ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    l[bewanted]l [Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #4 : หรือผมฝันไป

    • อัปเดตล่าสุด 10 ส.ค. 52


    เอ๊ะ... นี่ผมเป็นอะไรไปเนี้ย ที่นี่ที่ไหน... ซี๊ดดด โอ้ย เจ็บหน้าอกจัง
    “ชนินทร์ ตื่น เดี๋ยว นี้!
    หืม? เสียงใครกัน เหมือนจะคุ้นแหะ
    “ชนินทร์ เจ้าลืมตาเดี่ยวนี้ อธิบายให้ข้าฟังด้วย ใครคือเดย์ เจ้านี่มันบ้าจริงๆ” อะไรข้าๆเจ้าๆฟระ สงสัยคงฝันเฮ้อ พักนี้นอนน้อยไปจริงๆละมั้ง...
    กึง กึง กึง
    ยังไม่ทันได้ยินได้ฟังอะไรต่อ ก็รู้สึกเหมือนโดนกระชากไปมา ไม่ก็เขย่าแรงๆ โอ้ยปวดหัว ผมค่อยๆลืมตาขึ้นมาช้าๆ จะให้หลับอยู่ก็ไม่ไหวแล้วนะ ใครกันปลุกได้ดิบเถื่อนจริงๆ
    “อ..อืม อ..” เสียงผมหายไปไหน ไม่ทันได้ตั้งสติดี ก็รู้สึกอุ่บวาบบนริมฝีปาก โอ้ยไม่นะไอ้บ้าที่ไหน มาจูบผมอีกแล้ว แต่มันไม่ใช่แค่นั้นน่ะซิ ทำไมน่ะเหรอ..
    แค่ก แค่ก
    มันส่งน้ำเข้าปากผม!
    ผมผลักมันออกด้วยความตกใจ(ผลักด้วยตีน) จนอีกฝ่ายผงะไป
    “แกเป็นใคร!” อะแห่ม ได้น้ำแล้วเสียงกลับมาครับ ไอ้หมอนั้นเหมือนจะตกใจอยู่ไม่น้องที่โดนผมผลัก (ด้วยตีน) แน่นอน มันต้องเป็นคนปลุกผม จะให้ผมอ่อนโยนกับไอ้ผมดิบเถือนอย่างมันได้ยังไงจริงไหมครับ
    พอได้สังเกตุมันเต็มตา...หืม?? หนุ่มผมยาว ใครว่ะ ผมจำได้ว่าไม่เคยรู้จักพวกบ้าแบบนี้นี่หว่า
    “จ เจ้า ...” เจ็บเหรอ ไม่ได้ทีบแรงอะไรนี่น่า เห็นมันก้มหน้าลงไป ผมก็เลยก้มตามมั่ง ไหนๆก็เป็นคนทำมันเจ็บนี่นะ..
     โดยที่ไม่รู้เลย ว่านั้นคือกำดัก!
    “อุบ.. อ ...อื..ม”
    ไม่ทันได้ก้มมองชัดนัก มันก็เงยหน้าขึ้นมา ประกบปากผมอย่างรวจเร็ว
     ม..มันจู่โจมผม ไม่นะ อะไรของมันว่ะเนี้ย ผมโดนล็อกแขนไว้ มันตวัดตัวขึ้นคล่อมผมอย่างกับเสือ แล้วสอดเข่ามันมาตรงหว่างขาผม
    “ม ไม่นะ ..” มันเปิดปากแวบหนึ่งทำเหมือนจะปล่อยผมให้ได้พูด แต่ .. กำดักอีกแล้ว อ้าปากได้แป๊บเดียวมันสอดลิ้นเข้ามาลุกไล้ไปทั่ว ทำเหมือนเป็นปากมันเอง
    พอจะยกเข่าขึ้นขัดขืน มันก็เอาเข่ามันมาถูเป้าผม ไอ้เชี้ยนี่ วอนซะแล้วนะเมิง
    วางกำดักเล่นกูเหรอ หึ ดูกูบ้างเหอะ จะว่าหยาบก็หยาบเหอะว่ะไอ้สัดนี่!
    ผมทำเป็นจูบตอบมัน เหมือนจะมีอารมณ์ร่วมเต็มที่ ค่อยๆยกหัวตัวเองขึ้น มันก็เหมือนจะได้ใจปล่อยให้ผมนำ
    เสร็จกุละ
    ผมกดหัวลงกำเตียงแล้วพุ่งกลับไปที่หัวมันอย่างแรง
    โป๊ก!
    “โอ้ย!”   / “โอ้ย!
    ผมอาศัยช่วงที่มันตกใจ สะบัดหลุดออกมาจากอกมันจนได้ ไม่รอให้มันตั้งตัวติด ผมกำหมัดแน่นๆ แล้วปล่อยใส่หน้ามันสุดแรง
    ผัวะ
    “เจ้า!
    เฮ้ย! จะไม่เจ็บหน่อยเหรอวะ มันหันหน้ากลับมาช้าๆ แล้วส่งรอยยิ้มเหี้ยมมาให้ผม ทำเหมือนว่าเมื่อกี้ผมเพียงแค่ลูบหน้ามันเบาๆ
    มันก็จับข้อมือผมฉุดให้ลอยขึ้นด้วยมือข้างเดียวของมัน ลากผมลงจากเตียง ผมหันซ้ายหันขวาหาทางหนี แล้วก็ได้พบว่า ตัวเองลอยอยู่ ขาผมไม่ถึงพื้น มันสูงเท่าไรกันว่ะ
    “อยากให้ข้าทำโทษเจ้ามากเลยใช่ไหม” ห่ะ? ทำโทษ กุเป็นทาสมึงหรอ
    “อ.. โอ้ย ไอ้เชี้ย แกเป็นใคร”
    “เรียกชื่อข้าแล้วถามว่าข้าเป็นใครเนี้ยนะ” ห๋า อะไรอีกว่ะ แมร่พูดไม่รู้เรื่อง หรือมึงชื่อไอ้เชี้ย
     ผมตวัดตาขึ้นมาสบตามัน โหย ตาสีทอง เผลอมองอยู่นาน ลูกตามันทำผมเคลิ้มๆไปนิดหน่อย เอ๊ะ ไม่ใช่สิ
    “แกเป็นใคร”
    “เฮ้อ เห็นแกเจ้าที่ไม่รู้อะไรอยู่หรอกนะ จะบอกให้ก็ได้ ข้าคือ เอลฟาชีอา เลอวิช เดวูลาชิอง”
    เอลฟาชีอา กุบอกว่ามึงมันไอ้เชี้ย  ไม่ใช่ชีอาโว้ย กุไม่เคยรู้ชื่อเมิงมาก่อน
    “??????????” แต่ที่สำคุญที่สุดนั้นมันชื่อคนแน่เหรอ?? เดวูลาชิองอะไรของมึง จะมาเอาคถาไปโบกแล้วร้องชูกก้าชูก้ารูนด้วยไหม!
    “ข้าบอกชื่อเจ้าแล้ว ทีนี้ เรียกชื่อช้าด้วยละ” มันส่งยิ้มหวานๆมาให้ผม หึ ไม่หลงหรอก มะกี้ที่กุเคลิ้ม ก็แค่สีตามึงสวยเท่านั้นน่ะแหละว่ะ
    “แกต้องการอะไรจากฉัน คงรู้นะ ว่าทำแบบนี้ พ่อฉันก็ไม่มีทางมาไถ่ตัวฉันคืนหรอก” ใช่แล้วละ ตั้งแต่เกิดมา ผมถูกจับตัวมา ไม่ต่ำกว่า20ครั้ง และไม่มีครั้งไหนเลยที่พ่อจะมาช่วยผม มีแต่ไอ้เลขานั้นแหละ ที่คอยตามตำรวจให้ ซึ่งผมก็หวิดไม่รอดทุกทีไป
    “เจ้าพูดเรื่องอะไร .. ไม่ซิ ข้าบอกให้เจ้าเรียกชื่อข้า ไม่ต้องมาทำเปลี่ยนเรื่อง” เปลี่ยนเรื่อง ?? นี่มันคือประเด็นไม่ใช่เหรอห่ะ? แกคงไม่ได้จับตัวมาเพื่อให้เรียกชื่อหรอกนะ
    “งั้นบอกมา แกต้องการอะไร” ผมพยายามต่อรองกับมัน
    “อะไรของเจ้า ก็บอกอยู่ให้เรียกชื่อข้า” พูดจบ มันก็โน้มหน้าเข้ามาใกล้ๆ
    ม ไม่นะ อีกแล้วเหรอ มะกี้กว่าจะหลุดได้ กุไม่ยอมมม ผมหันหน้าหลบไปหลบมา
    “เอาเร็ว เรียกชื่อของข้า” เออๆ กุเรียกแล้ว ....
    .
    .
    .
    ................
    ชื่อไรวะ... เวรแล้ว จำไม่ได้ เหวออ หน้ามันจะถึงปากอยู่แล้ว ไม่ได้การละ ต้องถ่วงเวลา
    “โอเคๆ ได้ๆ เรียก ก็เรียกซิ” เย้ ได้ผล มันเอาหน้าถอยไปแล้ว
    “...... ก็เรียกซิ”
    “แน่นอน เรียกอยู่แล้ว” ......
    “......”
    “ปล่อยฉันลงก่อนซิ ให้เรียกทั้งๆที่ลอยอยู่เหรอ” ปล่อยเหอะ ปล่อยยย ผมสะกดจิตมันในใจ ผมไม่ได้ปัญญาอ่อนนะ ถ้ามาเจอแบบผมแล้วจะรู้ อะไรที่ทำได้ก็ทำ ก็ใช้ๆมันให้ทุกมุขไปก่อน ถึงแม้ไม่น่าจะได้ผลก็ตาม (สะกดจิตคือแผนของแกเหรอ =*=)
    มันจ้องตาผม เหมือนจะกินไปทั้งๆอย่างนั้น ไม่ได้การละ หลบตาหลบตาไม่ได้แล้ว แปลกมาก สายตาของมัน ถ้าเผลอไปสบเข้าเมื่อไร .... แย่แล้วละสายตาไม่ได้เลย
    “ชนินทร์..”
    “ผ..ผม ...” พูดอะไรไม่ออกเลย ......เฮ้ย จะไปพูดสุภาพกับมันทำไมเนี้ยเรา
    “เฮ้อ ข้าจะบอกให้เจ้าฟังอีกทีก็ได้ ชื่อของข้าคือ เอลฟาชีอา เลอวิช เดวูลาชิอง .... อนุญาตให้เรียกเอลฟาได้”
    หนอยไอ้นี่วางก้ามเชียวนะ ผมพยายามมองไปรอบๆดูสถานะการ ตอนนี้ผมอยู่ที่ไหน และนานเท่าไรแล้วที่ผมโดนจับตัวมา ความทรงจำล่าสุดที่พอจะนึกออกคือ อยู่หน้ามหาลัยกับพี่ฟ้าแล้วก็ไอ้เลขา มันพยายามจะพาผมไปโรงพยาบาล แล้วเกิดอะไรขึ้น พวกนั้นไปอยู่ไหน ถูกจับไปแยกไว้ หรือหนีไปได้ เกิดอะไรขึ้นว่ะเนี้ยย..
    “คิดอะไรอยู่” มันเชยคางผมขึ้นไปสบตามัน
    นั้นซินะ ลืมไปเลยแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อนแล้วกัน ที่เหลือค่อยคิดทีหลัง
    “คุณเอลฟา ไม่ทราบว่าคุณจับตัวผมมา ต้องการอะไรเป็นข้อแลกเปลี่ยนครับ” ผมเริ่มเปิดประเด็นที่คิดว่า น่าจะสำคัญที่สุดแล้ว
    “เจ้าพูดอะไรของเจ้า ข้อแลกเปลี่ยนอะไร ข้าแค่ให้จอมเวทของข้าเรียกเจ้ามาเท่านั้นแหละ เจ้าจำข้าไม่ได้เลยซินะ....”
    อะไรของมันวะ พูดไม่รู้เรื่องเลย ผมไม่ค่อยสนใจคำพูดมันเท่าไร ก็ออกจะแปลกขนาดนั้น คงมีปัญหาทางสมองละมั้ง
    “ที่นี่ที่ไหน”
    “นครแห่งมนตราไง และข้าก็เป็นผู้ครองนครแห่งนี้”
    ..... จะให้กูเอาไงกะมึงหะนครบ้าห่าเหวอะไรของมึง ไอ้หมอนี่ แต่ตัวก็แปลกๆ ไว้ผมซะยาวลากขนาดนี้ ไม่สมประกอบก็อยู่เฉยๆซิว่ะ เอากุมาเดือดร้อนด้วยทำไมเนี้ย
    “ชนินทร์..”
    “อะ แห่ม .. เอ่อ ตอนนี้กี่โมงแล้วครับ”
    “ก็... น่าจะซักสองฟ้าแล้วนะ”
    .... เฮ้อ คงจะพูดกันไม่รู้เรื่องสองฟ้าบ้าบออะไรว่ะ ผมไม่สนใจแล้ว ต้องกลับละ โปรเจคกับบริษิทเจเอสก็ยังไม่ได้คิด คุณเชษฎาดันมารับผิดชอบงานนี้เองด้วยจะทำชุยๆไม่ได้
    ผมเดินผ่านหน้าไอ้บ้านี่มองหาประตู ไอ้บ้านี่ก็เดินตามผมต้อยๆ ห้องนี้เป็นห้องวงกลม ผนังห้องเรียบไปหมดมองหาที่ๆน่าจะเป็นประตูไม่ได้เลย เพดานก็สูงมาก หน้าต่างก็ไม่มี เอะ เพดานทำไมเป็นแบบนั้น เหมือนหลุมไม่มีที่สิ้นสุด
    “จะออกไปข้างนอกเหรอ”
    “....” ผมหันไปมองหน้ามัน ไม่ได้พูดอะไร
    “ถ้าเจ้าไม่ดื้อ ข้าจะพาเจ้าออกไป ตกลงไหม” ทำไมช่วงนี้ได้ยินคำนี้บ่อยจัง ดื้อ.. ดื้อเหรอ กุดื้อตรงไหนว่ะ
    “.....” ผมไม่ได้พูดอะไรตอบมัน แต่ก็พยักหน้าน้อยๆ ให้ทำไงได้ละ ออกจากห้องเองไม่เป็นนี่
    “เหวอ!!~.. จะทำอะไรน่ะ” มันอุ้มผมตัวลองเลยครับ อุ้มแบบอุ้มเจ้าหญิงด้วย!! ผมหน้าชาเลยครับ เหมือนโดนตบหน้าซักสองสามที ผมเป็นผู้ชายนี่ มาถูกใครอุ้มแบบนี้ ก็ต้องรู้เหมือนถูกหยามกันทั้งนั้นแหละ
    “อ้าว ก็จะออกไปไม่ใช่เหรอ หรือเจ้าไปเองได้” ไหนมึงบอกจะพาไป พาของมึงคืออุ้มเหรอว่ะหะ!!
    “บอกทางเฉยๆก็พอ ไปเองได้!” ผมตะหวาดมันอย่างแรง มึงจะเป็นใครกุก็ไม่สนแล้วโว้ย
    “งั้นเหรออ...หึ” มันพุดเสียงยานๆ แล้วก็ชี้มือขึ้นไปด้านบนเพดาน
    “หมายความว่าไง” งงซิครับบอกให้ชี้ทางออก มันชี้เพดานเฉย
    “ทางออกห้องไง” พูดจบ ตัวมันก็ลองขึ้นช้าๆ แล้วก็ค่อยๆบินวนไปวนมารอบตัวผม
    “ว่าไงชนินทร์...หึ ชี้ทางออกให้แล้วไง” ไอ้หมอนี่มันเป็นตัวอะไรกันแน่ว่ะ!! ช๊อคครับ
    โอ้ยเวียนหัวผมทำท่าเหมือนจะล้มลงไป แค่เซเท่านั้นแหละครับ แต่ไม่ทันได้ล้มลงไอ้นี่มันก็อุ้มผมขึ้น...
    หืมมม ท่าเดิมอีกแล้วครับ ฉุนจริงๆเลย
    “นิ่งๆจะ เดี๋ยวจะพาออกไป”
    วูบเดียวเท่านั้นครับ เหมือนผ่านอะไรเย็นๆมาแวบเดียวก็พบแสงสว่างจ้า ผมหรีตาลงแล้วค่อยๆลืมตาขึ้นช้าๆให้ตาได้ปรับแสง พอลืมตาได้เต็มตาก้พบว่า ...
    นี่มันโรงพยาบาลนี่หว่า แล้วเมื่อกี้ ไอ้หมอนั้น... ห๋า??อะไรเนี้ย จับต้นชนปลายไม่ถูก เมื่อจี้มันอุ้มผมออกจากห้องไหงโผล่โรงบาลได้ละ แล้วมันไปไหนแล้ว
    .
    .
    มันเกิดอะไรขึ้นว่ะเนี้ยยยยย!!!!!  
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×