ลำดับตอนที่ #8
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : เชษฎา เจษฎาวรางกูล
เดย์.. ไม่ได้นะ ผมไม่มีคุณไม่ได้หรอก
ถึงผมพยายามจะไม่นึกถึง เพราะรู้ตัวตอนนี้ถ้าไปหาเธอตอนนี้ เธอจะต้องเดือดร้อนเพราะผม ถึงจะรู้อยู่แกใจ แต่ตอนนี้เธอยืนอยู่ข้างหน้าผม ใกล้กันแค่นี้เอง แค่เพียงยื่นมือออกไป... ผมทรมานมาก สิ่งที่ควรทำ มันคนละอย่างกับที่ใจต้องการ ความรู้สึก แล่นขึ้นมาจุกอยู่ตรงคอ ชาวาบไปทั้งตัว แต่แล้ว วินาทีที่ผมตัดสินใจจะเรียกเธอ เธอก็หันกลับมาก่อน มองผมด้วยสายตาเย็นชาอย่างที่สุด
“เดย์เบื่อ! ไปจากเดย์ซะเถอะ อยู่กับชิน เดย์มีแต่จะเดือดร้อน”
“....ด......เดย์” ผมนิ่งค้างอยู่แบบนั้น เรียกชื่อเธอออกมา
เดย์ทำได้จริงๆน่ะเหรอ เดย์ที่เป็นทุกอย่างสำหรับผม ตอนนี้เธอทำเหมือนผม....เหมือนกับเรา ไม่เคยรักกัน ทำเหมือนที่ผ่านมา ไม่มีค่าอะไรเลย
ผมยกมือขึ้นไปช้าๆ ระหว่างที่มือผมกันเธอจะสัมผัสกัน
“อย่ามาแตะ!” เดย์ก็ปัดมือผมออกโดยแรง หันหลังแล้วเดินออกไป
“เดย์.......เดย์ได้โปรด อย่าทำแบบนี้” ผมรู้สึกได้ถึงน้ำตาอุ่นๆผมหน้าผม
การที่เราจะรักใครซักคน มันต้องเจ็บปวดขนาดนี้เลยเหรอ ทรมานเกินไปแล้ว.... ทรมานเกินไป
.
.
“คุณชนินทร์”
น้ำเสียงอ่อนโยนของใครซักคนนึงเรียกผม ใครบางคนกำลังเช็ดน้ำตาบนหน้าผมอย่างแผ่วเบา
“เดย์.. อย่าไปนะ.........ด..เดย์”
ผมค่อยๆลืมตาขึ้นมาช้าๆ อ่า...ฝันไปซินะ แค่ฝันเท่านั้นเอง แต่ว่านะ แค่ฝันแท้ๆ ทำไมผมถึงได้ปวดใจแบบนี้ละ ทั้งๆที่เป็นแค่ฝันแท้ๆ.....
ผมลุกนั่ง ก้มลงมองตักตัวเอง น้ำตาผมยังคงหยดลงบนมือ ไม่ได้นะ หยุดร้องซักที ถ้าผมจัดการเรื่องของพ่อเสร็จเมื่อไร ผมจะไปรับเธอแน่ ไม่ได้จากกันตลอดซักหน่อย... ที่สำคัญ เดย์คง.... ไม่ได้... ไม่รักผมจริงๆ ...ไม่ใช่เหรอ
.
.
เพียงแค่นึก ใจของผม ก็ปวดขึ้นมา เหมือนเข็มนับพันแทงอกผมอยู่อย่างนั้น
.
“กี่โมงแล้ว” ผมเงยหน้าขึ้นมอง เจ้าของมืออุ่นที่เช็ดน้ำตาให้ผมเมื่อกี้ คงเป็นมันไม่ผิดแน่
ผมคงหลับไปได้ไม่นานเท่าไร ก็หมอนี่ยังไม่ได้ลุกจากที่ของมันเลยนี่นา
ผมสบตากัน... ทำไมเลขาของผมถึงมองแบบนั้นละ มันเป็นสายตาที่เจ็บปวด...
เพียงแว๊บเดียว มันก็หลบตา หันหน้าไปด้านข้างแล้วลุกขึ้นยืน
“เกือบๆจะทุ่มแล้วครับ”
.
.
.
“อะไรนะ!” เกือบทุ่ม ทุ่งหนึ่งน่ะนะ บ้าจริง!!!! แย่แล้ว แย่แน่ๆ งานยังไม่เสร็จเลย ไม่ได้ครึ่งเลยด้วยซ้ำ!
“ฉันบอกให้บอกแม่บ้านมาปลุก ทำไมไม่ปลุก”
ผมตวัดตามอง รีบลุกขึ้นไปเปลียนเสื้อผ้า แต่งตัว
“ทำงานแบบนี้ได้ยังไง หน้าที่แกที่ต้องทำทุกอย่างตามที่ฉันสั่ง แล้วนี่อะไร! รู้อยู่ว่านัดครั้งนี้สำคัญมาก”
ผมด่ามันไป แต่งตัวไป มันก็ได้แต่ก้มหน้าไม่พูดอะไร
“ไสหัวไปเตรียมรถเดี๋ยวนี้เลย บ้าจริง!”
ตอนนี้ รถผมจอดอยู่หน้าร้านเดิมที่เคยมีนัดกับคุณเชษฏาครั้งก่อน ตอนนี้ทุ่มยี่สิบแล้ว พอรถจอดสนิดผมก็รีบลงจากรถ โดยไม่ลืมหยิบเอกสารลงไปด้วย ถึงจะทำไปได้ไม่ถึงไหน แต่ก็พอจะพูดเป็นหัวข้อได้ มีเท่าไรก็ใช้ไปก่อน
วิ่งไปถึงที่โต๊ะ ก็เจอคุณเชษฎานั่งรออยู่ก่อนแล้ว ขนมอยู่บนเต๊ะ แต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่ได้แตะเลย
“ขอโทษนะครับ ผมมาสาย” ฝ่ายนั้นหันกลับมายิ้มให้... เฮ้อ โชคดีไปไม่ได้อารมณ์เสียอยู่
“ครับ ไม่เป็นไร ผมรอได้เสมอ... ว่าแต่ชอบทานของหวานไหมครับ นี่ผมสั่งไว้ให้คุณ ขนมขึ้นชื่อของร้านเลยนะครับ”
ชอบซิ ทำไมไม่ชอบ แต่งานเนี้ยสิยังไม่เสร็จ จะพูดยังไงดี
“เอ่อ คุณเชษฎาครับ คือ..”
“เรียกผมเชนก็ได้ครับ ยังไงเราก็ต้องทำงานด้วยกันอีกนาน ไม่ต้องเกรงใจหรอกครับ”
“เอ่อ...ครับ... แต่ว่าคือเรื่องงานน่ะครับ ทางผม..”
ยังทันพูดเรื่องสำคัญ ฝ่ายนั้นก็ขัดขึ้นมาอีก
“ทานก่อนเถอะ งานค่อยว่ากันทีหลัง หรือชินมีธุระอื่นต่อ”
.... เราสนิทกันขั้นเรียกชื่อเล่นกันแล้วเหรอ เรียกห้วนเลยด้วย.... เอ่อช่างเถอะ อยากเรียกอะไรก็เรียกไป
“ไม่ใช่ครับคุณเชน ผมไม่ได้มีนัดอื่นต่อ ที่จริง..”
“งั้นก็ไม่มีปัญหา! พี่ก็ไม่มีนัดอื่น กินตามสบายเถอะ” คุณเชนหันมายิ้มให้ผม ผมจะเอายังไงดีเฮ้อ... กินๆไปก่อนแล้วกัน ไม่กินอะไรตั้งแต่เที่ยงแล้วด้วย หิวเหมือนกัน
คุณเชนเลื่อนจานเค้กมาไว้ตรงหน้าผม หื้มม น่ากินเหมือนกันแหะ
ผมหยิบส้อมตรงหน้า ตักเค้กเข้าปาก
“อื้มมม! อร่อยมากเลยครับ เค้กอะไรครับเนี่ย หอมมาก ส้มรึเปล่าครับ”
โหย ยอดเลย แยมส้มข้างบนก็หวานอมเปรี้ยว เหมาะรสกันพอดี สุดยอด!
“อืม เค้กส้มน่ะ ดีจังที่ชอบ ตอนแรกก็คิดอยู่แล้วว่าต้องชอบของหวาน”
ผมก็กินๆไปซักพัก ก็พึ่งสังเกตุ คุณเชนเอาแต่นั่งมองผมกิน จ้องอยู่อย่างนั้น
ผมพยายามหลบมือที่พันแผลเอาไว้ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน ถึงไม่อยากให้คุณเชนรู้เรื่องแผล ผมพยายามดึงสายตาคุณเชนที่มองเหมือนจะทะลุ..มือที่ซุกไว้ใต้โต๊ะ
“คุณเชนไม่กินเหรอครับ”
“พี่ไม่กินของหวาน”
อ๋อ... แต่ก็สั่งมาให้เรากินเนี้ยนะ รู้สึกผิดจัง งานก็ไม่เสร็จ ยังมานั่งกินเค้กน่าตาเฉย
ผมวางมือจากเค้กตรงหน้า หันไปมองคุณเชนด้วยสายตาเป็นการเป็นงาน
“ผมต้องขอโทษด้วยนะครับ ความจริงแล้ว มานโปรเจคครั้งนี้ ผมยังคิดไอเดียดีๆไม่ออกเลยครับ พอจะมีอยู่ก็แค่หัวข้อนำเล็กๆน้อยๆ ต้องขอโทษจริงๆครับ”
ผมก้มหัวลงขอโทษ แต่คุณเชนกลับยิ้มน้อยๆเหมือนจะรู้อยู่แล้ว
“อย่าทำอย่างนั้นซิ โปรเจคนี้ต้องทำร่วมกัน ช่วยกันคิด ทำไมชินถึงคิดคนเดียวละ... ถ้าแบนั้นพี่ก็ยังไม่ได้ทำเหมือนกัน ต้องขอโทษชินด้วย”
ห๋า .. ยังไม่ได้ทำเหมือนกัน เราก็ตกอกตกใจหมดรีบร้อนซะแทบแย่
แล้วคุณเชนก็หยิบแฟ้มกระดาษออกมา
“นี่ พี่คิดไอเดียมานิดๆหน่อยๆ ยังไม่ได้ทำอะไรเลย ว่าจะมาปรึกษาชินก่อนว่าแนวนี้เป็นยังไง”
คุณเชนยื่นมาให้ผมดู ...
ผมก็ยกมือซ้ายไปรับมา
.
.
.
เนี่ยนะไม่ได้ทำ! งานในกระดาษออกมาเรียบร้อยไร้ที่ติ ทุกอย่างรายละเอียดพร้อมหมด ถ้ามีคนส่งแฟ้มนี้มาให้ผม แล้วบอกว่ามันเสร็จแล้ว ผมจะตกลงรับทันที แต่ผู้ชายคนนี้กลับบอกว่ามันเป็นแค่ไอเดียนิดๆหน่อยๆ
ขณะที่ผมกำลังตะลึงกับงานในมือ คุณเชนก็หยิบอีกแฟ้นขึ้นมา
“หรือถ้าชินไม่พอใจอันนั้น พี่มีอีกอันลองเอาไปดูซิ” ผมยื่นมือซ้ายไปรับมาอีกอย่างงงๆ
ไม่ใช่แค่ชิ้นเดียว แต่มีถึงสองชิ้น ผู้ชายคนนี้ทำได้ยังไงในระยะเวลาที่จำกัดแบบนี้!
“ไม่ครับ ไม่ได้ไม่พอใจ กลับกัน มันเพอร์เฟ็คที่สุดแล้วครับ ทั้งที่ผ่านไปแค่สองวัน คุณเชนทำได้ยังไงครับเนี้ย” ผมมองกระดาษในมืออย่างอึ้งๆ
“ขอบคุณครับ... ถ้าอย่างนั้นก็เหลือแค่ทางชิน ลองเอาไปอ่านดูนะครับ ถ้าผิดพลาดยังไงจะได้แก้เลย”
หา? ตอนนี้เลยเหรอ ตรวจทานงานมันคงไม่เสร็จเร็วขนาดนั้นไม่ใช่เหรอ
“ตอนนี้เลยเหรอครับ กว่าผมจะตรวจเสร็จคงดึกเลยมั้งครับ” เหงือตกเลยครับ คนๆนี้เก่งเกินไปจริงๆ
“อืมม...แต่ร้านอาหารที่นี่ปิดสามทุ่มซะด้วยซิ......”
ผมก็คิดไม่ตก .... ต้องเอาวันนี้เลยเหรอ
“เอาแบบนี้ซิ ไปทำที่บริษัทพี่ดีไหม มีของอำนวยความสะดวกครบ ถ้าดึกยังไง จะค้างยังได้เลย”
เอางั้นเลยเหรอ...
“คุณเชนครับ งานชิ้นนี้ต้องรีบเหรอครับ.. คือถึงพรุ่งนี้ถึงผมจะไม่มีเรียนเช้า แต่จะไปค้างที่ทำงานคุณเชนคงไม่เหมาะมั้งครับ”
“ทำไมไม่เหมาะ ไม่ต้องเกรงใจพี่หรอก บอกแล้วไงว่าไม่เป็นไร”
เอ่อ... เอาไงดี ถ้างานเสร็จเร็วก็คงดี แต่ไม่อยากจะค้างเลย
“คือผมไม่ค่อยสะดวกน่ะครับ...” เป็นไงเป็นกัน ปฎิเสษไปก่อนดีกว่า
“อ่างั้นเหรอ ไม่เป็นไร... พี่คงเร่งงานเราไปหน่อย ต้องขอโทษด้วยเอาตามสบายแล้วกัน ... อืมม เอาเป็นแบบนี้ดีกว่า ถ้าชินทำงานเสร็จเมื่อไรก็โทรนัดพี่แล้วกัน ยังไงวันนี้ก็กลับไปนอนก่อนเถอะ....” พูดจบคุณเชนก็ปรายตามองมาที่แผลบนมือของผม
เห็นแล้วเหรอ อุส่าหลบ ผมเงยหน้ามองคุณเชนแว๊บนึง แล้วก็รีบหลบตาเหมือนคนมีความผิด
“ทีหลัง ถ้าบาดเจ็บอยู่ก็โทรมาเลื่อนนัดพี่ก็ได้ พี่ก็ว่าอยู่ ทำไมกินมื่อซ้าย หยิบกระดาษมือซ้าย เพราะคราวที่แล้ว ดูเหมือนจะถนัดขวา”
“ค ครับ ต้องขอโทษด้วยครับ” ผมก้มหน้าลง ไม่กล้าไปสบตาดุๆของคุณเชน... น่ากลัวจริงๆเมื่อกี้นี้ มองเหมือนโกรธมาก ทั้งๆที่งานเราไม่ได้ทำ ไม่เห็นจะโกรธแบบนี้เลย
“ถ้าอย่างนั้น วันนี้พี่ขอตัวนะครับ ชินก็กลับนอนพักผ่อน พี่ไม่เร่งงานเราแล้ว เสร็จเมื่อไรก็โทรมานัด”
สายตาที่คมกริบจ้องผม หลบตาไม่ได้เลย
“ครับ”
“อย่าทรมานตัวเองที่บาดเจ็บอีก สุขภาพต้องมาก่อนงานอยู่แล้ว ถ้าคราวหน้าเป็นแบบนี้อีก พี่จะเลิกสัญญา!”
พี่เชนหันมายิ้มเย็นๆเสียหนึ่งทีแล้วก็เดินออกไป ผมหนาววาบเลยครับ...
.
.
.
ผมเดินมาที่รถตัวเองที่เลขายื่นรออยู่ พอเห็นผมมันก็ยิ้มออกมา รีบไปเปิดประตูให้ผม
“นึกว่าคุณชนินทร์จะไปค้างข้างนอกแล้วซะอีก”
หืม รู้ได้ยังไงว่าเกือบจะไปค้างข้างนอก
แต่ผมไม่ได้ตอบอะไรมัน เดินขึ้นรถไป
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น