ตอนที่ 16 : | H | 15 : เป็นคนของฮง [100%]
15
เป็นคนของฮง
หลังจากที่ผ่านมรสุมในคืนนั้นไปได้ฉันกับฮงก็มีพันธะผูกกันไว้แล้วเรียบร้อย ถ้าสงสัยว่าเราสองคนคบกันในสถานะอะไร ฉันเองเคยถามเขาแล้วซึ่งคำตอบที่ได้ก็คือ ‘แล้วแต่เธอ’ โอเค...งั้นฉันจะทึกทักว่าเราเป็นคนรักกันก็แล้วกันนะ พอเอาเข้าจริงๆ หลังจากนั้นเจ้าหมอดูนั่นก็กดฉันใส่เตียงแทบทุกวัน จากช่วงแรกที่ไม่ค่อยชินกับรสนิยมอีกฝ่ายพอเอาไปเอามามันก็เริ่มปรับตัวได้บ้าง
นี่ก็ผ่านมาเป็นสัปดาห์กว่าฉันยังคงไปเรียนว่ายน้ำอยู่เหมือนเดิมและเรียนกับฮงเช่นกัน พัฒนาของฉันดีขึ้นเรื่อยๆ จนน่าแปลกใจทั้งที่ก่อนหน้านั้นพยายามแทบตายไม่เป็นผล พอมีผู้ชายเข้ามาช่วยหน่อยดันดีขึ้นมันก็น่าตลกแฮะ และในที่สุดอีกไม่นานฉันก็จะต้องไปเป็นครูฝึกสอนว่ายน้ำให้กับพวกเด็กตามที่ได้รับงานจากอาจารย์มา
ความหวังจะไม่ติด F ก็เริ่มลอยเข้ามาใกล้เรื่อยๆ
“มองอะไร” เจ้าของร่างสูงที่กำลังทอดไข่อยู่ในห้องครัวของฉันก็หันมามองด้วยใบหน้าที่ขมวดคิ้ว
“นายมาบ้านฉันบ่อยไปแล้วนะ” เอาจริงๆ เขาก็มาของเขาเกือบทุกวันเลย ไม่ใช่บ่อยธรรมดาต้องบอกว่ามันกำลังจะกลายเป็นเรื่องปกติซะแล้ว
“มาไม่ได้เหรอไง เป็นแค่คนเช่ากล้าดีมากนะ”
โถ พ่อคุณ พ่อคนให้เช่า
“มาได้ แต่น้อยๆ หน่อยเถอะ”
“เรื่อง?” ฮงยังคงทำหน้าแปลกใจไม่รู้ไม่ชี้ในสิ่งที่ฉันกำลังจะบอก ขณะเดียวกันเขาก็เอื้อมมือไปหยิบจานออกมาใส่ไข่ทอดไปด้วย
“นาย...ชอบกดฉันลงเตียงทุกวัน เกินไปนะ” บางทีก็น่าจะถึงเวลาที่ควรพูดตรงๆ บ้าง
“เปล่านี่” อีกคนปฏิเสธหน้าตาย
“เปล่าอะไรล่ะ”
“บางวันก็โซฟาไม่ใช่เหรอ บางวันก็..ในสระว่ายน้ำ”
ไอ้บ้าฮง! เขานี่มันน่าหงุดหงิดจริงๆ เลย
“วันนี้ฉันจะกลับบ้านที่ต่างจังหวัด ต้องไปไหว้แม่” เมื่อฉันเปลี่ยนเรื่องสนทนา เขาก็เหลือบมองหน้าฉันเล็กน้อยแต่ก็ยังไม่ได้พูดอะไร
“มากินข้าวก่อน” คุณเพื่อนบ้านที่เป็นพ่อบ้านด้วยวางจานอาหารที่เพิ่งทำเสร็จลงบนโต๊ะและเรียกให้ฉันไปนั่งด้วย “ไปตอนไหน”
“ก็ช่วงสายเดี๋ยวก็ไปแล้ว”
“อือ แล้วเวลากลับ?” ฮงถาม
“คงเย็นพรุ่งนี้ไม่ก็เช้ามะรืนมั้ง” เพราะถึงยังไงฉันก็คงไม่ได้กลับนานอยู่แล้วเนื่องจากยังมีเรียนอยู่ แต่ว่าได้ไปบ้านทั้งทีมันก็อยากใช้เวลาให้คุ้มแฮะ
“อืม ให้ไปด้วยไหม”
“ไม่ได้เหอะ พ่อฉันดุ” นั่นพ่อฉันอดีตเคยเป็นนักมวยร้อยสังเวียนเชียวนะ ฉันยังจำได้ที่แต่ก่อนเวลาขับรถผ่านหน้าหมู่บ้านและมีแก๊งเด็กผู้ชายมาแซว พ่อฉันไล่เอาเรื่องจนทุกวันนี้คนในหมู่บ้านไม่มีใครกล้ายุ่งกับฉันอีกเลย
ถ้าฮงไปด้วยตอนนี้คิดว่าไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่ ค่อยๆ บอกให้พ่อรู้ทีละนิดจะดีกว่า
“หึ ถามไปงั้นแหละ” เขาหัวเราะโดยที่ยังก้มง่วนกับการเช็ดล้างพาชนะใส่อาหารที่ใช้เสร็จแล้ว “ฉันทิ้งที่นี่ไปไหนไม่ได้หรอก”
“ฮะ? ทำไมอะ”
“ก็...”
ออด
เสียงกดออดที่ดังมาจากหน้าบ้านทำให้ฉันละความสนใจจากเรื่องตรงหน้าแล้วมองผ่านหน้าต่างห้องครัวออกไปยังรั้วด้านนอกดูว่าเป็นใครที่มาหาฉันตั้งแต่เช้า
“ให้ออกไปดูไหม” ฮงเสนอตัว
“ไม่ๆ ฉันไปเอง” ฉันปฏิเสธก่อนจะลุกขึ้นจากเก้าอี้ของโต๊ะรับประทานอาหาร
เมื่อเดินออกมาจากตัวบ้านในระยะที่เกือบถึงรั้ว ฉันก็มองลอดผ่านแท่งรั้วเหล็กออกไปว่าคนที่อยู่ด้านหน้านั่นเป็นใคร เขาเป็นผู้ชายตัวสูงแต่งตัวมิดชิดตั้งแต่หัวจรดเท้า ดูๆ แล้วเราไม่น่าจะรู้จักกันมาก่อน
หรือจะเป็นเมสเซนเจอร์มาส่งของ?
“สวัสดีค่ะ มีอะไรรึเปล่าคะ” ฉันเอ่ยถามออกไปโดยที่ยังไม่ได้เปิดประตูรั้ว
“คุณเป็นเจ้าของบ้านเหรอ” ชายคนดังกล่าวถามกลับมา ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความสงสัยหลังจากที่ก้มมองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า
“เอ่อใช่” ถึงแม้จะยังไม่เข้าใจก็ตอบไว้ก่อน
“แปลกจัง...”
“มีอะไรหรือเปล่าคะ”
“ไม่มีอะไรครับ ผมคงเข้าใจผิด ขอโทษที่รบกวน” ว่าแล้วชายคนดังกล่าวก็หันหลังเดินออกไปจากหน้าบ้านของฉัน ถึงแม้เขาจะบอกว่าไม่มีอะไรแต่ทำไมฉันก็ยังรู้สึกไม่ไว้วางใจยังไงไม่รู้
“ใครอะ” ฮงเอ่ยถามหลังจากที่ฉันเดินกลับเข้ามาข้างใน
“ไม่รู้อะ เขามาผิดบ้านมั้ง” ฉันส่ายหน้า
“งั้นเหรอ” เขาพยักหน้าเล็กน้อยเหมือนจะเข้าใจแต่มองแว้บหนึ่งก็แอบเห็นใบหน้ากังวลที่แสดงออกมา แต่ก็เปลี่ยนมาเป็นความเรียบเฉยภายในไม่กี่เสี้ยววินาที
“เอ่อ งั้นฉันไปอาบน้ำก่อนนะ” เมื่อทานข้าวเสร็จฉันก็พูดขึ้น
“เดี๋ยวไปอาบช่วย” ฮงรีบเสนอตัวทันทีเมื่อฉันบอกไปเช่นนั้น
“ไม่ต้อง!” และคนที่รีบปฏิเสธก็คือฉันเอง “ช่วยอะไร ช่วยแล้วเสร็จช้ากว่าเดิมน่ะสิไม่ว่า”
“อ้าว”
“จะมาองมาอ้าวอะไรกันล่ะ” ฉันว่าพร้อมกับใช้มือตีที่ไหล่ของเจ้าตัวเบาๆ ก่อนจะเดินผ่านร่างสูงไปแต่แล้วกลับโดนมือเข้ามาฉุดรั้งเอาไว้
“ก็จะไม่อยู่ตั้งหลายวัน ต้องตักตวงเอาไว้”
“ฮง..”
“อะไร” ยังจะมาถามย้อนกลับหน้ามึนๆ อีก
“งั้นก็ไปด้วยกันไหมล่ะ”
“ไหนบอกว่าพ่อดุไง” คนตรงหน้าพูดพร้อมกับเอียงหน้าเล็กน้อยอย่างน่าหมั่นไส้ พลางใช้มือเท้าคางมองหน้าฉันไปด้วย “หรืออยากเปิดตัวฉันกับครอบครัวแล้ว?”
“รอให้นายทำก่อนเถอะ ฉันค่อยทำ” ฉันแค่นหัวเราะไปด้วย
“งั้น...ก็คงยากหน่อยถ้าจะเป็นแบบนั้น” ฮงถอนหายใจออกมาก่อนจะพูดต่อว่า “ครอบครัวของฉันน่ะ ตอนนี้ก็มีแค่แม่เท่านั้น ส่วนพ่อฉันไม่อยากพูดถึงเขาแล้วหละ”
“ทำไมล่ะ”
“ฉันเกลียดเขา”
50%
คำตอบที่ออกจากปากฮงตรงๆ ทำฉันตกใจไม่น้อย และยิ่งได้ยินแบบนั้นฉันก็ยิ่งอยากรู้ว่าเรื่องของผู้ชายคนนี้มันเป็นมายังไงกันแน่
“งั้นเล่าซิ..”
“ที่ไอ้ดลมันเล่าให้เธอฟังทางบ้านฉันมีอาชีพที่ต้องฆ่าคนน่ะ มันคือเรื่องจริง...” เขาเอนตัวไปพิงพนักเก้าอี้แล้วก็เริ่มเล่าเรื่องราวนั้น “อืม ฉันต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบนั้นมาตั้งแต่เด็กเชียวหละ”
“บ้านนาย..ทำอะไร” ฉันคิดไม่ออกเลยว่าอาชีพที่ต้องฆ่าคนนั่นมันคืออะไรกันแน่
“นักธุรกิจ”
“ฮะ? นักธุรกิจฆ่าคนตรงไหน” ฉันขมวดคิ้วทันทีที่รู้แบบนั้น ยิ่งรู้ก็ยิ่งสงสัยโคตรไม่เมกเซนส์เอาซะเลย
“หึ ถ้าธุรกิจขาวสะอาดก็คงไม่หรอก” เขาพูดต่อ แถมใบหน้าของฮงตอนที่เล่าเรื่องนั้นมันช่างว่างเปล่า “แต่มันไม่ใช่นี่สิ อะไรที่ผิดกฎหมายพ่อฉันก็ทำไปซะหมด และถ้ามีใครมาขัดขวางคนพวกนั้นก็ไม่พ้นเป็นศพ”
ถ้าอย่างนั้นก็แสดงว่าพ่อของเขาเป็น
“มาเฟียเหรอ”
“ประมาณนั้นแต่ไม่ได้มีชื่อแก๊งแบบในหนังนะ” เขาหัวเราะเล็กน้อยหลังจากพูดจบ “ฉันรับไม่ได้ในสิ่งที่เขาเป็น และไม่เคยรับได้มาตั้งแต่เด็ก จนวันหนึ่งพอโตขึ้นก็หนีออกจากบ้านหลังนั้น”
เรื่องของเขามันเกินคาดกว่าที่ฉันคิด ไม่นึกเลยว่าเขาจะเกิดมาจากครอบครัวที่อยู่ในวงการมืดมนแบบนั้น ถึงเขาจะไม่ได้เห็นด้วยในสิ่งที่พ่อทำแต่สภาพแวดล้อมนั้นก็หล่อหลอมให้ฮงเป็นคนที่เก็บตัวไม่คุยกับใครสินะ
“แล้วคนภายนอกจะไม่มีใครสงสัยเลยเหรอว่าพ่อนายทำอะไร หรือรู้แต่แค่ไม่พูด”
“ก็เป็นอย่างหลังนิดหน่อย แต่ส่วนใหญ่ไม่มีใครสงสัยเพราะเขามีธุรกิจแบบโปร่งใสบังหน้าเอาไว้อยู่” โอเค..พอฮงบอกแบบนี้ฉันก็เริ่มจะเข้าใจแล้ว
“ธุรกิจอะไร”
“ก็เจ้าของสระว่ายน้ำบริการที่เธอไปลงเรียนในคอร์สนั่นไง”
!!!!
และประโยคบอกเล่านั้นก็ยิ่งทำฉันตกใจมากขึ้นไปอีก เจ้าของสระว่ายน้ำนั่นเหรอ.. ทันใดนั้นหน้าของคุณไทเกอร์ หลินก็แว้บเข้ามาในหัวของฉันทันที
“นายหมายถึงไทเกอร์ หลินหรือเปล่า” ถึงแม้จะมั่นใจไปเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วว่าใช่แต่ฉันก็อยากถามเขาเพื่อความแน่ใจ
“ชื่อจริงๆ ของเขาคือหลินเฮยเหวิน”
นี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีเลยนะที่ทำให้ฉันช็อกได้มากขนาดนี้ มันแปลว่าฉันเองก็ได้เจอและพูดคุยกับพ่อเขามาก่อนโดยที่ไม่รู้ตัวเลยน่ะสิ
“แล้วชื่อจริงของนายล่ะ” แต่อยู่ๆ ฉันก็รู้สึกอยากรู้ขึ้นมา
“หลินฮงหยู่”
นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่ฉันไม่คาดคิดเหมือนกัน ตอนแรกคิดว่าเขาแค่เชื้อสายจีนเฉยๆ แล้วชื่ออาจะไทยกว่านี้ แต่นี่เขาลูกครึ่งจีนเลยนี่นา บางทีอาจจะเป็นคนจีนจริงๆ เลยก็ได้แต่แค่มาเกิดและโตที่ประเทศไทยเท่านั้น
“ก็เท่อยู่นี่” ฉันแซวเพื่อลดบรรยากาศตึงเครียดนี้ลง
“แล้วระหว่างชื่อกับตัวจริง อะไรเท่กว่า”
ดูถามเข้า..ได้ถ้าอยากรู้ก็จะตอบให้
“ชื่อสิ” ฉันตอบแล้วก็หัวเราะออกมา อีกอย่างก็รู้อยู่ก่อนแล้วว่าถ้าเลือกตอบอันนี้จะต้องโดนฮงไม่พอใจแน่ๆ แต่ก็อยากแกล้งเจ้าตัวบ้าง
“งั้นเราก็ไม่ต่างกันอะแหละ ชื่อลีก็ดูดีกว่าตัวจริงเหมือนกัน” ฮงตอกกลับมาบ้างและนั่นทำให้ฉันเปลี่ยนจากหัวเราะแล้วไปมองค้อนอีกฝ่ายทันที
“ก็แรงอยู่นะ” ฉันจะพยายามไม่โกรธก็แล้วกัน “แล้วนี่ทำไมถึงยอมเล่าง่ายจัง”
ปกติเขาไม่เคยแม้แต่จะพูดเรื่องส่วนตัวของตนเองเลยนี่นา
“เพราะเธอเป็นคนของฉัน” ฮงตอบพลางยกยิ้มบางๆ ก่อนหน้านั้นเขาเคยบอกพูดประมาณนี้ว่าจะเล่าให้ฟังถ้าฉันเป็นของเขาและนี่ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าเจ้าตัวไม่ได้โกหก “เล่าเพราะเห็นว่าอยากรู้ แต่ความจริงเธอลืมมันไปไม่ต้องสนใจก็ได้ เข้าใจหรือเปล่า”
ถึงจะยังมีอะไรหลายอย่างที่ยังสงสัยอยู่ แต่ว่าพอฮงมาพูดแบบนี้
“อือเข้าใจแล้วคุณหลินฮงหยู่”
“นี่” อยู่ๆ คนที่นั่งพิงเก้าอี้ลุกขึ้นมาพร้อมกับโน้มตัวลงมาใกล้ใบหน้าฉัน “ฉันเกิดก่อนเธอตั้งสามปีเชียวนะ เรียกพี่ฮงสิ”
โห..
“ไม่เรียกได้ปะ ไม่ชินอะ” ฉันเรียกเขาแบบนี้มาตั้งแต่แรก จะให้มาเรียกพี่เลยก็ยังไงๆ อยู่
“ก็แล้วแต่” ฮงถอนหายใจและถอยกลับไปนั่งที่เดิม “ไปอาบน้ำสิ จะกลับบ้านที่ต่างจังหวัดนี่”
“เอ้อจริงด้วย คุยกับนายเพลินเลยอะ” ฉันเบิกตากว้างเมื่อได้ยินอีกฝ่ายบอกแบบนั้นก่อนจะรีบเดินออกไปจากห้องครัวทันที แต่ก็ยังไม่วายได้ยินเสียงไล่หลังมา
“ไม่ให้อาบช่วยแน่นะ!”
“ไม่ต้อง!!”
แล้วหลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงหัวเราะดังขึ้น แต่ฉันเลือกจะไม่สนใจแล้วรีบไปอาบน้ำ
Hong’s Talk
หลังจากที่ปล่อยลีขึ้นไปทำธุระส่วนตัวของเธอ ก็ถึงเวลาของผมที่จะไปทำธุระส่วนตัวของตนเองบ้าง ผมหยิบอาหารบางส่วนที่ทำเก็บไว้ในกล่องมาก่อนจะเดินกลับไปยังบ้านที่อยู่ข้างๆ ผมเดินมาเรื่อยเข้ามาในบ้านของตัวเอง จนถึงห้องๆ หนึ่งและหยิบกุญแจขึ้นมาไขประตูเข้าไป
ผมวางกล่องข้าวนั้นลงบนโต๊ะตัวใหญ่ที่อยู่มุมห้อง สายตาพลางทอดมองไปยังร่างหนึ่งที่นอนนิ่งอยู่บนเตียง ผู้เป็นสมาชิกอีกคนในบ้านหลังนี้ จากนั้นก็เดินไปทรุดกายนั่งลงบนเก้าอี้ที่ตั้งไว้ด้านข้าง
“ผมควรทำยังไงดีครับ” ผมเอ่ยพลางเอื้อมมือไปจับมือนั้นเอาไว้ “ผมไม่รู้ว่าม้าจะได้ยินผมหรือเปล่า แต่ผมก็อยากเล่าเรื่องของผมให้ฟังแก้เบื่อนะ”
“...” ไร้เสียงตอบรับใดๆ อย่างเช่นทุกที
“ช่วงนี้ม้าอาจจะได้ฟังเรื่องของลีบ่อยหน่อยนะครับ เพราะชีวิตผมช่วงนี้มีแต่เธอ” ผมพูดต่อแล้วก็หัวเราะเบาๆ มือข้างที่จับผู้เป็นแม่ไว้ก็บีบเล็กน้อยเพื่อหวังจะได้รับปฏิกิริยาตอบกลับบ้าง
แต่ก็ว่างเปล่า
ถึงแม้จะเป็นภาพที่ผมเห็นทุกวันอยู่แล้วแต่ก็อดสะเทือนใจไม่ได้ ถ้าวันนั้นไม่เกิดเหตุการณ์เลวร้ายนั้นขึ้นท่านก็คงไม่ต้องมานอนเป็นเจ้าหญิงนิทราแบบนี้ เราสองคนก็อาจจะได้อยู่ด้วยกันแบบแม่ลูกทั่วไป ทำไมกันนะ..ทำไมผู้ชายคนนั้นถึงได้นิสัยโหดร้ายผิดมนุษย์ขนาดนี้
“ผมสัญญาว่าวันนึงผมจะพาม้าออกไปอยู่ในที่ที่ดีกว่านี้นะ”
End Hong’s Talk
100%
บทนี้มาหลายรสมาก 5555555555
แต่พี่ฮงคะ พี่มีความลับอะไรอีกเยอะแยะอะถามจริง
___________________________________
____________________________________
อ่านแล้วอย่าลืมคอมเม้นท์ให้หรือเข้ามาเม้าท์มอยได้ที่ #ฮงลี
____________________________________
เซ็ตรักมันระทึก
เอาหละ เรามาโชว์ปกเต็มของเรื่องนี้ให้ดู อิอิ
ตีพิมพ์กับสนพ.เจเอ็นดีนะคะ เป็นโปรเจคงานหนังสือ
ถ้าโชคดีเราคงได้เจอกันที่นั่น >___<
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

คิดถึงงงงงงง สู้ๆนะคะไรท์
ว่างค่อยมาก็ได้รอได้ค่ะ อยากไรท์สบายๆนะคะ