Kyle’s Talk
แกร๊ก!
“ใครน่ะ” ผมส่งเสียงถามออกไปหลังจากที่เห็นเงาของใครสักคนกำลังซุ่มดูอยู่หลังประตูนั่น
หลังจากที่อีกฝ่ายรู้ตัวว่าโดนจับได้ก็รีบวิ่งหนีกลับเข้าไปในคาสิโน ซึ่งอันที่จริงมองเห็นแค่ข้างหลังผมก็รู้แล้วว่าคนที่มาแอบฟังเราคุยกันนั้นเป็นใคร
“ให้ผมตามไปจับไหม” เป็นคำพูดของ ‘เซ็น’ มือขวาของผมที่คอยทำงานให้มาตลอดหลายปีนี้ หมอนี่ไม่เคยทำงานพลาดแต่อย่าดีกว่า
“ไม่ต้องๆ ปล่อยไปเถอะ” ผมไม่ถือสาเอาความอะไรนัก ยังไงซะเธอรู้ไปก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี “เอาเป็นว่าก็ทำตามที่บอกนั่นแหละ”
“ได้ครับ..เอ่อ คุณไคล์” มือซ้ายอย่าง ‘เฟิง’ พูดขึ้นบ้าง ส่วนใหญ่เขาจะมีหน้าที่ทำงานบริหารภายในมากกว่าออกไปใช้กำลังร่างกายข้างนอก
“อะไร”
“คุณท่านอยากเจอ”
“ไม่ไป” ผมปฏิเสธโดยแทบจะไม่ต้องคิด ผมไม่ได้เจอหน้าผู้เป็นพ่อมาเกือบปีได้แล้วหละ แล้วก็คิดว่าไม่อยากจะไปเจอด้วย..
ตอนนี้ก็เวลาเที่ยงคืนแล้วสินะ ผมควรไปพักผ่อนได้แล้วก่อนจะถึงตอนเช้าแล้วกลับไปเรียนที่มหาวิทยาลัย ในตอนกลางวันผมก็เป็นแค่นักศึกษาธรรมดาคนหนึ่งที่อยู่ในชื่อของไคลี่ ส่วนตอนกลางคืนผมก็คอยมาคุมคาสิโนและทำงานในชื่อของไคล์ ไม่มีใครรู้ว่าทั้งสองคนเป็นคนเดียวกัน ตัวตนที่แท้จริงของผมนั้นก็คือไคล์.. ส่วนสาเหตุที่ต้องแกล้งทำมีจริตจะก้านนั่นน่ะ เรื่องมันค่อนข้างยาว
เอาเป็นว่าทุกคนก็มีความลับเป็นของตัวเองทั้งนั้น
ผมหยิบหมวกกับแมสสีดำขึ้นมาสวมใส่เพื่ออำพรางใบหน้าให้เรียบร้อย พร้อมตัดสินใจเดินอ้อมไปยังด้านหน้าร้านที่ผู้คนบางส่วนเริ่มทยอยกลับกัน ยังไงซะตัวตนของไคล์ก็เป็นความลับ ผมไม่อยากให้คนที่เคยเจอไคลี่มาก่อนได้เห็นน่ะ ไม่งั้นอาจจะโป๊ะแตก
ยิ่งกับเธอคนนั้นที่ชื่อทชาก็ยิ่งประมาทไม่ได้เลย เจ้าตัวใช้ชีวิตวนเวียนอยู่ใกล้ผมทั้งตอนกลางวันแล้วก็ตอนกลางคืนขนาดนี้ จึงได้สั่งไม่ให้เธอขึ้นมาบนห้องทำงานของผมอีกยังไงล่ะ
End Kyle’s Talk
01:20 PM
เวลาตอนนี้คือบ่ายโมงยี่สิบของวันเสาร์ วันนี้ไม่มีเรียนอยู่แล้วเพราะมันหยุด หลังจากกินข้าวเสร็จฉันก็มายังสระว่ายน้ำของมหาวิทยาลัย ตั้งใจว่าจะมาวอร์มอัพสักหน่อยไม่ได้ลงน้ำมานานกลัวฝีมือตก สาเหตุที่ได้อยู่ชมรมว่ายน้ำก็เพราะครั้งนึงเคยแข่งกีฬาว่ายน้ำของมอนี่แหละ
“นี่เจ๊ทชา ทำไมยังไม่เปลี่ยนชุดอีกล่ะ ชักช้าจังวะ” ไอ้ม่อนจอมก่อกวนนี่น่ารำคาญ เมื่อไหร่มันจะเลิกยุ่งวุ่นวายกับชีวิตฉันสักทีวะ ไอ้เด็กเวร
“จะเปลี่ยนตอนไหนมันก็เรื่องของฉันโว้ย แกมีหน้าที่อะไรก็ไปทำไป” แน่นอนว่าวันนี้ฉันไม่ได้อยู่ที่สระคนเดียวอยู่แล้ว ก็มีคนในชมรมมาด้วยบางส่วน
“สวัสดีจ้าทุกคนนน” เสียงของใครบางคนดังมาก่อนที่จะปรากฏร่างกาย
“หวัดดีเจ๊ไคลี่” ไอ้ม่อนทักทายกลับ
ใช่..คนที่มาใหม่ก็คือไคลี่ นับว่าน่าประหลาดใจที่ได้เห็นสมาชิกใหม่ของชมรมโผล่มาที่นี่ในวันหยุดด้วย ส่วนใหญ่พวกที่เข้ามาใหม่จะยังไม่ค่อยรู้ตารางอะไรเกี่ยวกับชมรมมากนัก ถึงรู้ก็ไม่ค่อยมากันหรอก วันนี้ไคลี่อยู่ในชุดไปรเวททั่วไปซึ่งเป็นเสื้อยืดกับกางเกงยีนส์
อื้ม..แอบโล่งใจนิดนึงที่เจ้าตัวแต่งกายปกติ ไม่ได้เมคอัพจัดเต็มหรือใส่ชุดรัดรูปในวันที่ไม่มีเรียนเหมือนอีนังพุชชี่
“ว่าไงไคลี่” ฉันทักทายผู้เป็นเพื่อนพร้อมฉีกยิ้มหวานให้ “จะมาว่ายน้ำด้วยกันเหรอ”
“ก็เปล่าหรอก แค่มาน่ะค่ะ” อีกฝ่ายลังเลอยู่สักพักแล้วจึงตอบ
“แค่มา?” ฉันไม่เข้าใจว่าคนเรามันจะมีเหตุผลอะไรในการมาที่สระว่ายน้ำแล้วมาเฉยๆ นั่งดูคนอื่นเหรอวะ.. ชอบส่องผู้ชายถอดเสื้อว่ายน้ำเหรอ
เออ ถ้าใช่ก็ไม่แปลกแล้วถ้างั้นเพราะบางครั้งฉันก็เป็น
“ก็ใช่ แล้วเธอมาว่ายน้ำเหรอคะ” คนตรงหน้าถามย้อนคืนมา
“อื้อ เดี๋ยวจะไปเปลี่ยนชุดแล้ว”
ฉันตอบไคลี่จากนั้นก็เอื้อมมือไปหยิบถุงผ้าที่ใส่ชุดว่ายน้ำเอาไว้ข้างในนั้นพร้อมเดินเข้าไปยังห้องเปลี่ยนชุดที่อยู่ไม่ไกลจากสระ มันมีทั้งห้องอาบน้ำ ห้องเปลี่ยนชุดรวมเอาไว้ด้วยกันแยกชายหญิง
ทันทีที่เข้ามาถึงฉันก็แขวนถุงผ้าเอาไว้ตรงประตู เตรียมจะถอดเสื้อตัวเองออกแต่ทว่ากลับมีเรื่องน่าขัดใจ ฉันมองไปยังมือข้างขวาที่มีพลาสเตอร์แปะแผลเอาไว้อยู่ แผลที่ได้มาจากรีบวิ่งหนีออกมาเมื่อคืนนั่นแหละ ฉันทั้งตกใจแล้วก็หวาดเสียวไปในคราเดียวกัน เลยไม่ทันระวังให้โดนอะไรสักอย่างบาดเข้า
ซวยชะมัด..
“ไคลี่! มานี่หน่อยสิ” ฉันตัดสินใจออกไปเรียกชื่อของเพื่อนสาวที่อยู่ข้างสระว่ายน้ำ
“อะไรคะเธอ” อีกฝ่ายหันกลับมามองหน้าฉันอย่างสงสัย ว่าจะเรียกไปทำไมแต่ถึงแบบนั้นคนที่โดนเรียกก็ยังยอมเดินเข้ามาหาฉันที่หน้าห้องเปลี่ยนชุด ก็เลยดึงตัวอีกคนเข้ามาอยู่ในห้องด้วยกันเลย
ไม่เป็นไรหรอกมั้ง..ส่วนใหญ่ตุ๊ดก็ชอบเข้าห้องน้ำหญิงอยู่แล้ว
“ช่วยถอดเสื้อให้หน่อยสิ” ฉันเอ่ยขอความช่วยเหลือ
“ปกติเธอไม่ถอดเองเหรอไง?” อีกฝ่ายทำหน้าตกใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะถามกลับ
“เจ็บมือ ช่วยหน่อย” ฉันตอบกลับไปพร้อมชูมือข้างที่มีแผลให้นางดู ว่าอาการของคนมือไม่ปกติมันลำบากมากแค่ไหน
“เจ็บมือแล้วยังจะลงน้ำอีกเหรอคะ”
“เถอะน่า ลงแป๊บเดียว”
“ถอดแค่เสื้อใช่ไหม” สุดท้ายนางก็ถอนหายใจใส่เล็กน้อยเหมือนปลง
“ก็..ช่วยปลดบราด้วยก็ดี” ฉันค่อนข้างเกรงใจอยู่ไม่น้อย แต่ว่าตอนนี้คนที่จะช่วยฉันได้ก็คือไคลี่เท่านั้นนี่นา พวกสมาชิกชมรมที่เป็นผู้หญิงก็ยังไม่มากัน จะให้ไอ้ม่อนมาช่วยก็ใช่เรื่อง
“ต้องบราด้วยเหรอ”
“ก็จะเปลี่ยนชุดไง ใส่บราลงน้ำไม่ได้มันจะเปียก” เพราะชุดว่ายน้ำสำหรับผู้หญิงมันก็จะมีซิลิโคนเซฟเอาไว้ในชุดอยู่แล้ว
หลังจากที่สิ้นสุดคำพูดก็ได้ยินเสียงถอนหายใจดังเบาๆ เสื้อยืดตัวนอกของฉันถูกดึงออกไปจากส่วนบนของร่สงกายก่อนที่สักพักจะได้รับรู้ได้ถึงมือเย็นทาบทับบนแผ่นหลังก่อนที่ตะขอบราที่อยู่ด้านหลังจะถูกปลดออกเพียงชั่วขณะ ฉันถึงได้ความรู้ใหม่ว่าไคลี่มันก็มือเบาดีเหมือนกัน ทุกสิ่งรอบตัวเริ่มเงียบไม่มีใครเอ่ยพูดอะไร ได้ยินเพียงเสียงของลมหายใจของคนในห้อง บราเซียหลุดออกจากร่างของฉันเหลือเพียงท่อนบนที่เปลือยเปล่า ตอนนี้ฉันยืนหันหลังให้อยู่จึงรีบไปคว้าผ้าเช็ดตัวมาคลุมร่างไว้
ไม่รู้ว่าทำไม..ปกติกับคนที่มีจิตใจเป็นเพศเดียวกันฉันไม่เคยเขินอะไรอยู่แล้ แต่ครั้งกับรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ บอกไม่ถูก
“ขอบใจนะ” หลังจากที่ใช้ผ้าห่อหุ้มตัวเองเสร็จก็หันหน้าไปกล่าวกับอีกคน
“อ้อ ไม่เป็นไร” ไคลี่ชะงักไปพักหนึ่งก่อนจะพูดออกมา
ตอนแรกฉันหันหลังให้ก็เลยไม่เห็นสีหน้าท่าทางของเจ้าตัว แต่พอได้หันกลับไปมองหน้าก็พบว่าผู้เป็นเพื่อนมีท่าทีแปลกประหลาด
“แล้วแกจ้องหน้าฉันแบบนั้นทำไม” ฉันอธิบายไม่ถูกว่าคนตรงหน้ากำลังมองแบบไหน แต่ว่ามันไม่ปกติน่ะ
“ก็แค่สงสัยน่ะค่ะ”
“สงสัยว่า?”
“ทชาดูแลตัวเองยังไง ผิวเนียนดีนะคะ ขาวด้วย”
ทชาไม่ได้รู้สึกร้อนๆหนาวๆคนเดียวนะ คนอ่านก็รู้สึก ;-; นี่อินมากไปหรอ 55555
เป็นไงผิวดีมากไหม ^^
เตือนหวังดีนะนี่
ไหวไหมคะไคลี่
แงงง ทชาาาาาาา
รอค่าาาาา