ตอนที่ 34 : DIFFAIR | 21 : What’s Happen [1]
21 : What’s Happen
หลายสัปดาห์ผ่านไป
ฉันใช้ชีวิตโดยผ่านช่วงเวลานั้นด้วยความยากลำบาก เพราะมีเรื่องให้เครียดมากมายไม่ว่าจะเรื่องปัญหาส่วนตัวหรือเรื่องเรียนก็เถอะ แต่ว่าหลังจากนี้ก็คงจะได้พักผ่อนอย่างเต็มที่แล้วเนื่องจากตนเองเพิ่งสอบปลายภาคของภาคเรียนที่หนึ่งเสร็จไป
ช่วงเวลาปิดเทอมไม่กี่อาทิตย์นี้ก่อนจะเปิดเรียนเทอมสองก็อยากจะนอนเฉยๆ อยู่ที่บ้าน
แกร๊ก..
เพราะว่าอีกไม่กี่นาทีก็จะถึงเวลามื้อเย็น ฉันจึงตั้งใจจะออกจากห้องเพื่อไปหาอะไรทาน แต่ว่าในจังหวะที่เปิดประตูห้องออกไปก็เป็นจังหวะเดียวกับที่ผู้เป็นพี่ชายออกจากห้องมาเช่นเดียวกัน พี่อันอยู่ในชุดวอร์มแต่ดูทะมัดทะแมงพร้อมมือข้างหนึ่งก็ถือกุญแจรถเอาไว้
“เย็นแล้วนะ พี่จะไปไหน” ฉันเป็นฝ่ายถาม
“ทำธุระนิดหน่อย เดี๋ยวพี่กลับมา”
พูดจบพี่ชายก็เดินผ่านร่างของฉันไป ท่าทีเร่งรีบนั้นทำให้ฉันสงสัยไม่น้อย จะว่าไปแล้วช่วงนี้พี่อันก็ดูมีความลับกับฉันเยอะเสียเหลือเกิน ตอนแรกก็เข้าใจว่าเขาคงยุ่งกับการสอบและการทำโปรเจ็คจบหรือเปล่า แต่ว่านี่มันก็เลยช่วงสอบมาแล้ว
ฉันควรจะแอบตามไปดูหรือเปล่า? มีนจะเป็นการล้ำเส้นความเป็นส่วนตัวของเขาเกินไปไหมนะ
บางทีฉันก็คงคิดมากไปเองก็ได้
จวบจนเวลาผ่านไปหลายชั่วโมง ซึ่งมันเริ่มดึกแล้วหลังจากที่ฉันนั่งอยู่ที่ห้องรับแขกของบ้านอยู่นาน ก็ได้ยินเสียงรถที่คุ้นเคยขับเข้ามาจอดที่โรงจอดรถด้านหน้าบ้าน สักพักเจ้าของรถคันนั้นก็เดินเข้ามาในบ้านซึ่งก่อนจะขึ้นห้องก็ต้องผ่านโซฟาที่ฉันนั่งเสียก่อน
“พี่กลับดึกจัง” ฉันพูดขึ้น
“ยังไม่นอนอีกเหรอ”
“ก็รอพี่” ฉันตอบ
“รอทำไม นอนก่อนเลยก็ได้”
ก็ฉันเป็นห่วงเขานี่ไงเลยรอ นี่พี่อันพูดเองนะว่าเราเหลือกันแค่สองคนพี่น้องไม่ให้ฉันเป็นห่วงคนในครอบครัวแล้วจะให้ห่วงหมาตัวไหนเล่า
“เดี๋ยวสิ” ฉันรีบลุกออกจากที่นั่งของตัวเองเพื่อเดินไปดักหน้าของผู้เป็นพี่ชายเมื่อเห็นว่าเขากำลังจะก้าวขาขึ้นบันบ้านไป แต่แล้วเมื่อเห็นใบหน้าของอีกฝ่ายชัดๆ จึงต้องแสดงความตกใจออกมา “หน้าพี่ไปโดนอะไรมา!?”
ฉันถามพลางเอื้อมมือไปแตะๆ ตามแก้มและคางของคนตรงหน้าแล้วนั่นก็ทำให้พี่อันสะดุ้งเล็กน้อยเพราะฉันคงจะไปจับโดนแผลของเขา
“อุบัติเหตุนิดหน่อย”
“ทำไมไม่ไปทำแผลที่โรงบาล”
“แค่แผลช้ำนิดเดียวจะไปทำไม” เจ้าตัวว่าพร้อมกับถอนหายใจ ซึ่งพี่อันก็ไม่วายพูดส่งท้ายกับฉันก่อนที่เขาจะเดินหายขึ้นไปบนห้อง “พี่จะนอนแล้วนะ แกก็ไปพักผ่อนซะ”
เขาโกหกไม่เนียนสักนิด อุบัติเหตุอะไรจะมีรอยชกชัดเจนขนาดนั้น นี่พี่ชายฉันต้องไปมีเรื่องกับใครมาแน่เลย แล้วยิ่งพอเห็นแบบนี้มันก็ยิ่งชัดเจนว่าช่วงนี้เขาจะต้องทำอะไรอยู่โดยไม่อยากให้ฉันรู้
ทำไมรอบตัวฉันถึงมีแต่คนชอบปิดบังความจริงกันนักนะ
ฉันเดินเข้าไปยังห้องครัวซึ่งในนั้นจะมีตู้เก็บพวกยาสามัญประจำบ้านเอาไว้อยู่ก่อนจะหยิบกล่องสีพลาสติกสีขาวที่อยู่ในตู้ออกมา ซึ่งเป็นกล่องสำหรับเก็บพวกอุปกรณ์ปฐมพยาบาล ทำแผลต่างๆ จากนั้นจึงเดินขึ้นไปหยุดอยู่หน้าห้องของผู้เป็นพี่ชาย
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
พอเคาะประตูไปได้สักพัก เจ้าของห้องก็เดินออกมาเปิดให้
“มีอะไร” พี่อันเอ่ยถาม
“ฉันจะทำแผลให้ไง” ฉันตอบแล้วก็เดินเข้าไปในนั่งในห้องของผู้เป็นพี่ โดยไม่วายบ่น “เจ็บขนาดนั้นจะนอนไปเฉยๆ ได้เหรอ ต้องทายาด้วยสิ”
“นับวันแกยิ่งเหมือนแม่เข้าไปทุกทีละ”
“งั้นพี่ก็เหมือนพ่อฉันเหมือนกันนั่นแหละ มานั่งลงเลยเดี๋ยวนี้” ฉันวางอุปกรณ์ปฐมพยาบาลลงบนโต๊ะตัวหนึ่งในห้องพร้อมกับสั่งให้พี่อันเดินมานั่งที่เก้าอี้ของโต๊ะตัวดังกล่าว
“จริงๆ เลย” ถึงจะบอกแบบนั้นแต่ไอ้เจ้าพี่ชายก็ยอมมานั่งลงแต่โดยดี
ฉันจัดการหยิบน้ำเกลือขึ้นมาพร้อมสำลีขึ้นมาเพื่อเช็ดตรงแผลสดที่อยู่หางคิ้วนั่นก่อนเป็นอย่างแรก กำลังคิดด้วยว่าใครกันที่ทำร้ายจนพี่ชายฉันเลือดตกยางออกขนาดนี้
“นี่พี่ไม่มีอะไรจะบอกฉันจริงๆ ใช่ไหม” ฉันลองถามดูอีกครั้ง
“จะให้บอกอะไรล่ะ”
“ก็อย่างเช่นไปมีเรื่องกับใครมาไงล่ะ”
“หน้าพี่เหมือนคนชอบมีปัญหาเหรอ” คนตรงหน้าถามพร้อมกับชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง
เหอะ..เรื่องที่ฉันไม่คาดคิดมันยังเกิดขึ้นมาแล้วเลย นับประสาอะไรกับการที่อีกฝ่ายไปมีปัญหาจะไม่เกิดขึ้นได้ล่ะ ฉันหละอยากจะรู้จริงๆ ว่าพี่อันทะเลาะกับใครมาบ้างแล้ว จะได้จำไว้
“พี่มีศัตรูเยอะแยะอะไรนัก แผลพวกนี้ใครก็มองออกว่าโดนต่อยหน้ามา” ฉันถอนหายใจหลังจากที่ปิดพลาสเตอร์ลงบนบริเวณหางคิ้วนั่นเรียบร้อย
จากนั้นก็เหลือแผลฟกช้ำสินะ พวกนี้ต้องทายา..
“นี่แกเห็นพี่ชายแกเป็นคนยังไง มันก็มีแค่ไม่กี่คนหรอกที่ไม่ชอบหน้าพี่”
“ถ้างั้น...พี่ดิฟเหรอไง”
เพราะเจ้าของชื่อนั้นเป็นคนเดียวที่ฉันรู้ว่าเขาเป็นศัตรูของพี่ชายฉัน
“พูดถึงมันทำไม”
“...” ฉันที่กำลังบีบยาจากหลอดก็หยุดกึกไปกะทันหันจากคำพูดของพี่อัน
นั่นน่ะสิ ฉันจะไปพูดถึงเขาทำไมกัน
“แกยังไม่ลืมมันไปเหรอไง”
เรื่องราวเพิ่งเกิดขึ้นยังไม่ถึงเดือนด้วยซ้ำ ฉันจะเอาปัญญาที่ไหนไปลืมล่ะ ยิ่งพยายามลืมก็ยิ่งทำให้จำ.. อย่างที่เขาว่านั่นแหละการจะลืมได้มันต้องไม่ใช้ความพยายามเลยต่างหาก
ป่านนี้จะทำอะไรอยู่กันนะ คงมีความสุขมากเลยสิท่า.. เขาอาจจะกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิมของเขาก็ได้ ไม่ต้องปฏิเสธผู้หญิงที่เข้ามาเพียงเพื่อแกล้งตบตาฉันอีกต่อไปแล้ว
ให้ตายสิ พอคิดแล้วก็จี๊ดที่ใจไม่น้อยเลยแฮะ ทั้งที่ฉันทุกข์และเสียใจขนาดนี้ เขาจะไปมีความสุขจริงๆ น่ะเหรอ
“พี่เคยชอบใครสักคนมากๆ ไหมล่ะ”
ฉันน่ะ..ชอบเขามากๆ เลย เพราะชอบมาก ไว้ใจมากผลสุดท้ายก็เลยเป็นแบบนี้ ในอนาคตฉันก็คงไม่กล้าไว้ใจหรือเชื่อใจใครอีกต่อไปแล้วแหละ
“แอร์” พี่อันเรียกชื่อของฉัน
“พี่จะไม่บอกฉันจริงๆ น่ะเหรอว่าพี่ไปมีเรื่องอะไรมา” ฉันก็แค่อยากรู้อยากรับฟังเรื่องของพี่ชายตัวเองบ้างก็เท่านั้น
“พี่ไม่อยากให้แกลำบากใจ”
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

คิดถิงไรท์จั่งเลยยยยยยย
รอนะคะ แก้แค้นอิพี่ดิฟเร็วๆ