ลำดับตอนที่ #6
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : อุบัติเหตุ
เช้าวันรุ่งขึ้น ผมรู้สึกปลอดโปร่งเป็นที่สุด เนื่องจากไม่ได้นอนหลับสนิดแบบนี้มาหลายวัน วันนี้ผมตื่นแต่เช้า เตรียมไปมหาลัย เช้านี้ผมมีเรียนแล็ปที่ต้องทำการทดลองเกี่ยวกับจุลินทรีย์ ต้องไปเตรียมอุปกรณ์ด้วยซิ ผมรีบอาบน้ำแต่งตัว แล้วลงไปทานข้าวที่แม่บ้านเตรียมไว้ให้
“เอ๊ะ...ลืมเสื้อกาว.....คุณแม่บ้านครับ ช่วยเอาเสื้อกาวมาให้ผมหน่อยนะครับ” ผมหันไปบอกคุณแม่บ้านที่ยืนอยู่หลังเก้าอี้ผม
“คุณเลขาเตรียมไว้ให้แล้ว อยู่บนรถค่ะ” อ้อ..
“ครับ .. ..อาหารเช้านี้อร่อยมาก”
ผมหันไปยิ้มให้แม่บ้าน แล้วลุกเดินไปที่รถ ตอนนี้แปดโมงสิบห้าแล้วด้วย
พอเดินไปถึงรถ เลขาผมก็ยื่นถุงกระเป๋าที่คาดว่าน่าจะเป็นเสื้อกาวมา แล้วเปิดประตูรถ ผมรับถุงกระเป๋าใบนั้นแล้วขึ้นรถไป
แล้วเลขาผมก็ออกรถ..
“คุณชนินทร์ครับ เมื่อคืนตอนสามทุ่ม คุณเชษฎาโทรมานัดปรึกษาเรื่องโปรเจคที่จะทำครับ สิบโมงของวันนี้ครับ... ”
มันมองมาผ่านกระจกรถ
“ตอบตกลงไปแล้วเหรอ... วันนี้ฉันมีเรียนถึงเที่ยง โทรไปเลื่อนด้วยแล้วกัน”
อะไรหว่า พึ่งคุยกันเมื่อวานนี่ คิดโปรเจคออกแล้วเหรอ ทำไมให้เวลาน้อยจัง เรายังไม่ได้เริ่มคิดอะไรเลย หรือว่าฝ่ายนั้นรีบ...
“ครับ ผมเรียนทางนั้นไปแล้ว คุณชนินทร์เอาเป็นกี่โมงดีครับ ตารางตอนนี้ มีว่างแค่ช่วงเย็นหลังสี่โมงไป .. แต่นัดช่วงเย็นจะดีเหรอครับ”
“?.. มีอะไรรึไง...”
ผมถามแบบไม่ค่อยได้สนใจเท่าไร แต่ที่ผมสนคือตอนบ่ายนี้มันมีอะไรนะ.... จำไม่ได้แล้วซิ “แล้วช่วงบ่ายนี่มีอะไร”
“ตอนช่วงบ่ายโมงถึงบ่ายสอง ฝ่ายบุคคลมีประชุมเรื่องงบประมาณของพนักงานประจำปี ตั้งแต่บ่ายสองไปเป็นบริษัทบีรอยนัดให้เราไปดูโรงงานก่อนตกลงเซ็นต์สัญญาครับ”
อืม สรุปคือไม่ว่างซินะ ....
“เอางี้ดีกว่า หลังจากประชุมเสร็จ ฝากนายไปดูโรงงานแทนหน่อยแล้วกัน เดี๋ยวฉันจะอยู่บริษัททำงานโปรเจคก่อน แล้วค่อยไปตามนัดคุณเชษฎา นัดไว้ซักทุ่มตรงแล้วกัน ”
เฮ้อ เวลาแค่นี้ จะทันไหมนะ โปรเจคใหญ่ขนาดนั้น เวลาแค่นี้คงไม่พอหรอก เอาไงดี ฝ่ายโน่นคงคิดได้บ้างแล้วถึงนัดเรามา ... เอาไงดีน้า หรือจะเลื่อนไปก่อนดี..
“จะดีเหรอครับ..”
... ไม่เลื่อนคงดีกว่า เสียภาพพจน์แย่เลย ทำงานช้าแบบนี้ แต่ถ้าทำงานเร็วแต่ออกมาไม่ดี ไม่ยิ่งเสียเครดิตกว่าเหรอ
“...มันจะดึกไปนะครับ”
.. เอาไงดีว่ะ.....
“คุณชนินทร์!”
อะไรของมันไอ้เลขา จะตะโกนขึ้นมาทำไมฟระ “มีอะไร! .. ตกลงตามที่ฉันบอกน่ะแหละ ถึงเวลานัดแล้ว เอารถมารับฉันด้วย”
“เลื่อนเป็นนัดพรุ่งนี้ดีไหมครับ พรุ่งนี้ไม่มีโปรแกรมงาน มีแค่เรียนตอนบ่ายนะครับ”
“ก็ฉันตกลงแบบนี้ นายจะเอาไง จะไปแทนฉันไหมหะ!”
แล้วมันก็เงียบเสียงไป ไม่เถียงอะไรผมอีก จะถึงมหาลัยแล้วมันจดรถหน้าตึกที่เดิม แล้วเดินอ้อมมาเปิดประตูรถให้ผม แต่ก็ก้มหน้า ไม่มองมาเลย งอนอะไรของมันเนี่ย เป็นเลขาแท้ๆ ทำปั้นปึงใส่เจ้านายได้ด้วยเหรอว่ะ
ผมไม่ได้สนอะไรมันมาก เดินผ่านมันไป
หมับ
ไม่ทันจะเดินผ่านดี มันก็ฉุดมือผม กำไว้แน่น ผมก็หันไปมองหน้ามัน .... เลขาผมก็ทำเหมือนจะพูดอะไรซักอยาก แต่ก็ไม่ยอมเปิดปาก จนผมต้องเป็นฝ่ายถามมันก่อน
“มีอะไร”
เจ้าเลขามันไม่ตอบครับ จ้องหน้าผมอยู่อย่างนั้น ผมก็ชักอารมณ์เสีย คนยึ่งรีบๆ งานก็เยอะ
“ถ้าไม่มีอะไรก็ปล่อยเซ่ จะไปแล้ว”
มันสบตาผมนิ่งๆ แล้วก็ถอนหายใจออกมา
“ไม่มีอะไรครับ... คุณชนินทร์ลืมเสื้อกาวเท่านั้นเอง” แล้วหมอนั้นก็ยัดถุงกระเป่าใส่มือผม อะไรของมันว่ะ ทำอ่ำอึ้ง แค่เสื้อกาวแค่เนี้ย จ้องหน้าอยุ่นั้นแหละ
“อืม ขอบใจ”
พูดจบ ผมก็เดินขึ้นตึกไป ไม่ได้หันไปสนใจมันอีก
.
.
วันนี้พี่ฟ้าทำงานเป็นผู้ช่วยแล็ปครับ หน่วยเป็นอาสา ทางมหาลัยจัดให้นักศึกษาได้มีประสบการณ์ทำงาน ทุกทีถ้าผมมามหาลัย ดักรอผมที่หน้าตึกเรียน ก็ว่าอยู่ทำไมไม่เจอ ที่แท้ก็มาเป็นอาสานี่เอง
“สวัสดีครับพี่ฟ้า... วันนี้ไม่ว่างแล้วเหรอครับ ปกติเห็นว่างมานั่งเรียนกับผมทุกที”
พี่ฟ้าหันมาเจอผมก็ยิ้มๆให้ ผมเดินเอากระเป๋าไปวาง แล้วหยิบชุดกาวขึ้นมาสวม แล้วก็เดินไปหยิบกล่องถุงมือยางมา
“อ้าวน้องชิน มาแล้วเหรอครับ .. แต่อืม สังสัยวันนี้คงจะไม่ว่างจริงๆแน่ะแหละ ต้องอยู่ช่วยแล็ปน้องชินไง เอ้อ ถุงมือยางอยู่นี่ครับ มาเดี๋ยวพี่ช่วยใส่ให้”
พี่ฟ้าหยิบกล่องมา วางไว้หยิบถุงมือขึ้นมาคู่หนึ่ง ผมก็หยิบใส่ข้างซ้ายเรียบร้อยก็ยื่นมือขวาไปให้พี่ฟ้าใส่ให้ ไม่ใช่อะไรหรอกครับ ใส่ข้างขวาเองไม่ค่อยถนัดมีคนใส่ให้ก็สะดวกดี
พี่ฟ้าเป็นคนชอบแทคแคร์ครับ ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร อยากทำอะไรก็ปล่อยเขาไป เมื่อก่อนเคยเกรงใจกันอยู่บ้างเหมือนกัน แต่พี่ฟ้าก็ว่า บอกเป็นพี่รหัสน้องรหัสกัน ทำไมต้องเกรงใจกันอีก แถมยังบอกอีกว่า รู้สึกไม่ดี ที่ทำตัวเหินห่าง ตั้งแต่นั้นมา พี่เขาว่ามายังไง ก็ว่าตามกันไป ไม่ค่อยขัดใจเขา ยกเว้นแต่ว่า มันจะทำให้ลำบาคพี่เขาจริงๆ
“เอาละเสร็จแล้ว! ของแล็ปพี่เตรียมหมดแล้ว น้องชินไปอ่านวีธีทำเถอะ วันนี้แล็ปยาวนะ” พี่ฟ้าดันหลังผมให้ไปนั่งเก้าอี้ที่โต๊ะผม ลากเก้าอี้มานั่งข้างๆ แล้วยกมือขึ้นเท้าคางมองหน้าผม
“ผมอ่านมาแล้วครับ จำได้หมดแล้ว พี่ฟ้าเถอะครับ หมดงานแล้วเหรอ มานั่งจ้องหน้าผมงี้อ่ะ” ผมแซวพี่เขา อะไรกัน มะกี้ก็เห็นทำงานอยู่งกๆ ทีตอนนี้มาบอก “ว่าง”
“ฮะฮะฮะ... ไม่ว่างก็ได้ครับ น้องชินนั่งอ่านไปแล้วกันเดี๋ยวพอตอนเริ่มแล็ป เดี๋ยวพี่มาช่วย” พูดจบก็หันหลังเดินไป
ผมก้มหน้าลงอ่านวิธีทำแล็ปอีกครับ ทบทวน อ่านไปได้ซักพัก คนก็เริ่มทะยอยเดินเข้าห้องมา แล้วอาจารย์ก็เริ่มชั่วโมง
“นักศึกษา การแยกเชื้อครั้งนี้ ต้องระมัดระวังมากๆ อย่าให้มีเชื้ออื่นปนมา เอาลูป รนไฟให้แดง รอให้เย็นแล้วค่อยเขี่ยเชื้อ”
พูดจบ อาจารย์ก็เดินออกไป นี่แหละครับแล็ปผม อาจารย์จะให้เด็กอ่านแล้วมาทำเอาเอง ไม่ค่อยได้ช่วยอะไรหรอกครับ
นักศึกษาพากันลงมือ เสียงเครื่องมือกระทบกันโคล้งเคล้งไปหมด แล้วผมก็เริ่มลงมือ หยิบหลอดโน่นทีหลอดนี้ที พอเตรียมพร้อมหมด ก็เดินไปหาพี่ฟ้า จะเอาไฟแชคมาจุดตะเกียง
“พี่ฟ้าครับ ขอยืมไฟแชคหน่อยครับ” ผมเดินไปหาพี่ฟ้าที่ห้องเก็บอุปกรณ์ จริงๆแล้วไฟแชคต้องเตรียมมาเอง แต่เมื่อคืนผมลืมหยิบใส่กระเป๋ามาด้วย
“แป๊บนะ จดไอ้นี่อีกแป๊บนึง ...โอเค ไฟแชคเหรอ พี่มีแต่ไม้ขีดน่ะเอาไปก่อนแล้วกัน”
อ่า... อย่าว่างั้นงี้เลยครับ ผมจุดไม่ขีดไม่ค่อยเก่งถ้าจุดเองมีหวังหักหมดแน่
อ่า... อย่าว่างั้นงี้เลยครับ ผมจุดไม่ขีดไม่ค่อยเก่งถ้าจุดเองมีหวังหักหมดแน่
แต่ก็รับๆมาไม่ได้พูดอะไร พี่ฟ้ายุ่งอยู่ จุดเองดีกว่าลองดูอีกที เมื่อตอนนั้นที่เราเคยจุดมันก็ยังเด็กอยู่ ตอนนี้อาจจะดีขึ้นก็ได้
ผมเดินมาที่โต๊ะของผม เปิดฝาตะเกียงออกแล้วหยิบก้านไม้ขีดออกมาจุด
กึง! แคล้งงง!!!.....
ผมสะบัดข้อมือนิดเดียวเท่านั้นแหละ มือมันก็ไปโดนตะเกียงไฟล้มลง แอลกอฮอลหกกระจายเต็มโต๊ะ ไหลลงพื้น
และก็กระเด็นมาถูกมือผม... เท่านั้นแหละครับ ไฟลุกพรึบเลย! ทั้งบนมือผม บนโต๊ะ แล้วก็ตรงพื้น !!!
“โอ้ยย!” ร้อนครับ ร้อนมากก ตอนที่กำลังตกใจทำอะไรไม่ถุกอยู่นั่นเอง พี่ฟ้าที่วิ่งมาจากไหนก็ไม่รู้ กระชากผมออกจากกองเพลิงนั่น แล้วเอายกเสื้อตัวเองขึ้นมากลุมมือผมไว้ แล้วไฟที่มือผมก็ดับครับ
เพื่อนๆก็แตกตื่นก็ไปหมด แล้วในที่สุดก็มีคนเอาถังดับเพลิงมาฉีด จนไฟทั้งหมดดับลง
“น้องชิน! เป็นยังไงมั่งครับ ทำเอาท่าไหนเนี้ย... ไปอารมณ์ไม่ดีที่ไหนมา จะเผาห้องแล็ปให้วอดเลยเหรอ... ไหนดูซิ เจ็บไหมครับ”
พี่ฟ้าก็เว่อไป เผาแค่โต๊ะตัวเองเท่านั้นแหละ
“ไม่เป็นไรครับนิดหน่อย” พี่ฟ้าไม่ค่อยได้ฟังผมพูดเท่าไร ยกมือผมขึ้นไปดู
“...!!!!... ไม่เป็นที่ไหนครับ ดูนี่ นี่เหรอไม่เป็นไร เจ็บมากแน่ๆเลย”
พอผมมองดูก็เห็น เหวอออ!!! ตอนแรกมันชาครับนึกว่าไม่เป็นไรมาก แต่ความจริงผิวมันลอกจนเป็นสีชมพูแดงๆเลยครับ เหวอะเป็นแถบเลย ซี๊ด...
พี่ฟ้าดึงมือผมไปที่อ่าง เอามือผมผ่านน้ำให้เย็นลง เพื่อนๆก็มุงดูกันใหญ่ พี่ฟ้าเห็นท่าจะหนักเกิน เลยพาผมไปห้องพยาบาล
นางพยาบาลประจำห้องก็ทำแผลให้ผมเท่าทีทำได้ แล้วบอกผมว่า คงจะมีอาการปวดบ้าง แผลนี้ต้องเปลี่ยนผ้าพันทุกวัน จะมาเปลี่ยนที่นี่หรือเปลียนที่โรงพยาบาลก็ได้ และที่สำคัญห้ามโดนน้ำเด็ดขาด พอตกลงทำแผลอะไรเสร็จเรียบร้อย พี่ฟ้าก็อาสามาส่งผมที่บ้าน ไม่ให้ผมทำงานแล็ปต่อ ผมก็โอเคครับ เพราะยังไงก็ยังช๊อคๆอยุ่เหมือนกัน พี่ฟ้ามาส่งผมที่บ้านครับ แล้วก็กลับไปที่ทำมหาลัย ไปจัดการที่ผมทำไว้ ก่อนออกมาจากห้อง โต๊ะผมเละไม่มีดีเลยครับ
“แล้วพรุ่งนี้เดี๋ยวพี่จะพาไปเปลี่ยนผ้าพันแผลแล้วกัน ยังไงก็พักผ่อนเยอะๆแล้วกันเดี๋ยวมันคงปวดเหมือนที่คุณพยาบาลว่า พี่ต้องไปแล้ว”
“ขอโทษนะครับ เดือดร้อนแย่เลย”
“ไม่เป็นไร แค่นี้เอง ไม่เดือดไม่ร้อนซักนิด”
แล้วพี่ฟ้าก็ออกรถไป
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น