ตอนที่ 8 : CHODCHOM | 07 : บางทีถ้าเธอยอมใจเย็นๆ

7
บางทีถ้าเธอยอมใจเย็นๆ
‘Chomngam saying’
ปวดหัว...
คือความรู้สึกแรกที่ฉันรู้สึกหลังจากที่ตื่นขึ้นบนเตียงนอนของตัวเอง คงเป็นเอฟเฟคจากการดื่มเมื่อคืนนี้ ฉันไม่น่าบ้าจี้ไปรับคำท้าของไอ้นิคมาตั้งแต่แรกเลย แล้วเป็นไงล่ะทีนี้จะลุกไปเรียนไหวไหมเนี่ย
ฉันบ่นให้กับตัวเองพร้อมหยัดการลุกขึ้นจากที่นอนหนานุ่มก่อนจะหันไปมองนาฬิกาตั้งโต๊ะตรงหัวเตียง
02:22 PM
เชี่ย...บ่ายสองเกือบครึ่ง นี่นอนหรือซ้อมตายวะเนี่ย ขนาดนี้แล้วคงไปเรียนไม่ทันละอะ เฮ้อ ขาดอีกจนได้สินะ คิดแล้วก็หงุดหงิดตัวเองไม่หาย แต่ว่ามันยังมีเรื่องสงสัยที่ฉันเพิ่งคิดได้ ไม่ได้อยากถามแต่แค่อยากรู้ว่า...
เมื่อคืนนี้ฉันกลับมาห้องยังไงอะ
ทะลุประตูวิเศษของโดเรม่อนมาเหรอวะ? แต่ฉันไม่ใช่โนบิตะนะเว้ย จะว่าหายตัวมาก็ไม่ใช่เพราะตัวเองไม่ใช่แฮร์รี่พ็อตเตอร์ หรือจะมีพลังแบบในซีรีส์ที่คิกคิกคักคัก ทะลุมาเลยอิอิ อีเวรเพ้อเจ้อ! ยิ่งคิดยิ่งงง ถ้าเมามากขนาดนั้นน่าจะตายตั้งแต่ขึ้นรถแท็กซี่เองแล้วอะ จะว่ามีคนมาส่งงั้นเหรอ? อันนี้ดูมีความเป็นไปได้สุด
ว่าแต่ใคร?
ฉันสะบัดหัวไล่ความปวดแต่มันก็ไม่ได้ช่วยอะไร แล้วควานหาโทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อคลุมของตัวเองซึ่งมันตกอยู่ข้างเตียง เมื่อเปิดหน้าจอขึ้นแจ้งเตือนแรกที่มันขึ้นก็คือ
!!แบตเตอร์รี่เหลือ 5% เสียบสายชาร์ต!!
เฮ้อ...แบตเกือบหมดแน่ะ ฉันปิดแจ้งเตือนนั้นออกก่อนจะดูอันที่เหลือ คราวนี้มันเป็นกลายเป็นแจ้งเตือนเบอร์ที่ไม่ได้รับสายแทน แถมโทรมาหลายสายซะด้วย
คุณไม่ได้รับสายจากโฉด (12)
ตั้ง 12 สายแน่ะ...เขาโทรมาตอนช่วงเกือบๆ เที่ยงได้ แต่ว่าตอนนั้นฉันยังไม่ตื่นเนี่ยสิ ถ้าบอกไปว่าเมื่อคืนเมามากจนจำไม่ได้ว่ากลับห้องยังไงจะโดนด่าป้ะวะ ก็โฉดบอกฉันแล้วว่าให้ดูแลตัวเองห้ามเมามาก แต่นี่ใครพามาส่งห้องแม่งยังไม่รู้เลย โอ้...หรือควรหาเรื่องโกหกดีอะ
จะโกหกก็รู้สึกผิดว่ะ
ฉันหยิบสายชาร์ต USB ที่ต่อกับหัวเสียบมาชาร์ตโทรศัพท์ของตัวเองจากนั้นจึงกดเบอร์โทรหาคนที่ไม่ได้รับสายตั้งสิบสองสายเมื่อตอนสามชั่วโมงที่แล้ว เจริญเนอะ ตื่นมาก็โทรหาผู้ชายเลย
[ว่าไง แม่ตัวดี โทรไปหลายสายทำไมไม่รับ อย่าบอกนะว่าเพิ่งตื่น แล้วนี่เมื่อคืนก็คือต้องเมาหนักล่ะสิท่า เราบอกเธอแล้วว่าอย่าดื่มเยอะ]
โอ้โห พ่อคุณ! พอรับสายก็เทศนากลับมายาวเชียวนะ
“โฉดดด”
[มีอะไรจะแก้ตัวไหม]
“บางทีถ้าเธอยอมใจเย็นๆ แล้วฟังฉันสักหน่อย อะก็เครื่องมันแฮงค์ ไม่อย่างงั้นก็ Net กาก Face มันล่ม ก็ Line รั่ว อย่าคิดมาก”
[โฉมงาม..]
โอเค เลิกร้องเพลงก็ได้ แต่พอโฉดถามเรื่องเมาแล้วก็เครียด โอ๊ย...ขอ How to ควรคำถามแฟนยังไงดีไม่ให้โดนบ่น เหมือนเด็กกลัวความผิดเลยโฉมงามเอ๊ย
“ก็ไม่ได้ตั้งใจดื่มเยอะหรอก แต่ไอ้นิคแม่งท้าอะ” ฉันโยนความผิดให้ไอ้เพื่อนมันไปเลย ตัวเองจะได้ดูดีขึ้น...เป็นการกระทำที่โซแบดมากแต่ก็จะทำ
[เหรอ แล้วตอนนี้อยู่ห้องใช่มั้ย]
โอเคๆ ฉันต้องนึกให้ได้ว่าเมื่อคืนตัวเองหลับมานอนที่ห้องได้ยังไง ก่อนที่โฉดจะถามออกมา โอ๊ย แต่แม่งนึกยังไงก็นึกไม่ออกว่ะ ถ้าตอบไปว่าขึ้นแท็กซี่กลับมาเองคงยิ่งโดนด่าเข้าไปใหญ่ บอกทะลุมิติเหมือนโดเรม่อนยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่เลย
“ใช่ๆ ที่ห้อง เมื่อคืนเมามากอะเลย แต่มีคนมาส่งนะ เราไม่ได้กลับเอง”
[แล้วใครมาส่ง]
เอาไงดี ใครมาส่งกูวะ แม่งเอ๊ย ทำไงดีๆ
“ไอ้พลอยไง” มีมันคนเดียวที่สติครบสุดในโต๊ะเหล้าแล้ว น่าจะเป็นมันอะแหละ
[…]
อ้าวเงียบ...เขาไม่เชื่อเหรอวะ
“....” ฉันก็เงียบเพราะแม่งไม่รู้จะพูดอะไรต่อ แต่แล้วก็แทบจะปล่อยโทรศัพท์ให้ร่วงลงจากมือเมื่อได้ยินประโยคต่อมาจากปลายสาย
[ไม่ใช่ เราต่างหากที่ไปรับเธอมาจากร้านแล้วพามาส่งห้อง]
ไอ้ฉิบหาย!
โฉดคือรู้อยู่แล้วอะแต่มาหลอกถามฉันอะ ร้ายมาก! แล้วงี้ก็คือฉันปล่อยไก่ไปเต็มๆ ไก่ตัวเบ้อเริ่ม ไก่เป็นเล้า ก็คือเขารู้อยู่แล้วว่าเมื่อคืนฉันเมามากแค่ไหน
“อ้อ โฉดเองเหรอ แหม เราก็เมาๆ เบลอๆ อะ เลยจำไม่ได้ แหะ” ปิดท้ายความการขำแห้ง เป็นการขำที่แห้งยิ่งกว่าผ้าที่ตากกลางแดดตอนเที่ยงเดือนเมษายน
[ตื่นแล้วก็อาบน้ำแล้วหาอะไรกินด้วยล่ะ]
“อื้อ แล้วทำอะไรอยู่อะ”
[เราอยู่สนามบาส]
สนามบาส? โฉดไปเล่นบาสเหรอ? แต่ก็ไม่แปลกหรอกเพราะเจ้าตัวอยู่ในชมรมนั้น
“โอเค งั้นเดี๋ยวเราจะไปหาอะไรกินแล้ว” ฉันพยักหน้าใส่โทรศัพท์ พอพูดจบก็หาวหวอดๆ อย่างคนได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ
[อืม เดี๋ยวเย็นๆ เราจะแวะไปหานะ]
“จ้า”
หลังจากที่วางสายจากโฉดไป ฉันก็ลุกออกจากเตียงเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวที่ตากอยู่ราวระเบียงก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป สภาพเน่าตั้งแต่เมื่อคืนแถมยังเหม็นกลิ่นเหล้านี่ทำฉันรับตัวเองไม่ได้เลยจริงๆ โอ๊ย...
ยาสีฟันถูกบีบออกจากหลอดไปอยู่บนแปรงก่อนที่ฉันจะนำมันมาแปรงฟันอย่างรีบเร่ง แต่ฉันก็พยายามขัดตามซอกฟันของตัวเองเพราะเวลาไปหาฟันหมอ (หมอฟันมั้ย?) หมอจะมักบ่นเรื่องแปรงฟันไม่สะอาดของฉันตลอด ฉันเหมือนเป็นคนที่มีปมกับหมอฟันมาตั้งแต่เด็กจริงนะ พูดตามตรงฉันก็กลัวหมอทุกแผนกนั่นแหละ แต่เว้นหมอสัตว์ไว้อย่าง เพราะตอนนี้ฉันรักสัตวแพทย์ คิกๆ ก็ในเมื่อมีแฟนเรียนคณะนี้จะไม่ให้รักได้ไง
นึกถึงตอนตามจีบโฉดที่คณะของเขาเลย
‘นี่นาย เรียนสัตวแพทย์เหรอ’
‘อื้อ’
‘แบบนี้รักษาหมาในปากให้เราได้ป้ะ’
อะ..ไม่น่าคิดถึงเรื่องนั้นเลย อิเวง ขายขี้หน้าขึ้นมาทันที กูพูดออกไปได้ยังไงรักษาหมาในปาก บ้าเอ๊ย
Castle-G's Talk
เป็นนิยายที่มีแต่ความกาวจริงๆ 555555
แท็กสำหรับเรื่องนี้คือนี่เลย #โฉดแฟนโหด
ฝากส่งฟีดแบคกำลังใจเพื่อเป็นแรงผลักดันให้จีเขียนนิยายต่อไป
Facebook : Castle-G | Twiiter : @castleglint
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

5555555555ชอบที่โฉมจีบ