ตอนที่ 1 : | H | 00 : อารัมภบทของคนกลัวผี [100%]
บทนำ
เสียงไซเรนจากทั้งรถตำรวจและรถของมูลนิธิที่ดังขึ้นอยู่ข้างใต้อาคารหอพักทำให้ฉันไม่มีสมาธิที่จะอ่านหนังสืออีกต่อไป อีกทั้งเสียงของฝีเท้าที่เดินเข้าออกไปมาอยู่ตามทางเดินข้างหน้ามันก็ยิ่งทำให้ฉันรู้สึกหดหู่มากถึงมากที่สุด รวมไปถึงกลิ่นเหม็นและกลิ่นคาวเลือดพวกนั้น..
“คุณกับผู้ตายเคยได้พูดคุยสนทนากันก่อนหน้านั้นบ้างไหมครับ” ตำรวจนายหนึ่งได้ขอความร่วมมือมาสอบปากคำฉันซึ่งเป็นเจ้าของห้องที่อยู่ติดกับห้องของคนเสียชีวิต
“ไม่ค่ะ เขาเป็นคนไม่ค่อยสุงสิงกับใครน่ะค่ะ ไม่เคยได้พูดกันเลย” ฉันตอบไปตามความจริงว่าตัวเองไม่เคยรู้จักมักจี่กับคนห้องข้างๆ “แต่ว่าหนูเคยได้ยินเขาทะเลาะกับแฟนในห้องเสียงดังมากนะคะ”
เมื่อคืนก่อนฉันยังจำมันได้ดี ขณะที่ฉันออกมาตากเสื้อผ้าที่นอกระเบียงฉันก็ได้ยินเสียงดังเอะอะโวยวายออกมาจากห้องนั้น เป็นเสียงของชายหญิงสองคนกำลังทะเลาะกันอย่างหนัก ฉันเองก็ไม่ใช่พวกที่ชอบสอดรู้สอดเห็นเรื่องชาวบ้านนักหรอก แต่ก็พอจับใจความได้คร่าวๆ ว่าเกี่ยวข้องกับมือที่สาม
ถามว่าทำไมฉันไม่ให้ปากคำตำรวจไปแบบนั้นน่ะเหรอ.. อ่า ฉันมันก็แค่คนนอก ให้ตำรวจไปรู้จากคนที่เกี่ยวข้องจริงๆ จะดีกว่านะ
เวลาผ่านไปจนเกือบเที่ยงคืนทุกอย่างในหอพักถึงได้กลับมาสงบเหมือนเดิม ตำรวจและเจ้าหน้าที่ได้ทำการเก็บหลักฐานต่างๆ ทั้งหมดแล้วกลับกันแล้ว ในที่สุดฉันก็จะนอนอย่างไร้สิ่งกวนใจเสียที..
หรือเปล่านะ
ตึก ตึก ตึก
เสียงคล้ายฝีเท้าของคนเดิมที่ดังขึ้นมาทำให้ฉันเริ่มสติแตกอีกครั้ง มันดังอยู่แบบนี้มาหลายนาทีแล้วและไม่รู้ว่าจะหยุดลงตอนไหน คนบ้าอะไรมาเดินไปมาตอนกลางดึกแบบนี้นะ?
ฉันลุกขึ้นจากเตียงนอนของตนเองก่อนจะเดินออกไปเปิดประตูที่ระเบียงด้วยความรู้สึกหงุดหงิด ความจริงถ้ามีเสียงรบกวนฉันก็แค่ใส่หูฟังเปิดเพลงก็นอนหลับแล้ว แต่ทว่าคืนนี้กลับต่างออกไปไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศรอบๆ หรือแม้กระทั่งความรู้สึกของตัวเอง เมื่อเดินออกมาหยุดยืนอยู่ที่ระเบียงฉันก็พบกับบางสิ่งที่น่าแปลกใจ
นั่นก็คือไฟห้องข้างๆ เปิดไว้อยู่
มันจะเป็นไปได้ยังไงในเมื่อเจ้าของห้องเพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อตอนเย็น และตอนนี้เจ้าหน้าที่กับเจ้าของหอพักก็ไม่อนุญาตให้ใครเข้าไปทั้งนั้น..
ภายใต้ผ้าม่านที่อยู่หลังประตูกระจกสะท้อนให้เห็นเงาของคนที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ในนั้น ฉันไม่รู้ว่าเงานั้นคืออะไรหรือเป็นของใครเพราะมันไม่สำคัญ สิ่งที่สำคัญในตอนนี้ก็คือไฟในห้องเริ่มดับลงไปจนทุกอย่างเงียบสงัดภายในชั่วคราวเดียวนี่สิ
ฉันรีบเดินเข้ามาในห้องของตัวเองทันทีโดยไม่ลืมจะล็อกประตูอย่างแน่นหนาก่อนจะรีบโดดขึ้นเตียงคลุมโปงด้วยความหวาดระแวง เสียดายนิดหน่อยที่ตัวเองจำบทสวดมนต์อะไรไม่ได้เลยไม่เช่นนั้นก็ต้องจุดธูปเทียนนั่งท่องกันทั้งคืนไปแล้ว
10:11 AM
เวลาเกือบชั่วโมงกว่าที่ฉันมานั่งรออยู่ใต้ตึกเรียนไม่ให้ทำให้สมองเลิกฟุ้งซ่านเรื่องเมื่อคืนได้เลย ถ้าฉันยังไม่เลิกคิดอีก การสอบปฏิบัติวันนี้จะต้องทำได้ไม่ดีแน่เลย
“ได้ข่าวว่าที่หอแกมีคนตาย” ‘พัธ’ เพื่อนชายคนสนิทของฉันเอ่ยถามเรื่องนี้ทันทีเมื่อเจอหน้าฉัน มันเป็นผู้ชายที่หน้าตาโอเคแถมรูปร่างสมส่วนแบบนักกีฬาเรียกได้ว่าป็อบในระดับหนึ่งในหมู่ผู้หญิง แต่ใครจะรู้ว่าธาตุแท้จริงแล้วไอ้พัธมันชอบผู้ชาย
“อือ ห้องข้างๆ” ฉันว่าแล้วก็หยิบขวดน้ำที่ตั้งอยู่บนโต๊ะขึ้นมาดื่ม
“เหยดดด เป็นไงมาไงวะ” พัธรีบถามต่อ
“ไม่รู้ว่ะ น่าจะทะเลาะกับแฟนมั้งฉันก็ไม่รู้เรื่องมากนักหรอก” ฉันพูดแล้วก็ถอนหายใจ นี่เมื่อคืนโดนตำรวจสอบปากคำมายังไม่พอ ตอนเช้าก็ต้องมาโดนเพื่อนซักถามอีก
“แล้วงี้แกไม่หลอนแย่เหรอ”
“วันนี้ก็ว่าจะมาปรึกษาเรื่องนี้พอดี” ฉันวางขวดน้ำในมือลงก่อนจะไปจ้องตาผู้เป็นเพื่อนอย่างจริงจัง “ฉันว่าจะย้ายหอว่ะ ไม่ไหว”
“แกโดนเหรอ” พัธทำหน้าหวาดกลัวพร้อมกับตั้งคำถามแบบนั้น
“ไม่รู้อะ แต่ย้ายดีกว่าเพื่อความสบายใจ” ฉันว่าแล้วก็ยังกลุ้มไม่หายเลย เมื่อคืนน่ะกว่าจะได้นอนก็ปาไปตีสามเลยนะ ถึงตอนนี้ยังง่วงอยู่เลย “แกมีที่ไหนใกล้ๆ มอแนะนำไหมอะ ฉันลองหาดูเกือบหมดแล้วก็ไม่โอเลย”
ไม่ใช่ว่าตัวเองเรื่องมากอะไรนักหรอก แต่ด้วยความว่าหออื่นๆ ที่ลองไปค้นหาดูถ้าเป็นหอว่างก็มักจะไม่ค่อยมีพื้นที่ข้างล่างที่กว้างมากพอให้ฉันได้ซ้อมกีฬา ส่วนที่ที่มีก็มักจะไม่ว่างแล้วไม่ก็ราคาแพงจนเอื้อมไม่ถึง อย่างหอที่ฉันอยู่ตอนนี้ติดกับสนามหญ้าด้านล่างซึ่งเหมาะกับการเล่นมาก ฉันไม่อยากมาที่สนามกีฬาของคณะเพราะมันเสียเวลาไปกลับมากๆ แถมคนก็เยอะหนวกหูอีกด้วย
“อ่า งั้นเดี๋ยวฉันจะลองหาดูให้”
“ขอบใจมากเพื่อนรักกก” ฉันยิ้มออกเมื่อได้ยินพัธบอกแบบนั้น
“ไม่ต้องมายิ้มแบบนี้ น่าขนลุก” เพื่อนหนุ่มพูดก่อนจะเขยิบห่างออกจากทันเหมือนกับรังเกียจ เออแหม ใช่ซี้ ฉันไม่ใช่ผู้ชายหน้าตาน่ารักๆ นี่
“วันนี้ซ้อมมาดีหรือยัง” ฉันถามอีกฝ่ายเกี่ยวกับเรื่องสอบปฏิบัติในวันนี้
“แน่นอนอยู่แล้ว อย่างพัธน่ะไม่มีทางครับ”
“ไม่มีทางพลาด?” ฉันกำลังจะภูมิใจในตัวเพื่อนคนนี้
“ไม่มีทางซ้อมสิ!” แต่แล้วมันก็ทำให้ความภูมิใจที่เคยมีก่อนหน้านั้นเสียเปล่าไป “แกก็ไม่ซ้อมใช่ไหมล่ะ นี่แหละน้าคนเรามันศีลเสมอกัน”
“ไหนศีลแกมีอะไรบ้าง” ฉันถามทั้งๆ ที่รู้ว่ามันจะตอบอะไร
“หนึ่งไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตแต่ถ้ายุงกัดสะกิดต้องตบให้ตาย สองไม่ขโมยแต่ถ้าจำเป็นจะลักทรัพย์ก็อย่าให้เขาจับได้ สามเราไม่ยุ่งกับแฟนชาวบ้านแต่ถ้าเราหน้าด้านเราก็จะเอา สี่ไม่นินทาหรือพูดเท็จแต่ถ้าเรื่องมันเด็ดก็ต้องขยาย และข้อสุดท้ายไม่ดื่มของมึนเมาแต่ถ้าเพื่อนเลี้ยงเหล้าเราก็อย่าพลาด” พัธร่ายยาวมาตั้งแต่ข้อแรกจนถึงข้อสุดท้ายให้ฉันฟัง
เนี่ย..เกลัยดมันฉิบหายเลย
“ไอ้พัธ..แกเป็นกบใช่มะ”
“ทำไมว่างั้นเพื่อน” มันเอ่ยถามพร้อมกับขมวดคิ้วอย่างสงสัย
“ก็แกจำศีลได้”
...กริบ
“นี่ลี ขอร้องหละไอ้หนังสือมุขฮาๆ นี่ขนไปทิ้งเถอะ เลิกอ่านได้แล้วถือว่าเพื่อนขอนะลีนะ” พัธไม่ได้พูดเฉยๆ แต่กลับยกมือขึ้นมาไหว้ฉันด้วย
“เฮอะ” ไม่ตลกก็ไม่ตลกสิ ไม่เห็นจะต้องบอกให้ฉันขนหนังสือพวกนั้นไปทิ้งเลย
“เออลี วันก่อนแพรวาบ่นว่าคะแนนว่ายน้ำของแกไม่ค่อยดีเลย” พัธเปลี่ยนเรื่องคุย แพรวาที่มันพูดถึงคือแพรวลีเป็นอาจารย์ในคลาสว่ายน้ำของเรานั่นเอง ด้วยความที่โหดเนี้ยบของเจ๊แกทำให้เพื่อนหลายคนตั้งชื่อเรียกสั้นๆ ให้ใหม่ว่าแพรวา
“ทำไงได้ล่ะ ฉันว่ายน้ำไม่เก่งนี่” คิดแล้วก็เหนื่อยใจกับตัวเองสุดๆ ไปเลย ฉันน่ะชื่นชอบกีฬาทุกชนิดเลยนะถึงได้มาเรียนคณะวิทย์กีฬานี่ไง ถึงจะไม่ได้เล่นเก่งไปซะทุกอย่างแต่ก็ไม่เคยมีกีฬาไหนที่แย่ได้เท่าว่ายน้ำมาก่อนเลย
“แกไม่ได้มีปมอะไรในวัยเด็กแน่นะ” พัธเริ่มตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้
“ไม่” ฉันตอบแล้วส่ายหน้า คำว่าไม่ของฉันในที่นี้ก็คือไม่รู้น่ะ ฉันไม่แน่ใจหรอกว่าตัวเองมีปมเกี่ยวกับการว่ายน้ำในตอนเด็กหรือเปล่า
ถ้าฉันเล่าเรื่องนี้ให้ฟังหลายคนก็คงไม่อยากจะเชื่อ แต่มันเป็นความจริงนะ..ความจริงที่ว่าฉันสูญเสียความทรงจำของตัวเองในวัยเด็กไป ฉันจำเรื่องราวของตัวเองได้แค่ตอนที่อายุ 8 ขวบขึ้นมา ส่วนช่วงเวลาที่นานกว่านั้นน่ะ..ฉันไม่รู้
Castle-G's Talk
เหมือนเป็นนักเขียนที่แต่งไปเรื่อยๆ อะ ช่างมันเถอะเนอะ
เรื่องนี้จีตั้งใจเน้นไปทางความลึกลับแต่ก็ยังคงสไตล์การเขียนตัวเอง
อิ__อิ ยังไงก็ฝากด้วยจ้า
___________________________________
____________________________________
อ่านแล้วอย่าลืมคอมเม้นท์ให้ #ฮงลี นะก๊ะ
สามารถติดตามการอัพเดทความเคลื่อนไหวได้ที่เพจ Castle-G
____________________________________
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

โรน่าร้ากก ถึงจะดูสยองลึกลับไปหน่อย