ตอนที่ 26 : MY ONLY 1 | 10 : คุณหมอและคนป่วย [3]
สุ่มแจกอีบุคจากคอมเม้นท์ค่ะ
“อะ ถ้างั้นลองชิมอันนี้บ้างครับ” มือหนาของอีกคนเข้าไปตักผัดผักที่อยู่อีกจานขึ้นมาบ้างก่อนจะนำไปจ่อที่ปากของเธอ
“ชิมทำไม ก็ตักมากินเลยไม่ได้หรือไง”
“ผมอยากป้อนไง” คำตอบที่ตรงไปตรงมาทำให้เจ้าจันทร์มองใบหน้านั่นเขม็ง
“ไม่เอาพอแล้ว นายไม่รีบออกไปเรียนหรือไง” เจ้าจันทร์เปลี่ยนเรื่อง เธอมองเห็นว่าร่างสูงอยู่ในชุดนักศึกษาไว้รอแล้วก็เลยถามไปเช่นนั้น
“ค่อยไปก็ได้ผมไม่รีบหรอก” เขาตอบ
“ถ้าสายฉันจะสมน้ำหน้าอีกรอบ”
“วันพรุ่งนี้แม่ก็จะกลับแล้ว ผมเหลืออีกแค่วันเดียวที่จะได้อยู่กับคุณก็ต้องใช้ให้คุ้มสิ”
“จะใช้อะไรให้คุ้ม อย่าแม้แต่จะคิดนะ” เจ้าจันทร์รีบยกแขนขึ้นมากอดตัวเองเอาไว้พลางเขยิบออกห่างจากเจ้าของร่างสูง
“คุณรู้เหรอว่าผมคิดอะไรอยู่” ณภัทรนึกเอ็นดูกับท่าทีแบบนั้นในใจ ชายหนุ่มตัดสินใจเขยิบตัวเข้าไปใกล้ชิดร่างเล็กให้มากกว่าเดิมจนทำเอาเธอต้องก้มหน้างุดมองพื้น
“ทุกอย่างที่เป็นนายไม่ใช่เรื่องดีสำหรับฉันหรอก”
“คุณจะเปิดใจให้ผมบ้างไม่ได้เหรอ ผมชอบคุณมากจริงๆ นะ”
หญิงสาวอ้ำอึ้งและพูดไม่ออกเมื่อจู่ๆ ก็ได้รับคำถามเช่นนั้น เธอไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นไปสบตากับคนที่ยืนอยู่ตรงหน้านี้ด้วยซ้ำ แต่นั่นคือก่อนที่มือข้างขวาของเธอจะถูกอีกฝ่ายเข้ามาคว้าเอาไปแล้วนำไปวางทาบไว้กับหน้าอกด้านซ้ายของเขา
“ทำอะไร”
“ให้คุณได้รู้ไง ว่าตอนผมอยู่กับคุณ ใจผมเต้นแรงขนาดไหน”
เจ้าจันทร์ไม่รู้จะพูดตอบอะไรเขาทั้งนั้น มือข้างนั้นก็ยังคงทาบอยู่ที่เดิมแถมเธอยังสัมผัสได้ถึงก้อนเนื้อที่กำลังเต้นอยู่ด้านในนั้นด้วย เธอได้มองใบหน้าของณภัทรอยู่อย่างนั้นจนเวลาผ่านไปเกือบนาทีได้ การเต้นของหัวใจนั้นเริ่มเร็วมากขึ้น แต่ว่า..ไม่ใช่หัวใจของเขา
เป็นหัวใจของเจ้าจันทร์เองต่างหากที่เริ่มไม่ปกติ
ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่เธอรู้สึกกับณภัทรแบบนี้...ไม่ใช่สิ ต้องพูดให้ถูกว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เธอกลับมารู้สึกแบบนี้อีกครั้งทั้งที่เลิกมันไปได้ตั้งนานแล้ว
หรือว่าบางทีเธออาจจะไม่เคยเลิกรู้สึกเลยก็ได้ เพียงแค่เก็บมันไว้ลึกมากที่สุด
“พอได้แล้ว” หญิงสาวดึงมือของตนเองออกมาจากชายตรงหน้าแล้วก็รีบเดินเข้ายังชั้นวางจานเพื่อจะหยิบมันมาตักข้าว “นายไม่รีบแต่ฉันรีบนะ”
เจ้าจันทร์เดินไปนั่งที่โต๊ะรับประทานอาหารแต่ก่อนที่เธอจะได้ทานข้าวเจ้าตัวก็มองณภัทรที่ยังยืนอยู่ที่เดิมด้วยความแปลกใจ
“แล้วนายไม่กินด้วยกันเหรอ”
“รู้สึกดีเลยนะเนี่ย คุณชวนผมกินข้าวด้วย” เขายิ้มให้เธอเป็นรอบที่เท่าไหร่ของวันนี้แล้วนะ
“สรุปว่าไม่กิน”
“ไม่หละครับ ผมกินแล้ว”
ก็ไหนบอกไม่รีบ แล้วรีบกินไปทำไม
ถึงแม้ว่าเจ้าจันทร์จะสงสัยแต่เธอไม่ได้เอ่ยถามอะไรอีก ร่างเล็กก้มหน้าลงไปแล้ววุ่นวายกับธุระของตัวเองต่อ แต่ทันใดนั้นเรื่องไม่ทันคาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อณภัทรเดินเข้ามาหยุดอยู่ที่ข้างโต๊ะทานข้าวพร้อมกับใช้มือค้ำลงบนพื้นโต๊ะบริเวณที่ใกล้ชิดกับหญิงสาว
ร่างที่นั่งอยู่จึงตกใจเล็กน้อยแล้วรีบเงยหน้าขึ้นไปมองอีกฝ่ายทันที
“ทำอะไรของนายอีกเนี่ย” วอแวเก่งเสียจริง
“ที่ผมถาม คุณยังไม่ตอบเลยนะ”
“ถามอะไร” เธอทำเฉไฉไม่รู้เรื่อง
“ก็ผมอยากให้คุณเปิดใจให้ผม”
แล้วนั่นก็ทำให้เธอเกิดอ้ำอึ้งขึ้นมาอีกครั้ง เจ้าจันทร์ยังคงสับสนกับตัวเองไม่น้อยว่าควรจะให้คำตอบเขาอย่างไรดี ในเมื่อเธอเองก็อคติกับณภัทรมาโดยตลอด แล้วตั้งใจเอาไว้ด้วยว่าจะเกลียดต่อไปเรื่อยๆ พยายามมองหาข้อเสียและจับผิดเขาแทบทุกครั้งที่มีโอกาส การที่ณภัทรคอยทำดีกับเธอนั่นคือสิ่งรบกวนใจของเจ้าจันทร์มาโดยตลอด
เธอไม่อยากจะยอมรับมันนัก แต่ว่าตอนนี้ความเกลียดในใจของหญิงสาวกำลังจะต้านความรู้สึกบางอย่างไม่ไหว
“ฉันจะพยายามก็แล้วกันนะ” เจ้าจันทร์ตอบคำถามนั้นอย่างครึ่งๆ กลางๆ เธอไม่ได้รับปากแต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ
“แค่นั้นผมก็ดีใจแล้วครับ” แม้ว่าณภัทรจะได้รับคำตอบแล้วแต่เขาก็ยังไม่ยอมผละกายออกไปสักที ตรงกันข้ามเจ้าตัวกลับโน้มใบหน้าลงมาหาเธอมากกว่าเดิมอีกด้วย “ผมขอจูบได้ไหม”
“อ..อะไรนะ” คราวนี้คำถามของเขาทำเอาเจ้าของร่างเล็กเริ่มนั่งไม่อยู่กับที่ แต่จะลุกออกไปไหนก็ไม่ได้เพราะมือทั้งสองข้างของอีกคนล้อมหน้าล้อมหลังเธอไว้อยู่ ข้างหนึ่งค้ำที่พื้นโต๊ะ อีกข้างก็อ้อมมาจับพนักเก้าอี้ที่เธอนั่งแบบนี้จะไปไหนได้
“จูบไงครับ”
“จะบ้าเหรอ ไม่เอา”
“งั้นผมขอที่แก้มก็ได้” ชายหนุ่มไม่ลดละความพยายาม
จะต่อรองเก่งอะไรขนาดนั้น
“จะอยากได้ไปทำไ-- อ๊ะ! ณภัทร!” ยังไม่ทันจะได้พูดจนจบประโยค แก้มนิ่มด้านซ้ายของเจ้าจันทร์ก็โดนคนมาฉกหอมไปหนึ่งฟอด ทำให้คนที่เพิ่งโดนกินเต้าหู้* ไปยกมือขึ้นไปฟาดที่แขนของร่างสูงนั่นอย่างแรง แต่ก็ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกเจ็บแต่อย่างไร
(*กินเต้าหู้ มาจากสำนวนจีน แปลว่า แต๊ะอั๋ง)
เจ้าจันทร์ในสายตาของณภัทรก็เหมือนกระต่ายตัวน้อยที่ชอบทำขู่ใส่เขาตลอดเวลา แต่เพราะความน่ารักที่มีมากกว่าความน่ากลัวจึงไม่เคยทำให้เขารู้สึกหวั่นเลยแม้แต่นิด อีกทั้งกระต่ายของเขาก็ยังตัวนุ่มนิ่มมากอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นส่วนไหนก็นุ่มนิ่มไปหมด โดยเฉพาะแก้มทั้งสองข้างนั้น เสียดายที่ไม่ทันได้อีกข้างก็โดนข่วนใส่เสียก่อน
“ผมไปก่อนนะครับ เดี๋ยวตอนเย็นผมกลับมา คุณอยากกินอะไรหรือเปล่าผมซื้อมาให้”
“ไม่ต้องหรอก เอาตัวเองให้รอดเถอะ” ถึงแม้ว่าเธอจะพยายามเปิดใจให้เขาแล้วแต่ยังอดหมั่นไส้รอยยิ้มนั่นไม่ได้สักที มันอะไรกันนัก
“วันนี้ผมมีกำลังใจขึ้นเยอะเลย ต้องขอทุกวันแล้วหละ”
“ไปไหนก็ไปเลยนะ”
Castle-G's Talk
เผื่อมีคนไม่เข้าใจคำว่า *กินเต้าหู้ พอดีจีได้มาจากสำนวนจีนแล้วชอบมาก
มันแปลว่าแต๊ะอั๋ง นั่นเอง ;-; สำหรับบทนี้คือน่ารัก น่ารักจนใจเจ็บไปหมดแล้วค่ะ
มาหวีดติดแท็ก #ณเจ้าจันทร์
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

อยากมีณภัทรเป็นของตัวเองจริมๆ