ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    l[bewanted]l [Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #2 : คำขอร้อง

    • อัปเดตล่าสุด 8 ต.ค. 52


     
    หลังจากผมวางสายเดย์ไป ผมก็ไปที่รถที่เลขาผมจอดไว้ ด้วยอารมณ์ที่ยังขุ่นมัว
    “กลับ!” ผมตวาดใส่เลขา แต่ดูเหมือนเขาจะไม่ค่อยมีอารมณ์ตามไปกับผม เป็นนิสัยของเขาอยู่แล้ว ที่ไม่ว่าผมจะเป็นยังไง เลขาผมคนนี้ จะนิ่งเฉยไม่ตอบโต้ แล้วทำงานหน้าที่ของตัวเองต่อไป ซึ่งนั้นก็ยั่วโมโหผมได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
    “คุณท่านรอที่ร้านอาหารแล้วครับ ชุดเปลี่ยนอยู่ในกระเป๋าข้างที่นั่งนะครับ” เลขาตอบด้วยสีหน้านิ่งเฉยแล้วกดปิดกระจกระหว่างที่นั่งคนขับกับเบาะหลัง
                   
    หนอยไอ้นี่! คนยิ่งอารมณ์ไม่ดี ผมก็ดื้อใส่ ไม่ยอมเปลี่ยนชุด ใส่มันทั้งชุดนักศึกษาเนี่ยแหละ
    พอถึงที่หมาย เลขาผมก็ลงมาเปิดประตู ถึงจะเห็นผมไม่เปลี่ยนชุด ก็ไม่ได้พูดอะไร และเดินนำไปเงียบๆ พอถึงโต๊ะ ผมก็เห็นผู้ชายที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อของผม นั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ ผมเดินไปนั่งฝั่งตรงข้ามแต่ก็ยังไม่พูดอะไร
     
                                                    “ไง ชิน การประชุมเย็นวันนี้ เตรียมรึยัง”
                                                    “คุณพ่อครับ เรื่องเดย์ ยังไงผมก็จะไม่เลิก คุณพ่อช่วยวางมือจากเรื่องที่คุณพ่อจะทำด้วย”
                                                    “หึ อย่างลูกจะไปทำอะไรได้” พ่อผมวางหนังสือพิมพ์ลง แล้วเงยหน้ามาสบตาผม
     
    ไม่ชอบเลย สายตาของพ่อ ที่ทำเหมือนว่า โลกหมุนอยู่รอบตัวเอง
     
                                                    “ก็จะทำเท่าที่จะทำได้น่ะแหละครับ”
                                    “ชิน ผู้หญิงเขาไม่เล่นด้วยลูกจะไปง้อทำไม ตอนนี้เวลาของลูกมีค่ากว่านั้น อย่าเสียเวลากับผู้หญิงที่สกปรกอีกเลย”
    พ่อพูดแบบนี้ได้ยังไง !
                                                    “หมายความว่าไง! ที่ว่าผู้หญิงสกปรก..”
                   
    “ก็ไม่ทำไม พ่อแค่อยากให้ลูกตื่นซะที ยัยนั้นไม่ใช่ผู้หญิงอย่างที่ลูกคิดอีกต่อไปแล้ว”
    พ่อ..พ่อ!! ผมเหมือนจะขาดอากาศ จะพูดเสียงก็ออกมาจากลำคอยากเหลือเกิน ผู้หญิงคนเดียว ผมยังปกป้องไว้ไม่ได้ ทำไม ทำไมต้องเป็นแบบนี้ ใครก็ตามที่ผมรัก พ่อต้องทำลายให้หมดหรือไง
                   
    “พ่อ! .... ท ทำอะไรเดย์”
                                                    “ก็ไม่ทำไมนี่ พวกที่พูดไม่รู้เรื่องก็ต้องสั่งสอนให้รู้เสียบ้าง ว่าอะไรควรอะไรไม่ควร”
    ไม่นะ อย่าให้เป็นเหมือนที่ผมคิดเลย เดย์ เดย์ เดย์ ผ ผมจะทำยังไง
                                                    “พ่อ!! พ่อทำแบบนี้ได้ยังไง ทำกับเดย์.. ด ได้ยังไง ส่งคนไป....ทำร้า..ย เธอเหรอ”
    เสียงของผมขาดหายไปช่วยท้ายๆ เหมือนจะหมดแรง แม้กระทั่งหายใจยังยากเหลือเกินสำหรับผมตอนนี้
                                                    “ยัยนั่นก็ไม่ได้พูดอะไรที่ดูเหมือนไม่ชอบนี่..”
     
    ตึง!
     
    ผมกระแทกโต๊ะแล้วลุกออกไป อยากจะหนีจากคนตรงหน้าให้เร็วที่สุด ไม่อยากจะเชื่อ เนี้ยหรอพ่อของผม แค่คิดว่ามีสายเลือดเดียวกันไหลอยู่ในตัวผม ก็ขยะแขยงเต็มทน
     
    “คุณชนินทร์ครับ การประชุมเริ่มตอนหกโมง จะกลับไปเตรียมข้อมูลหรือจะตรงไปที่ประชุมเลยครับ”
    “ไม่ไปไหนทั้งนั้น กลับ!
     
    เหลือทนจริงๆ ยังจะให้ไปประชุมอีกเหรอ บ้าชะมัด
     
    “เดี๋ยว ไปบ้านเดย์” ผมบอกเลขาแล้วเลื่อนกระจกระหว่างคนขับกับเบาะหลังปิด
    ไม่ถึงสิบนาที ผมก็มาอยู่หน้าบ้านเดย์ ผมลองโทรเข้าเบอร์มือถือ แต่เธอไม่รับสายผม ผมเลยลงจากรถ ไปกดออด
     
    ติ๊งหน่อง
    .
    .
    ติ๊งหน่อง
    .
    .
    .
                                    ไม่ออกมาเปิดซินะ ผมมองไปตรงหน้าต่างห้องเธอ ไฟก็เปิดไว้ คงกลับมาแล้ว
     
    “เดย์ ผมรู้เรื่องทั้งหมดแล้ว ลงมาคุยกับผมก่อน ไม่ว่าจะเกิดขึ้นอะไรกับคุณ ผมไม่มีวันทิ้งคุณไปแน่”
    ... เฮ้อ ทำยังไง ถึงจะยอมพูดกับผมนะ
     
    ติ๊งติงติ่ง ติ่งติงติ๊ง (เสียงมือถือผมเองครับ มันตั้งมาให้กับโทรศัทพ์ไม่ได้ยุ่งกับมันเท่าไร)
    เดย์
     
    “เดย์ เดย์ ผมมีเรื่องต้องคุยกับคุณ ผมรู้เรื่องแล้ว ผมขอโทษ ขอโทษ ผมจะรับผิดชอบเอง เดย์ไม่ต้องห่วง”
    “ชิน เดี๋ยว รับผิดชอบอะไร ไม่ต้องขอโทษอะไรทั้งนั้น”
    “เอะ? .. ก็ ที่พ่อผม ส่งคนไปรุมโทรมคุ..”
    “จะบ้าเหรอชิน พ่อคุณส่งคนมาทำร้ายพี่เดย์ต่างหาก ไม่ต้องมารับผิดชอบอะไรทั้งนั้น เดย์เลิกกับชิน เพราะถ้าเดย์คบกับชินต่อไป คนรอบๆตัวเดย์จะเดือดร้อน แล้วที่เดย์พูดอยู่นี่ พี่เดย์อาจจะโดนอีกไม่รู้เท่าไร พ่อชินบอกไม่ให้เดย์บอกชิน แล้วเดย์ก็ไม่ไหวแล้วด้วย อย่ามายุ่งกับเดย์อีกเลย ฮืออ...ฮึก.. ด เดย์ขอร้อง ชินไปซะเถอะ”
     
    “เดย์....”
    ขอโทษ ที่ทำให้เดย์เดือดร้อน ผมจะจัดการเรื่องของผมให้เรียบร้อย แล้วผมจะกลับมาใหม่ ไม่ให้คุณต้องเสียใจอีก หวังว่าตอนนั้น คุณคงเห็นแก่ความรักที่เราเคยมีให้กันมา เวลาที่ผ่านมาของเรา คงมีความหมายสำหรับคุณบ้าง
     
    ผมหันหลังกลับเดินขึ้นรถไป ตอนนี้ห้าโมงครึ่งแล้ว เดี๋ยวหกโมงมีงานประชุม เรื่องส่วนตัวกับงาน เอามาปนกันไม่ได้ซินะ
    “ไปที่ประชุม” ผมบอกเลขา แล้วค่อยๆทรุดตัวลงกับเบาะ หลับตาลงช้าๆ ได้แต่หวังว่าเรื่องทุกอย่างคงไม่เลวร้ายไปกว่านี้
    “ครับ”
                                    เลขาตอบรับแล้วส่งยิ้มน้อยๆมาให้ผมผ่านกระจกรถ ยิ้มบ้าอะไรของมัน หึ
     
    ผมลงจากรถ เดินไปหยุดอยู่หน้าห้องประชุม อ่านรายงานการประชุมนิดหน่อย ทำสมาธิแล้วเดินเข้าไป ก่อนเข้าประชุมผมจะทำแบบนี้เสมอ
     
    พรึบ
     
    ทุกคนในที่ประชุมลุกขึ้น จนผมเดินมานั่ง ทุกคนถึงนั่งตาม แน่นอน นั่นคือมารยาทก็ผมเป็นประธานนี่นะ
    การประชุมดำเนินไปอย่างเชื่องช้า ทำไมคนพวกนี้ถึงหาข้อสรุปไม่ได้ซักที แล้วแต่ละโปรเจคที่นำเสนอมา คิดได้แค่นี้เหรอ
     
    “เฮ้อ!..”
     
     ผมถอนหายใจออกมาดังๆ ให้พวกที่ประชุมได้รู้ตัวซักที ว่าที่พูดๆกันมา ไม่ได้มีอะไรคืบหน้าเลย
     
    “เอ่อ ครับท่านประธาน”
    ลูกน้องที่กำลังพรีเซ้นต์งานสะดุ้ง
     
    “ผมว่าคุณกลับไปทบทวนดูใหม่ดีกว่า บริษัทของเรา คงไม่เอาเรื่องแบบนี้ไปดำเนินงานต่อแน่ แล้วก็นะ ครั้งหน้าเรียบเรียงคำของคุณให้เรียบร้อยก่อนนำขึ้นที่ประชุมด้วยนะ”
     
    ผมตวัดตามองฝ่านนั้นแวบนึง
     
    “เรื่องการทำสัญญาถ้าฝ่ายโน้นไม่เปลี่ยนข้อตกลงตามที่เราต้องการ ผมขอยืนยันคำเดิมว่าไม่เซ็นต์”
    ผมลุกขึ้นยืน เดินตรงไปที่กระดานเขียนข้อความบางอย่างลงไป
    การคมนาคม
     
    “นี่คือเป้าหมายต่อไปของเรา ไปหาข้อมูลมาให้ดี หวังว่าคงไม่ทำให้ผมผิดหวังเหมือนครั้งนี้อีก แล้วก็ คุณ...”
    ผมชี้ไปทางชายหนุ่มที่ยืนพรีเซ้นต์งานก่อนหน้านี้
                                                    “ทางเราจะไม่ไล่คุณออก ครั้งหน้า ทำให้ดีกว่านี้”
                                    “ค..ครับ”ชายหนุ่มก้มลงรับคำผม ผมยิ้มออกมาเล็กน้อย จะว่าไป ความพยายามนี่แหละที่จะทำให้ประสบความสำเร็จตอนนี้ยังไม่เก่งใช่ว่าจะไม่เก่งตลอดไป
                   
    ดูเหมือนเขาจะอึ้งๆกับรอยยิ้มผม แย่ละ เผลอยิ้มไปซะแล้ว ผมตีหน้าขรึมเหมือนเดิม
                   
    “วันนี้ พอแค่นี้เลิกประชุมได้”
                                    พูดจบ ผมก็เดินออกจากห้องไป
     
    ผมลงมาที่รถ เลขาผมเปิดประตูแล้วผมก็ขึ้นไปนั่ง วันนี้เหนื่อยจริงๆ หวังว่าพรุ่งนี้ คงจะดีกว่านี้ เรื่องที่ต้องทำมีเยอะจัง
    “เฮ้ออ”
    ผมถอนหายใจแล้วค่อยๆเคลิ้มหลับไป
    .
    .
    .
    รู้ตัวอีกที รถก็จอดอยู่หน้าบ้านแล้ว แต่ว่าจอดมานานแค่ไหนแล้วน่ะซิ! เมื่อยไปทั้งตัว ผมเหลือบดูนาฬิกาที่ข้อมือ
     
    ห๋า!!
    เที่ยงคืน.. จำได้ว่าประชุมเสร็จตอนสี่ทุ่ม แล้วนี่อะไร ผมลดกระจกลงตวาดใส่เลขา
     
    “ถึงแล้วทำไมไม่ปลุกฉัน”
    “อ่า ตื่นแล้วหรอครับคุณชนินทร์ ผมก็ว่าจะปลุกอยู่พอดี” หมอนั้นยิ้มๆให้ผม อีกแล้วรอยยิ้มแบบนี้กวนนักนะ
    “เปิดรถ ฉันจะลง!
    .
    .
    “นั่นซินะครับ หลับในนี้คงไม่สบายเท่าไร ความจริงแล้วตอนแรกคุณแม่บ้านมาปลุกแต่คุณเหมือนไม่รู้สึกตัว คุณแม่บ้านบอกให้ผมพาคุณชนินทร์ขึ้นไปบนห้อง ผมเลยว่าจะถามก่อน..”
     
    “หนอย ไม่ต้องพา!ไปได้แล้ว”หนอยไอ้หมอนี่มันจะอุ้มผมขึ้นไปหรือไง
    ผมเดินไปจากรถขึ้นไปห้องนอนของผม อาบน้ำแล้วหลับไปอย่างรวดเร็ววันนี้เป็นวันที่เหนื่อยจริงๆ
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×