ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : เสียงในฝัน
เช้านี้ ผมไม่อยากจะตื่นเลย เมื่อวาน มีเรื่องเกิดขึ้นมากมาย แต่ก็ไม่มีเรื่องไหนทำให้ผมสบายใจเลย ทั้งที่จริงแล้ว เด็กอายุสิบแปดอย่างผม ควรจะเป็นแค่นักศึกษาธรรมดาเท่านั้นเอง ผมควรจะเป็นแค่นักศึกษาปีสอง แต่ทำไมชีวิตผมถึงเป็นแบบนี้
มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ผมต้องรับผิดชอบ การเรียนก็ต้องทำให้ได้ดี แล้วไหนจะเรื่องการงานอีก แต่ที่มีผลต่อผมมากที่สุด เห็นจะเป็นความรัก
ก๊อกๆ
“คุณชนินทร์ค่ะ คุณเลขาให้มาเรียนว่าวันนี้เก้าโมงเช้ามีนัดกับบริษัทเจเอส คุยเรื่องโปรเจคร่วมค่ะ”
เฮ้อ ยังไม่ทันไรเลย ผมลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัว ระหว่างที่กำลังผูกไทด์ก็รู้สึกหน้ามึดนิดๆ สงสัยนอนดึกแน่เลยเมื่อคืน ผมยืนนิ่งๆพักนึ่งแล้วเดินลงไปที่รถ ตอนนี้แปดโมงครึ่งแล้ว เอาละ
“เชิญครับคุณชนินทร์” เลขาเปิดประตูรถให้ผม แต่ขณะที่ผมกำลังจะไป ผมก็วูบลงหน้าผมเย็นวาบ ผมเป็นอะไรเนี่ย
“คุณชนินทร์ ..เอะ ตัวร้อนนี่ แม่บ้าน! คุณแม่บ้าน ไปตามหมอที” ผมจับแขนเลขาผมไว้ไม่ชอบเลย ที่เขาพยุงผมแบบนี้
“ผมไม่เป็นไร เดี๋ยวเลยเวลานัดแล้วจะเสียเครดิต ไปขับรถปล่อยฉันได้แล้ว”
“เดี๋ยวผมโทรเลื่อนนัดให้ คุณชนินทร์นอนพักเถอะครับ ตัวร้อนมากเลย” หนอยไอ้หมอนี่ ใครเจ้านายกันแน่ว่ะ
“ปล่อย! ฉันสั่งอะไรก็ทำตาม ไม่ต้องมาเสนอ” ผมสะบัดตัวหลุดจากอ้อมแขนนั้นเหมือนจะหน้ามืดนิดๆ แต่ผมก็เข้ารถไป เลขาปิดประตูให้ผมแล้วเดินตรงไปที่นั่งคนขับ แต่ไม่ยอมออกรถ
“ไปได้แล้ว ! รออะไร”ผมตวาดเขา เขาหันมามองผมแวบหนึ่ง แล้วก็หันกลับไปไม่ตอบคำผม
“ดื้อ”
“อะไรนะ!” มัน..มันว่าผมเหรอ ลามปาม
“เปล่าครับ” เลขาผมพูดแล้วออกรถไปเหยียบด้วยความเร็วที่ผมไม่เคยเจอมาก่อน ทำไมมันขับเร็วนักว่ะ
“นี่! ขับช้าๆก็ได้ ฉันเวียนหัว”
“หึ”
“อะไร มีอะไรก็พูดออกมาซิ” ไอ้หมอนี่ กวน! เกลียดจริงๆไอ้เสียงหัวเราะหึหึเนี่ย
“จะดีหรอครับถ้าช้าจะไม่ทันนัดเอานะครับ”
ไอ้บ้านี่ ผมไม่สนจะคุยตอบมัน กดเลื่อนกระจกขึ้นแล้วหลับตาลง
ช
ชิน ...
ชิน ได้ยินไหมตอบข้าหน่อย ชินตื่นเถอะ อย่าทำแบบนี้ เจ้าจะฆ่าข้าหรอ ข้าบอกให้เจ้าตื่นเดี๋ยวนี้
!!!
เหวอ ฝันอะไรเนี่ย ผมสะดุ้งตื่น พอผมลืมตาขึ้นมาปรากฎว่า ...ไอ้เลขาผม มันจะทำอะไรเนี่ย หน้าผมกับมันห่างกันแค่คืบเดียวเอง
“นครินทร์!!” ผมตะโกนออกมา
“ครับ คุณชนินทร์” อีกแล้วไอ้หมอนี่มันยิ้มๆอีกแล้ว หมั่นไส้นัก
“จ..จะทำอะไรน่ะ”
“อ๋อ เห็นว่าตัวร้อนน่ะครับ เลยว่าจะวัดไข้”
อะไรนะวัดไข้ เกี่ยวอะไรด้วยว่ะ บ้านพ่อเมิงวัดไข้ด้วยการเอาหน้ามาใกล้ๆเหมือนจะจูบเนี่ยนะ! หืมม หนอยไอ้นี่มันกวนอีกแล้ว
“ลุกออกไปจากตัวฉันได้แล้ว”
“หึ...ครับ”
ผมลงจากรถเดินตรงไปที่ร้านอาหารที่นัดแขกไว้ โต๊ะที่เลขาจองไว้ก็ทำเลไม่เลวทีเดียว ที่คงเป็นเหตุผลเดียวที่ยอมจ้างลูกน้องกวนๆแบบนี้ คือมันทำงานหวังผลเลิศ
ผมนั่งรอซักพัก เขาก็มา นายเชษฎา เจษฎาวรางกูล เป็นหนึ่งในตระกูลที่เป็นมหาอำนาจเหมือนตระกูลผม เรียนจบนอก ทั้งที่พึ่งอายุ20ไปไม่นานนี้เอง
“สวัสดีครับคุณชนินทร์ เทพารักษ์” เขายื่นมือมาจับกับผม
“สวัสดีครับคุณเชษฎา เจษฎาวรางกูล” ผมยื่นขึ้นแล้วจับมือตอบกับเขา
“ไม่ได้พบกันนานเลยนะครับ” เขายังคงจับมือผมอยู่ ผมค่อยๆดึงมือตัวเองออกเบาๆ แต่มันไม่ปล่อย
“ค ครับ.. เอ่อ เชิญนั่งครับ” ผมลองอีกครั้ง ครั้งนี้ออกแรงมากกว่าเดิมหน่อย
นายเชษฎาหันมายิ้มๆแล้วค่อยๆปล่อยมือผมลง แล้วนั่งลงตรงฝั่งตรงข้าม มองแปลกๆอีกแล้ว สายตาเหมือนไอ้หมอนั่นเลย เลขาของผม เกลียดจริงๆ สายแต่แบบนี้
“เอ่อ เรื่องโปรเจคร่วมระหว่างสองตระกูล..”ผมเริ่มเปิดประเด็นจะได้ไม่เสียเวลามาก ความจริงผมมีเรียนเช้า แต่ต้องโดดมาทำงานอยู่นี่ ไม่อยากเลยจริงๆ
“ครับ ผมตกลงเรียบร้อยแล้ว รับทุกข้อเสนอ” ไอ้เวรนี่ แล้วนัดพบครั้งนี้จะมีไปเพื่ออะไรว่ะ เส้นเลือดผมเหมือนจะเต้นตุ้บๆด้วยความอารมณ์เสีย
“อ่างั้นเหรอครับ ขอบคุณมากครับ..”
“คุณชนินทร์ครับ จริงอยู่ที่ผมรับข้อเสนอคุณ แต่ผมก็มีข้อเสนอของผมเหมือนกัน ไม่ทราบว่าคุณจะยอมรับข้อเสนอผมบ้างได้ไหมครับ” มาไม้ไหนละเนี่ย ครั้งล่าสุดที่เจอกัน ก็หลบหลีกคำชวนแทบตาย
“เอ่อ ไม่ทราบว่า ข้อเสนออะไรครับ”
“คือโปรเจคนี้ ผมเป็นคนลงมือทำด้วยตัวเอง เลยอยากได้คุณมาเป็นคู่โปรเจคของผมด้วย ไม่อยากทำงานกับพวกลุกน้องน่ะครับ” อ๋อ งานหรอกเหรอ
“ครับไม่มีปัญหา แต่ไม่น่าเชื่อนะครับ ว่าอย่างคุณเชษฎาจะลงมาทำงานแบบนี้ด้วยตัวเอง”
“อ่อ ครับ พอดีได้แรงบันดาลใจชั้นเยี่ยมมาน่ะครับ” หืม?..
“.. เอ่อ ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัวนะครับ พอดีวันนี้ผมมีเรียนน่ะครับไม่อยากขาดเท่าไรถ้าไม่จำเป็น” คงจะทันครึ่งหลังนะ
“ครับ เรื่องงานของเรา ผมจะติดต่อไปทีหลังนะครับ” ยิ้มแปลกๆอีกแล้ว ไม่ชอบเลยแหะ
ผมลุกออกจากโต๊ะเดินไปที่หน้าร้าน เลขาของผมเอารถมารอรับแล้ว ผมเดินขึ้นรถไปโดยมีเลขาเป็นคนปิดประตูให้
“ไปมหาลัย” ผมสั่งห้วนๆ
“....”
“บอกว่าไปมหาลัย” ไอ้นี่ กวนอีกแล้ว ทำไมไม่ออกรถซักที
“คุณชนินทร์ กลับบ้านเถอะครับ ตัวร้อนขนาดนั้น หน้าแดงมากเลยนะครับ” มันเอื้อมมือจากเบาะหน้าจะมาจับตัวผม หึ เกินไปแล้วนะ
“นายนครินทร์ ออกรถเดี๋ยวนี้ !” ผมปัดมือมันออกแล้วกดปิดกระจก
รถค่อยๆเคลื่อนที่ออกไปช้าๆ ผมหลับลงอีกครั้ง พอถึงที่หมายครั้งนี้ ไม่ต้องให้ใครปลุก ผมลงจากรถโดยมีเลขาส่งกระเป๋าเรียนและกระเป๋าเสื้อผ้าให้ผม
ตอนนี้ผมยังใส่ชุดสูทอยู่ ต้องไปเปลียนเป็นชุดนักศึกษา ผมเดินเข้าห้องน้ำไป โดนมีเลขาเดินตามมาติดๆ หลังจากเปลี่ยนชุดเรียบร้อยแล้ว ก็ส่งกระเป๋าเสื้อผ้าคืน แล้วเดินขึ้นตึกเรียนไป
“อ้าวน้องชิน พี่ก็ว่าอยู่ นึกว่าจะไม่ได้เจอกันซะแล้ว” พี่สายฟ้าเดินมาทักผม
“พี่ฟ้า ทำไมโดดเรียนอีกแล้วละครับ”
“ป เปล่านะ พี่ก็ เอ่อ เข้าสายน่ะ ฮะฮะ พึ่งมาๆ” เฮ้อ ผมรู้หรอกน่าพี่ฟ้า
“วันนี้ผมมีออเกนิค เคมี พี่คงไม่ได้บังเอิญมีเรียนคาบเดียวกันหรอกนะครับ” ผมยิ้มๆมองไปทางพี่ฟ้า
“อ๋อเหรอ พี่ก็ว่าจะไปเรียนพอดีเลย ตอนที่อยู่ปีสอน ไม่ค่อยตังใจเรียนน่ะ ไปเรียนอีกรอบคงจะดีเหมือนกัน” พี่ฟ้าเดินมากอดคอลากผมขึ้นห้องเรียน แต่แล้วก็หยุดกึก
“น้องชิน !! ... ตัวร้อนขนาดนี้ มาเรียนทำไม” เวรแล้ว ไม่น่าให้ถูกตัวเลย
“ผมตากแดดมาครับพี่ฟ้า ไม่มีอะไรหรอก” ผมบอกปัดๆ ถ้ายังยืนคุยอยู่ตรงนี้ มีหวังไม่ได้ไปเรียนแน่ๆ
“น้องชินพูดเหมือนพี่โง่... ไป ไปได้แล้วกลับบ้าน เดี๋ยวพี่ไปส่ง” พี่ฟ้าจูงมือผมออกจากตึก แต่ก็เจอกับใครบางคนที่ยืนรออยู่ก่อนแล้ว
“อ้าวคุณเลขา ยังไม่กลับอีกเหรอ” พี่ฟ้าพูดกับเลขาของผม ดูเหมือนสองคนนี้จะไม่ชอบหน้ากันเท่าไร ผมก็ไม่ค่อยเข้าใจ
“ครับ รอรับคุณชนินทร์กลับบ้าน” อะไรของมัน เมื่อกี้ก็เห็นทำท่าเหมือนกลับไปแล้ว
“หึ เหรอ แต่ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวผมไปส่งเองก็ได้ น้องชิน เดี๋ยวพี่ไปส่งนะ” ใครบอกว่าจะกลับว่ะ พี่ฟ้า เลขาเถียงกันไปมา ผมไม่ค่อยได้ฟังเท่าไรหรอก ตรงนี้แดดมันลง มึนๆหัวยังไงชอบกล ...ทำไมฟ้ามืดเร็วจัง ฝนจะตกเหรอ
“พี่ฟ้า เดี๋ยวชินไปส่งพี่ฟ้ากลับบ้านแล้วชินค่อยกลับบ้านดีกว่า ฝนเหมือนจะตก ฟ้ามืดหมดแล้ว” พอผมพูดจบ พี่ฟ้ากับเลขาก็หันมามองหน้ากัน เ อะ ผมพูดอะไรแปลกๆเหรอ
“น้องชิน !!” พี่ฟ้าอุ้มผมขึ้นรถ โดยมีไอ้เลขาของผมเปิดประตูให้แล้วรีบเดินไปที่นั่งคนขับ พี่ฟ้าขึ้นตามมา หลังจากปิดประตูแล้ว เลขาของผม ก็ออกรถไปด้วยความรวจเร็ว
“อ อะไร เป็นอะไรกัน จะไปไหนเนี้ย หยุดๆ หยุดรถ” ผมพูดขึ้นแบบงงๆ หันมองหน้าคนนี้ทีคนโน่นที
“คุณชนินทร์ครับ ตอนนี้แดดออกครับ!”
“น้องชินคงหน้ามืด ไม่เป็นไร เดี๋ยวก็ถึงโรงพยาบาลแล้ว” อะไรกัน ก็เห็นๆอยู่ว่าฟ้ามืดมาขนาดนี้
อึกก!
“โอ้ย” เจ็บหน้าอกจัง ผมเป็นอะไรไปเนี้ยห..ายใจ.. ไม่..อ.ออก
“คุณชนินทร์!!”
“น้องชิน!!”
นั้นคือเสียงสุดท้ายที่ผมได้ยิน ก่อนที่สติของผมจะดับวูบไป
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น