ตอนที่ 23 : DIFFAIR | 16 : LOY KRATHONG [2]
16 : Loy Krathong
2 ชั่วโมงต่อมา
@อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย
ตอนนี้เป็นเวลาเกือบจะหกโมงเย็นได้ ฉันกับพี่ดิฟออกจากรีสอร์ทแล้วตรงมายังอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยทันทีซึ่งเป็นสถานที่จัดงานลอยกระทงเผาเทียนเล่นไฟ
ด้วยความที่เป็นอุทยานประวัติสถาน ภายในงานจึงเห็นโบราณสถานเก่าแก่หลายแห่งถูกประดับด้วยไฟเทศกาลอย่างสวยงามให้เป็นประจักษ์ตา ด้านหน้ามีโซนแสดงดนตรีไทยด้วย ส่วนอีกฝั่งหนึ่งคือเป็นบึงน้ำที่มีกระทงขนาดใหญ่ตั้งอยู่กึ่งกลางบึงอย่างสวยงามอีกด้วย ฉันเห็นแล้วจึงอดไม่ได้ที่จะเดินเข้าไปถ่ายรูป
“นี่พี่ดิฟ ถ่ายรูปให้หน่อย” ฉันยื่นกล้องโทรศัพท์ไปให้คนที่เดินมาด้วยกัน
“เอาสิ” เขารับโทรศัพท์ฉันไปแล้วตั้งท่าจะถ่ายรูปให้
ฉันรีบเดินเข้าไปหามุมและวิวเหมาะๆ สำหรับการถ่ายรูป พยายามเลือกที่คนเดินผ่านน้อยถึงแม้ว่าจะเป็นไปได้ยากก็เถอะ
“ถ่ายสวยๆ เลยนะ”
“นางแบบสวยอยู่แล้วถ่ายยังไงก็ดีหรือเปล่า”
ปากหวานเหลือเกินพ่อคุณ
“รู้ตัวว่าสวย” เอาเป็นว่าจะรับคำชมนั้นไว้แล้วกันนะ
หลังจากนั้นฉันก็ได้รูปภาพเยอะแยะเลย ไม่เสียแรงที่อุตส่าห์เตรียมเสื้อผ้ามาหลายชุด ยอมรับเลยว่าตลอดที่เดินเข้ามาภายในงานฉันก็ชอบถ่ายรูปนู่นนี่เก็บไว้ไม่หยุดไม่หย่อน ไฮไลท์สำหรับคนที่ยังไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่บ่ายอย่างฉันก็คือโซนตลาดในงานนี่แหละ
ตลาดมาในธีมย้อนยุคซะด้วย ตามซุ้มขายของจะเป็นศาลาที่มุงด้วยหญ้าคาเอาไว้ให้ดูวินเทจแบบไทยๆ
“ลองกินดูสิ” พี่ดิฟซื้อขนมอะไรบางอย่างในงานแล้วก็หยิบมาให้ฉันชิ้นนึง “อร่อยนะ”
ฉันกำลังจะเอื้อมมือไปรับขนมชิ้นนั้นมาลองกินแต่ว่าคนด้านข้างกลับชักมืออกไปเสียก่อนแล้วยื่นกลับมาจ่อตรงปากฉันใหม่ มีนัยยะประมาณว่าเดี๋ยวเขาจะป้อนเอง
ท้ายที่สุดก็ยอมให้พี่ดิฟป้อนอยู่ดีเพราะขี้เกียจจะเล่นตัวแล้ว
“คือขนมอะไรอะ” รสชาติหวานๆ มันๆ
“เขาเรียกขนมจาก” อีกฝ่ายตอบพร้อมชูถุงขนมจากที่ถูกไว้ด้วยใบตองอีกหลายชิ้นมาให้ฉันดู
“ขนมจาก..จากอะไรอะ”
“มุกป้ะเนี่ย” เขาหัวเราะให้กับคำถามของฉัน “จากอะไรไม่รู้นะ แต่พี่จะไม่จากแอร์ไปไหนแน่นอน”
“เกลียดอะ” คำตอบเขาแต่ละอย่างนี่มันชวนเลี่ยนทุกอย่าง
“ก็มันห่อด้วยใบจาก เลยเรียกขนมจากไง”
ความรู้ ต้องจดไว้
“ไปเดินดูตรงนั้นด้วยเถอะ มีการแสดงเล็กๆ ด้วยอะ” ฉันเข้าไปคว้าแขนของพี่ดิฟเอาไว้แล้วดึงเจ้าตัวให้รีบเดินตามมา
“ตื่นเต้นเป็นเด็กไปได้”
“ก็ฉันไม่เคยมานี่” นานทีจะออกมาเที่ยวต่างจังหวัดแบบนี้ จะแปลกอะไรถ้าฉันรู้สึกตื่นเต้นกับทุกสิ่งทุกอย่าง
“ทำไม พี่ชายไม่เคยพาเที่ยวเลยเหรอ”
“โห อย่าพูดถึงเลยรายนั้นเอาตัวเองให้ว่างก่อนเถอะ” ฉันนึกไปถึงมนุษย์งานยุ่งแห่งปีอย่างพี่อันแล้วก็อยากจะถอนหายใจทิ้งอีกร้อยรอบ
“ถ้างั้นถ้าอยากเที่ยวก็บอกพี่ได้นะ ต่อให้พี่ยุ่งพี่ก็จะหาเวลามาให้” พี่ดิฟยิ้มให้ฉันอีกครั้ง
“ให้มันจริง”
“พี่น่ะของจริงที่สุดแล้วจับได้ ลูบได้ คลำได้” ไม่ว่าเปล่า พี่มันยังดึงมือของฉันเข้าแตะที่ข้างแก้มตนเองอีกด้วย
ฉันรีบชักมือออกไปเพราะรู้สึกคล้ายกับมีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านร่าง นี่ฉันรู้สึกแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ปกติฉันไม่ได้อะไรกับการแตะเนื้อต้องตัวของพี่ดิฟด้วยซ้ำ
“ไปกันเถอะ” ฉันกระแอมเบาๆ และตัดสินใจเดินนำหน้าอีกคนไปก่อน
ฉันเดินมาตามตลาดเรื่อยๆ ก็เห็นว่ามีสายไหมสีพาสเทลขายด้วย ก็ไม่รอช้าที่จะเดินเข้าไปซื้อมาหนึ่งอัน ขนมหวานในช่วงใกล้ค่ำนี่ก็ดีไม่น้อยนะ
“อร่อยมากเลยเหรอ” พี่ดิฟเพิ่งเดินตามมาเขาพูดขึ้นเมื่อเห็นฉันกำลังขบขนมสายไหมเข้าปาก
“พี่ก็ลองกินดูสิ”
ที่พูดไปแบบนั้น จุดประสงค์ของฉันก็คือจะให้เขาไปซื้ออันใหม่มาลองกินดู ไม่ใช่จู่ๆ ก็ยื่นหน้าเข้ามาใช้ปากงับสายไหมในมือฉันจากอีกฝั่งแบบนี้
ด้วยความที่สายไหมเป็นเส้นบางๆ จากน้ำตาล มันสามารถถูกบีบกดและเสียรูปทรงได้ง่าย เพราะฉะนั้นตอนที่พี่ดิฟยื่นหน้าเข้ามาใช้ปากงับมันจากอีกฝั่งในขณะที่ปากฉันเองก็กำลังกินอยู่เช่นกัน ทำให้ริมฝีปากของเราทั้งคู่ชนกันแต่มีขนมเส้นบางกั้นเอาไว้
“ท..ทำอะไรอะ” ฉันเขยิบร่างหนีออกจากอีกฝ่ายทันที
“ก็แอร์บอกให้ลองชิม”
“ไม่ใช่อันที่ฉันถืออยู่ป้ะ” แล้วเมื่อกี๊นี้เขาตั้งใจกดเข้ามาใช่ไหม
“อร่อยดีนะ นุ่มมากเลย” เขาอมยิ้มหลังจากที่ผละใบหน้าออกไปแล้ว พูดแบบนั้นหมายความยังไงน่ะ พูดถึงสายไหมหรืออะไรกันแน่
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ร้ายยยยยย
อ่อยด่ายอ่อยดีตหรอดนะดิฟฟฟฟฟ
อิพี่รุกเก่ง 555555555555
ไรท์อยากโดนน้องแอร์กับพี่มันหอมแก้มก็บอก ฮิฮิ~