ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เผลอใจรัก....(ซาตาน)

    ลำดับตอนที่ #6 : แผนร้าย....ของซาตาน 3

    • อัปเดตล่าสุด 12 มิ.ย. 60





         เสียงคนร้องเพลงประสานเสียงที่ฟังแล้วดูจะโหยหวนยิ่งกว่าไพเราะเสียมากกว่า
         ก้อยมลหนิงนั้นเองที่ร้องเพลงและดูเหมือนว่าเริ่มจะเมากันแล้ว หญิงสาวหัวเราะกับท่าทางของทั้งสามสาวที่กอดคอกันร้องไม่ใช่สิตะโกนเสียมากว่าหล่อนหันไปมองข้างๆ ก็เห็นพรพรรณฟุบหน้าลงกับโต๊ะคนนี้ก็คงไม่ไหวแล้วหลับแล้วมั้งนั้นนะ ส่วนนภาก็มัวแต่คุยโทรศัพท์กับใครก็ไม่รู้ แต่ที่รู้แน่ๆ คงจะเป็นแฟนล่ะมั้งเห็นหน้าออกจะแดงๆ มีแฟนแล้วไม่เห็นบอกกันเลยนะยัยนภาเพื่อนตัวดีเอาไว้หล่อนจะซักให้ล
    ะเอียดยิบเลย
         หล่อนคงลืมไปแล้วว่ายังมีใครอีกคนที่กำลังนั่งจิบเบียร์เย็นๆ อย่างสบายใจเฉิ่มแต่สายตาของเขากลับมองมาที่หล่อนตลอดเวลา
         ทำไมเขาไม่เห็นเมาเหมือนคนอื่นนะ หญิงสาวคิดพลางหยิบน้ำโค้กเข้าปาก ทำไมหล่อนถึงไม่ดื่มเหล้านะเหรอ
         ก็หล่อนไม่เคยดื่มเหล้านิน่าและหล่อนก็ไม่อยากดื่มด้วย ทุกคนต่างคะยั้นคะยอหล่อนแต่นภาก็ช่วยพูดให้แถมยังโกหกอีกว่าหล่อนแพ้แอลกอฮอล์ นั่นหละทุกคนถึงได้เลิกคะยั้นคะยอหล่อนแล้วกลับไปร้องเพลงกันใหม่
         หล่อนเริ่มจะหมดความอดทนกับสายตาคมเข้มที่เอาแต่จ้องมองมาทางหล่อน หญิงสาวหันซ้ายแลขวาเพื่อมองหาตัวช่วยแต่ก็ดูสิ้นหวัง
         หญิงสาวหันไปสบนัยน์ตาคมเข้มนั้นแล้วคิดอยากจะลุกขึ้นไปตบหน้าเขาสักฉากเผื่อเขาจะได้รู้ว่าไม่ควรมองหล่อนอย่างเสียมารยาทแบบนี้ จะมองอะไรกันนักกันหนา แต่ก็ทำได้แค่ส่งสายตาค้อนเสียวงใหญ่ไปให้เขา
        ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สะเทือนอะไรเลย แต่เขากับส่งยิ้มมาให้แทน หล่อนได้แต่กัดริมฝีปากแล้วก็ต้องหน้าแดงขึ้นเมื่อเขามองตาหล่อนแล้วเลื่อนสายตาของเขาลงมามองอยู่ที่ริมฝีปากที่หล่อนเพิ่งจะกัดไป เขาเลียริมฝีปากหนาและใช้นิ้วชีถูไปมาบนริมฝีปากล่าง มันเหมือนเขาให้หล่อนนึกถึงจูบอันแสนหวานของวันนั้น
         ชายหนุ่มยิ้มขึ้นมาอย่างพอใจที่ทำให้หญิงสาวที่นั่งอยู่ตรงข้าม หน้าแดงได้ตามต้องการ
         เมื่อไหร่หนาเขาจะได้หล่อนมาครอบครอง แต่อีกไม่นานแผนของเขาต้องสำเร็จเพราะมีตัวช่วยที่ดี


    ....................................................................................................


         "นี่ก็ดึกแล้วพวกคุณจะกลับกันยังไงครับ" ชายหนุ่มพูดขึ้นหลังจากออกจากร้านมายืนกันอยู่ที่หน้าร้านเพื่อจะกลับบ้าน
         "เจ๊พรเดี๋ยวแฟนเขาจะมารับค่ะ ส่วนมลหนิงก้อยเราอยู่คอนโดเดียวกันกลับกันเองได้แต่ต้องไปส่งธิดาก่อนนะค่ะ" มลตอบคำถามภูดิส ดูเหมือนจะมีมลคนเดียวที่ยังเมาไม่มาก ส่วนอีกสองคนยังโก่งคอกันอาเจียนอยู่ข้างหลัง
         ใช่พวกเธอต้องไปส่งเพราะเมื่อสองชั่วโมงที่แล้วหล่อนจะกลับไปกับนภาแล้วแต่เจ๊พรกับสามสาวไม่ยอมให้กลับ อ้างว่าเดี๋ยวจะไปส่งให้ถึงบ้าน
    นภาก็เลยต้องกลับไปก่อนเพราะต้องรีบกลับไปทำธุระอะไรก็ไม่รู้ไม่ยอมบอกด้วย
         "งั้นผมขออาสาไปส่งคุณธิดาเอง..พวกคุณจะได้รีบกลับไปพักผ่อน"
         "แต่ว่า......." มลมองหน้าธิดา ธิดาส่งซิกให้แต่ดูเหมือนมลจะไม่เข้าใจ        "ไม่เป็นไรค่ะคุณภูดิสพวกนี้รับอาสาจะไปส่งดิฉันแล้ว" ธิดาพูดขึ้นเพื่อตัดบทแต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สนใจในคำพูดของหล่อนเลยเขากับหันไปพูดกับมลแทน
         "แต่ดูเหมือนพวกคุณจะไม่ไหวแล้วนะครับ"
         "..........." ใช่หล่อนมองสภาพสามสาวแล้วก็ทำหน้าลังเล
         "ไม่เป็นไรหรอกธิดาให้คุณภูไปส่งเถอะดูพวกนี้สิเมาแอ๋เลยจะส่งถึงไม่ถึงก็ไม่รู้" พรพรรณพูดขึ้นเหมือนจะตัดสินใจให้หล่อน 
         "โธ่เจ๊ทำไมพูดแบบนั้นหล่ะ..ยังไงก็ฝากส่งธิดาด้วยนะค่ะคุณภูดิส" มลพูดขึ้น
         "ได้ครับพวกคุณไม่ต้องเป็นห่วง..เชิญครับคุณธิดา"
         "........." หล่อนอ้าปากค้างพูดอะไรไม่ออกเมื่อได้ยินสิ่งที่มลพูดออกมา ก็ไหนจะไปส่งหล่อนไงแต่ทำไมเป็นแบบนี้ เมื่อหล่อนไม่พูดเขาเลยเอามือมาแตะข้อศอกหล่อนเหมือนกับบังคับกลายๆ หล่อนมองหน้ามลก้อยหนิงและพรพรรณแต่ทุกคนได้แต่โบกมือลาหล่อนเท่านั้นไม่มีใครช่วยอะไรหล่อนได้
         "บ้านอยู่แถวไหนครับ"
         เมื่อขึ้นมานั่งในรถ เขาก็ทำหน้าที่คนขับขับพาหล่อนมาสักพักเขาก็ถามขึ้นอย่างอารมณ์ดี ผิดกับหล่อนที่ทำหน้าบึ้ง
         หล่อนบอกเส้นทางที่จะกลับบ้านให้เขาแล้วก็เงียบไม่พูดอะไรนอกเหนือจากนี้
         "คุณรู้จักกับคุณย่าท่านเหรอเปล่า" อยู่ๆ เขาก็พูดขึ้น จนหล่อนสงสัยว่าเขาพูดถึงใครจึงหันมามอง
         "คุณหมายถึงใคร"
         "คุณย่าของผม..คุณหญิงมณีรัตน์..คนที่มอบรางวัลชนะเลิศให้กับคุณนะ"
         "ท่านเป็นถึงเจ้าของบริษัทก็ต้องรู้จักสิค่ะ"
         "ไม่ใช่สิ..ก่อนที่คุณจะรู้จักท่านในนามเจ้าของบริษัท..คุณพอจะจำได้ไหม"
         "คุณหมายความว่ายังไง" หล่อนทำหน้างง เขาพูดเรื่องอะไรหล่อนจะไปรู้จักกับคนใหญ่คนโตแบบนั้นไปได้ยังไง
        "เอาอย่างนี้..คุณยังจำผู้หญิงสูงอายุที่คุณแบกท่านส่งโรงพยาบาลเมื่อสามปีก่อนได้ไหม" หญิงสาวทำท่านึก
              ".........." แต่ก็ยังเงียบ
         "ผู้หญิงสูงอายุที่เป็นลมแล้วหัวกระแทกพื้นนะ..แล้ววันนั้นคุณก็ไปรำในงานวันเกินคุณหญิงรัตนาด้วย" เขาหันมามองหน้า เห็นหล่อนทำท่านึกอยู่นานก็ระบายยิ้มออกมาเหมือนจะจำได้
         "ค่ะจำได้แล้ว..แล้วไงค่ะ..อย่าบอกนะว่าผู้หญิงสูงอายุคนนั้นเป็นคุณหญิงท่านนะ"
         "ใช่ไม่ผิดตัวหรอก..คุณย่าตามหาคุณมาตลอดเลยนะทั้งๆ..ที่ยังไม่เคยเห็นหน้าค่าตาคุณแต่คุณย่าก็มีแค่รูปถ่ายว้นที่คุณรำในงานวันนั้นแค่ใบเดียว ท่านอยากขอบคุณคุณนะธิดา"
         "ไม่เป็นไรค่ะ..เรื่องมันก็นานมาแล้วด้วย..แล้วตอนนี้ท่านก็สบายดีแล้ว"
         "ไม่ได้นะท่านอยากจะพบคุณมาก..ช่วยไปพบท่านสักครั้งได้ไหมเพื่อให้ท่านได้ขอบคุณคุณด้วยเถอะ..ถือว่าผมขอร้อง" เสียงอ้อนวอนจากชายหนุ่มข้างๆ ทำให้หล่อนต้องคิดนาน จะเป็นไรไปหล่ะแค่ไปพบสักครั้งแล้วก็จบ
         คำตอบต่อมาทำให้ภูดิสยิ้มขึ้นทั้งใบหน้า
         "ก็ได้ค่ะ"
         "ขอบคุณมากธิดา..ท่านคงดีใจที่ได้พบคุณ" และจะได้คุณมาเป็นหลานสะใภ้ ชายหนุ่มคิดในใจ แล้วก็ยิ้มให้กับหญิงสาวอย่างขอบคุณ



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×