ตอนที่ 20 : DIFFAIR | 15 : FALL IN LOVE [1]
15 : Fall in love
“ถอนหายใจรอบที่เท่าไหร่ของวันแล้วนะ” ฉันพึมพำกับตัวเองในขณะที่นั่งอยู่ตรงม้านั่งติดกับทางเดินใต้ตึกคณะ ก็ตั้งแต่เรื่องวันนั้นที่ตลาดเกษตรก็ผ่านมาหลายวันแล้ว
ฉันไม่ค่อยได้เจอกับพี่ดิฟอีกเลย ถึงจะมีบ้างที่เขาส่งข้อความมาให้ทางแชทเป็นระยะก็เถอะว่าทำอะไรอยู่ แต่ว่าการที่ฉันจะมานั่งถอนหายใจเพราะไม่ได้เจอหน้าเขานี่มันใช่เรื่องหรือเปล่า
เกลียดความรู้สึกของตัวเองในตอนนี้ชะมัด
นอกจากจะถอนหายใจหลายครั้งแล้วฉันยังนั่งมองหน้าจอแชทบนโทรศัพท์มาอยู่นานอีกด้วย ทั้งที่ตอนนี้พักเที่ยงฉันก็ควรได้พักอย่างสบายใจสิ อีกไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็ต้องขึ้นไปเรียนต่อด้วยแต่ทำไมถึงเอาเวลามานั่งคิดเรื่องพี่มันขนาดนี้ อยากจะบ้าตาย
‘ช่วงนี้พี่ยุ่งเหรอ’
นั่นคือข้อความที่ฉันพิมพ์ค้างเอาไว้ในช่องแชทแต่ยังไม่ได้กดส่ง สุดท้ายก็ต้องลบแล้วพิมพ์ใหม่ ขืนถามไปอย่างนั้นเขาก็รู้สิว่าฉันตามติดชีวิตเขาขนาดไหน
‘วันนี้พี่มามอมั้ย’
จะถามไปทำไมกันนะ ไม่เอา ลองอันใหม่ที่เนียนกว่านี้ดีกว่า
‘พี่ดิฟ เรื่องที่ชวนไปงานลอยกระทงที่สุโขทัยน่ะ’
เฮ้อ ไม่เอาดีกว่า..
“พี่ดิฟ!” ฉันตะโกนเรียกชื่อเขาหลังจากที่เงยหน้าจากหน้าจอโทรศัพท์แล้วเจอกับพี่มันตัวเป็นๆ กำลังเดินผ่านหน้าฉันไป
เขาหยุดชะงักแล้วหันกลับมามองฉันพร้อมเลิกคิ้วเล็กน้อย
“เดี๋ยวกูตามไปนะ” พี่ดิฟบอกกับเพื่อนที่เดินมาด้วยกันจากนั้นอีกฝ่ายก็เข้ามาทิ้งกายนั่งลงที่โต๊ะเดียวกัน “มีอะไรหรือครับน้องแอร์ เสียงพี่เสียงดังเชียว”
“ไม่ได้เสียงดังสักหน่อย” ฉันกดปิดหน้าจอโทรศัพท์แล้วก็จัดระเบียบท่านั่งตนเองใหม่
“แล้วมีอะไรครับ” เกลียดการพูดจาด้วยหางเสียงของเขาจังเลย
“เปล่า แค่เรียกเฉยๆ ไม่ได้เจอหน้าหลายวัน”
“อ้อออ..” คนตรงหน้าลากเสียงยาวพร้อมกับยกยิ้มให้ฉันไปด้วย นี่ไม่ใช่ว่าพี่ดิฟจะคิดอะไรไม่ดีในหัวอยู่นะ “คิดถึงพี่ก็โทรหาสิ”
“ใครคิดถึง เป็นตุเป็นตะอีกแล้ว” ฉันปฏิเสธคอแข็ง
“แต่พี่คิดถึงแอร์นะ”
อยู่ๆ ก็พูดอะไรแบบนั้นออกมาหน้าตาเฉยน่ะนะ คนอะไรหน้าไม่อายจริงๆ
“ฮึ พูดดี คิดถึงจริงแต่หายหน้าหายตาไปหลายวันเชียว” แล้วทำไมฉันจะต้องเหมือนสาวน้อยขี้งอน งี่เง่าขนาดนี้ด้วยอะ
“ก็พี่งานเยอะอะ ขอโทษนะที่ไม่ได้มาเจอ”
“จะขอโทษทำไม แค่ไม่ได้เจอเอง” ฉันก้มหน้าแล้วพูดงุบงิบกับตัวเอง แต่ถึงอย่างนั้นพี่ดิฟก็ยังคงได้ยินอยู่
“อีกไม่กี่วันที่จะถึงก็งานลอยกระทงแล้วนะ สรุปไปกับพี่ไหม”
เขากำลังพูดเรื่องเดียวกับที่ฉันคิดเลยแฮะ
“มันไกลอะ ถ้าไปกลับคงเหนื่อยแน่” ฉันเองก็คิดเรื่องนี้มาไม่ต่ำกว่าสามคืนเหมือนกัน ตั้งแต่ที่เจ้าตัวเอ่ยปากชวนฉันก็รู้สึกลังเลไม่น้อย
“งั้นก็นอนค้างนู่นคืนนึงก็ได้”
“ฮะ? กับพี่อะนะ!” ฉันเบิกตากว้างอย่างตกใจเมื่อได้ยินเช่นนั้น
“แยกห้องนอนกันก็ได้ถ้าแอร์ไม่สะดวกใจ”
“อื้อ งั้นเหรอ” ความจริงวันนั้นมันตรงกับวันเสาร์พอดีด้วย ฉันเองก็อยากลองไปเปิดหูเปิดตาที่อื่นนอกจากมหาวิทยาลัยกับห้องนอนบ้าง “แล้วต้องเตรียมอะไรบ้างอะ”
“หึ สรุปจะไปใช่ไหม” คนตรงหน้ายกยิ้มพร้อมหัวเราะในลำคอเบาๆ
“ก็แค่อยากไปเที่ยวบ้าง อยู่แต่ห้องมันน่าเบื่อ”
“ถ้างั้นก็มาแต่ตัวได้ ขาดเหลือพี่ซื้อให้เอง”
“โฮ่ ป๋าจริงนะ” ฉันย่นจมูกใส่พี่ดิฟเล็กน้อยจากนั้นจึงหยิบของอะไรบางอย่างออกมาจากกระเป๋า มันเป็นกล่องใส่อะไรสักอย่างซึ่งฉันไม่อยากบอก “ฉันให้พี่”
“คือ?” เจ้าตัวมองกล่องขนาดประมาณฝ่ามือที่วางบนโต๊ะแล้วก็ขมวดคิ้วอย่างแปลกใจ
“ก็แกะดูสิ”
“ให้พี่ทำไมอะ เนื่องในโอกาส?”
“ก็ของตอบแทนไง พี่ให้อะไรฉันตั้งหลายอย่างอะ ตั้งแต่ตุ๊กตาตัวใหญ่ที่งานนั่น ไหนจะบัตรเข้าชมงานที่สุโขทัย ค่ารถค่าอะไรอีก ฉันไม่อยากเป็นหนี้บุญคุณนะ”
“เอาจริงนะแอร์” พี่ดิฟรับกล่องของขวัญนั้นไปจากฉันเพื่อเปิดมันดูเล็กน้อย
“อะไรอะ ไม่ชอบเหรอ” พอเห็นปฏิกิริยาตอบรับนิ่งเฉยแบบนั้น ฉันก็รู้สึกใจแป้วไม่น้อยนึกคิดมากมายว่าพี่ดิฟคงไม่ชอบใช้ของพวกนี้หรือเปล่า
แต่ว่านั่นก็ตั้งใจเลือกมาสุดฝีมือเชียวนะ
“แอร์ให้อะไรพี่ก็ชอบหมดนั่นแหละ แต่ว่าที่พี่อยากได้จากแอร์จริงๆ น่ะ”
“...?” ฉันทำเพียงแค่ไม่พูดอะไรและนั่งนิ่งสบตาพี่ดิฟเพื่อรอฟังคำพูดที่กำลังจะออกมาจากปากของเขา
“คือความรักจากแอร์นะ”
ฉันหลุดยิ้มออกมาเมื่อได้ยินเช่นนั้น ผู้ชายอะไรเลี่ยนจริง แต่ไอ้คำพูดที่ว่าเลี่ยนนั่นกลับทำหัวใจฉันสั่นไหวไม่หยุดเลย
“รออีกหน่อยแล้วกันนะ”
คงอีกไม่นานแล้วหละที่ฉันจะตกหลุมรักพี่ดิฟอย่างเต็มหัวใจ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

พี่หลอกน้องนะ
ใกล้ม่าแล้วสินะ แงงงงงงง
ในที่สุดแอร์กับดิฟก็มาแล้ววว คิดถืงคิดถืงมากกกก
รอค่าาาาาาาาา