คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : บุรุษพยาบาล
ผมขึ้นห้องของตัวเอง เตรียมเอกสารที่จะทำโปรเจคขึ้นมา นั่งคิดโน่นคิดนี่ ไหนๆก็ไม่ได้ทำแล็ปแล้วทั้งที นั่งคิดงานดีกว่า จะได้ไม่เสียเวลา
ผมนั่งทำงานอยู่ซักสองชั่วโมงกว่า แผลก็ผมก็เริ่มออกอาการปวดๆขึ้นมาบ้างแล้ว แต่ก็ไม่อยากจะกินยาเลยครับ ยาแก้ปวด กินแล้วมันง่วงนอน ยังพอทนได้ก็ทนๆไป
ติ๊งติงติ่ง ติ่งติงติ๊ง (เสียงเรียกเข้าสุดจะคลาสสิกของผมมาอีกแล้วครับ)
นครินทร์
“ว่าไง”
“(สวัสดีครับ ..วันนี้เลิกช้าจังนะครับ คุณชนินทร์เรียนยังไม่เสร็จเหรอครับ)”
อ้าว...ลืมไปเลย นี่มันเที่ยงสี่สิบห้าแล้ว เลยเวลาเลิกมาตั้งเกือบชั่วโมง
“อ้อ ไม่หรอก พอดีมีอะไรนิดหน่อยน่ะ เลยกลับมาก่อนแล้ว”
“(ครับ? กลับมาก่อน เกิดอะไรขึ้นครับ ใครมาส่ง แล้วตอนนี้อยู่ที่บ้านเหรอครับ)”
เอ่อนะ ถามซะยังกับเป็นพ่อเลย
“จะให้ตอบอันไหนก่อนดีละ...หึ ” ผมก็ตอบกวนมันไปครับหมั่นใส้เนื่องจากอะไรก็ไม่ทราบ
“(โถ่...คุณชนินทร์ครับ ตกลงเกิดอะไรขึ้นครับ ทำไมกลับมาก่อนได้)”
เลขาผมถามเสียงอ่อน ก็คงแปลกอยู่หรอก ปกติไม่ว่างานจะเยอะแค่ไหนผมก็จะทางไปเรียนจนได้ น้อยครั้งที่ผมจะขาด แต่ครั้งนี้ผมกลับมาก่อนแบบนี้ ไม่แปลเลยที่เลขาผมจะ จะร้อนใจ
“ไม่มีอะไรหรอก ทำแล็ปแล้วได้แผลมานิดหน่อยนะ”
“(ได้แผลด้วยเหรอครับ! ..... เดี๋ยวผมจะรีบกลับไป พอผมไปถึงช่วยเล่ารายละเอียดให้ฟังด้วยนะครับ!)”
ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด
แล้วไอ้หมอนั่นก็ตัดสายไปเลย อะไรของมัน
ผมละความสนใจจากมือถือ กลับไปที่งานที่คิดค้างไว้ แต่ผ่านไปแวบเดียวก็มีเสียงเคาะประตู
ก๊อก ก๊อก
แล้วคนที่โผล่หน้าเข้ามาก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ไอ้เจ้าเลขานั้นเอง มันขับรถยังไง พึ่งผ่านไปสิบนาทีเองนะ ทุกทีเวลากลับจากมหาลัยใช้เวลางครึ่งชั่วโมง
“ไหนขอดูหน่อยครับ ทำแผลรึยัง” มันพรวดเข้ามาจากประตูสู่โต๊ะทำงานผมรวจเดียวเลยครับ
ผมก็เลยยกมือนิดๆให้มันเห็นว่า ทำแผลเรียบร้อยแล้ว
“แล้วตกลงเรื่องเป็นยังไงครับเนี่ย! ทำไมพันแผลทั้งมือแบบนั้น..” มันมองมาที่ผมด้วยสายตาจริงจังซะจนผมไม่กล้าหลบมัน
ผมกับเลขาอยู่ทำงานร่วมกันมาหลายปีแล้ว เห็นกันเหมือนพี่เหมือนน้อง มันร้อนใจที่เห็นผมเจ็บ ผมก็เห็นใจมันเหมือนกัน
“แอลกอฮอลในตะเกียงมันหกน่ะ แล้วพอดีกำลังจุดไฟ มันเลยลุกติดมือมา ไม่เป็นอะไรมากหรอก นี่ยังน้อย โต๊ะโน่นซิไหม้เป็นแทบเลย” ผมพูด อธิบายให้มันฟัง
มันก็ก้มหน้ามองมือผมแล้วเงียบไป
“ไม่เป็นไรมากหรอกน่า” ผมจะดึงมืออก แต่มันก็รั้งไว้ แล้วยกมือขึ้นมาลูบอย่างเบาที่สุด
“ปวดไหมครับ ....... ยังไม่ได้กินยาใช่ไหมครับ ผมเห็นถุงยาอยู่ตรงโน้น ยังไม่ไดเปิดเลย” พูดจบ มันก็เดินไปหยิบแก้วน้ำกับยามา
“ไม่เป็นไรไว้นั้นแหละ ค่อยกินทีหลัง” ผมบอกปัดไป งานยังไม่ได้เท่าไรเลย พอง่วงก็ยิ่งคิดอะไรไม่ออก
“ไม่ได้นะครับ!!! ....ดูมันบวมๆแบบนั้น ปวดไม่ใช่เหรอครับ” โหย.. มันตวาดผมครับ เรื่องแค่นี้ ทำไมต้องขึ้นเสียง
“ก็บอกว่ายังไม่กิน! ฉันจะทำงาน” ผมตวัดตามองมันอย่างเคืองๆ เป็นเลขามาสั่งซะเสียงแข็ง จะทำอะไรมันก็เรื่องของฉัน
“ฟังผมหน่อยเถอะ!! แค่กินยามันจะซักเท่าไรกันเชียว” มันไม่ยอมลดละ เถียงผมต่อ ไอ้หมอนี่มันลามปามเกินไปแล้วนะ!
“ออกไป แกไม่มีสิทธิมาสั่งฉัน ออกไปได้แล้ว” ผมตวาดมันอย่างแรงที่สุด
มันก้มหน้าทำเหมือนเงียบไป... แต่ผมก็ได้ยิน เสียงรอดไรฟันเบาๆของมัน
“ดื้อ!”
ไม่ทันจะได้หันไปด่า มันก็เดินผลุบออกนอกห้องไปแล้ว
เอ๊ะไอ้นี่!!!!
....
ผมก้มหน้าทำงานของผมต่อไป อาการปวดของผมชักจะมากขึ้นเรื่อยๆ จนผมต้องหยุดมือทำงานมาลูบแผลตัวเองเป็นพักๆ แปลดีนะครับ เวลาเจ็บที่ไหน พอมีคนลูบให้มันก็เหมือนจะบรรเทา เมื่อกี้ตอนที่เจ้าเลขาจอมกำแหงมันลูบ ผมก็รู้สึกว่า ความปวดมันพอจะเบาลงบ้าง แต่พอมาตอนนี้ลูบให้ตัวเอง ไม่ยักหาย
ผมละมือจากงาน.. ปวดมากขึ้นเรื่อยๆไม่ไหวแล้วครับ ผมมองหายาที่เจ้าเลขาตัวดีมันวางไว้... แต่ก็ไม่เจอครับ
อย่าบอกนะว่ามันเอาออกไปด้วยน่ะ สรุปคือต้องออกไปเอากับมันใช่ไหม หนอยย กวน!!
ผมเดินหน้าตึงออกไปหาตัวดี มันเห็นหน้าผมก็ส่งยิ้มกวนๆมาให้ เอากะมันซิ หึ
“คุณชนินทร์ ทำงานเสร็จแล้วเหรอครับ” มันเงยหน้าขึ้นมาจากงานของมันครับ ยกคิ้วนิดๆ เห็นแล้วอยากเอาตีบไปแตะเบาๆซะเหลือเกิน
“ยังไม่เสร็จ!”
“อย่างนั้นเหรอครับ” พูดจบมันก็ก้มหน้าไปทำงานของมันต่อ บ้าจริง ต้องให้พูดให้ถามใช่ไหม!!!
“ยาฉันไปไหน!” ผมขึ้นเสียงใส่มัน ยอมรับเลยตอนนี้โมโหสุดๆ มือก็ปวด ยังต้องมองหน้ากวนๆของเอายาจากมันอีก
“อ้าวไหนคุณชนินทร์บอกไม่กินยา ผมก็เอาไปเก็บน่ะสิครับ” มันสบตาผมนิ่ง เอ่อ! ให้มันได้งี้สิ ผมไม่หลบตามัน จ้องตอบไปตรงๆ แต่ไม่พูดอะไรออกมาอีก ไม่เอาก็ได้ว่ะ! แล้วผมหันหลังกลับไปที่ห้อง
“เดี๋ยวๆ คุณชนินทร์ ยาอยู่นี่ครับ อยู่นี่” มันเดินมาจับไหลผมให้หันกลับไป ในมือมันมีทั้งแก้วน้ำมีทั้งยาพร้อมหมด แต่ผมนี่สิ หมดอารมณ์จะกินยาแล้ว โกรธมากครับ เห็นว่ามันเป็นคนสนิด มีอะไรก็หยวนๆ แต่มันลามปามเล่นหัวขนาดนี้ ผมก็ไม่ไหวครับ มันเป็นลูกน้องผมเป็นเจ้านาย ทำแบบนี้ถือว่าสนิดชิดเชื้อแล้วจะลดความเกรงใจได้งั้นเหรอ
ผมมองมันด้วยหางตาแล้วก็หันเดินเข้าห้องตัวเองไป บ้าจริง! ที่เราหยวนมันมากไปใช่ไหม ถึงได้กำเริบกำแหงแบบนี้ลองใช้ชีวิตแบบไม่มีเลขาดูมั่งสักวันก็ลงดี ไม่งั้นก็หาคนใหม่ไปเลย ผมล้มตัวลงนอนบนเตียงหลับตาหวังจะช่วยบรรเทาเจ็บไปบ้าง
ก๊อก ก๊อก
นั่นไง ไม่ทันไรเจ้าเลขามันก็เปิดประตูเข้ามา แล้วมานั่งอยู่ข้างเตียงครับ
“ผมขอโทษครับ กินยาก่อนเถอะ เดี๋ยวจะปวดกว่านี้ ทรมานตัวเองเสียเปล่าๆ” มันส่งน้ำกับยามาให้ผม มองหน้าผมแบบอ้อนๆ กึ่งๆจะสำนึกผิด กึ่งๆจะสงสารผม
ไอ้สำนึกผิดก็ดีอยู่แต่ไม่ต้องมาสงสาร จ้องหน้ากับมันไปซักพัก ใจก็อ่อน ผมโกรธมันได้ไม่นานนักหรอก
ผมยื่นมือไปรับยามาใส่ปาก แล้วดื่มน้ำตาม เฮ้อ รอซักพักคงจะดีขึ้นนะ ผมยื่นแก้วน้ำส่งคืน แล้วล้มตัวลงนอน
“อีกครึ่งชั่วโมงให้แม่บ้านมาปลุกด้วย” พูดจบก็ค่อยๆหลับตาลง
“ครับ .. หลับเถอะ เดี๋ยวผมเฝ้าเอง..” มันพูดอะไรซักอย่างเบาๆ ผมก็ไม่ได้สนใจฟังเท่าไร
แต่ก็หลับตาอยู่อย่างนั้น ยาแก้ปวดยังไม่ออกริษ ผมกระสับกระส่ายนิดหน่อย เจ้าเลขาอวดดีของผมก็กุมมือผมข้างที่เป็นแผลขึ้น แล้วลูบเบาๆ
ผมก็ปล่อยให้มันลูบจนเคลิ้มหลับไป มือของมันที่ลูบมือผมอยู่ ออกริษเร็วกว่ายาอีก สบายขึ้นเยอะเลย
ความคิดเห็น