ตอนที่ 14 : SC Wayfashion | Episode10
10
ห้องเสื้อ S.E.P.
ฉันมาทำงานที่นี่เป็นปกติ โดยการ์ฟิลด์ก็เป็นคนไปรับฉันเหมือนเดิม หมอนั่นบอกว่าถ้าฉันไม่ขับรถมาเองได้ก็จะคอยรับส่งฉันแบบนี้ทุกวันจนกว่าเขาจะขี้เกียจ ให้ตายสิ เชื่อเค้าเลย
วันนี้มีจัดงาน New Senny Eriction Port’s Art (รู้สึกชื่องานยาวมากเนื่องจากใช้ชื่อเต็มของห้องเสื้อ) โดยงานนี้เป็นงานที่ใหญ่และสำคัญมากอีกงานหนึ่ง เพราะคอลเลกชั่นนี้เป็นของแบรนด์ S.E.P. ซะเอง การจัดเตรียมรันเวย์ และของในงานต่างๆถูกเริ่มขึ้นเมื่อหลายสัปดาห์ก่อน มาถึงวันนี้ทุกสิ่งที่เตรียมมาก็เสร็จสมบูรณ์เรียบร้อย
ในทีแรกจะต้องถ่ายแบบเมื่อวานนี้แล้ววันนี้จะได้มาเต็มที่กับรันเวย์ แต่ว่าเกิดเลื่อนคิวอย่างที่บอกจึงต้องมาทำงานวันนี้แทน เพราะผู้จัดการคนใหม่นั่นแหละ
พูดถึงก็มาเลยเห็นมั้ย
“พร้อมยัง” คลอสเดินมาถามฉัน
“ก็พร้อมแล้ว...ตั้งแต่เมื่อวันก่อน”
“เอ่อ...โอเค” คลอสก้มหน้าเกาหัว และส่งยิ้มแหยๆเหมือนจะรู้สึกผิดมาให้
ตอนนี้ฉันกำลังนั่งรอการจัดเตรียมในสตูดิโออยู่ เหล่าบรรดาช่างไฟ ช่างภาพ ก็เช็คอุปกรณ์ของตัวเอง มันเป็นภาพที่เห็นจนชินตาไปแล้ว อาชีพฉันก็เป็นนางแบบ การมานั่งรอแบบนี้ในสตูดิโอถือว่าเป็นเรื่องปกติ
เมื่อแต่งหน้าทำผมเสร็จ โดยที่ตอนนี้ห้องแต่งตัวคึกคักเป็นพิเศษ เพราะจะจัดเป็นอัลบัมรวม มีโมเดลหลายคนที่มาแต่งหน้าโดยคอลเลกชั่นที่จะเปิดตัวใหม่มีหลายรูปแบบ จึงดูมีคนเยอะแยะมาช่วยกันทำงาน
ยอมรับว่าตื่นเต้นมาก เพราะชุดที่เป็นหนึ่งในคอล ที่ใส่ตอนนี้ค่อนข้างสวย ตรงสเปคเลย แอบคิดภาพตอนตัวเองใส่ขึ้นรันเวย์ คงจะเจิดจรัสใช่ย่อย แน่นอนว่าฉันต้องเด่นสุดอยู่แล้ว ฉันมั่นใจ คอลเลกชั่นนี้ถูกตั้งชื่อให้เก๋ๆว่า The Summer Snow เพราะว่าเป็นแนวธีมชุดสีขาวๆคล้ายหิมะ และมีขนสัตว์ตามขอบเสื้อและกระโปรงเหมือนชุดฤดูหนาว แต่ถูกออกแบบให้สั้นประมาณเลยเข่าขึ้นมา เปิดหน้าท้อง แหวกหลังนิดหน่อยจะได้ดูตื่นเต้น
งานช่วงเช้าสำหรับวันนี้ก็มีแค่ถ่ายแบบเท่านั้น เพราะจะได้เอาเวลาว่างที่เหลือไปเตรียมตัวสำหรับขึ้นรันเวย์คืนนี้
ช่วงเช้านี่ฉันขอไม่อธิบายนะ เพราะงานผ่านไปได้ด้วยดี ไม่มีปัญหาอะไรทั้งนั้น ฉะนั้นตอนนี้ก็คงต้องไปทำสปาสักหน่อย เหลือเวลาอีกสามสี่ชั่วโมงก่อนจะต้องกลับเข้ามาที่ห้องเสื้ออีกที ฉันจะต้องไปขัดผิว บำรุงหน้าให้เปล่งปลั่ง
แต่ยังไม่ทันได้ออกไป
“มินนี่จะไปไหนเหรอ” ผู้จัดการห้องเสื้อคนใหม่เดินเข้ามาพร้อมกับแก้วน้ำผลไม้สองแก้ว
“ไปทำธุระอะ นายมีอะไรเปล่า”
“ก็ไม่มีหรอก แต่เอาน้ำผลไม้มาให้” ร่างสูงว่าพร้อมกับยื่นแก้วน้ำอีกแก้วให้ฉัน
แต่จังหวะที่ฉันกำลังยื่นมือไปรับมาถือไว้ อีกนิดเดียวฉันก็จะรับแก้วนั้นมาถือได้แล้ว ถ้าไม่ใช่ว่า..
เพล้ง~!
“โอ้ย”
แก้วน้ำผลไม้หล่นแตก จนเศษแก้วกระจัดกระจาย แอบดีใจมากที่ฉันใส่ถุงเท้าคลุมไว้ด้วยจึงไม่ทำให้เศษแก้วพวกนั้นหล่นใส่เท้าของฉัน แต่มันก็แน่ไปหน่อยที่ไปหล่นใส่เท้าของคลอสแทน
เอิ่มมมมม... ฉันไม่รู้เรื่องเลยนะ ก็หมอนี่ปล่อยแก้วก่อนที่ฉันจะหยิบทำไมล่ะ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคลอสที่ดูมีลุคเรียบร้อยและคุณชายขนาดนี้ จะซุ่มซ่ามได้ คนเรานี่มองแค่ภายนอกไม่ได้จริงๆสินะ
“นายเป็นอะไรมั้ย” ฉันมองคลอสที่ยืนจับเท้าตัวเอง มันมีเลือดซึมๆด้วยแหละ “ฉันว่านายไปห้องพยาบาลดีกว่า”
ท่าทางจะไม่ไหวแล้วจริงๆ ทำตัวเองแท้ๆ
ฉันประคับประคองร่างสูงเดินมาถึงห้องปฐมพยาบาลที่อยู่อีกฝั่งของตึกจนได้ ยอมรับว่าค่อนข้างที่จะเหนื่อยเพราะตัวของคลอสก็ไม่ใช่เบาๆ แถมอีกคนยังเดินได้ไม่ปกติอีกด้วย
มาถึงก็มีคนประจำห้องนี้ก็มาทำหน้าที่ต่อจากฉัน ฉันยืนมองดูว่าอีกคนนั่งลงบนเก้าอี้ แผลแก้วบาดเล็กๆ แต่ทำไมรู้สึกว่าเลือดจะออกเยอะจังเลย
เห็นแบบนั้นก็คงไม่มีอะไรลำบากอีกละ ฉันจะจำไว้เลยว่าเวลารับของจากหมอนี่จะต้องรีบรับมาถือโดยเร็วที่สุด เผื่อคราวหน้าอาจจะเป็นกรณีฉันเจ็บบ้าง ถ้างั้นตอนนี้ฉันขอตัวออกไปทำสปาดีกว่า ส่วนเรื่องเศษแก้วที่เกลื่อนอยู่หน้าสตูดิโอนั้นก็มีแม่บ้านมาทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว เป็นอันว่าจบ
ฉันไปจริงๆละทีนี้
มือเรียวหยิบเอาโทรศัพท์ที่อยูในกระเป๋าขึ้นมากดโทรหาเพื่อนสนิทเพื่อที่จะชวนไปทำสปาด้วยกัน ไปคนเดียวมันเหงาอะ ถึงฉันจะสามารถอยู่อย่างสันโดษได้แต่ก็ต้องมีเพื่อนด้วยเหมือนกัน
“เวล ไปทำสปากันมั้ย”
[หืม? ชวนฉันเหรอ?] เสียงปลายสายตอบกลับมา
“ใช่ไง จะให้ฉันไปชวนยัยพริ้นเซเหรอ? ออกเงินให้ฟรียังไม่มาเลย”
[อ่อ...งั้นรอแป๊บนะ ฉันอาบน้ำก่อน]
เหตุผลของเวลโอลาทำฉันแทบอยากจะทึ้งหัวนางสักทีสองที่
“โอยยย แม่ซุปฯตาร์ ป่านนี้ยังไม่อาบน้ำทำอะไรอยู่วววววว”
[เออน่า รอแปบเดียวเอง]
ฉันให้สถานที่นัดไปเรียบร้อย ก่อนจะกดวางสายไป จากนั้นฉันก็ต้องไปเป็นฝ่ายรอนั่นแหล่ะ ไม่ใช่ประเด็นปัญหามากมาย ฉันมาถึงที่สปานวดผิวที่ฉันชอบมา (ถ้าร้านประจำฉันมีเยอะ ก็อย่าเพิ่งด่านะ) โดยแค่เดินเข้ามาบอกชื่อของตัวเองเท่านั้น ก็ได้ไปนอนแช่อ่างน้ำนมแบบไม่ต้องนั่งรอแล้ว
Six Crowns Way-fashion
ณ ห้องอบสมุนไพร Orolra Spa
ตอนนี้ทั้งฉันและเวลโอลาเข้ามานั่งแช่ตัวในห้องอบสมุนไพร ที่ถ้าใครเข้ามาแล้วจะรู้สึกเหมือนโดนอบจริงๆนั่นแหล่ะ แต่เพื่อผลลัพธ์ที่ดีจะยอมทน ฮู้ววว
“เฮ้อ...น่าห้องนี้จะเย็นเนอะ เข้ากับสภาพเมืองไทยกว่าเยอะเลย” เวลโอลาพึมพำเชิงบ่น
“เอาแบบติดลบไปเลยมะ” ฉันว่า
“บ้าดิ อันนั้นก็เย็นไป”
เป็นเวลาครึ่งชั่วโมงได้แล้วที่ฉันเข้ามานั่งในนี้ มือข้างซ้ายยกขึ้นมาปาดเหงื่อของตัวเองที่ไหลออกมาออก ก่อนจะปาดเหงื่อไปทั่วทั้งตัว เวลาแค่นี้ก็ทำเอาฉันชุ่มเหมือนอาบน้ำเลย ทั้งๆที่อากาศในนี้ออกจะแห้ง
“ฮู้ววว ร้อนจริงๆ”
“ก็นี่มันห้องอบ มันต้องร้อนสิ เธอไม่น่าชวนฉันมาเลย” เวลโอลาหันมาตอบฉัน มันเป็นคำถามฉันที่ไม่ได้ต้องการคำตอบสักนิด
“แล้วจะให้ฉันไปชวนพี่เจมส์ของเธอมามั้ย?”
“บ้าดิ พี่เจมส์ไม่ทำสปานะ”
“จ้ะ ฉันแค่ประชด -_-; ฉันคงไม่ชวนเขามาแช่น้ำนมบำรุงผิวหรอก”
นี่พูดเล่น ยัยนี่ก็จริงจังไปได้ คือพี่เจมส์ที่ฉันว่านี่คือแฟนของยัยเวลเองแหล่ะ สองคนนี้เขาคบกันแบบงงๆ มีพักหนึ่งห่างๆไป แล้วก็คบกันอีก อันนี้ความคิดของฉันนะ จนมาป่านนี้ก็ไม่ค่อยเข้าใจหรอกว่าคู่นี้มันยังไงกันแน่
“อ้อ...งั้นเหรอ แล้วที่มาสปานี่มีอะไรเป็นพิเศษป่ะเนี่ย ปกติไม่ค่อยเข้าบ่อยนี่” ยัยเพื่อนสนิทเปลี่ยนเรื่อง
“คืนนี้มีงานเปิดตัวคอลเลกชั่นใหม่ ฉันก็ต้องสวยเป็นพิเศษอยู่แล้ว งานนีมันใหญ่มากเลยนะ ยังไงก็ต้องเด่นที่สุดอยู่แล้ว”
“อย่างเธอไม่ต้องทำอะไรก็เด่นอยู่ละอะ ฉันว่า”
ความหมายในทางดี หรือไม่ดีวะเนี่ย เชอะ! แต่ก็ช่างเถอะ ความหมายทางไหนก็คือฉันเด่นอยู่ดี มีคนบอกว่าอย่าทำตัวให้เด่นมากเดี๋ยวจะโดนหมั่นไส้ อันนั้นมันสำหรับคนทั่วไปย่ะพูดเลย คนอย่างมินนี่ต่อให้ไม่ทำอะไรก็มีคนหมั่นไส้อยู่แล้ว เลยกลายเป็นว่าจะเด่นแค่ไหนก็มีทั้งชอบและหมั่นไส้ผสมกันไป
หนึ่งชั่วโมงผ่านไป ฉันก็นั่งทำผมขัดผิวเสร็จเป็นที่เรียบร้อย มันเป็นช่วงเวลาที่เร็วมากใช่มั้ยล่ะ เพราะอะไรรู้มั้ย ตอนที่นั่งขัดเล็บอยู่ ที่สายโทรเข้าเบอร์ฉัน เป็นเสียงของผู้ชายคนหนึ่งที่คุ้นเคย มันบอกว่าให้ไปรับมันที่สนามบินหน่อย
เฮ้อ...คนๆนั้นคือน้องชายฉันเองแหล่ะ ที่พ่อบอกว่าจะให้มาอยู่ด้วยในตอนแรกๆ แต่ไม่เข้าใจอย่างหนึ่งก็ตรงที่ว่าทำไมฉันจะต้องไปรับมันนี่แหล่ะ มันมาเองไม่ได้หรือยังไง
GT Airline
“ไงมิก นึกว่าจะมาเร็วกว่านี้” ฉันพูดในขณะที่ต้องมาถือสัมภาระให้คนที่เป็นน้อง
“ก็ปกตินี่ ไม่เร็วไม่ช้า” มิก ผู้ที่เป็นน้องชายแท้ๆเอ่ย
“อ้าว...ก็ตอนพ่อโทรมา บอกว่าแกจะมาตั้งแต่หลายวันก่อนละนี่”
ฉันยังงงไม่หายเลย สารภาพเลยว่าเกือบลืมไปว่าน้องชายตัวเองจะมาอยู่ด้วยอะ สงสัยช่วงนี้ยุ่งกับอย่างอื่นมากเกินไป
“พ่อก็ทำเป็นเวอร์ไปงั้นหล่ะ แล้วนี่ให้ไปอยู่กับพี่เลยปะ” ไอ้น้องชายถาม
“เออ..คงงั้น เดี๋ยวฉันจะให้แกไปอยู่ด้วยสักพักก่อน จากนั้นอยากจะออกไปหาที่พักเองก็ตามใจ”
“ดี...” มันพูดสั้นๆ
คอนโด Six City
ฉันแบกสัมภาระของอีตามิกนี่มาได้ยังไงตั้งนานวะเนี่ย ถ้าไม่ใช่น้องจะไม่ทำให้นี่พูดเลย แต่ก็ไม่อยากบ่นมาก เดี๋ยวก็จะโดนสวนคืนประมาณว่า ‘ก็ช่วยกันขน คนละใบสองใบนี่ไง บ่นทำไม’ อีก
“เฮ้ย...การ์ดคุมคอนโดโหดไปมั้ยอะ จะเข้าแต่ละทีต้องมีบัตรด้วย จะสมัครสมาชิกก็ไม่เปิดรับ” มิกบ่นทันทีที่ขึ้นมาถึง
“แน่นอนสิ ก็นี่มันเป็นที่ส่วนตัวแบบโคตรๆอะ แกเข้าใจป่ะ”
“เออดิ พี่เอาไว้ให้ฉันอันหนึ่งเลย”
“มีสำรองอยู่ จะเอาไว้ให้ละกัน”
ฉันจัดการจัดการกับข้าวของของไอ้คนที่มาใหม่อยู่สักพัก บอกว่าทางไหนห้องนอน ห้องน้ำ ครัวก็มีอยากทำอะไรกินก็ทำ เพราะอยู่ได้ไม่นานฉันคงต้องไปทำงานแล้ว ซึ่งมิกเองก็อ่อ เออ อืม ไปตามสไตล์มันนั่นแหล่ะ
“เออ...พี่ มีคนมาหาด้วยแหละ” มิกพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
“ใคร?”
“ก็ดูสิ”
เมื่อมองผ่านทางหน้าต่างของคอนโดลงไปก็เห็นรถคันคุ้นตา ซึ่งเจ้าของรถอยู่ไหนไม่รู้... อยู่ๆโทรศัพท์ในกระเป๋าก็สั่นขึ้น
“ฮัลโหล”
[เอ่อ...เธออยู่ห้องใช่มั้ยตอนนี้?]
“นายอยากรู้ไปทำไม?”
[ลงมาทีสิ มีเรื่องจะพูดด้วย]
การ์ฟิด์มีเรื่องอะไรจะมาพูดกับฉันวะเนี่ย แต่ก็นะคงไม่ใช่เรื่องสำคัญมากมายนักหรอก
“ไงอะพี่ ผู้ชายโทรตามเหรอ” ไอ้มิกนี่
“ไม่ใช่ผู้ชายสักหน่อย หมอนี่เหมือนจะเป็นเพื่อนสาวฉันคนหนึ่งนั่นแหล่ะ”
“เหรอ? ระวังตัวดีๆล่ะ ยังไงก็เป็นผู้ชายอยู่ดี”
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

1,146 ความคิดเห็น
-
#1048 happy20133p3 (จากตอนที่ 14)วันที่ 25 มกราคม 2559 / 06:52แร้วเมื่อไรพระเอกจะเลิกจีบโฟโต้ง่าาา#1,0481
-
#1048-1 แคสเติ้ลจี ★ ออมสิน(จากตอนที่ 14)25 มกราคม 2559 / 20:14เมื่อพระเอกรักนางเอกค่ะ //ง้อววววว 55555555 //แกทำใจเหอะ อิเจ้จีไม่เคยตอบคำถามตรงประเด็นสักที#1048-1
-