ตอนที่ 7 : CHODCHOM | 06 : มานอนด้วยกัน

6
มานอนด้วยกัน
@หอพักสุกานดา
ผมพาโฉมมาส่งถึงหอพักของเจ้าตัวจนได้ ดีที่ว่าตลอดทางอีกคนนั่งอยู่นิ่งๆ ไม่ได้เมาจนไปเล่นอะไรแผลงๆ เหมือนคราวก่อน....คราวก่อนเมาแล้วจะเล่นพวงมาลัยรถเกือบหักเข้าข้างทางชนเสาไฟฟ้าไปแล้ว ยังจำได้ไม่เคยลืมเลยอะ หลังจากเหตุการณ์คราวนั้นก็รีบทำประกันชั้นหนึ่งให้รถแล้วต่อด้วยประกันชีวิตทันที
“กุญแจห้องอยู่ไหนอะโฉม” ผมมองร่างที่ตัวเองกำลังพยุงเพื่อถามหากุญแจ
“นี่” อีกคนยื่นกุญแจห้องให้ผมอย่างง่ายดาย ซึ่งบทจะง่ายก็ง่ายจริงนั่นแหละ แต่บทจะยากก็ยากซะโคตรเหนื่อยเลย
ผมใช้ใช้คีย์การ์ดสแกนเพื่อเปิดประตูหอ เมื่อมันเปิดได้แล้วผมก็พยายามลากร่างคนเมาให้เดินขึ้นบันได เดินทางราบว่าเหนื่อยแล้วเดินขึ้นบันไดสาหัสกว่าพูดเลย ตั้งแต่ไปรับมาจากผับผมก็บ่นไม่หยุดอะ มันน่าบ่นจริงนี่หว่า เรื่องบางเรื่องเราทำได้แค่ในใจอะบางที
เมื่อมาถึงที่ห้องผมก็ค่อยๆ ประคองตัวของโฉมลงนอนบนเตียงอย่างเบามือ ผมยกแขนที่คล้องคอของเจ้าตัวออกเพื่อจะจัดท่านอนให้สบายๆ แต่เหมือนเกิดความผิดพลาดทางเทคนิคเพราะแทนที่ผมจะต้องยกแขนของโฉมงามออกจากคอตัวเองกลับกลายเป็นอีกฝ่ายออกแรงดึงตัวผมลงไปหาซะอย่างนั้น
เดี๋ยวๆ เดี๋ยวก่อน
“มานอนด้วยกานนนนน”
ไม่ใช่แล้วมั้งเนี่ย เริ่มไม่ใช่แล้ว
“เดี๋ยวโฉม ปล่อยเราก่อน” ผมว่าพลางแกะมือทั้งสองข้างที่โอบคอผมไว้อยู่ แต่มันก็ล็อคแน่นซะเหลือเกิน เป็นผู้หญิงที่แรงเยอะมากจนน่าแปลกใจ
“ไม่ปล่อยโว้ยยยย” ไม่ว่าเปล่า อีกคนยังกอดคอผมไว้แน่นกว่าเดิมจนแทบหายใจไม่ออก ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วจนไม่ทันได้ตั้งตัวเมื่อโฉมงามพลิกตัวขึ้นมากดร่างผมไว้ติดกับที่นอนแทน
“เฮ้ย” ผมกำลังงงตาแตกกับอาการที่เปลี่ยนไปของโฉมงาม
“มาเป็นของฉันเถอะโฉดดดด”
นั่นใช่คำพูดของผู้หญิงเหรอนั่น แล้วมาคร่อมตัวผมไว้แบบนี้มันใช่เหรอวะ...ไอ้ท่าทางแบบนี้มันคืออะไรวะเหมือนตัวเองกำลังจะเสียตัวเลย
“โฉม เมาแล้วนอนเหอะ” กลิ่นแอลกอฮอล์จากอีกคนมันติดจมูกผมจนรู้เลยว่าโฉมดื่มไปเยอะมากๆ แล้วดูจากอาการแล้วไม่น่าจะมีสติรู้ผิดรู้ชอบสักเท่าไหร่ ผมมองมือของอีกคนที่กดไหล่ทั้งสองข้างของผมไว้ก่อนจะพยายามแกะมันออกไป แต่นี่มือคนหรือมือตุ๊กแกวะ ยากวุ้ย
“ม่ายต้องเขินนนน เป็นนนเรื่องปกติของแฟนกานนนน” ดูพูดเข้าสิ
เขินอะไรล่ะวะ กลัวต่างหากเนี่ย
“โฉมปล่อยเรา” ผมมองคนที่คร่อมอยู่ด้านบนด้วยความตกใจพลางพยายามเจรจากับคนเมาที่ไม่ได้สติแต่เหมือนพูดไปก็เท่านั้นแหละ
“ม่ายยยยยยยย มาเป็นของฉันเหอะ” โฉมงามพูดลากเสียงยานตามประสาคนเมา แต่ถ้าพูดอย่างเดียวก็จะไม่อะไรมากหรอก แต่อีกคนกำลังโน้มหน้าเข้ามาใกล้ด้วยนี่สิผมต้องรับมือยังไง
ใบหน้ามึนงงของคนเมาที่คร่อมผมไว้อยู่ค่อยโน้มลงมาใกล้มากขึ้นและมากขึ้นจนสามารถรับรู้ได้ถึงลมหายใจอุ่นๆ ที่เป่ารินอยู่บนผิวแก้มของผม เป็นครั้งแรกที่ผมได้มองหน้าของโฉมในระยะที่ใกล้ขนาดนี้ เพราะใบหน้าของเราสองคนห่างกันแทบไม่กี่เซนติเมตรแล้ว
ฟุบ...
และอยู่ๆ โฉมงามก็ฟุบหลับไปโดยทิ้งหัวลงบนไหล่ด้านซ้ายของผม
“โฉม” ผมเรียกชื่ออีกฝ่ายเพื่อเช็คว่าหมดฤทธิ์ไปจริงหรือยัง
....เงียบ
“โฉม” ลองเรียกอีกที
......
โอเค คนเมาหลับไปแล้ว
เฮ้ออออออออออ
ผมค่อยๆ พยุงร่างของตัวเองให้ลุกขึ้นจากที่นอนก่อนจับตัวของคนที่เป็นแฟนให้นอนหงายในสภาพที่น่าจะสบายที่สุด โดยไม่ลืมที่จะห่มผ้าห่มให้เจ้าตัว การพามนุษย์เมามานอนเป็นเรื่องที่เหนื่อยของวันเลยสิ นาฬิกาที่หัวเตียงตอนนี้บอกเวลาตีสามกว่าได้แล้ว ผมเองก็ควรกลับไปนอนที่หอของตัวเองเช่นกัน
ผมยืนมองเจ้าของห้องที่นอนหมดฤทธิ์ไปก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ พร้อมกับส่ายหน้าไปมา ถ้าถามว่าเวลาไหนที่ผมชอบมองโฉมมากที่สุดก็ขอตอบอย่างไม่ลังเลเลยว่าน่าจะเป็นตอนหลับนี่แหละ ภาพตอนไม่เต๊ะหน้าโหดไม่บ่น นอนไร้ฤทธิ์แบบนี้น่ารักดี
“ฝันดีนะเจ้ากระต่าย” ผมเอ่ยบอกกับเจ้าของร่างที่นอนอยู่บนเตียงโดยไม่ได้สนว่าอีกคนจะได้ยินที่ผมบอกหรือเปล่า โฉมงามคงเหมือนตัวละครในสติกเกอร์ไลน์ตัวหนึ่งที่เป็นกระต่ายสีขาว ถึงสายโหดแต่ก็ยังน่ารัก
Castle-G's Talk
ไม่ต้องแปลกใจที่อัพนิยายทั้งที่บอกว่าติดสอบ
เพราะเรื่องนี้จีแค่รีไรท์บทบรรยาย 555 ไม่ได้เขียนใหม่
ถ้าวันไหนรีไรท์หมดแล้ว ก็คงอัพช้าลง
แท็กสำหรับเรื่องนี้คือนี่เลย #โฉดแฟนโหด
ฝากส่งฟีดแบคกำลังใจเพื่อเป็นแรงผลักดันให้จีเขียนนิยายต่อไป
Facebook : Castle-G | Twiiter : @castleglint
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

โฉมมอีกนิดเดียววเองง555
เรา "-_-///" //ชูนิ้วกลาง