ตอนที่ 11 : CHODCHOM | 10 : หมาลอบกัด

10
หมาลอบกัด
พึ่บ~
ปั้ก~
เสียงของลูกบาสทรงกลมเข้าไปในห่วงแล้วตกกระทบกับพื้นดังไปเรื่อยๆ โดยฝีมือของเหล่านักกีฬาที่กำลังซ้อมอยู่ในสนาม แต่ละคนที่อยู่ในนั้นบ้างก็เป็นมืออาชีพบ้างก็เป็นมือสมัครเล่น ส่วนฉันคือเศษเกินที่มานั่งมองเฉยๆ อาจจะสงสัยกันว่าคนอย่างโฉมงามดูกีฬาด้วยเหรอ ตอบอย่างมั่นใจว่าไม่เป็นโว้ย อันนี้มาดูนักกีฬาเฉยๆ
“โฉดเก่งจังเลย!” ฉันร้องขึ้นเมื่อเห็นร่างของแฟนหนุ่มวิ่งเลี้ยงลูกบาสก่อนจะชู้ตลงห่วงได้แม่นราวกับจับวาง
“น้อยๆ หน่อยมึงอะ อวยผัวขิงผัวจนกูเหม็นสาบหมดแล้ว” นังเพื่อนพลอยที่ฉันบังคับลากมันมาด้วยเอ่ยขึ้นพร้อมกับใช้มือผลักหัวฉันจนเซ
“ไม่ใช่ผัว โฉดเป็นเมีย” โพสิชั่นของเราสองคนตอนนี้คือฉันเป็นผัวส่วนโฉดเป็นเมีย
“เออ เมียก็เมีย แต่ให้มันน้อยๆ หน่อย คนอื่นเขามองมึงตาขวางหมดละ ไม่น่ามากับมึงเลยอะ” อีพลอยบ่นกระปอดกระแปดไม่หยุดตั้งแต่มันโดนฉันลากมานั่งดูโฉดซ้อมบาสด้วยกัน
“เอ้า ก็แฟนกูเก่งงงง คานทองแบบมึงไม่เข้าใจอะไรหรอก” ฉันหันไปตอบพลอยโดยไม่วายจะแซะมันด้วยพอเป็นพิธีไม่งั้นจะนอนไม่หลับ
“อือ จะว่าไปมึงยอมให้โฉดลงแข่งบาสแล้วเหรอวะ เห็นแต่ก่อนกลัวเจ็บตัวงู้นงี้” ไอ้พลอยถาม
“ก็ไม่อยากให้ลงหรอกมึง แต่แบบ...อะไรที่เป็นความสุขเขากูก็หนับหนุน” ฉันตอบมันโดยที่สายตายังคงมองไปยังร่างหนึ่งที่วิ่งอยู่บนสนาม
“แหม่ ทำมาเป็นหนับหนุนความสุขเขา” ผู้เป็นเพื่อนเบะปากใส่ด้วยความหมั่นไส้ ก่อนที่มันจะทำสีหน้าตกใจขึ้นมากะทันหันจนฉันงง “เหี้ย..”
“อะไรของมึงพลอย” ฉันไม่เข้าใจว่าอยู่ๆ มันจะตกใจทำไมก็แค่นักกีฬาเล่นบาสกันเท่านั้น
“มึงดูตรงแสตนด์ฝั่งนู้นดิ” ไอ้พลอยว่าพร้อมกับชี้นิ้วไปยังอีกฟากหนึ่งของสนามซึ่งมันอยู่ตรงข้ามกับที่ที่เราสองคนนั่งพอดิบพอดี
ร่างสูงของใครสักคนที่ยืนอยู่ทางนั้นทำให้ฉันต้องอึ้งไป
“ไอ้แมทนี่...มันมาทำอะไร?” โจทก์เก่าโจทก์แก่ของฉันนี่เอง ฉันจำได้ว่าตอนคบกับมัน มันไม่เคยเล่นกีฬาที่เรียกว่าบาสเกตบอลนะ แถมถ้ามันมาดูก็ไม่ถูกอีกเพราะไอ้นี่จะชอบดูกีฬาฟุตบอลมากกว่า
“อยากรู้ก็ไปถามมันดิ คนมันเคยรักกันนี่”
อีพลอย...อีเชี่ย
ไอ้พี่แมทยืนอยู่ตรงนั้นสักพัก มองการซ้อมกีฬาอยู่ไม่นานก็เดินลงจากสแตนด์มาอยู่บนสนาม เขาเดินตรงไปยังที่พักนักกีฬาซึ่งตรงนั้นมีโฉดนั่งอยู่ ในหัวตอนแรกก็คิดว่าเขาอาจจะรู้จักกับใครสักคนที่นั่งอยู่ตรงนั้นก็ได้
แต่ประเด็นคือไอ้คนที่แมทเดินไปหาคือโฉดนี่สิ...มันยังไง?
“ทำไมแฟนเก่ามึงเดินไปหาแฟนใหม่มึงวะโฉม” ดูพลอยมันถามเข้าสิ ฉันจะไปรู้ได้ยังไงวะ
“จะรู้เหรอวะ ถ้ากูรู้ไม่นั่งขมวดคิ้วอย่างนี้หรอก” ฉันยังคงมองไปยังร่างสองร่างโดยไม่ละสายตาไปไหนเพื่อดูปฏิกิริยาที่ตอบโต้กัน
เหมือนคนรู้จักคุยกันเลย...
แต่คุยอะไรกันนี่สิที่ฉันไม่รู้ เพราะไม่ได้ยินเนื่องจากระยะของฉันกับพวกเขามันไกลกันมาก เมื่อคิดได้แบบนั้นฉันจึงรีบลุกขึ้นจากที่ที่ตนนั่งเพื่อจะเดินไปหาสองคนนั้นไปฟังบทสนทนาให้รู้เรื่องไปเลย
“มึงนี่ขี้เสือกจังนะโฉม” พลอยว่าเมื่อเห็นฉันลุกขึ้น
“เออ ยอมรับวันนึงก็ได้ มึงนั่งนี่แหละกูไปเอง” ว่าจบก็สาวเท้าเดินลงจากแสตนด์ไปทีละขั้นจนมาเหยียบพื้นราบของสนามได้ก็ไม่รีรอเดินไปที่พักของนักกีฬาทันที
เมื่อเข้ามาใกล้เรื่อยๆ ฉันก็เริ่มได้ยินบทสนทนาของโฉดและไอ้พี่แมทชัดเจนมากขึ้น โดยที่ไม่ได้ปรากฏตัวออกไปให้ใครตรงนั้นเห็น โดยการแอบหลบอยู่หลังไม้ฉากที่เขาเอาไว้เป็นกระดานนับคะแนน เป็นการเสือกที่โคตรลำบากและอนาถที่สุดเท่าที่ทำมาเลย แอบฟังแฟนตัวเองคุยกับแฟนเก่าเนี่ยนะ?
“เจอกันแมทช์ชิงให้ได้ละกัน อย่าป๊อดไปก่อนล่ะ” เสียงไอ้พี่แมทมันว่ะ...
“คนที่ป๊อดจริงคงไม่ใช่กูหรอกมั้ง” โฉดตอบโต้ด้วยน้ำเสียงเรียบ ใบหน้าที่นิ่งเฉยนั่นทำให้ฉันไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเขากำลังรู้สึกยังไงอยู่
“ก็คงไม่ใช่กูเหมือนกัน เพราะกูไม่เคยป๊อดจนลอบกัดใครเป็นหมาเหมือนคนบางคนหรอก” แมทยิ้มเล็กน้อยราวกับไม่ได้ยี่ระอะไร แถมคำพูดคำจาแปลกๆ ยิ่งทำฉันงงมากกว่าเดิม
อะไรวะ?
“คนบางคนมันก็กากนั่นแหละถึงปล่อยให้โดนหมากัดได้” โฉดถอนหายใจเล็กน้อยก่อนจะเดินไปหยิบลูกบาสที่ทำตกเอาไว้ขึ้นมา “เอาเวลาที่ขู่ไปซ้อมเถอะ”
คุยอะไรกันเนี่ยไม่เห็นเข้าใจเลย สองคนนี้ไปรู้จักกันตอนไหน? ฉิบหายแล้ว นึกดีๆ ซินังโฉม ว่าเขาสองคนถึงได้คุยกันแบบนี้ อ่า..เครียด
แต่ไอ้บ้าแมทนั่นดูยังไงก็เหมือนกำลังหาเรื่องแฟนฉันอยู่ชัดๆ ไม่ได้การแล้วมันต้องออกไปปกป้อง
“นี่!” ฉันตะโกนออกไปเสียงดังมากพอที่จะให้สองคนนั้นได้ยินก่อนจะเดินออกมาจากที่กำบัง “นายกรรโชกขู่เข็ญโฉดเหรอ”
ทั้งคู่เบิกตากว้างอยากตกใจเมื่อเห็นฉันเดินออกมา
“มาอยู่ตรงนั้นตั้งแต่ตอนไหนเนี่ย” แฟนหนุ่มทำหน้างงหนักไปอีกเมื่อฉันตอบว่าตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นสำคัญนักหรอก
“ถ้าจะมาระรานความรักระหว่างเราสองคนละก็หยุดคิดได้แล้ว เพราะไม่มีทางทำได้หรอก” ฉันยืนกรานหนักแน่นในความรักที่ตัวเองมีให้แก่โฉดมากๆ
“เฮอะ ระราน? เราอะเหรอจะระรานความรักของชาวบ้าน มีแต่ไอ้คนแสนดีของโฉมนั่นแหละที่ระรานคนอื่น” แมทพูดพร้อมกับปรายตามองไปยังร่างของโฉด
“กล่าวหากันไม่มีหลักฐานได้ไง โฉดของฉันไม่ได้เลวเหมือนนายนะ”
“ก็ได้ ไว้ถ้าเรามีหลักฐานเมื่อไหร่เราจะเอามาให้ดูถึงที่เลย ว่ามันเคยทำอะไรไว้บ้าง” แมทแค่นหัวเราะเหมือนจะขำแต่น้ำเสียงที่พูดนั้นกลับหงุดหงิด สุดท้ายหมอนั่นก็ยอมเดินออกไปแต่โดยดีไม่มีการวางมวยเกิดขึ้นในสนามบาสแห่งนี้ ซึ่งสำหรับฉันมันโอเคมากเลย
“โฉดไม่เป็นอะไรนะ” ฉันหันกลับไปมองหน้าแฟนหนุ่มพร้อมกับแตะตามเนื้อตัวของเขาเพื่อหาร่องรอยบาดเจ็บ “ถ้ามันมาทำอะไรโฉดอีก บอกเราได้ เราจะงัดหน้ามันมาให้”
ไม่ใช่ไม้กระดานแต่ก็งัดหน้าคนได้ล่ะวะ
“ห่วงตัวเองเถอะ ตัวเล็กแค่นั้นทำเก่งจริง” โฉดอมยิ้มเล็กน้อย “แล้วนี่มาแอบฟังเหรอไง”
“ใช่ แต่คุยเรื่องอะไรกันอะ โฉดรู้จักไอ้นั่นเป็นการส่วนตัวด้วยเหรอ” ฉันอาจจะเคยเล่าเรื่องของแมทให้โฉดฟังบ้างแต่ฉันไม่คิดว่าเขาทั้งคู่จะเคยรู้จักกันด้วยแฮะ
“ไม่หรอก คงเป็นหมาบ้าไปเองแหละ อย่าสนใจเลย” อีกคนส่ายหน้าปฏิเสธ
“ก็จริง แมทมันเป็นหมาบ้า”
“งั้นก็ลืมสิ่งที่มันพูดไปแล้วกันเนอะ”
Castle-G's Talk
มันยังไงกันนะ 2-3 คนนี้ มันเรื่องอะไรกัน!
แท็กสำหรับเรื่องนี้คือนี่เลย #โฉดแฟนโหด
ฝากส่งฟีดแบคกำลังใจเพื่อเป็นแรงผลักดันให้จีเขียนนิยายต่อไป
Facebook : Castle-G | Twiiter : @castleglint
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

รอๆๆๆนะค้าบ
เจิมมจ้าา