ”
“ทำไมฉันจะพูดไม่ได้ นายก็เหมือนกับพ่อของนาย เห็นแก่เงิน”
Castle-G's Talk
นิยายเรื่องนี้ไม่มีตัวร้ายนะคะ เพราะนางเอกของเรื่องรับบทนั้นแทนตัวร้ายแล้ว
จะไม่มีตัวละครไหนร้ายกว่านางเอกของเราทั้งนั้นค่ะ 5555555555555
ฝากส่งฟีดแบคด้วยค่า เม้นท์ให้เลาเถอะ
สุ่มแจกอีบุคจากคอมเม้นท์นะคะ (ถ้าได้ทำนส.ก็จะแจกนส.ด้วย)
มาหวีดติดแท็ก #ณเจ้าจันทร์
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ฮ่า ๆๆ เออเนอะ ตัวร้ายไม่จำเป็น เพราะมีนางเอกร้าย ๆ อยู่แล้ว
555555555
ท้าทายมากไปแล้ว ระวังโดนดี