ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เผลอใจรัก....(ซาตาน)

    ลำดับตอนที่ #7 : เงื่อนไข.....ที่ไม่อาจปฎิเสธได้

    • อัปเดตล่าสุด 12 มิ.ย. 60




         วันนี้หญิงสาวตื่นนอนแต่เช้าเพื่อให้ทันนัดกับใครบางคนที่อีกไม่กี่ชั่วโมงเขาจะมารับหล่อนไปทำธุระ
         หล่อนเดินลงมาจากข้างบนพอดีเห็นณัฐพงษ์พี่ชายหล่อนกำลังเดินเข้ามาในบ้านดูเขาจะตกใจเล็กน้อยที่เห็นน้องสาวของตนตื่นเช้ากว่าปกติก็เลยทักขึ้น
         "ธิดาวันนี้วันหยุดไม่ใช่เหรอทำไมตื่นเช้าจัง"
         "พอดีวันนี้ธิดามีนัดสำคัญนะค่ะ" หล่อนตอบคำถามพี่ชายแล้วยิ้มขึ้นมา
         "นัดสำคัญเหรอ..กับใครอย่าบอกนะว่าธิดามีแฟนแล้ว" ดูพี่ชายหล่อนจะตกใจ
         "ไปกันใหญ่แล้วพี่นัท..ไม่ใช่สักหน่อย..ธิดามีนัดกับผู้ใหญ่ท่านหนึ่งนะ เอาไว้จะเล่าให้ฟังแล้วกัน..แล้วไหงพี่นัทกลับมาเอาเช้าได้หล่ะ..ธิดาเห็นหลายวันแล้วนะ..มีงานด่วนเหรอ..พักผ่อนบ้างนะพี่เดี๋ยวจะไม่สบาย..น้องสาวคนนี้เป็นห่วง"
         "ขอบใจจ๊ะ..พี่ไม่เป็นไร..ธิดา" อยู่ๆ เขาก็เรียกหล่อนขึ้นแถมยังทำหน้าลังเลว่าจะพูดดีไหม
         "ค่ะ?..พี่นัทมีอะไรหรือเปล่า บอกธิดาได้นะค่ะยังไงเราก็เป็นพี่น้องกันมีกันแค่สองคน..อีกอย่างธิดาก็โตแล้วนะบรรลุนิติภาวะแล้วด้วย"
         "พี่อยากจะรู้ว่าตอนนี้ธิดามีแฟนหรือมีใครที่รักแล้วหรือยัง"
         "ยังไม่มีเลยค่ะ..ทำไมเหรอ..อย่าบอกนะว่าจะหาให้นะ..ไม่เอาหรอกเพื่อนๆ..พี่แต่ล่ะคนเจ้าชู้..กะล่อน..ปลิ้นปล้อน..ลามก..แถมยังพูดจาน่าเกลียดอีก"
         "ฟังเหมือนไม่ใช่คนเลยนะ" ณัฐพงษ์หัวเราะออกมาไม่เต็มเสียงนักและดูเหมือนเขาจะคิดหนักกว่าเดิม
         "ล้อเล่นนะพี่นัท..ทำหน้าเครียดไปได้"
         "..........." เขาไม่พูดอะไรได้แต่ทำหน้าคุ้นคิด
         "ตกลงมีเรื่องอะไรหรือเปล่าค่ะ"
         "ตอนนี้ยังไม่มี..ธิดาจะกลับกี่โมง"
         "ยังไม่รู้เลยค่ะ"
         "งั้นตอนเย็นเราค่อยคุยกัน..แต่ตอนนี้พี่ขอขึ้นไปนอนก่อนนะง่วงมากเลย" พูดจบเขาก็เดินขึ้นไปข้างบนทันที
         "อะไรของเขา"


    ...................................................................................................


         "คุณย่าท่านดูจะดีใจมากเลยที่จะได้พบคุณ..ท่านตื่นตั้งแต่เช้ามาทำขนมทับทิมกรอบเอาไว้ให้คุณทานเชียวนะ"
         ชายหนุ่มพูดขึ้นหลังจากไปรับหญิงสาวที่บ้านแล้วขับตรงไปยังบ้านของเขา ที่จริงหล่อนตั้งใจจะเดินทางมาเองแต่เนื่องจากภูดิสอาศัยอยู่ที่คอนโดใกล้ๆ แถวบ้านหล่อนเขาก็เลยอ้างว่าไปทางเดียวกันไม่เสียเวลาที่จะต้องมารับหล่อนไปพบคุณย่าของเขา
         "เหรอค่ะ..ท่านดูน่ารักจัง..อีกอย่างท่านไม่จำเป็นต้องทำถึงขนานนั้นก็ได้ค่ะ..เกร็งใจจัง"
         "ไม่เลยสักนิด..คุณย่าท่านก็น่ารักอย่างนี้หล่ะวันไหนที่ผมจะกลับบ้านทีท่านก็จะทำอะไรอย่างนี้เป็นประจำ..ท่านบอกว่ามันเป็นความสุขของท่านที่ทำให้ลูกหลานทาน"
         หญิงสาวยิ้มให้เขามากขึ้นหลังจากที่รู้ว่าเขาก็ไม่เห็นมีพิษมีภัยอะไรแค่เขาชอบมองหล่อนแปลกๆ เท่านั้นไม่ได้ถึงคุกคามทำอนาจารเสียหน่อย
          แต่ยังไงหล่อนก็เสียจูบแรกให้เขาไปแล้วเขาแค่ขอเป็นรางวัลที่เขาช่วยหล่อนไว้ตั้งสองครั้งก็ไม่เห็นจะเสียหายตรงไหน
         ไม่นานรถก็ขับเข้ามาในตัวคฤหาสน์หลังใหญ่ของตระกูล พิทักษ์วงค์ 
         เขาพาหล่อนเข้ามาในตัวบ้าน หล่อนถึงกับอ้าปากค้างแล้วก็ต้องรีบหุบเพราะมีสายตาพร้อมกับรอยยิ้มส่งมายังหล่อน
         หล่อนเขินเขาก็เลยส่งยิ้มตอบไป แล้วเดินตามชายหนุ่มเข้าไปยังห้องรับแขกที่มีหญิงสูงวัยนั่งรออยู่ก่อนแล้ว
         "สวัดดีค่ะคุณท่าน" หญิงสาวยกมือขึ้นไหว้ผู้ที่สูงอายุกว่า
         "ไหว้พระเถอะจ๊ะ..มานั่งนี่สิจ๊ะ" คุณหญิงมณีรัตน์ตบที่นั่งข้างตัวเพื่อให้หญิงสาวที่มาใหม่ได้นั่ง
         หล่อนหันไปมองภูดิสเพื่อจะถามความเห็นก็ได้รับการพยักหน้าตอบมาแทน หล่อนจึงเดินเข้าไปนั่งใกล้ๆ คุณหญิงมณีรัตน์
        คุณหญิงยิ้มทั้งใบหน้าดูมีความสุขที่ได้เห็นหน้าหล่อน หล่อนรู้สึกไม่รังเกียจที่คุณหญิงเธอจับไม้จับมือหล่อนลูบใบหน้าสวยหวานอย่างพึงพอใจ
         "เป็นไงบ้างจ๊ะมาเหนื่อยๆ..กินน้ำกินท่าก่อน"
         "ไม่ได้เหนื่อยอะไรมากค่ะท่าน..คุณภูดิสมากกว่าที่เหนื่อยต้องขับรถไปรับดิฉันที่บ้าน..ที่จริงดิฉันบอกว่าจะมาเองแต่คุณภูดิสเธอยื่นยันว่าจะมารับให้ได้ ดิฉันเกร็งว่าจะรบกวนคุณภูดิสค่ะ" หล่อนพูดให้คุณหญิงได้ฟังว่าไม่อยากรบกวนภูดิส
         "เหรอจ๊ะ..แล้วพ่อภูหล่ะเหนื่อยไหมที่ต้องไปรับหนูธิดาเขามาจากบ้าน"
         คุณหญิงหันไปคุยกับหลานชายเพื่อส่งซิกบอก
         "ไม่หรอกครับคุณย่าผมเต็มใจเสียมากกว่า"
         "เห็นไหมพี่เขาไม่เห็นบ่นว่าเหนื่อยเลย"
         "ค่ะ" หล่อนได้แต่ยิ้มแล้วหันไปค้อนให้ชายหนุ่มเสียวงใหญ่
         หล่อนไม่พูดต่อความแล้วกลัวจะพูดจนเข้าตัว
         "เข้าเรื่องเลยดีกว่านะจ๊ะ..วันนั้นเมื่อสามปีก่อน..ฉันต้องขอบคุณหนูธิดามากนะถ้าไม่ได้หนูธิดาฉันคงไม่ได้มานั่งสบายอย่างนี้หรอก"
         คุณหญิงกล่าวขอบคุณหญิงสาวอย่างใจจริง
         "ไม่เป็นไรค่ะท่านเราเพื่อนมนุษย์ด้วยกันยังไงก็ต้องช่วยเหลือกันอยู่แล้วค่ะอีกอย่างถ้าเป็นคนอื่นที่เห็นท่านล้มอย่างนั้นเขาก็ต้องช่วยท่านเหมือนที่ดิฉันช่วยท่านค่ะ"
        "พูดได้ดีมากจ๊ะ..หนูเป็นคนสวยและมีจิตใจดีเหมือนหน้าตา..ถ้าใครได้หนูมาเป็นสะใภ้หรือเป็นภรรยาคนคนนั้นถือว่าโชคดีมาก"
         "ไม่ถึงขนานนั้นหรอกค่ะท่าน"
         "เอาอย่างนี้ดีไหมจ๊ะ..หนูธิดามาเป็นหลานสะใภ้ของฉันไหม..ฉันอยากได้หนูมาเป็นสะใภ้บ้านนี้"
         "......" ณัฐธิดาพูดไม่ออกเมื่อมาเจอมุกแบบนี้ของคุณหญิง
         "ฉันอยากเห็นหลานชายของฉันเป็นฝั่งเป็นฝาเสียที..เห็นลอยไปลอยมาไม่เป็นหลักเป็นแหล่งเรื่องผู้หญิงสักที..ถึงหลานชายของฉันจะไม่ได้ดีเด่นอะไรแต่เขาก็เป็นคนดีนะจ๊ะหนูธิดา"
         "พูดแบบนี้คุณย่าไม่ถามคุณธิดาเขาก่อนเหรอครับ..เขาอาจจะมีคนที่รักแล้วก็ได้"

        "จริงสิหนูธิดามีแฟนแล้วหรือจ๊ะ" คุณหญิงรีบหันมาถามหญิงสาวทันที
        "เอ่อ...ยังไม่มีค่ะ" ตอบออกไปแล้วก็อยากกัดลิ้นตัวเอง ไม่น่าตอบเลยเหมือนจะชี้โพร่งให้กระรอก
        "งั้นก็ดีเลยจ๊ะ..ในเมื่อหนูก็ยังไม่มีใคร..ช่วยพิจารณาพี่เขาหน่อยนะหนูธิดา อย่าว่าอย่างโน้นอย่างนี้เลยนะ..ฉันรู้สึกถูกชะตากับหนูมาก..อยากได้หนูมาอยู่ใกล้ๆ..อีกอย่างฉันก็อายุปูนนี้แล้วจะอยู่ได้อีกนานแค่ไหนก็ไม่รู้..ฉันคิดว่าก่อนตายฉันอยากจะอุ้มเหลนสักครั้งอยากเห็นหลานชายของฉันมีความสุข..ได้คู่ครองที่ดี"
        หล่อนหันไปมองหน้าชายหนุ่มแล้วหน้าแดงขึ้นมาเมื่อคิดตามที่คุณหญิงท่านได้พูดไว้
        "คุณย่าอย่าพูดอย่างนั้นสิครับคุณย่าต้องอยู่กับผมอีกนานและผมสัญญาครับว่าคุณย่าจะได้อุ้มเหลนเร็วๆ นี้แน่"
         "คุณภูดิส..คุณพูดอย่างนี้หมายความว่ายังไง" หล่อนเอ็ดเขาเสียงเบาให้ได้ยินกันสองคน
         เขาไม่ตอบแถมยังทำทีไม่ได้ยินที่หล่อนพูด เรื่องชักจะไปกันใหญ่แล้ว ที่หล่อนมาไม่ได้ว่าจะให้หล่อนแต่งงานนะ หล่อนแค่มาพบคุณหญิงท่านแค่นั้นแล้วนี้มันเกิดอะไรขึ้น พวกเขาจะให้หล่อนแต่งานกันผู้ชายคนนี้ ไม่ได้การณ์หล่ะหล่อนต้องทำอะไรสักอย่าง
         "คุณหญิงค่ะ..คือดิฉันว่า"
         "ไม่เอาจ๊ะ..ไม่เอาอย่าเรียกฉันแบบนั้นเรียกว่าคุณย่า..แล้วก็เรียกแทนตัวเองว่าหนูหรือธิดาก็ได้..ฉันขอร้องหล่ะได้ไหม..มันฟังแล้วดูห่างเหินกันยังไงไม่รู้"
         "มันจะไม่เหมาะสมนะค่ะคุณหญิง"
         "คุณหญิงอีกแล้วไม่เอาจ๊ะ ลองเรียกใหม่สิ"
         "คุณย่า" หล่อนจำเป็นต้องเรียกเพราะลอยยิ้มที่คุณหญิงมีให้กับหล่อน
         "เห็นไหมไม่เห็นว่ามันจะไม่เหมาะสมตรงไหนเลย"
         "คือ..ดิ..หนูคิดว่ามันยังเร็วไปหน่อยมั้งค่ะที่จะแต่งงาน..อีกอย่างหนูกับคุณภู"
        "พี่ภูจ๊ะ"
         "ค่ะ..พี่ภูเราเพิ่งจะรู้จักกันไม่นานด้วย..แล้วพี่ภูเขาก็คงจะมีคนที่ชอบอยู่แล้วก็ได้มั้งค่ะ"
         "ณ ตอนนี้ผมยังไม่มีใคร" ชายหนุ่มรีบพูดทันที
         "แล้วเรื่องในตอนนั้นที่คุณกับ.."
         "ตอนนั้นที่คุณเห็นเป็นความเข้าใจผิดไว้ผมจะอธิบายให้ฟัง"
         "เรื่องอะไรกันจ๊ะพ่อภู"
         "มีการเข้าใจผิดกันนิดหน่อยนะครับคุณย่าไม่ได้สำคัญอะไร"
         "หนูคิดว่า..หนูยังไม่พร้อมที่จะแต่งงานตอนนี้ค่ะ..และพี่ชายของหนูก็คงจะยังไม่อนุญาต"
         "งั้นเหรอจ๊ะ..แต่ย่าคิดว่ายังไงทั้งสองก็ลองดูๆกันไปก่อนดีไหมจ๊ะ..จะได้ศึกษาใจกันแล้วเราคอยมาคิดกันอีกที"
         ".........." แทนคำตอบหล่อนเรียกที่จะไม่พูด
         "ได้เวลาอาหารว่างแล้วสิ..ไปกันจ๊ะหนูธิดา..พ่อภูด้วย..หนูธิดาก็อย่าคิดมากนะ..ที่ย่าพูดไปก็เพราะอยากได้หนูมาเป็นคนในตระกูล..พิทักษ์วงค์ด้วยอีกคนเท่านั้นเอง..ยังไงย่าคิดว่าแล้วแต่บุญพาวาสนาส่งก็แล้วกันนะจ๊ะ"
         หญิงสาวยิ้มให้กับหญิงสูงวัยแล้วคุณหญิงก็เดินจับมือหญิงสาวเดินไปที่ห้องอาหารด้วยกัน
         ส่วนภูดิสเมื่อเขาคิดว่าคุณย่าได้ช่วยเขาจนถึงที่สุดแล้ว แต่หญิงสาวยังปฎิเสธอยู่เขาคิดว่าคงต้องใช่แผนต่อไปแล้วสินะ เขาคิดว่าแผนต่อไปของเขาหญิงสาวคงไม่อาจจะปฎิเสธเขาได้อย่างแน่นอน



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×