ตอนที่ 77 : MY ONLY 1 : 27 : แสดงความจริงใจ [1]
27 : แสดงความจริงใจ
ณ โรงพยาบาล
“อะไรกันครับ” ชายหนุ่มมองหญิงสาวที่ถือถุงใส่อาหารใส่ถุงมาให้เขา “ทำไมต้องซื้อเยอะขนาดนี้”
“ก็นายบอกว่าวันนี้นายมีเวร ยังไม่กินข้าวใช่ไหม ฉันซื้อมาให้ ถ้าเยอะก็ให้คนอื่นกินด้วยไง” เจ้าจันทร์ยิ้มเล็กน้อย ความตั้งใจของเธอคือการส่งข้าวส่งน้ำให้เขาทุกวัน
“ครับ” คราวนี้ณภัทรรับเอาไว้อย่างไม่บ่ายเบี่ยง
“ฉันจะมาส่งข้าวส่งน้ำตามจีบนายทุกวัน จนกว่านายจะยอมแต่งงานด้วย”
“ถ้าผมยอมแต่ง คุณจะเลิกส่งข้าวส่งน้ำเหรอ”
“เปล่า แต่ฉันจะทำกับข้าวให้นายก่อนออกจากบ้านทุกเช้าเลยต่างหาก แต่งงานแล้วก็อยู่บ้านเดียวกันนี่” ถึงเจ้าจันทร์จะไม่ค่อยได้ทำอาหารแต่หญิงสาวก็มีความสามารถทำได้ ตามตำราที่เคยอ่าน
ณภัทรยอมรับว่าคำพูดของเธอทำให้เขาแอบยิ้มในใจ เขาอยากให้เวลานั้นมาถึงจนใจจะขาด แต่ก็ยังมีบางสิ่งที่ชายหนุ่มยังรู้สึกไม่มั่นใจและไม่มั่นคงในตัวเธอ ว่าเธอรู้สึกยังไงกับเขา เขาไม่อยากเป็นคนที่เธอจะกลับมาหาเมื่อไหร่ก็ได้และจะทิ้งไปตอนไหนก็ได้ เขายอมรับว่ายังคงมีความกลัวอยู่
“หึ รอไปเถอะครับ ผมไม่ยอมแต่งกับคุณง่ายๆ หรอก”
“ได้ ฉันรอ”
ก็แค่รอ คิดว่าคนอย่างเจ้าจันทร์จะทำไม่ได้เชียวหรือ
หลายสัปดาห์ผ่านไป
เหมือนจะเป็นเรื่องปกติที่เจ้าจันทร์มาหาเขาที่คอนโดในช่วงเวลาเลิกงาน วันไหนที่ณภัทรไม่มีเข้าเวรเขาก็จะได้เจอเธอเสมอ บางครั้งหญิงสาวก็มาหาเขาก่อนที่เขาจะกลับถึงคอนโด นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ณภัทรยื่นคีย์การ์ดสำรองไว้ให้สาวเจ้า ให้เธอเข้าออกห้องเขาได้ตามใจ นอกจากที่คอนโดเจ้าจันทร์ก็โผล่ไปที่โรงพยาบาลบ่อยเช่นกัน ขนิดที่ว่าคนในแผนกกุมารเวชจำหน้าเธอกันได้เกือบหมด
หลายคนก็ซุบซิบว่าหญิงสาวน่าจะเป็นพวกว่างงานไม่มีอะไรทำตามแต่ผู้ชาย แต่เธอไม่สนใจเพราะมันคือเรื่องจริง หญิงสาวก็ตั้งใจเอาไว้ว่าอาทิตย์หน้าจะไปยื่นใบสมัครงานกับที่หนึ่ง แต่เธอก็ยังอยู่ที่บ้านเจ้าตะวันเช่นเดิมจนโดนพี่ชายแอบบ่นบ้างแล้ว เพราะแบบนั้นเจ้าจันทร์ก็เลยจะสมัครงานแล้วย้ายออกมาเช่าคอนโดอยู่ เธอยังไม่อยากกลับทำงานช่วยที่บ้าน
“นายจะไปไหนน่ะ” เจ้าจันทร์เอ่ยถามชายหนุ่มที่กำลังเปลี่ยนจากชุดทำงานเป็นชุดไปรเวททั่วไป เขาเหมือนกำลังแต่งตัวออกไปที่ไหนสักที
“นัดกับเพื่อนน่ะ ไม่ได้เจอกันนาน” ณภัทรตอบ เมื่อช่วงหลายวันเขาเขาได้รับข้อความจากกลุ่มเพื่อนให้ไปพบเจอกันหลังจากที่ไม่ได้เห็นหน้ามานาน
“กลุ่มเพื่อนสมัยเรียนเหรอ...” เจ้าจันทร์กำลังนึกถึงพวกเพื่อนของเขา
“ครับ ผมอาจจะกลับดึก ถ้าคุณจะค้างคุณก็นอนก่อนได้ครับ”
เอาเข้าจริง ต่อให้ตอนนี้ยังไม่แต่งงาน แต่ณภัทรก็รู้สึกว่าเหมือนกำลังใช้ชีวิตคู่อยู่กินฉันสามีภรรยา เพียงแค่ไม่มีทะเบียนสมรส
“เพื่อนนาย...รวมถึงเธอด้วยหรือเปล่า” เจ้าจันทร์ยังจำได้ หนึ่งในเพื่อนเขามีผู้หญิงคนหนึ่งที่เธอรู้สึกไม่ชอบใจนัก
“มีแค่เพื่อนผู้ชายครับ” ชายหนุ่มรู้ว่าหญิงสาวกำลังคิดอะไรอยู่ เธอคงกำลังนึกถึงพิมพ์มาดาอยู่
ตั้งแต่เหตุการณ์ในวันนั้น ณภัทรก็ไม่ค่อยได้คุยกับพิมพ์มาดาอีกเลย เขาห่างกับเธอไปเรื่อยๆ สาเหตุมาจากอะไรมากมาย ทั้งเรื่องเรียนที่ยุ่ง เพราะหลังจากนั้นเขากับเพื่อนก็ขึ้นปี 6 กัน ต่างก็แยกกันไปฝึกงานตามโรงพยาบาลต่างๆ จึงไม่ค่อยได้เจอหรือคุยกัน หลังเรียนจบก็ยิ่งกระจายตัวแยกย้ายกันเข้าไปใหญ่
“แบบนั้นเหรอ อื้อ..” พอได้ยินแบบนั้นเธอก็สบายใจ
“มานี่ครับ” ร่างสูงก้าวเข้าไปหาคนที่นั่งอยู่บนโซฟาก่อนจะรั้งใบหน้าของหญิงสาวเข้ามาพร้อมกดจมูกลงไปตรงแก้ม “ผมมีคุณคนเดียวนั่นแหละ”
“งั้นก็แต่งงานกัน”
ชายหนุ่มหัวเราะ เขาส่ายหน้าแล้วเดินหนีออกไป ทำให้หญิงสาวต้องถอนหายใจ
เป็นเวลาอยู่อีกประมาณหนึ่งเดือนที่เจ้าจันทร์คอยอยู่ใกล้ชิดกับณภัทร และดูแลเอาใจใส่ ในด้านของณภัทรก็อ่อนลงแล้วมีท่าทีกลับมาห่วงใยเธอเหมือนเดิม แต่ถึงเขาจะเลิกเย็นชา เลิกทำตัวห่างเหินกับเธอแล้ว เจ้าตัวก็ยังคงปฏิเสธการขอแต่งงานของเธออยู่ดี
รอบที่สิบแล้วนะ เล่นตัวเสียจริงคุณหมอ
อัพเดตชีวิตของเจ้าจันทร์ ตอนนี้เธอทำงานในตำแหน่งระดับสูงอยู่ที่บริษัทหนึ่ง เนื่องจากเธอมีประสบการณ์การทำงานจากญี่ปุ่นเป็นทุนเดิม การจะหางานดีๆ สักงานที่นี่จึงไม่ใช่เรื่องยาก แน่นอนว่าตอนนี้เจ้าจันทร์ไม่ได้อยู่ที่บ้านของเจ้าตะวันแล้วเพราะเกรงใจ ถึงเขาจะเป็นพี่ชายแต่เขาก็มีครอบครัวเป็นของตัวเอง หญิงสาวไม่อยากอยู่เป็นส่วนเกินของครอบครัวเขา
ในทีแรกเธอตั้งใจว่าจะเช่าคอนโดอยู่ แต่ว่าสาวเจ้าคิดว่าถึงเช่าไว้ตนก็ไม่ค่อยอยู่ ขนาดตอนที่เธออยู่บ้านพี่ชาย หญิงสาวยังไม่ค่อยใช้เวลาที่บ้านเลย นั่นจึงเป็นเหตุผลให้เจ้าจันทร์ตัดสินใจย้ายมาอยู่ที่คอนโดของณภัทรแทน ไม่เกินสองวันทุกคนที่บ้านก็รู้เรื่องนี้ แต่ใครจะว่าอะไรเธอได้ ตอนนี้เจ้าจันทร์ไม่ใช่เด็กสาววัยกระเต๊าะเสียหน่อย เธอโตพอที่จะตัดสินใจอะไรๆ เองแล้ว
ในวันนี้เป็นอีกวันที่ดูปกติ คุณหมอของเธอออกไปทำงานตั้งแต่เช้า ส่วนตัวเธอโทรไปลางานหนึ่งวันเพราะมีวี่แววจะป่วย ไม่สามารถไปได้
“อุก”
ตั้งแต่ตื่น นี่เป็นครั้งที่สามแล้วที่เจ้าจันทร์คลื่นไส้อาเจียน เธออาเจียนมันออกมาจากแทบไม่มีอะไรเหลือในท้องแล้ว แถมเธอก็ยังกินอะไรไม่ค่อยได้ จะกินอะไรก็อยากอาเจียนไปทุกอย่าง
เป็นอยู่แบบนั้นตั้งแต่เช้ายันเย็น
หมอหนุ่มที่เพิ่งกลับมาถึงคอนโดพอได้เห็นใบหน้าซีดเซียวของหญิงสาวจึงตกใจไม่น้อย เขารีบเข้าไปหาร่างเล็กที่นั่งอยู่หน้าทีวีพร้อมใช้หลังมือแตะหน้าผากเพื่อวัดไข้แบบคร่าวๆ
“ตัวไม่ได้ร้อนนี่ครับ ทำไมหน้าซีดขนาดนี้”
“ไม่รู้” เธอเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าควรทำอย่างไร
“กินข้าวหรือยัง”
เจ้าของร่างเล็กส่ายหน้าแทนคำตอบ
“เดี๋ยวผมต้มข้าวให้นะครับ”
พูดจบร่างสูงก็เดินหายเข้าไปในครัว อีกยี่สิบนาทีต่อมาจึงออกมาพร้อมกับชามข้าวต้มร้อนๆ ณภัทรวางชามข้าวต้มลงบนโต๊ะจากนั้นจึงทรุดตัวนั่งลงด้านข้างเจ้าจันทร์ เขาใช้ช้อนตักข้าวขึ้นมาก่อนจะเป่าให้หายร้อนแล้วนำไปป้อนให้ผู้ป่วย
โชคดีที่อีกฝ่ายยอมกินแต่โดยดี หลังจากที่ได้ทานข้าวต้มเข้าไปสีหน้าของหญิงสาวก็เริ่มดีขึ้นบ้างเล็กน้อย
เจ้าจันทร์ทิ้งร่างทั้งร่างลงไปนอนบนโซฟาโดยส่วนหัวก็หนุนตักของณภัทรไว้ หญิงสาวนอนตะแครงหันหน้าเข้าหาเข้าพลางใช้ใบหน้าซุกที่หน้าท้องของเขา
“ฉันอยากมีนายอยู่แบบนี้ทุกวัน”
คูมหมอเริ่มใจอ่อนแล้วใช่มั้ยคะ //ยิ้มกริ่ม
อีบุคยังซื้อได้ใน meb นะคะ ไปอ่านเต็มๆ กันได้
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ถ้าขอแล้วยังไม่ยอมแต่ง ก็พอเถอะ รอผู้ชายพร้อมให้มาขอเราเอง กำหนดไว้เลยกี่เดือนกี่ปีที่รอไหว ถ้ายังไม่ขอ ก็อยู่ไปแบบนี้ ถ้ารับไม่ได้ก็bye