ตอนที่ 11 : | H | 10 : ความอยากรู้อยากเห็น [100%]
10
ความอยากรู้อยากเห็น
ฉันเชื่อว่ามนุษย์ร้อยทั้งร้อยก็มีความอยากรู้อยากลองกันทั้งนั้นอยู่ที่ว่าจะมีมากน้อยและควบคุมมันได้แค่ไหน สำหรับฉันแล้วทุกอย่างมันดูจะผิดพลาดไปหมด มันคือความผิดพลาดที่เกิดจากความตั้งใจของฉันเอง
“อืม” เสียงในลำคอถูกเปล่งออกไป ก่อนที่จะไม่มีโอกาสได้พูดอีกเมื่อริมฝีปากถูกประกบโดยคนตรงหน้า นี่เป็นจูบครั้งที่สองของเราสองคนไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจฉันก็หยุดมันไม่ได้แล้ว
3:50 PM
“ไม่สบายป้ะลี หน้าแกดูเหนื่อยๆ” ไอ้พัธพูดขึ้นหลังจากที่เลิกคลาสวิชาสุดท้ายของวัน และตอนนี้เราสองคนก็กำลังเดินออกมาจากห้องเพื่อแยกย้ายกันกลับ
“เห็นชัดเหรอ?” ฉันอุตส่าห์ลงรองพื้นมาหนาเตอะเพื่อปกปิดร่องรอยที่บ่งบอกความโทรม แต่เจ้านี่ก็ยังดูออกอีก
“นั่งถอนหายใจทั้งวันใครจะดูไม่ออก”
อ่อ...ค่อยยังชั่วหน่อย นึกว่ามันเห็นจากหน้าตาของฉัน แต่จะว่าไปแล้ววันนี้ทั้งวันฉันก็ไม่ค่อยมีสมาธิในการเรียนจริงๆ อาจารย์พูดอะไรก็เหมือนผ่านหูผ่านตาไปหมดแต่ไม่เคยผ่านสมอง
“มีเรื่องให้คิดเยอะน่ะ” ฉันเลือกคำตอบที่มันดูกว้างๆ เข้าไว้ เพราะยังไม่อยากให้มันมาเครียดตามฉันไปด้วย
“เรื่องว่ายน้ำเหรอ” มันลองทาย ซึ่งก็ไม่ถูกซะทีเดียว
“อืม ประมาณนั้นแหละ” ความจริงแล้วมันไม่ได้มีแค่เรื่องว่ายน้ำ ยอมรับว่าตัวเองเคยคิดมากเรื่องนี้แต่ปัจจุบันเปลี่ยนเรื่องไปเครียดกับอย่างอื่นแทนแล้ว
“ไม่ต้องเครียดหรอกเว้ย ฉันเชื่อว่าทุกอย่างจะดีขึ้น” พัธเอ่ยพร้อมกับยกมือขึ้นมาตบไหล่ฉันแปะๆ “ว่าแต่นั่นใครวะ หน้าคุ้นๆ แกรู้จักปะลี”
ฉันหันไปมองตามสายตาของเพื่อนตัวโย่งก่อนจะหยุดชะงักเมื่อเห็นร่างของบุคคลที่ถูกเอ่ยถึง เขายืนพิงอยู่ที่เสาตัวหนึ่งใต้อาคาร เมื่อเป็นเช่นั้นฉันก็รีบก้มลงไปมองที่พื้นทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น
“ไม่รู้”
จะว่าไปแล้วพัธเองก็ยังไม่เคยเจอหน้าเพื่อนบ้านของฉันนี่นาแล้วเขาจะคุ้นจากไหน?... อ้อ จำได้แล้ว วันนั้นที่ตลาดเราสองคนไปเจอฮงตอนเขากำลังทำหน้าที่หมอดูอยู่นี่นา
กึก..
สักพักก็มีเงาของผู้ชายคนหนึ่งเดินมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้า นั่นจึงเป็นสาเหตุให้ฉันต้องเงยหน้าขึ้นไปมองทันที
“เลิกเรียนแล้วใช่ไหม” ผู้ชายคนที่ยืนพิงเสามาอยู่ด้านหน้าฉันแล้ว ทำไมนะ..ทั้งที่ฉันพยายามยืนหลบอยู่ด้านหลังไอ้พัธแล้วแท้ๆ แต่เขาก็ยังเห็นอีกเหรอ
“ก็เลิกแล้ว” ฉันตอบอย่างเลี่ยงไม่ได้
“อ้าว ไหนบอกไม่รู้จัก” ผู้เป็นเพื่อนขมวดคิ้วงง
“จริงๆ เขาเป็นเพื่อนบ้านฉันเอง” ฉันส่งยิ้มแห้งให้กับพัธหลังจากที่แนะนำฮงให้มันรู้ แต่ว่าไม่นานก็ต้องหุบยิ้มลงเมื่อคนที่ถูกแนะนำพูดขึ้น
“จริงๆ ตอนนี้ไม่ใช่เพื่อนบ้านแล้ว”
เมื่อได้ยินแบบนั้นฉันก็หันหน้าไปทางเจ้าตัวพร้อมขยับปากขึ้นลงเป็นคำพูดแบบไม่มีเสียงว่า ‘อะไรของนาย!’ ถ้าเขาไม่ใช่เพื่อนบ้านฉันแล้วจะเป็นใครวะ
“หืม?” แน่นอนว่าคนที่งงที่สุดก็คือเพื่อนฉันเอง
“เอ่อ งั้นฉันกลับก่อนนะแก เจอกันพรุ่งนี้” ฉันโบกมือลามันก่อนจะรับก้าวเดินออกไปทางอื่นด้วยความคิดที่ว่าตัวเองจะต้องหนีไปจากตรงนี่ให้เร็วที่สุด
“เดี๋ยว จะไปไหน” แต่คนที่ขายาวกว่าก็เดินตามทันอยู่ดีสินะ
“กลับบ้านสิ นายจะให้ฉันไปไหน”
“แล้วไม่ไปเรียนว่ายน้ำ?” ฮงเลิกคิ้วถาม
จริงด้วย..ฉันควรจะไปเรียนว่ายน้ำต่อนี่นา เมื่อวานนี้ก็ทิ้งพี่ฝึกสอนออกมาดื้อๆ แบบนั้น ไม่รู้ว่าเขาจะก่นด่าสาปแช่งฉันไปแล้วหรือยัง
“ไม่ไปแล้ว ไม่มีอารมณ์ไปเรียน” ตอนนี้ฉันเห็นเขาทีไร ภาพเหตุการณ์เมื่อคืนนี้มันก็หลอกหลอนฉันทุกที เอาความจริงไม่จำเป็นต้องเห็นหน้าฉันก็นั่งคิดแต่เรื่องนั้นทั้งวันอยู่แล้ว ไอ้พัธถึงได้ทักว่าดูเหนื่อยอยู่นี่ไง
“อืม งั้นมีอารมณ์ทำอย่างอื่นเหรอ?” การที่ฮงเดินมาลัดด้านหน้าพร้อมกับคำถามบ้าๆ นั่นทำให้ฉันต้องหยุดเดินกะทันหัน
“ถ้ามี ก็คือฉันจะต่อยหน้านายเนี่ยแหละ” ฉันชักสีหน้าใส่อีกฝ่ายอย่างไม่พอใจ “เป็นบ้าอะไรไปบอกเพื่อนฉันแบบนั้น”
“ก็เรื่องจริง เราไม่ใช่เพื่อนบ้านกันแต่เราอยู่บ้านเดียวกัน” ฮงลอยหน้าลอยตาพูดต่อไป
อ่า..เหมือนเขาจะเคยพูดให้ฟังว่าบ้านทั้งสองหลังใช้ที่อยู่เดียวกันนี่ แต่ว่านั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่ควรบอกออกไปหรือเปล่าล่ะ คนเข้าใจผิดขึ้นมาจะทำไง
“ฉันจะเอาเรื่องของนายไปเปิดโปงให้หมด” สารภาพตามตรงฉันก็ไม่คิดจะทำอย่างนั้นหรอก แค่อยากพูดเพื่อนเอาชนะอีกฝ่ายเท่านั้น
“ก็ลองดู กล้องฉันบันทึกภาพเมื่อคืนไว้หมดแล้ว จะลองเสี่ยงไหม?”
“อะไรนะ!!” ฉันเบิกตากว้างอย่างตกใจเมื่อคนตรงหน้าพูดจบประโยคเมื่อครู่ นี่เป็นเรื่องที่เกิดคาดฉันไปมากเลย.. กล้อง? บันทึกภาพ? นี่เขาทำแบบนั้นจริงๆ เหรอ “นายกุเรื่องมาขู่ฉันเหรอ”
“ใครขู่ ของที่ว่านั่นมีจริง ถ้าอยากดูจะส่งไปให้”
30%
“คิดว่าฉันไม่กล้าดูหรือไง งั้นก็ส่งมา” อย่างน้อยก็เป็นเครื่องยืนยันว่าเขามีจริงๆ ไม่ได้แกล้งขู่เล่นเท่านั้น แต่ว่านะ..เขาจะถ่ายคลิปเก็บไว้ทำไม
ไลน์
เสียงแจ้งเตือนโปรแกรมแชททำให้ฉันรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาจากกระเป๋าและคลิกเข้าไปดูเนื้อหาทันที คลิปวิดีโอความยาวสิบนาทีกว่าโชว์หราอยู่ตรงหน้า ภาพในคลิปนั้นทำเอาฉันนิ่งค้างไปสักพัก
จริงๆ แล้วเราสองคนไม่ได้มีอะไรกัน แต่ภาพในคลิปมันล่อแหลมยิ่งกว่าอะไรถ้ามีคนมาดูก็คงคิดว่าฉันได้กับเขาไปแล้ว ให้ตายสิเพราะความไม่ยั้งคิดของตัวเองแท้ๆ
ย้อนกลับไปเหตุการณ์เมื่อคืน
‘คิดดีแล้วใช่หรือเปล่า’ เขาถามย้ำหลังจากที่ถอนริมฝีปากออกไป
‘นาย..เอาจริงเหรอเนี่ย’ ฉันมองหน้าอีกฝ่ายอย่างไม่อยากจะเชื่อสักเท่าไหร่
‘อย่างฮง ไม่มีพูดเล่น’
จบประโยคนั้นฮงก็โน้มตัวเข้ามากดริมฝีปากลงอีกครั้ง มือไม้ที่ไม่อยู่สุขก็ทาบทามไว้บนร่างกายของฉันก่อนจะค่อยๆ ไล้ตามช่วงสะโพกขึ้นไปเรื่อยๆ จนเกือบถึงเนินอก
เสื้อผ้าตัวนอกที่สวมทับตัวถูกมือนั้นดึงออกไปทีละชิ้น ทั้งที่ฉันเองก็พยายามจะหยุดยั้งเอาไว้แต่เขาก็ยังสามารถทำต่อไปได้
ในจังหวะที่ฉันกำลังถูกพรากลมหายใจไปเกือบทั้งหมดนั้น
Rrrrrr
เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นเรียกคืนสติทั้งหมด ฮงหยุดการเคลื่อนไหวทุกอย่างก่อนจะผละกายออกไปแล้วเดินตามหาต้นตอของเสียงนั้น
และเขาก็เดินออกไปด้านนอกหลังจากที่คว้าโทรศัพท์เครื่องเล็กติดตัวไปด้วย
“มันยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นสักหน่อย” ฉันตีหน้านิ่งราวกับไม่ได้สะทกสะท้านกับคลิปดังกล่าว ทั้งที่ในใจตอนนี้กำลังร้อนยิ่งกว่าไฟเสียอีก
“อือ ก็ดี” ฮงไหวไหล่ “แต่ก็เสียดาย”
“เสียดายอะไร”
“เมื่อคืนเรายังทำสัญญาไม่เสร็จเลย คืนนี้ลองอีกรอบไหม” คนตัวสูงยกยิ้มพร้อมกับโน้มใบหน้าลงมาจ้องมองในระดับเดียวกับฉัน
“ลองอีกก็บ้าแล้ว”
ฉันต้องตัดไฟแต่ต้นลมก่อนที่ตัวเองจะเป็นบ้าไปรับคำตกลงแบบนั้นอีก คิดอะไรของแกอยู่วะลี เมื่อก่นด่าตัวเองเสร็จฉันก็เลือกที่จะเดินผ่านร่างของอีกฝ่ายไปแต่ดันไม่วายโดนเรียกไว้
“แล้วจะไปไหน”
“ไปเรียนว่ายน้ำไง ฉันยังไม่อยากเอฟนะ” ฉันหันไปบอกเขา
“ก็ไหนบอกไม่มีอารมณ์ไป” ยังจะจำคำพูดฉันได้ทุกคำอีกนะ
“ตอนนี้จะไปแล้ว” ไม่รู้ว่าอะไรเหมือนกันที่ทำให้ฉันเปลี่ยนใจได้เร็วขนาดนี้ คิดว่าคงดีมากกว่าถ้าฉันไม่ต้องกลับบ้านไปกับเพื่อน (ร่วม) บ้านคนนี้
“ไปด้วย”
“จะไปด้วยเพื่อ?” ฉันมองขวับไปทางฮงทันทีเมื่อได้ยินเช่นนั้น
“ไปดูพัฒนาการของลูกน้อย” เขาตอบพลางยกมือมาลูบหัวฉันไปมา
ลูกน้อย?!
“นายไม่ใช่พ่อฉันนะ” ฉันมองเขาตาขวางและปัดมือหนานั่นออกไปจากหัวของตัวเองอย่างแรง จากนั้นก็รีบเดินออกมา
และแน่นอนฮงก็เดินตามหลังมาอย่างไม่ต้องสงสัย
ทันทีที่มาถึงฉันก็จัดการเปลี่ยนชุดตัวเองเป็นชุดว่ายน้ำสำหรับลงสระ แต่ก็ยังไม่ถึงเวลาจะเรียนจึงเลือกที่จะนั่งอยู่เก้าอี้ด้านข้างสระว่ายน้ำก่อนโดนมีเจ้ากรรมนายเวรนั่งเฝ้าไม่ห่าง
“นายว่างเหรอ”
“ว่างมาก” ฮงเอ่ยอย่างไม่มีท่าทีใดๆ
“ไปซื้อน้ำให้หน่อยไป” ฉันใช้เขาจากนั้นก็ยื่นแบงค์ยี่สิบในมือไปให้เจ้าของร่างสูงที่นั่งอยู่ด้านข้าง แต่สุดท้ายก็โดนเจ้าตัวส่ายหน้าปฏิเสธ
“เรื่องอะไรต้องไป”
“ก็เห็นว่างหนิ”
“ว่างก็อยากอยู่เฉยๆ ปะ” ดูมันสิ...
ฉันกำลังจะอ้าปากไปต่อล้อต่อเถียงกับฮงอีกครั้งแต่กลับต้องชะงักเมื่อเห็นท่าทางลุกลี้ลุกลนของเจ้าตัวที่เป็นลักษณะอาการแปลกๆ โดยเขาพยายามจะเอาเสื้อฮู้ดมาปิดศีรษะตนเองจากนั้นก็รับคาดแมสปิดปากตามด้วยแว่นตาดำกันแดด
ซึ่ง..ตรงนี้มันร่มมากเกินกว่าที่จะมาทำอะไรแบบนี้
“เป็นอะไรเนี่ย? แวมไพร์เหรอ” นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เห็นเขาแต่งตัวแบบนี้หรอก แต่ว่าอยู่ๆ ก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วฉันตามไม่ทัน
“เงียบน่า”
อะไรของเขาเนี่ย!?
“สวัสดีครับคุณลี” เสียงทุ้มของชายวัยกลางคนดังขึ้นก่อนที่เจ้าของเสียงจะเดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าฉัน ใบหน้าคุ้นๆ นั่นทำให้ฉันเผลอขมวดคิ้วเล็กน้อย “ผมดีใจที่ได้เจอที่นี่นะครับ”
“เอ่อ..เรารู้จักกันเหรอคะ” แต่เมื่อกี๊อีกฝ่ายเรียกชื่อฉันอยู่นี่นา
“ก็เราเจอกันที่สระว่ายน้ำรวมที่เอสปาร์คไง”
สระว่ายน้ำที่เอสปาร์คงั้นเหรอ?
“คุณสังเกตด้วยเหรอคะ”
“ฮ่าๆ ผมสังเกตทุกคนนั่นแหละครับ”
“พอดีไม่ค่อยมั่นใจน่ะค่ะ ฉันว่ายน้ำไม่เก่งด้วย”
“อย่างนั้นสินะ ผมมีสถาบันสอนว่ายน้ำนะ ครูฝึกสอนเก่งเรื่องนี้มากนะสนใจหรือเปล่า”
‘สถาบันสอนว่ายน้ำไทเกอร์ หลิน’
อ๋ออออ เขาคือเจ้าของสถานบันสอนว่ายน้ำแห่งนี้นี่เอง คนที่ชวนฉันมาลงเรียนที่นี่...จะว่าไปก็เกือบลืมไปแล้วนะเนี่ยว่าเคยเจอคนแบบนี้ด้วย
“อ้อ คุณไทเกอร์นี่เอง” ฉันพยักหน้าเล็กน้อยเมื่อจำชายวัยกลางคนตรงหน้าได้
“แล้วผมมาขัดจังหวะกับแฟนหรือเปล่า” คุณไทเกอร์เอ่ยถามพลางมองหน้าฉันสลับกับฮงที่แต่งตัวราวกับโจร ซึ่งฉันจะไม่แปลกใจเลยถ้าคุณไทเกอร์จะสั่งรปภ.มาลากไอ้นี่ออกไป
“เปล่าค่ะ นี่ไม่ใช่แฟน” ฉันรีบส่ายหน้าปฏิเสธทันที “นี่เพื่อน..ชื่อฮะ..”
“ฮาร์โมนิก ยินดีที่ได้รู้จักครับ” ฮงพูดแทรกฉันตั้งแต่ยังไม่จบประโยค เขาไม่ได้แนะนำตัวเองว่าฮง แต่กลับใช้ชื่อในวงการหมอดูของตัวเองแทน
“อ๋อ คุณฮาร์โมนิกหนาวหรือครับ” เจ้าของสถาบันมองไปที่ร่างสูงแล้วขมวดคิ้วเล็กน้อย
“เปล่าครับ แต่ผมพอใจจะแต่งตัวแบบนี้” ฮงตอบ
“อ้อ ถ้าละลาบละล้วงก็ขอโทษด้วยนะ พอดีผมแค่ไม่ค่อยเข้าใจ”
อย่าว่าแต่คุณไทเกอร์เขาที่ไม่เข้าใจเลย ฉันเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน คนบ้าอะไรแต่งตัวราวกับประเทศไทยมันหนาวมากอย่างนั้นแหละ
“เอ้อ เดี๋ยวขอตัวก่อนนะคะ ต้องไปลองวอร์มในสระก่อน” ฉันมองนาฬิกาจากโทรศัพท์จากนั้นก็วางมันไว้ที่เดินก่อนจะลุกจากที่นั่งโดยไม่วายหันไปสั่งคนที่มาด้วยกัน “ฝากดูของด้วยนะ ทำตัวให้เป็นประโยชน์”
Hong’s Talk
ผมมองร่างของลีที่ลุกเดินออกไปพร้อมกับทิ้งสัมภาระตัวเองไว้ให้ผมดูแลก่อนจะเบนสายตาไปมองยังชายวันกลางคนที่เป็นเจ้าของสถานที่แห่งนี้กำลังทิ้งกายลงมานั่งด้านข้างแทนผู้หญิงที่เพิ่งออกไป
“ที่นี่อากาศดีหรือเปล่าคุณฮาร์โมนิก”
“ก็ดี” ผมตอบสั้นๆ พยายามไม่ใส่ใจผู้ชายด้านข้าง
“ผมเอาต้นไม้มาลงเพิ่มดีไหม จะได้สร้างบรรยากาศให้ผู้ใช้บริการ” เขายังคงชวนผมคุยอย่างไม่หยุด และนั่นก็เริ่มทำให้ผมรู้สึกรำคาญเล็กน้อย
“ทำอะไรก็ทำเถอะครับ ผมขอตัวไปข้างนอกก่อน” ด้วยความอยากตัดบทสนทนาผมจึงลุกขึ้นจากเก้าอี้และเตรียมพร้อมจะเดินออกไป
“เดี๋ยวก่อน”
“อะไร” ผมหันหน้าไปมองชายคนดังกล่าวด้วยความสงสัย
ซึ่งอีกฝ่ายไม่ได้ตอบอะไรแต่กลับหยิบกระเป๋าสัมภาระของลีขึ้นมาพร้อมยื่นมันมาตรงหน้าผม “เอาไปด้วยสิ เพื่อนคุณฝากดูแลไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวหายนะ”
ผมถอนหายใจอย่างหงุดหงิดก่อนจะรีบเอื้อมมือไปคว้ากระเป๋าใบนั้น แม้ว่าเขาจะมีอายุมากกว่าผมเป็นสิบยี่สิบปีแต่เขาก็ไม่ทำให้ผมรู้สึกอยากเคารพอะไรมากเท่าไหร่
“อะไรอีกครับ ปล่อยสิ” และแล้วผมก็ยิ่งรำคาญมากกว่าเดิมเมื่อเขาไม่ยอมปล่อยมือออกจากกระเป๋าที่ยื่นมาให้
“เธอรู้จักชื่อฉันหรือเปล่า”
“รู้สิ ลีเรียกคุณว่าไทเกอร์หนิ งั้นก็คงเป็นเจ้าของที่นี่..คุณไทเกอร์ หลิน” ผมตั้งใจที่จะตอบเพื่อให้มันจบๆ ไปแต่ทว่า..
“ฉันก็รู้จักชื่อเธอนะ..ฮงหยู่ หลิน”
“เหอะ เก่งนี่” ผมแค่นหัวเราะในลำคอหลังจากที่อีกฝ่ายเอ่ยชื่อนามสกุลเต็มของผมออกมา
“ไม่เจอกันนานโตขึ้นเยอะ”
“ก็คงจะไม่เจออีกนานเหมือนเดิม” ผมกระชากกระเป๋าของลีออกมาจากมือของชายตรงหน้าก่อนจะรีบนำมันมาสะพายไว้และเดินออกไปจากจุดที่ยืนอยู่
End Hong’s Talk
100%
อ๋าาาา ฮงหยู่ หลินนนน
เลารู้ชื่อจริงนามสกุลพระเอกกันแล้ว!
เป็นใครกันแน่น้าาาา
___________________________________
____________________________________
อ่านแล้วอย่าลืมคอมเม้นท์ให้หรือเข้ามาเม้าท์มอยได้ที่ #ฮงลี
____________________________________
เซ็ตรักมันระทึก
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

รอนะคะ>__<
อา
ลึกลับจังเลยแฮะ
เปิดเลยค่ะอยากดูเหมือนกัน
หืออออออออออออออออออออออออออออออ มาอัพพพพพพพพพพพพ ไรท์เราชอบเรื่องนี้มาก เป็นกำลังใจให้คร้าาาาาาาาาาาาาา