ตอนที่ 17 : SEARCHMEL | 10 : แพ้สายตา [100%]
“มาหาเธอ”
“ฮะ? มาหาฉัน” ฉันชี้นิ้วเข้าหาตัวเองอย่างไม่เข้าใจนัก
“อ๋อ คือมาซื้อของให้แมวด้วยน่ะ แต่ว่าเพิ่งนึกได้ว่ามีอยู่แล้ว” เซิร์ชดูมีท่าทีสับสนอยู่สักพักจากนั้นเขาก็เปลี่ยนเรื่อง “คือว่าได้รับโทรศัพท์จากบริษัทเซจีหรือยัง”
“ได้แล้ว เมื่อเช้านี้เลยฉันชนะด้วยนะ”
“อือ ยินดีด้วย” ถ้าไม่นับยัยจับฉ่ายที่โดนปลุกเพราะเสียงกรี๊ดของฉันแล้วกลับไปหลับต่อ เขาก็เป็นบุคคลแรกที่มาแสดงความยินดีฉันเรื่องนี้เลย
“ขอบคุณนะ”
“เราคงได้เจอกันในโปรเจ็คตัวล่าสุด”
“ยังไงคะ”
“พอดีฉันจะเข้าไปทำงานในเซจีน่ะ แล้วก็คงอยู่ในทีมของโปรเจ็คเกมตัวล่าสุดที่ทางบอจะทำ” เขาอธิบายต่อจากประโยคคำถามของฉัน
“แบบนี้นี่เอง เราจะเป็นเพื่อนร่วมงานกันใช่ไหม” หลังจากนี้ฉันคงได้เจอเขาบ่อยมากขึ้นสินะ แล้วนอกจากเซิร์ชแล้วฉันก็อาจจะได้รู้จักกับคนมากมายในการหาประสบการณ์ครั้งนี้อีกด้วย
“อืม”
“ถ้างั้นต่อไปนี้ฉันเรียกคุณว่าพี่ก็แล้วกันเนอะ ยินดีที่ได้ร่วมงานกันนะคะ” ฉันพูดพร้อมกับยิ้มกว้าง ในเมื่อเราจะทำงานร่วมกันขั้นแรกก็ต้องทำให้รุ่นพี่รู้สึกเอ็นดูเอาไว้ก่อน
อยู่ๆ อีกฝ่ายก็หันหน้าหนีไปอีกทางเหมือนไม่ได้สนใจในสิ่งที่ฉันพูดเมื่อกี๊สักนิด แต่เชื่อเถอะว่าเขาก็ต้องฟังอยู่แหละ
“เรียกเฉยๆ พอ ไม่ต้องทำสายตาแบบนั้น”
“แบบไหน” ฉันคิดว่าทำแบบนี้แล้วคนจะชอบซะอีก
“เหมือนแมวที่บ้านเวลาหิวข้าว”
“แล้วมันดีหรือไม่ดี” ว่าแต่แมวที่บ้านเวลาของเขามันเป็นยังไง มันน่ารักหรือน่าเกลียดเนี่ย
“ไม่ดี” เซิร์ชตอบกลับมาโดยทันที คำตอบนั้นทำเอาฉันใจแป้วไปชั่วขณะ นึกว่าจะได้รับคำตอบประมาณว่าฉันน่ารักเหมือนแมวอะไรแบบนั้นซะอีก
“สรุป ไม่ได้มาซื้ออะไรใช่ไหม”
“ลืมแล้วว่าจะซื้ออะไร” เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อฉันถามไปเช่นนั้น
“ให้ช่วยคิดไหมคะ” ฉันสวมบทการเป็นผู้ขายที่ดีจากนั้นจึงเริ่มไล่ไปทีละอย่างเท่าที่นึกออก “อาหารเม็ด? ทูน่ากระป๋อง? ขนม? กระบะทราย? ของเล่น?”
“...” เซิร์ชยังคงนิ่งเงียบ
“โห ไม่ถูกสักอย่างเลยเหรอ” ฉันท้อแล้วเนี่ย เขาอยากได้อะไรที่ในร้านไม่มีหรือเปล่า
“ที่เธอพูดมาฉันมีอยู่แล้ว”
“แล้วสรุปต้องการอะไรไปให้แมวคะคุณลูกค้า” ถ้าไม่ติดว่าเป็นลูกค้าละก็ต้องมีหงุดหงิดใส่กันสักยกแล้วหละ มาทำหน้านิ่งอยู่หน้าเคาน์เตอร์ร้านไม่ยอมซื้ออะไรเนี่ย
“แม่”
“?”
“พอดี อยากหาแม่ไปให้ปิกาจู” อีกฝ่ายว่าพลางยกมือขึ้นไปสางผมสีบลอนด์นั่นเบาๆ ท่าทางเหมือนคนกำลังเกิดอาการประหม่าอยู่
“คุณ..ไม่สิ พี่ต้องไปถามคนที่เขาขายแมวให้แล้วหละ”
“โอเค เอางี้ก็ได้” เขาพยักหน้าเบาๆ จากนั้นก็หมุนตัวเดินออกจากร้านไปซึ่งก่อนจะกลับเขาก็หันหน้ามาบอกฉันหนึ่งประโยค “ไว้ถ้าจำได้จะกลับมาใหม่นะ”
...
“ไม่รู้จริงดิ” พี่ปั้นหยาที่โผล่มาตอนไหนก็ไม่รู้ทำเอาฉันสะดุ้ง พี่แกเล่นมาพูดอยู่ข้างหูเลยจะไม่ให้ตกใจได้ไงกัน
“ไม่รู้อะไรคะ” ฉันหรี่ตามองพี่เธอ
“คนที่เป็นพ่อแมวก็คือพี่เซิร์ชเขา แล้วเขาบอกว่าอยากได้แม่ให้แมวนั่นน่ะ แม่ก็คือแฟนของพ่อไง” คำพูดนั้นทำเอาฉันหัวเราะเล็กน้อย
“พี่สนใจไปเป็นแม่ให้เขาไหมคะ”
“ไอ้บ้า ถ้าเขาจะให้พี่เป็นเขาก็ต้องมาถามพี่สิยะไม่ใช่มาถามหล่อน ซื่อจริงหรือแกล้งไม่รู้วะ” เธอขมวดคิ้วใส่หลังจากที่เอามะเหงกมาโขกลงกลางหัวฉันทีนึง
ก็ถ้าจะให้ตอบตรงๆ ว่าก็พอรู้อยู่บ้างแต่ทำเมินมันจะดูใจร้ายไปหรือเปล่านะ
“เมล์คิดว่าตัวเองยังไม่พร้อมมีใครตอนนี้หรอก” เพราะมันยังมีความรู้สึกเหนื่อยล้าจากรักครั้งก่อนอยู่จึงยากที่จะเปิดใจให้ใครอีก ฉันอยากได้เวลาให้ตัวเองได้อยู่แบบนี้ไปอีกสักพักให้เวลาค่อยๆ เยียวยาจนมันดีที่สุดดีพร้อมที่จะรักใครอีก
“พี่เซิร์ชเขาเป็นคนน่ารักนะ หน้าตาก็ดี เก่ง ฐานะก็ไม่ได้กาก พี่ยังคอยเต๊าะเขาทุกครั้งที่ได้โอกาสเลย” ประโยคหลังนี่มันยังไงกัน
“รู้ค่ะว่าเขาน่ารัก” ถึงจะชอบบ่นก็เถอะ
ช่วงนี้ก็มีแต่คนเชียร์เขาซะด้วยสิ ขนาดยัยจับฉ่ายที่เป็นเพื่อนยังชอบเลย.. แถมเมื่อวานนี้ที่ฉันทักไปถามเขาว่ามีแฟนหรือยังก็เป็นเพราะจับฉ่ายมันอยากรู้นี่ไง
“งั้นไม่ชอบเขาหน่อยเหรอ”
“มีแต่คนเชียร์ให้ชอบ เดี๋ยวเมล์จะลองส่งไปถามแม่..ถ้าแม่ชอบเมล์จะยอมเป็นฝ่ายไปจีบเขาก่อนเลย” ฉันพูดโดยที่มั่นใจอยู่แล้วว่าแม่ไม่มีทางออกความเห็นอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว ขนาดตอนที่ยังคบกับคอปเตอร์แม่ก็ยังเฉยๆ เลย เป็นหญิงวัยกลางคนที่ทำงานหนักจนเฉยชาไปหมดแล้ว
100%
เมล์ ~~~~ พูดแล้วก็จำคำพูดของตัวเองเอาไว้
มาค่ะ! มาลุ้นว่าแม่ของน้องจะชอบคุณเขาไหม
ใครคิดว่าชอบให้วาง 10 บาท ใครคิดว่าไม่ก็วางทับอีก 20 บาทไปเลยค่ะ
ป.ล.ช่วงนี้ขอลดๆ คำว่าน่ารักในคอมเม้นท์
คูมเซิ้ดได้รับมันเยอะเกินไปแล้ว คุณเขารับไม่ไหว 55555555
แต่เอาคลิป OPV ประกอบนิยายมาฝากด้วย
แปะๆๆ >> https://youtu.be/Cs_-iWwHc2Y
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

#นิยายสนุกมากค่ะ
น่ารักน่ารักน่ารักเต็มไปหมดเลยยยยยย
พี่เซิ้ดดดดดดน่าร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
น่ารักๆๆๆๆๆๆๆๆๆ^^