ลำดับตอนที่ #10
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : ความเป็นจริง
พ่อมด ที่มันจะบอกผมคือ มันเป็นพ่อมดเรอะ!!!!!!
แล้วจะให้ทำยังไง เชื่อมัน? เชื่อมันเนี่ยนะ ..... แต่ตอนนั้นมันบินได้ .. แต่นั้นมันความฝัน เอะ หรือไม่ใช่ฝัน
“เจ้าคิดอะไรอยู่ บอกข้าได้ไหม...”
ผมไม่ตอบคำมัน แต่กลับล้มตัวลงนอนซุกตัวอยู่ในผ้าห่ม ข่มตัวเองให้หลับ ... บางที นี่อาจจะเป็นความฝันเหมือนกัน มือผมก็เจ็บอยู่แล้ว อาจจะเจ็บจนเอามาคิดมาในแบบนี้ก็ได้
“เอาละ ไม่บอกก็ไม่บอกซิ ในเมื่อเจ้าไม่ไปกับข้า ข้าก็ไม่ไปเหมือนกัน....เอ๊า แบ่งให้ข้านอนบ้าง อย่าใจดำกับข้านักเลย”
ผมไม่สน แต่มันเนี่ยซิ หาทางเบียดเข้ามานอนในเตียงผมจนได้ เบียดจนตัวชิดติดกัน แทบจะเป็นเนื้อเดียวกันอยู่แล้ว และไม่แค่นั้น มันหันข้างแล้วเอามือมาโอบผมไว้หลวมๆ
อกของมันติดอยู่กับหลังของผม ความอบอุ่นนี้ ผมกลับไม่รังเกียจมันเลย แม้แต่ในฝันผมยังฝันว่ามีคนมากอด หรือผมเป็นอะไรไปแล้วเนี้ย จิตใต้สำนึกผมมันยอมรับไออุ่นจากอกผู้ชายได้เหรอ!!
แต่คิดไปได้ซักพัก ผมก็เคลิ้มหลับไป ไม่อยากจะยอมรับ แต่มันเป็นไปแล้ว ผมหลับในอ้อมอกของผู้ชาย แม้จะเป็นฝันก็ตาม
.
.
.
“ชนินทร์ .. ฟ้าจะเปลี่ยนสีแล้ว คนดูแลของเจ้ากำลังเดินมาปลุกเจ้าแล้วด้วย แต่ถ้าเจ้าไม่ว่าอะไร ข้าก็ไม่เหมือนกัน”
หืมม.. เช้าแล้วเหรอ ....เช้า?.................. เช้าแล้ว! แต่ยังฝันอยู่?!!
ผมลืมตาโผล่ขึ้นมา มองไปรอบๆ ฟ้าเริ่มสว่างแล้ว แต่มันยังอยู่
ก๊อก ก๊อก
“ขออนุญาตินะคะ..”
ขณะที่ประตูห้องผมกำลังจะเปิดออก ผมรีบหันไปมองหน้าคนที่นอนอยู่ข้างๆผม ไม่ได้การแน่ ถ้าคุณแม่บ้านเป็นประตูมาเห็นผมอยู่บนเตียง..กับผู้ชาย!!
“อย่าเข้ามาครับ!!”
แย่ละ ตะโกนแบบนั้นออกไปซะแล้ว มีพิรุธเห็นๆเลย
“ผมตื่นแล้วครับ ทำงานอยู่”
ทำงานมันเกี่ยวอะไรกับห้ามเข้ามาละว่ะ หัวสมองไม่แล่นเลย ข้ออ้างทุเรศที่สุด
“หึหึหึ .... ” ผมหันควับไป มองหน้ามันนิ่งเลยครับ สงสายตาไปบอกให้มันเงียบเสียง มันก็เลยยกมือขึ้นทำถ้ายอม แล้วก็ยิ้มๆมาที่ผม
เฮ้อ
ตอนนี้แม่บ้านเดินไปแล้วครับ เหลือแต่ผมกับมัน ตกลงคือไม่ใช่ฝันใช่ไหมเนี้ย สรุปว่า เมื่อคืนเป็นเรื่องจริง... หวา น่าอายชะมัดเลย ทำลงไปได้ยังไงเนี้ยเรา ทั้งๆที่แค่เป็นความฝันก็ไม่น่าให้อภัยพออยู่แล้ว
“เอาละ จะยังไงก็ช่างเถอะ”
ผมพูดอย่างปลงๆครับ ชีวิตผมยุ่งมากพอแล้ว ไม่อยากเอามาคิดให้เปลืองสมอง ถึงไม่เข้าใจตอนนี้ ต่อไปก็คงจะรู้เอง
ผมลุกจากเตียงจะเดินไปอาบน้ำ ...
“นั้นจะไปไหน” มันเดินมาจับไหล่ผมไว้ครับ อะไรของมัน ผมจะไปไหนต้องรายงานมันด้วยเหรอ แล้วนั้นทำน่ายุ่งเหมือนเคืองอะไรผม ไม่เข้าใจมันเลย
“จะอาบน้ำ ตามมาทำไม”
“อย่าลุกหนีไปจากข้าแบบนี้! ทีหลังจะไปไหนก็บอกกันก่อน”
มันดุครับ เสียงมันหนัก จนผมเย็นไปทั้งตัว น้ำเสียงของมัน เหมือนคนที่มีอำนาจยังไงไม่รู้ แต่ผมก็ไม่ใช่คนที่ยอมให้ใครมาเหนือกว่าง่ายๆหรอก
“เรื่องอะไรจะต้องรายงานแกด้วย” ผมตอนมันเสียงห้วนๆ ถึงแม้ว่าในใจจะสั่นๆอยู่บ้างก็ตาม
มันจ้องหน้าผมนิ่งเลยครับ แต่แล้วอยู่ๆมันก็กระชากแขนผมขึ้น แรงมันเยอะมากจริงๆ ผมเซไปตามทิศที่มันดึง หน้าของผมกับมัน ห่างกันแค่คืบ
“ข้าไม่อยากจะโมโหเจ้าเลย เพราะงั้น อย่าทำแบบนี้... จะอาบน้ำก็ไปเถอะ” มันก้มลงจูบปากผมอย่างแผ่วเบา แล้วค่อยๆปล่อยมือออก
ผมก็ยังยืนงงๆกันเหตุการเมือกี้อยู่ ตอนแรกมันทำตัวน่ากลัวมากๆ แต่ตอนนี้มันก็กลับอ่อนโยนอย่างที่สุดเหมือนกัน แล้วผมก็เหมือนจะพึ่งนึกได้ มันจูบผมนี่! มันที่เป็นผู้ชาย จูบผม ซึ่งก็เป็นผู้ชายเหมือนกัน
อะไรที่ทำให้ผมคล้อยตามมัน หลายครั้งแล้วด้วยที่เป็นแบบนี้
ผมหันหลังกลับ เดินเข้าห้องน้ำไป
วันนี้ ผมใช้เวลาอาบน้ำนานกว่าทุกครั้ง โดยที่ลืมนึกไป... ว่ามือผมเป็นแผลอยู่!
ตอนแรกอาบๆไปก็ยังไม่อะไรหรอกครับ ผมก็ไม่ทันได้มองตาก็เหม่อคิดเรื่องอื่นไปเรื่อย มือก็ถูสบู่ไป แต่พอน้ำมันเริ่มซึมๆผ่านผ้าพันแผลไปเท่านั้นแหละครับ แสบจี๊ดขึ้นมาถึงสมองเลย
ผมรีบชักมือออกแล้วยกมือขึ้นไม่ให้น้ำไหลไปโดน แต่ยิ่งปล่อยไว้มันก็เจ็บมากขึ้นเรื่อยๆ ความรู้สึกตอนนี้ ซี๊ดมากครับใครเคยเป็นแผลใหญ่ๆ แล้วเอาไปโดนน้ำจะรู้ดี เพียงแค่น้ำเปล่าก็รู้สึกเหมือนแอลกอฮอลราดก็ไม่ปาน
ผมรีบอาบน้ำจนเสร็จแล้วห่มผ้าเช็ดตัวออกมา
.
.
“เสร็จซะที นานจังนะอาบน้ำของเจ้าเนี้ย”
ผมผงะถอย ไปลืมไปสนิทเลยครับ ว่ามีคนอีกคนที่รอผมอยู่นอกห้อง
“นั่นมือเจ้าเป็นอะไรอีกละ กุมไว้แบบนั้น มันเจ็บขึ้นมาเหรอ” ผมหลบตามัน แน่ละผมเปลือยท่อนบน อยู่ต่อหน้าคนที่คิดไม่บริสุทธิ์กับผม! ผมรู้ครับว่ามันชอบพอในรูปร่างหน้าตาของผม ไม่งั้น มันคงไม่จูบผมอย่างที่ผ่านมาหรอก ผมคงจะอยู่ในอันตรายซะแล้ว ผมหันหลังกลับ รีบเดินไปที่ห้องน้ำ แต่มันกลับ ลอย? มาฉุดไหล่ผมไว้
“เดี๋ยวก่อน.. เอามาให้ข้าดูหน่อย เจ้าเอามันไปโดนน้ำเหรอ..”
ผมสะบัดมือมันออก วิ่งเข้าห้องน้ำไป อายครับ.. ไม่ใช่อะไร น้ำเสียงมันเมื่อกี้มีแต่ความเป็นห่วงเป็นใยผม ไม่ได้แสดงออกถึงความหยาบทางเพศเลยแม้แต่น้อย อายใจตัวเองที่คิดไปมากมาย ผมคงโรคจิตกว่ามัน
ปึง!!!
ผมที่หลบอยู่ในห้องน้ำสะดุ้งหยงเลยครับ มันพังประตูเข้ามา! มองผมด้วยสายตาเย็นยะเยือก พุ่งปราดเข้ามาที่ตัวผม แล้วกระชากแขนผมขึ้น
“ข้าบอกเจ้าแล้ว อย่าหันหลังหนีข้าไปแบบนี้!” เสียงมันดังก้องไปทั่วห้องน้ำ แขนข้างที่มันกระชากผมขึ้น เป็นแขนข้างเดียวกันที่เจ็บอยู่ ระบมไปทั้งแขนเลยครับ ทีนี้ไม่ใช่แค่แสบเฉยๆ แต่มันปวดขึ้นไปถึงสมอง น้ำตาแถบร่วงเลยครับ
กลัวมันก็กลัว เจ็บก็เจ็บ เย็นไปทั้งตัว ไม่กล้ากระดิกกระเดี้ยไปไหน
.
.
มันก็จ้องหน้าผมอยู่ไม่ยอมปล่อย แถมยังบีบแขนแรงขึ้นเรื่อยๆ
“เจ็บ..จะ....เจ็บ” เสียงที่ออกมาสั่นเหมือนไม่ใช่สียงของผม.. นี่ผมร้องไห้เหรอ
“ข..ขอโทษนะ... เจ็บมากไหม” มันคลายมือแล้วกุมไว้หลวมๆ เจ็บครับเจ็บ ผมก็ผู้ชายคนหนึ่งเหมือนกัน เจ็บใจจริงๆ ถูกมันกระชาก ก็ลอยไปตามมัน เห็นกูเป็นตัวอะไรว่ะ
“ปล่อยซะที”
มันปล่อยมือผมครับ แต่กลับรั้งตัวไปกอดแทน
“ข้าไม่เคยยอมลงให้ใครเท่าที่ข้ายอมเจ้าเลยนะ เห็นใจข้าหน่อยเถอะ เจ้าเอาแต่หนีหน้าข้า ขับไสไล่ส่งข้า ข้าก็ปวดใจเหมือนกันนะ”
หึ ทีเมื่อกี้ละทำเหมือนจะบีบให้ตายคามือ ผมเมินหน้า เรื่องทำไมมันยุ่งวุ่ยวายแบบนี้ หลายอย่างมันเข้ามารุ่มเร้าชีวิตผมในเวลาติดๆกันแบบนี้ก็เครียดพออยู่แล้ว
ทั้งเรื่องคนที่ผมรักตีตัวออกห่าง ทั้งเรื่องคนใกล้ชิดผมที่เดี๋ยวนี้ทำตัวให้ผมได้หวาดระแวงมันอยู่เรื่อยๆ แล้วก็เรื่องพ่อมดอะไรนี่อีก ผมก็สุดจะทนเหมือนกันนะ คนเราลงได้เจออะไรที่มันกดดันมากๆ ก็ทนไม่ไหวทั้งนั้นแหละ
“อย่าร้องไห้ นิ่งซะนะ ไม่เป็นอะไรแล้ว ข้าไม่ทำอะไรเจ้าหรอก” มันลุบหลังผมเบาๆ แล้วเหมือนจะร่ายเวทอะไรซักอย่าง ตัวผมที่เปลือยเปล่ามีแต่ผ้าเช็ดตัวห่มล่างแค่ผืนเดียว ตอนนี้กลับมีเสื้อผ้าใส่อยู่เรียบร้อย และมันก็เป็นเสื้อที่ผมเตรียมไว้นอกห้องก่อนอาบน้ำ
“ไม่หนาวแล้วนะ ก่อนนี้เจ้าตัวเย็นจนข้าใจหายเลย” มันลูบปอยผมที่เปียกชื้นข้างหน้าผมเบาๆ เพียงแค่พริบตา ผมก็แห้งสนิด
ผมเบิกตาโต เวทมนตร์นี่ยอดจริงๆ เห็นมันทำแบบนี้ให้ อารมณ์ที่คุกรุ่นกดดันเมื่อครู่หายไปเยอะ
“ไง อารมณ์ดีแล้วเหรอ” มันยิ้มให้ผม ผมก็ทำใจแข็งไม่ลง ยิ้มตอบมันหน่อยๆ แล้วผลักมันออก มันก็ยอมถอยออกไปแต่โดยดี
มือผมตอนนี้แห้งแล้วครับ แห้งเมื่อไรก็ไม่รู้ มันคงใช้เวทอะไรสักอย่างกันผม น่าทึงมากจริงๆ ไอ้ที่คาใจไม่อยากเชื่อก็ต้องเชื่อเอาตอนนี้แหละ
แต่ถึงมือผมจะแห้งแล้ว ความเจ็บความปวดมันก็ไม่ได้หายไปไหน ผมยกมือขึ้นมาดู หรือจะแกะผ้าออกดูดี
“ข้าแค่ทำให้มันแห้งเฉยๆ แผลที่เคยโดนน้ำไปแล้ว มันไม่ได้แห้งตามผ้าพันของมันไปด้วย... อย่าพึ่งแกะออกเลย ผ้าพันตอนนี้มันคงติดกับแผล เมืองของเข้ามีคนรักษานี่ ให้คนที่เชี่ยวชาญทำเถอะ แกะออกตอนนี้มีแต่จะเจ็บเท่านั้น”
คำพูดของมัน ทำให้ผมละความคิดที่จะแกะแผลออก ผมหันขึ้นไปสบตามัน บางที่ก็น่ากลัว แต่บางทีก็อ่อนโยนซะจน..... จน.. จนอะไรฟระ! นี่หมายความว่ายังไง เรากำลังจะคิดอะไรกันแน่
ความคิดของผมชะงักค้างอยู่แค่นั้น แล้วผมก็เงยหน้าหันไปหามัน
“แล้วแกจะเอาไงต่อ เดี๋ยวฉันจะไปโรงพยาบาล แกก็กลับไปเมืองของแกแล้วกัน”
ผมสรุปอะไรให้เสร็จ ก็ทำท่าจะเดินออกห้องไป
“เรียกชื่อข้าหน่อยไม่ได้เหรอ... เจ้าเรียกข้าแบบนี้ข้าไม่ชอบเลย” ดูมันอ้อน ไม่ได้เข้ากับรูปร่างน่าตาเลย
เฮ้อ เอาไงกับมันดี ใครก็ไม่รู้จู่ๆก็โผล่เข้ามาในชีวิต จุดประสงค์ก็ไม่เปิดเผย ไม่อยากจะไปชิดเชื้ออะไรมาก หวังดีหวังร้ายก็ไม่รู้ เกิดมันนึกจะครองโลกขึ้นมาอะไรแบบนี้.... อ่ะ...คิดมากไปซินะเรา
“เฮ้อ... เอาเถอะ ไม่เร่งเร้าเจ้าก็ได้ จะไปโรงพยาบาลก็ไปเถอะ ข้าทำธุระข้าเสร็จ เดี๋ยวจะตามไปหา” ดูมันพูด ทำเหมือนเราสนิทกันมาก เหอะ ใครให้มันไปหากัน
แต่ผมก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป เดี๋ยวจะกลายเป็นว่ายั่วโมโหมันอีก ผมส่งสายาบอกมัน ว่าจะไปแล้วนะ คือที่ทำแบบนั้นไม่ใช่อะไร เพราะมีบทเรียนมามากพอแล้วครับ หันหลังใส่มันทีไรเป็นต้องโกรธเป็นฟืนเป็นไฟให้ผมได้สยอง
มันก็พยักหน้าตอบ แล้วหายวับไปต่อหน้าผม หนอย!! หมั่นไสจริงโว้ย ตกเป็นรองแบบนี้ น่าโมโหที่สุด!!!
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น