ตอนที่ 19 : MY ONLY 1 | 08 : ตกเป็นของคุณ [1]
สุ่มแจกอีบุคจากคอมเม้นท์นะคะ
08 : Belong to you
Nicha ส่งข้อความถึงคุณ
‘เจอกันตอนสองทุ่มนะแก’
เจ้าจันทร์เปิดอ่านข้อความนั้นหลังจากที่เธอเพิ่งรื้อเสื้อผ้าในตู้ออกมาดูว่าจะใส่ชุดไหนไปงานเลี้ยงรวมรุ่นคืนนี้ ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้เป็นงานพิเศษอะไรมากนักแต่ออกไปเจอเพื่อนทั้งทีก็อยากทำตัวให้มันดูดีเสียหน่อย ในขณะเดียวกันมือเล็กก็กดแป้นพิมพ์ตอบเพื่อนสาว
JJan : นี่ช่วยเลือกให้หน่อยสิว่าใส่ตัวไหนดี
พอส่งข้อความได้เธอก็กดส่งรูปเสื้อผ้าที่หยิบออกมาถ่ายให้กับเพื่อน
Nicha : ว้าย ตัวสีแดงก็เริ่ดนะแก มันเยี่ยวมาก โตแล้วใส่อะไรที่มันเซ็กซี่หน่อย
JJan : โห ถ้าแบบนั้นแกก็ต้องใส่แบบนี้เป็นเพื่อนฉัน
Nicha : อะแน่นอน นี่แต่งตัวเสร็จแล้ว เกียมไปโชว์ให้ดู
พอเป็นเช่นนั้นหญิงสาวก็หยิบเสื้อผ้าทุกตัวเก็บเข้าตู้ตามเดิมเหลือไว้เพียงแค่ชุดเดรสสีแดงที่เพื่อนสามแนะนำให้ใส่ เธอซื้อมาไว้นานแล้วแต่ไม่มีโอกาสได้ใส่สักที พอนำมันมาลองสวมแล้วยืนมองหน้ากระจกก็ให้ความรู้สึกที่แปลกตาไปอีกแบบ เดรสสีสดรัดรูปทำให้เห็นส่วนเว้าส่วนโค้งของร่างกายเธอชัดเจน เจ้าจันทร์ไม่ค่อยได้แต่งกายเช่นนั้นมากนักเพราะหน้าตาที่ค่อนไปทางน่ารักของเจ้าตัวทำให้ไม่เข้ากันเท่าไหร่ แต่ไม่ได้แย่เพราะมีหุ่นที่ดีซึ่งได้รับการถ่ายทอดทางพันธุกรรมจากผู้เป็นแม่เต็มๆ
เธอเอื้อมมือไปหยิบเสื้อคลุมตัวหนึ่งมาสวมใส่ทับเอาไว้เนื่องจากเป็นเสื้อสายเดี่ยวแถมยังแอบเห็นเนื้อหนังอีกด้วย ให้ใส่แบบนี้ไปเลยตั้งแต่ออกจากบ้านก็ยังไงอยู่ ไว้ค่อยถอดตอนถึงงานก็ได้ หลังจากที่แต่งหน้าแต่งตัวจนเสร็จสาวเจ้าก็มองดูนาฬิกาแล้วพบว่าตอนนี้หกโมงเย็นแล้ว เธอควรจะออกจากบ้านตั้งแต่ตอนนี้จะได้ไปถึงที่งานอย่างทันเวลา
เจ้าจันทร์หยิบกระเป๋าสะพายขึ้นมาพลางเปิดประตูเดินออกไปจากห้อง ซึ่งเมื่อลงมาถึงชั้นล่างหญิงสาวก็พบกับณภัทรที่กำลังนั่งอ่านหนังสือยู่ตรงโซฟา ซึ่งเขาเองก็เงยหน้าขึ้นมาสบตากับเธอเล็กน้อย
“ผมจะออกไปข้างนอก คืนนี้ผมอาจจะกลับดึก” ณภัทรเป็นฝ่ายพูดกับหญิงสาวก่อน เมื่อเช้านี้เขาเพิ่งได้รับสารมาว่าวันนี้เป็นวันเกิดของไม้หนึ่งเพื่อนในกลุ่มของเขา แล้วมันก็บังคับให้ออกไปฉลองด้วยกันเพราะตรงกับช่วงที่ว่างพอดี โอกาสแบบนี้หาได้ยาก
“อืม”
เธอทำแค่ขานรับเหมือนไม่ได้ใส่ใจอะไร เจ้าจันทร์เองก็คงกลับดึกเช่นเดียวกัน แต่เห็นแล้วก็แอบหมั่นไส้กับความเย็นชานั้นของอีกฝ่ายไม่ได้ ถึงแม้มันจะดีที่เขาไม่ถามเธอว่าเธอจะออกไปไหนก็เถอะจะได้ไม่มีคนมาจุ้นจานมากนัก
นี่ก็ผ่านมาหนึ่งวันแล้วที่คุณป้าไม่อยู่บ้าน ทำให้เธอต้องอยู่กับเขาแค่สองคน ช่างเป็นบ้านที่น่าอึดอัดเสียจริง
ณChilly Bar Restaurant
เจ้าจันทร์เดินมาถึงสถานที่นัดหมายซึ่งที่นี่เป็นร้านอาหารกึ่งผับ ได้ข่าวว่าประธานรุ่นสนิทกับเจ้าของร้านมากจึงได้ดีลเหมาโซนวีไอพีของร้านนี้ได้ให้มีแต่พวกเรามากินเลี้ยงฉลองด้วยกัน ด้านมุมหนึ่งของร้านเองก็มีดนตรีสดมาเล่นให้ฟังระหว่างที่เพลิดเพลินไปกับการกินเลี้ยง
“จันทร์” นิชาโบกมือเรียกเธอมาแต่ไกล ด้านข้างนั้นมีที่นั่งว่างอยู่ที่หนึ่งรอให้หญิงสาวเดินเข้าไปนั่ง
“มานานยังอะ” เธอเอ่ยถามผู้เป็นเพื่อนหลังจากที่นั่งลงแล้วเรียบร้อยและได้มองนิชาอย่างชัดเจน เพื่อนสาวอยู่ในชุดเกาะอกสีครีมมีเชือกผูกกันอยู่ด้านหลังส่วนล่างเป็นแบบจับกลีบแต่ก็ไม่ได้ยาวมากคลุมต้นขาเพียงน้อยนิด
“สักพักแหละก่อนแกไม่นาน แล้วนี่จะใส่เสื้อคลุมทำไม ถอดออก”
“เอ่อ แอบเขินอะ ขอใส่แบบนี้ไปก่อนแล้วกัน” เธอกระชับเสื้อของตัวเองเอาไว้แน่น “ในนี้เปิดแอร์เย็นด้วย ฉันหนาวนะ”
“ย่ะ ฉันจะจับแกถอดให้ได้เลยคอยดู” พอได้บอกความมุ่งมั่นของตนเองออกมาแล้วนิชาก็ทำหน้าเหมือนเพิ่งนึกอะไรบางอย่างออก “เออ ฉันขอโลเคชั่นที่พักแกหน่อยสิ”
“หืม เอาไปทำไมอะ
“เถอะน่า ส่งมาเถอะในแชทก็แล้วกัน”
ถึงแม้จะไม่ค่อยเข้าใจแต่เจ้าจันทร์ก็หยิบมือถือขึ้นมากดเลือกโลเคชั่นบ้านที่เธออาศัยอยู่ตอนนี้ใน map ก่อนจะแชร์ไปให้ผู้เป็นเพื่อน
“เรียบร้อย ทีนี้ก็ไปปาร์ตี้กันเถอะมายเฟรนด์” หญิงสาวในชุดเกาะอกสีครีมพูดจบก็ลุกขึ้นยืนโดยลากตัวหญิงสาวอีกคนที่อยู่ในเดรสแดงให้ไปตาม
บริเวณด้านหน้าเวทีตอนนี้เป็นดีเจซึ่งกำลังมิกซ์เพลง EDM เพิ่มความสนุกสนานให้กับร้าน เพื่อนหลายคนก็ชวนกันไปเต้นด้วยกัน เจ้าจันทร์ถือโอกาสนี้เข้าไปทักทายและพูดคุยกับบุคคลที่ไม่ได้เจอกันมานาน ทั้งหมดล้วนแต่เป็นคนที่เธอรู้จัก
แต่คนที่ไม่ค่อยรู้จักก็มีบ้าง อย่างเช่น
“นี่เจ้าจันทร์ใช่ป้ะครับ” ผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาทักทายเธอด้วยรอยยิ้มเป็นมิตร เขาดูหน้าตาคุ้นเคยแต่เธอดันจำชื่อไม่ได้
“ค่ะ”
“เราอั๋นนะ ที่เคยเข้าค่ายรับน้องกลุ่มเดียวกัน พอจำได้ไหม”
เมื่อได้ฟังอย่างนั้นร่างเล็กก็หยุดคิดไปพักหนึ่ง ความทรงจำในตอนนั้นมันช่างเลือนราง แต่หญิงสาวก็กลัวเพื่อนจะเสียใจจึงพยักหน้าเล็กน้อย
“อืม จำได้สิ”
“ดีจังที่ได้เจอกันอีก” อั๋นส่งยิ้มให้กับเธอก่อนจะยื่นแก้วเครื่องดื่มในมือมาให้ แต่ทว่าคนที่มาหยิบไปดันเป็นนิชาที่ยืนอยู่ไม่ไกล
“โห อะไรเนี่ย”
“เป็นน้ำผลไม้สูตรของร้านน่ะ” เขาตอบ
“น้ำผลไม้อะไรยะ ฉันได้กลิ่นแอลกอฮอล์ในแก้ว” นิชาพูดหลังจากที่เธอยกแก้วขึ้นมาสูดกลิ่นมัน เพียงแป๊บเดียวก็รู้ได้เลยว่าไม่ใช่ผลไม้ทั้งหมด
“อืม ก็มีบ้างนั่นแหละ ที่ร้านกึ่งผับนะ” อั๋นหัวเราะก่อนจะชี้นิ้วไปยังทางหนึ่ง “เธอลองดูสิ หรือถ้าไม่ไว้ใจเรา เธอไปหยิบใหม่ที่เคาน์เตอร์ด้านนู้นก็ได้ ฟรีทุกแก้ว”
“เอาหรือเปล่า เดี๋ยวฉันไปหยิบมาให้” นิชาถามเพื่อนสาว
“แต่ว่ามันมีแอลกอฮอล์” เจ้าจันทร์ตั้งใจว่าวันนี้จะเลี่ยงไม่แตะมันแล้วกินดื่มแต่อะไรที่มันไร้สารมึนเมา เธอกลัวว่าตัวเองจะกลับไม่ได้
“น้ำผลไม้ผสมเหล้านิดๆ หน่อยๆ มันไม่แรงจนทำให้เมาขนาดนั้นหรอก”
“อ่า ก็ได้” ไหนๆ ก็อุตส่าห์มาถึงที่นี่แล้ว
ไอ้คำว่าคงไม่เมาของนิชาน่ะคือเรื่องโกหกทั้งนั้น เพราะความจริงแล้วเจ้าจันทร์เป็นมนุษย์ที่คออ่อนที่สุดไปเลย แม้ว่าเธอจะออกงานสังคมกับพ่อแม่มาตั้งแต่เด็กแต่ว่าเจ้าตัวก็ไม่ค่อยได้ดื่มสักเท่าไหร่
พอกินเข้าไปมันก็เริ่มมึนงงเล็กน้อย ถึงจะเป็นเช่นนั้นแต่หญิงสาวก็ยังคงอยู่กับเพื่อนต่อจนงานเลี้ยงเลิกรา นิชาที่เห็นสภาพของเพื่อนแล้วก็ไม่กล้าปล่อยให้กลับเอง โชคดีที่เจ้าจันทร์ไม่ได้เมาหนักถึงขั้นไร้สติอะไรยังพอพูดคุยได้ แต่ถึงอย่างนั้นเธอเลยขอที่อยู่กับเพื่อนเอาไว้เผื่อได้ใช้จริง
“พอดีฉันรู้มาว่าทางกลับของฉัน แก แล้วก็อั๋นไปทางเดียวกันเลย อั๋นมีรถน่ะ แล้วเขาก็ยอมให้เรานั่งกลับด้าน บ้านฉันกับแกเป็นทางผ่านพอดี ฉันไม่อยากให้แกกลับเองอะ”
“จะดีเหรอ ฉันไม่ได้เมานะ ยังมีสติดี” หญิงสาวรู้สึกเกรงใจเพื่อนผู้ชายคนนั้น เพราะทั้งคู่ไม่ได้สนิทกันมากนัก
“ดีสิ นี่ไงอั๋นมาพอดีเลย”
“ไง ไปกันเถอะ รถเราจอดหน้าร้านน่ะ” เพื่อนหนุ่มพูดพลางชูกุญแจรถในมือ “ไม่ต้องเกรงใจนะ บ้านของพวกเอทางผ่านเราอยู่แล้ว แวะนิดหน่อยก็ไม่เสียเวลามากนักหรอก”
สุดท้ายแล้วเธอก็ขึ้นรถมากับเขา โดยที่เจ้าจันทร์นั่งเบาะข้างคนขับส่วนนิชานั่งเบาะหลังโดยที่ถือเสื้อของเจ้าจันทร์เอาไว้ เป็นเพราะว่าระหว่างในงานเลี้ยงนิชาทำน้ำหกใส่ชุดของตนเองขึ้นมา แถมชุดเธอก็สีอ่อนจนอาจทำให้เห็นด้านใน เจ้าจันทร์จึงต้องยอมถอดเสื้อคลุมของตนเองไปให้เธอสวมแทน
เนื่องจากว่าบ้านนิชาจะถึงก่อนบ้านของเจ้าจันทร์ นิชาจึงเป็นคนแรกที่จะได้ลงจากรถ
“จอดตรงนี้แหละ ขอบคุณมากน้า” เพื่อนสาวเปิดประตูลงจากรถเมื่ออั๋นมาจอดหน้าบ้านของเธอ “ไปส่งเจ้าจันทร์ต่อด้วยล่ะ ส่วนเสื้อของแกไว้ฉันจะซักแล้วเอามาคืนให้แล้วกัน”
“อื้ม” เจ้าของเสื้อคลุมพยักหน้ารับ
หลังจากที่นิชาลงไปก็เหลือเพียงอั๋นกับเจ้าจันทร์เท่านั้นที่อยู่บนรถ ทุกอย่างดำเนินต่อไปอย่างปกติดีไม่มีอะไรผิดพลาด เพื่อนหนุ่มขับรถมาตามทางที่หญิงสาวบอกเป็นระยะๆ ก่อนที่เขาจะได้ส่งเธอที่หน้าบ้านอย่างที่รับปากเอาไว้
คราวนี้ก็เป็นฝ่ายเจ้าจันทร์บ้างที่จะได้ขึ้นห้องไปพักผ่อนเสียที เธอใช้พลังงานไปเยอะกับการพบปะผู้คน แต่หลังจากที่หญิงสาวเดินลงจากรถมาแล้ว อั๋นก็วิ่งออกจากรถตามมาติดๆ ราวกับลืมไปว่ามีเรื่องจะคุยด้วย
“เดี๋ยวจันทร์”
“หืม?”
“เราขอไลน์ของเธอเอาไว้ได้ไหม” อั๋นเอ่ยขอพร้อมกับหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกงและยื่นมันมาอยู่ตรงหน้าเธอ
“อ่า ก็ได้” เจ้าจันทร์ไม่ได้ติดขัดอะไรเพราะถือว่าเป็นเพื่อนคนหนึ่ง หญิงเอื้อมมือไปรับโทรศัพท์ของอีกฝ่ายมากดพิมพ์ไอดีไลน์ตนเองก่อนจะส่งคืนให้เจ้าของทันทีเมื่อเสร็จ
“Good night นะครับ”
“เช่นกัน ขอบคุณมากนะ”
ร่างเล็กพูดจบก็หยิบกุญแจพวงหนึ่งขึ้นมาแล้วไขประตูรั้วเพื่อเดินเข้าบ้านไป เพื่อนหนุ่มมองตามอยู่ครู่หนึ่งก็กลับเข้ารถก่อนจะขับออกไป
เจ้าจันทร์คิดว่าเวลานี้คนในบ้านก็คงนอนหลับไปแล้ว เธอจึงพยายามที่จะทำทุกอย่างให้มันเบามากที่สุดแต่ทว่ามันกลับไม่ใช่อย่างที่เธอคิด เพราะเมื่อเดินเข้ามายังห้องโถงชั้นล่างแล้วเธอก็ได้พบกับเจ้าของร่างสูงที่ยืนกอดอดรอด้วยใบหน้าไม่สบอารมณ์มากนัก
“ฉันนึกว่านายนอนแล้ว” เธอประหลาดใจเล็กน้อย
“คุณไปไหนมา ทำไมถึงกลับดึกจนป่านนี้ แล้วคนที่มาส่งเมื่อกี๊เป็นใคร"
Castle-G's Talk
จะเก้วกาดแล้วนะ นั่นแน่ สุดท้ายแล้วก็ทำใจเลิกสนใจเขาได้ไม่นาน
ป.ล. เราใกล้จะหลุดจากพาร์ทย้อนอดีตแน้วน้า กำลังวนเข้าสู่บทนำ
มาหวีดติดแท็ก #ณเจ้าจันทร์
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

นะแกล้งทำเป็นไม่สนใจไม่ได้แล้ว แถมยังหึงอีกด้วย ฮ่า ๆๆๆ
เจิมจ้าาาาาา
เจิมมม