ลำดับตอนที่ #12
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : พิสูจน์.....ความหึงหวง 3
หญิงสาวกลุ้มใจมากที่เห็นภูดิสเปลี่ยนไป หล่อนไม่รู้จะไปปรึกษาใครที่ไหน
"เป็นไรครับคุณธิดา..ทำหน้าเครียดเชียว" หนุ่มรุ่นน้องคนนี้ก็ชอบกวนใจหล่อนหล่อนรู้สึกอึดอัดทุกครั้งที่ได้ร่วมงานกับเขา อาจจะเป็นเพราะว่าเขามัวแต่มองหน้าหล่อนไม่ได้สนใจงานมากนัก นี้ขนานหนีมาชงกาแฟยังจะตามมาอีก หล่อนรู้ว่าเขาชอบหล่อนเพราะเขาเปิดเผยเสมอว่าชอบ แต่หล่อนกับทำเป็นไม่สนใจ หรือว่าจะลองปรึกษาเขาดูเผื่อว่าผู้ชายด้วยกันจะรู้อะไรบ้าง
"คุณนะค่ะ..ฉันมีเรื่องจะขอปรึกษา.."
"ว่ามาสิครับถ้าเป็นเรื่องของคุณธิดาผมตอบให้ทุกอย่าง"
"คือไม่ใช่เรื่องของฉันหรอกค่ะ"
"อ้าว..แล้วมันเป็นเรื่องของใครล่ะครับ"
"ของเพื่อนฉันค่ะ..คือ..เขาโทรมาหาฉันมาปรึกษาเรื่อง..เอ่อ.."
"พูดมาเลยครับไม่ต้องเกรงใจ"
"คือ..เขาบอกว่าแฟนของเขาเริ่มจะไม่เหมือนเดิม"
"ยังไงครับที่ว่าไม่เหมือนเดิม"
"คือเขาเคยดูเอ่อ..น่ารักสุภาพ..แต่ตอนนี้เขากลับเย็นชาแล้วพูดน้อย..คุณพอจะรู้สาเหตุไหมค่ะว่าทำไมเขาถึงเป็นแบบนี้"
หนุ่มรุ่นน้องทำท่าคิดไม่นานก็พูดขึ้นว่า
"มันมีอยู่หลายสาเหตุนะครับ อย่างกรณีที่หนึ่งคือเขาเริ่มจะเบื่อเพื่อนคุณแล้ว..หรือกรณีที่สองเขาอาจจะเจอคนใหม่"
"จริงเหรอค่ะ" หล่อนทำหน้าตกใจ อาจจะเป็นไปได้
"หรือไม่ก็กรณีที่สามเพื่อนคุณเขายังไม่มีความสัมพันธ์กับแฟนอย่างลึกซึ้ง"
"เอ่อ..ยังค่ะยังไม่มี"
"นั้นก็เป็นสาเหตุอย่างหนึ่งที่ผู้ชายชอบตีตัวออกห่าง"
"ทำไมค่ะ"
"ก็ผู้ชายส่วนมากเขาคิดว่า..ในเมื่อรักกันแล้วแล้วทำไมยังหวงตัวด้วยล่ะผู้ชายนะถ้ารักใครแล้วเขามักจะบอกรักด้วยร่างกายครับ"
หล่อนหน้าแดงขึ้นมาเมื่อพูดถึงเรื่องนี้ เขามักจะชอบฉวยโอกาสกับหล่อนเสมอเมื่อหล่อนเผลอแต่เขาก็หยุดทุกครั้งไม่ให้เกินเลย หรือเขาจะเบื่อหล่อนแล้ว
"แล้วทำไมคุณถึงไม่ยอมเขาหล่ะครับ"
"มะ..ไม่ใช่ฉันหรอกค่ะ..ฉันแค่ถามให้เพื่อนเท่านั้น..ขอบคุณนะค่ะที่ให้คำปรึกษาและฉันจะบอกเพื่อนของฉัน..ขอตัวก่อนนะค่ะ"
หล่อนเดินไปได้ไม่ถึงสองก้าวก็ต้องหันกลับมาตามแรงดึงของนภัทรเขากักตัวหญิงสาวเอาไว้ให้ติดกับผนังข้างประตูนั้นเอง
"เดี๋ยวก่อนสิครับคุณธิดา..คุณยังไม่ได้ตอบคำถามของผมเลย"
"ปล่อยฉันนะคุณนะ ฉันไม่มีอะไรจะตอบคำถามของคุณแล้ว"
"ทำไมคุณไม่เลิกกับมันแล้วมาหาผม..ผมยินดีที่จะรักและดูแลคุณให้ดีกว่าเขา"
"ไม่มีใครดีไปกว่าเขาได้หรอกแม้แต่คุณ"
"ยอมรับแล้วสินะว่าเรื่องที่คุณมาปรึกษาผมมันเป็นเรื่องของคุณเอง"
หล่อนไม่ตอบได้แต่ดิ้นและพยายามออกจากอ้อมแขนของนภัทร
"วันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้วที่ผมจะได้ทำงานที่นี้ ผมไม่อยากเสียคุณไปเลย เลิกกับเขาเถอะนะแล้วไปกับผม..ผมชอบคุณ"
"แต่ฉันไม่ได้ชอบคุณ..ฉันรักเขาถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้รักฉันก็ตาม..ฉันก็ยังจะรักเขาคุณได้ยินไหม"
หล่อนสะบัดตัวออกจากวงแขน เขาก็ยอมปล่อยหล่อนให้เดินจากไป
หล่อนสะดุ้งตกใจที่เห็นมาริณียืนอยู่ที่ประตู และคงจะเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดแล้ว
"คุณริณีเอ่อ..คือ"
"คุณธิดาค่ะ..ฉันมาหาคุณเพราะอยากจะให้คุณดูนี่ค่ะ"
หล่อนทำเป็นไม่สนใจเรื่องที่เห็นเมื่อกี้แต่กับยื่นหนังสือพิมพ์มาให้หญิงสาวได้อ่านข้อความที่มีปากกาวงเอาไว้ ในนั้นมีรูปผู้หญิงคนหนึ่งกำลังเดินออกมาจากโรงแรมพร้อมกับผู้ชายคนหนึ่งที่หล่อนเห็นแล้วคุ้นๆ หล่อนอ่านใต้ภาพเขียนว่า
'ไฮโซหนุ่มเจ้าของกิจการจิวลี่ชื่อดังกับนางแบบสาวออกมาจากโรงแรมชื่อดังเมื่อคืนนี้พวกเขาเป็นอะไรกัน หรือนี่อาจจะเป็นการกลบเกลื่อนข่าวที่ว่าชายหนุ่มแต่งงานแล้วกันนะ เป็นไปได้'
"นี่หมายความว่ายังไงค่ะคุณริณี"
"ใจเย็นๆ ก่อนนะค่ะคือพี่ภูเขาแค่ไปพบนางแบบเพื่อขอให้เธอมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับบริษัทเรานะค่ะ..คุณธิดาอย่าคิดมากนะค่ะที่ริณีเอาข่าวมาให้คุณดูเพราะกล้วว่าเมื่อคุณเจอข่าวเองคุณจะเข้าใจผิด..ริณีก็เลยจะมาอธิบายแทนพี่ภู"
"แล้วตอนนี้เขาอยู่ที่ไหนค่ะ"
"ห้องทำงานค่ะ..เดี๋ยวคุณธิดาค่ะโธ่..คุยกันเอาเองนะค่ะพี่ภู..ริณีช่วยได้เท่านี้"
"เอ่อคือ....ขอผมถามอะไรหน่อยได้ไหมครับ"
ลืมเสียสนิทว่ายังมีผู้ชายคนนี้ยืนอยู่ด้วย
"แฟนของคุณธิดา..คือบอสใหญ่ใช่ไหมครับ"
แทนคำตอบมาริณียิ้มรับแล้วพูดขอร้องว่าอย่าบอกเรื่องนี้ให้กับใครเขาก็รับปาก
นภัทรแห้วตั้งแต่ได้ยินว่าคู่แข่งของเขาคือใคร ถึอว่าบอสใหญ่เขาตาแหลมจริงๆ แต่เรื่องที่เขาทำไปเมื่อกี้เขาคงต้องขอโทษหญิงสาวเสียแล้ว
.................................................................................................
เสียงเคาะประตูดังขึ้นพร้อมประตูที่เปิดเข้ามาโดยไม่รอให้คนข้างในอนุญาต มาเร็วกว่าที่เขาคิดแฮะ ถือว่าความคิดของเขาได้ผล เขาเป็นคนเอาข่าวไปปล่อยเองและอยากดูปฎิกิริยาของหญิงสาวว่าจะเป็นยังไงเมื่อรู้ว่าเขาเป็นข่าวกับผู้หญิงคนอื่น หล่อนจะต้องหึงเขาแน่ๆ สงบไว้อย่าให้หล่อนจับพิรุธได้
"คุณภู..นี่หมายความว่ายังไง..คุณต้องการจะหย่าทำไมไม่บอกกับฉันตั้งแต่ทีแรกทำไมต้องทำให้เรื่องมันใหญ่จนเป็นข่าวดังไปทั่วถ้าคุณต้องการจะหย่าฉันก็จะหย่าให้คุณ..คุณบอกกับฉันสิคุณไม่ควรทำกับฉันเหมือนคนห่างเหิน..ไม่สนใจกัน..หรือคุณเบื่อที่ฉันยังไม่ยอมมีอะไรกับคุณคุณรู้ไหมว่าฉันเกือบจะยอมตกลงไปกับผู้ชายคนนั้นแล้วถ้าเกิดว่าฉันยัง...." หญิงสาวพูดออกมาเพราะความโกรธโดยไม่รู้ตัวว่าได้หลุดประโยคที่ไม่น่าพูดออกไป
"ธิดา..เมื่อกี้คุณว่าอะไรนะ..คุณตกลงอะไรกับใคร"
"เอ่อ..คือคุณนภัทรที่เป็นเด็กฝึกงานเขามาสารภาพรักกับฉัน" หล่อนอยากกัดลิ้นตัวเองที่พูดออกมา
"นี่มันกล้ามาสารภาพรักกับคุณเหรอแล้วคุณตอบว่าไงธิดาคุณตอบมันว่ายังไง" ชายหนุ่มจับไหล่ทั้งสองข้างของหล่อนแล้วเขย่า
"ฉันตอบปฎิเสธไปค่ะ..ฉันบอกว่าฉันมีคุณอยู่แล้วและไม่อาจจะรับรักเขาได้"
เขาถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อได้ยินคำตอบจากหญิงสาว เขาปล่อยมือจากไหล่มากอดหล่อนไว้ทั้งต้ว
"คุณตอบได้ดีมากธิดา..ไม่ได้การหล่ะผมต้องทำอะไรสักอย่าง..ไม่เอาแล้วพิสงพิสูจน์อะไรนี้ผมไม่เอาแล้ว"
เขาพูดพลางอุ้มหญิงสาวมาที่โซฟารับแขกแล้วปลดกระดุมเสื้อหล่อนออกทีละเม็ด
"นั้นคุณจะทำอะไรค่ะคุณภู"
"ก็จะทำให้คุณเป็นของผมก่อนที่ใครจะมาแย่งคุณไปจากผมไง"
"ไม่นะคุณภู..คุณสัญญาว่าจะรอให้ฉันพร้อมก่อน"
"ตอนนี้ก็พร้อมแล้วไง"
"คุณ..อื่อ."
พูดจบชายหนุ่มก็ปิดปากอิ่มด้วยริมฝีปากหนาได้รูปของเขา เขาจูบหล่อนอย่างดูดดื่มเสียจนหญิงสาวเกือบจะสำลัก มือข้างหนึ่งตรึงข้อมือทั้งสองของหล่อนเอาไว้เหนือศีษระ อีกมือหนึ่งก็พยายามจะปลดตะขอบราตัวสวยของหล่อนออก เมื่อปลดสำเร็จริมฝีปากก็เปลี่ยนลงมาจูบไซ้ยอดอกที่ชูชันรับกับริมฝีปากของเขาทั้งสองข้าง
"ไม่นะคุณภู" เมื่อปากของหล่อนเป็นอิสระหล่อนร้องขอเขาเสียดังแต่มันกลับเป็นได้แค่เสียงกระซิบ เขาไม่ฟังหล่อนเลยหล่อนเริ่มหมดแรงที่จะต่อต้านเขาแล้วยอมให้เขาทำตามใจ น้ำตาเจ้ากรรมมันเริ่มไหลรินออกมาจากขอบตาสวย
ชายหนุ่มจูบไซ้ขึ้นไปจนถึงริมฝีปากแล้วครอบครองมันอีกครั้งเขาหยุดชะงักทันทีเมื่อเห็นน้ำตาที่ไหลออกมาจากตาของหญิงสาว
เอาแล้วไงนี่เขาทำให้หล่อนร้องไห้เหรอ เขาไม่ชอบน้ำตาของหล่อนเลยมันทำให้เขาเจ็บไปด้วย
เขาลุกขึ้นและมองภาพผู้หญิงที่นอนเปลือยผ้าผิวที่หน้าอกของหล่อนแดงช้ำด้วยฝีมือของเขาไหนจะริมฝีปากที่แดงเจือไปหมด
เขารีบคว้าร่างบางขึ้นมาโอบกอดเอาไว้ในอ้อมแขนพลางพูดขอโทษและปลอบหล่อนจากการร้องไห้
"ผมขอโทษผมไม่ได้ตั้งใจ..ผมจะไม่ทำอีกแล้วถ้าคุณยังไม่อนุญาต..หยุดร้องไห้เถอะนะคนดี..ผมเห็นคุณร้องไห้ผมรู้สึกเจ็บปวดไปกับคุณด้วย"
หล่อนยังร้องไห้ไม่หยุด หล่อนน้อยใจเขาที่เขาไม่ยอมหยุด หล่อนน้อยใจเขาที่เขาไม่ยอมฟังหล่อนพูด หล่อนน้อยใจเขาที่เขาเริ่มจะเบื่อหล่อนและกำลังจะจากหล่อนไปหาคนอื่น และหล่อนน้อยใจตัวเองที่หล่อนเผลอรักผู้ชายคนนี้เข้าไปแล้ว
หล่อนหยุดร้องไห้แล้วเพราะประโยคที่ชายหนุ่มพูดขึ้น
"ไม่ร้องไห้แล้วนะครับคนดี..ผมสัญญาว่าจะไม่ทำแบบนี้อีกถ้าคุณไม่เต็มใจ..แต่..ถ้าคุณยังอยู่ในสภาพนี้ผมจะถือว่าคุณเต็มใจให้ผมนะ" เขาพูดล้อ
หญิงสาวนึกขึ้นได้ก็รีบผละจากอ้อมแขนของเขาหันหลังและรีบติดกระดุมมือไม้สั่น เขาทำท่าจะเข้ามาช่วยแต่ถูกหญิงสาวห้ามเอาไว้ก่อน
"อย่าเข้ามานะ..เพราะใครล่ะที่ทำให้ฉันอยู่สภาพนี้"
"ก็ผมจะช่วยติดกระดุมให้คุณไงเพื่อเป็นการไถ่โทษ"
"ไม่ต้องมาตบหัวแล้วลูบหลังเลยนะ..ฉันจะฟ้องคุณย่า"
"จะฟ้องว่าไง..จะบอกว่าผมปล้ำเมียตัวเองเหรอ..คุณย่าได้รู้เรื่องแน่"
"ชิ" หล่อนค้อนเขาวงใหญ่เมื่อทำอะไรเขาไม่ได้เพราะเขาถือไพ่เหนือกว่า
"แล้วนั้นจะไปไหนเรายังคุยกันไม่จบเลยนะ"
ชายหนุ่มพูดขึ้นเมื่อเห็นหญิงสาวทำท่าจะลุกเดินออกไปแต่เขาก็ขวางเอาไว้แล้วจูงมือหล่อนมานั่งอยู่ที่เดิม
อีกล่ะประโยคนี้อีกหล่ะทำไมพวกผู้ชายถึงชอบพูดกันนะ หล่อนอยากจะไปทำใจก่อนยังไม่อยากจะพูดด้วยตอนนี้
"ฉันก็จะไปทำงานนะสิหายไปตั้งนานแล้ว..เดี๋ยวจะมีคนสงสัย"
"ไม่ต้องไปทำแล้วเดี๋ยวจะบอกให้ริณีไปลาให้..อยู่ที่นี้กับผมไม่ต้องไปไหนทั้งนั้น"
หล่อนย่นจมูกใส่ชายหนุ่มที่เดินตรงไปยังโต๊ะทำงานแล้วยกหูโทรศัพท์ขึ้นแล้วทำตามที่เขาพูดเมื่อกี้
"ยังไงครับที่ว่าไม่เหมือนเดิม"
"คือเขาเคยดูเอ่อ..น่ารักสุภาพ..แต่ตอนนี้เขากลับเย็นชาแล้วพูดน้อย..คุณพอจะรู้สาเหตุไหมค่ะว่าทำไมเขาถึงเป็นแบบนี้"
หนุ่มรุ่นน้องทำท่าคิดไม่นานก็พูดขึ้นว่า
"มันมีอยู่หลายสาเหตุนะครับ อย่างกรณีที่หนึ่งคือเขาเริ่มจะเบื่อเพื่อนคุณแล้ว..หรือกรณีที่สองเขาอาจจะเจอคนใหม่"
"จริงเหรอค่ะ" หล่อนทำหน้าตกใจ อาจจะเป็นไปได้
"หรือไม่ก็กรณีที่สามเพื่อนคุณเขายังไม่มีความสัมพันธ์กับแฟนอย่างลึกซึ้ง"
"เอ่อ..ยังค่ะยังไม่มี"
"นั้นก็เป็นสาเหตุอย่างหนึ่งที่ผู้ชายชอบตีตัวออกห่าง"
"ทำไมค่ะ"
"ก็ผู้ชายส่วนมากเขาคิดว่า..ในเมื่อรักกันแล้วแล้วทำไมยังหวงตัวด้วยล่ะผู้ชายนะถ้ารักใครแล้วเขามักจะบอกรักด้วยร่างกายครับ"
หล่อนหน้าแดงขึ้นมาเมื่อพูดถึงเรื่องนี้ เขามักจะชอบฉวยโอกาสกับหล่อนเสมอเมื่อหล่อนเผลอแต่เขาก็หยุดทุกครั้งไม่ให้เกินเลย หรือเขาจะเบื่อหล่อนแล้ว
"แล้วทำไมคุณถึงไม่ยอมเขาหล่ะครับ"
"มะ..ไม่ใช่ฉันหรอกค่ะ..ฉันแค่ถามให้เพื่อนเท่านั้น..ขอบคุณนะค่ะที่ให้คำปรึกษาและฉันจะบอกเพื่อนของฉัน..ขอตัวก่อนนะค่ะ"
หล่อนเดินไปได้ไม่ถึงสองก้าวก็ต้องหันกลับมาตามแรงดึงของนภัทรเขากักตัวหญิงสาวเอาไว้ให้ติดกับผนังข้างประตูนั้นเอง
"เดี๋ยวก่อนสิครับคุณธิดา..คุณยังไม่ได้ตอบคำถามของผมเลย"
"ปล่อยฉันนะคุณนะ ฉันไม่มีอะไรจะตอบคำถามของคุณแล้ว"
"ทำไมคุณไม่เลิกกับมันแล้วมาหาผม..ผมยินดีที่จะรักและดูแลคุณให้ดีกว่าเขา"
"ไม่มีใครดีไปกว่าเขาได้หรอกแม้แต่คุณ"
"ยอมรับแล้วสินะว่าเรื่องที่คุณมาปรึกษาผมมันเป็นเรื่องของคุณเอง"
หล่อนไม่ตอบได้แต่ดิ้นและพยายามออกจากอ้อมแขนของนภัทร
"วันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้วที่ผมจะได้ทำงานที่นี้ ผมไม่อยากเสียคุณไปเลย เลิกกับเขาเถอะนะแล้วไปกับผม..ผมชอบคุณ"
"แต่ฉันไม่ได้ชอบคุณ..ฉันรักเขาถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้รักฉันก็ตาม..ฉันก็ยังจะรักเขาคุณได้ยินไหม"
หล่อนสะบัดตัวออกจากวงแขน เขาก็ยอมปล่อยหล่อนให้เดินจากไป
หล่อนสะดุ้งตกใจที่เห็นมาริณียืนอยู่ที่ประตู และคงจะเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดแล้ว
"คุณริณีเอ่อ..คือ"
"คุณธิดาค่ะ..ฉันมาหาคุณเพราะอยากจะให้คุณดูนี่ค่ะ"
หล่อนทำเป็นไม่สนใจเรื่องที่เห็นเมื่อกี้แต่กับยื่นหนังสือพิมพ์มาให้หญิงสาวได้อ่านข้อความที่มีปากกาวงเอาไว้ ในนั้นมีรูปผู้หญิงคนหนึ่งกำลังเดินออกมาจากโรงแรมพร้อมกับผู้ชายคนหนึ่งที่หล่อนเห็นแล้วคุ้นๆ หล่อนอ่านใต้ภาพเขียนว่า
'ไฮโซหนุ่มเจ้าของกิจการจิวลี่ชื่อดังกับนางแบบสาวออกมาจากโรงแรมชื่อดังเมื่อคืนนี้พวกเขาเป็นอะไรกัน หรือนี่อาจจะเป็นการกลบเกลื่อนข่าวที่ว่าชายหนุ่มแต่งงานแล้วกันนะ เป็นไปได้'
"นี่หมายความว่ายังไงค่ะคุณริณี"
"ใจเย็นๆ ก่อนนะค่ะคือพี่ภูเขาแค่ไปพบนางแบบเพื่อขอให้เธอมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับบริษัทเรานะค่ะ..คุณธิดาอย่าคิดมากนะค่ะที่ริณีเอาข่าวมาให้คุณดูเพราะกล้วว่าเมื่อคุณเจอข่าวเองคุณจะเข้าใจผิด..ริณีก็เลยจะมาอธิบายแทนพี่ภู"
"แล้วตอนนี้เขาอยู่ที่ไหนค่ะ"
"ห้องทำงานค่ะ..เดี๋ยวคุณธิดาค่ะโธ่..คุยกันเอาเองนะค่ะพี่ภู..ริณีช่วยได้เท่านี้"
"เอ่อคือ....ขอผมถามอะไรหน่อยได้ไหมครับ"
ลืมเสียสนิทว่ายังมีผู้ชายคนนี้ยืนอยู่ด้วย
"แฟนของคุณธิดา..คือบอสใหญ่ใช่ไหมครับ"
แทนคำตอบมาริณียิ้มรับแล้วพูดขอร้องว่าอย่าบอกเรื่องนี้ให้กับใครเขาก็รับปาก
นภัทรแห้วตั้งแต่ได้ยินว่าคู่แข่งของเขาคือใคร ถึอว่าบอสใหญ่เขาตาแหลมจริงๆ แต่เรื่องที่เขาทำไปเมื่อกี้เขาคงต้องขอโทษหญิงสาวเสียแล้ว
.................................................................................................
เสียงเคาะประตูดังขึ้นพร้อมประตูที่เปิดเข้ามาโดยไม่รอให้คนข้างในอนุญาต มาเร็วกว่าที่เขาคิดแฮะ ถือว่าความคิดของเขาได้ผล เขาเป็นคนเอาข่าวไปปล่อยเองและอยากดูปฎิกิริยาของหญิงสาวว่าจะเป็นยังไงเมื่อรู้ว่าเขาเป็นข่าวกับผู้หญิงคนอื่น หล่อนจะต้องหึงเขาแน่ๆ สงบไว้อย่าให้หล่อนจับพิรุธได้
"คุณภู..นี่หมายความว่ายังไง..คุณต้องการจะหย่าทำไมไม่บอกกับฉันตั้งแต่ทีแรกทำไมต้องทำให้เรื่องมันใหญ่จนเป็นข่าวดังไปทั่วถ้าคุณต้องการจะหย่าฉันก็จะหย่าให้คุณ..คุณบอกกับฉันสิคุณไม่ควรทำกับฉันเหมือนคนห่างเหิน..ไม่สนใจกัน..หรือคุณเบื่อที่ฉันยังไม่ยอมมีอะไรกับคุณคุณรู้ไหมว่าฉันเกือบจะยอมตกลงไปกับผู้ชายคนนั้นแล้วถ้าเกิดว่าฉันยัง...." หญิงสาวพูดออกมาเพราะความโกรธโดยไม่รู้ตัวว่าได้หลุดประโยคที่ไม่น่าพูดออกไป
"ธิดา..เมื่อกี้คุณว่าอะไรนะ..คุณตกลงอะไรกับใคร"
"เอ่อ..คือคุณนภัทรที่เป็นเด็กฝึกงานเขามาสารภาพรักกับฉัน" หล่อนอยากกัดลิ้นตัวเองที่พูดออกมา
"นี่มันกล้ามาสารภาพรักกับคุณเหรอแล้วคุณตอบว่าไงธิดาคุณตอบมันว่ายังไง" ชายหนุ่มจับไหล่ทั้งสองข้างของหล่อนแล้วเขย่า
"ฉันตอบปฎิเสธไปค่ะ..ฉันบอกว่าฉันมีคุณอยู่แล้วและไม่อาจจะรับรักเขาได้"
เขาถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อได้ยินคำตอบจากหญิงสาว เขาปล่อยมือจากไหล่มากอดหล่อนไว้ทั้งต้ว
"คุณตอบได้ดีมากธิดา..ไม่ได้การหล่ะผมต้องทำอะไรสักอย่าง..ไม่เอาแล้วพิสงพิสูจน์อะไรนี้ผมไม่เอาแล้ว"
เขาพูดพลางอุ้มหญิงสาวมาที่โซฟารับแขกแล้วปลดกระดุมเสื้อหล่อนออกทีละเม็ด
"นั้นคุณจะทำอะไรค่ะคุณภู"
"ก็จะทำให้คุณเป็นของผมก่อนที่ใครจะมาแย่งคุณไปจากผมไง"
"ไม่นะคุณภู..คุณสัญญาว่าจะรอให้ฉันพร้อมก่อน"
"ตอนนี้ก็พร้อมแล้วไง"
"คุณ..อื่อ."
พูดจบชายหนุ่มก็ปิดปากอิ่มด้วยริมฝีปากหนาได้รูปของเขา เขาจูบหล่อนอย่างดูดดื่มเสียจนหญิงสาวเกือบจะสำลัก มือข้างหนึ่งตรึงข้อมือทั้งสองของหล่อนเอาไว้เหนือศีษระ อีกมือหนึ่งก็พยายามจะปลดตะขอบราตัวสวยของหล่อนออก เมื่อปลดสำเร็จริมฝีปากก็เปลี่ยนลงมาจูบไซ้ยอดอกที่ชูชันรับกับริมฝีปากของเขาทั้งสองข้าง
"ไม่นะคุณภู" เมื่อปากของหล่อนเป็นอิสระหล่อนร้องขอเขาเสียดังแต่มันกลับเป็นได้แค่เสียงกระซิบ เขาไม่ฟังหล่อนเลยหล่อนเริ่มหมดแรงที่จะต่อต้านเขาแล้วยอมให้เขาทำตามใจ น้ำตาเจ้ากรรมมันเริ่มไหลรินออกมาจากขอบตาสวย
ชายหนุ่มจูบไซ้ขึ้นไปจนถึงริมฝีปากแล้วครอบครองมันอีกครั้งเขาหยุดชะงักทันทีเมื่อเห็นน้ำตาที่ไหลออกมาจากตาของหญิงสาว
เอาแล้วไงนี่เขาทำให้หล่อนร้องไห้เหรอ เขาไม่ชอบน้ำตาของหล่อนเลยมันทำให้เขาเจ็บไปด้วย
เขาลุกขึ้นและมองภาพผู้หญิงที่นอนเปลือยผ้าผิวที่หน้าอกของหล่อนแดงช้ำด้วยฝีมือของเขาไหนจะริมฝีปากที่แดงเจือไปหมด
เขารีบคว้าร่างบางขึ้นมาโอบกอดเอาไว้ในอ้อมแขนพลางพูดขอโทษและปลอบหล่อนจากการร้องไห้
"ผมขอโทษผมไม่ได้ตั้งใจ..ผมจะไม่ทำอีกแล้วถ้าคุณยังไม่อนุญาต..หยุดร้องไห้เถอะนะคนดี..ผมเห็นคุณร้องไห้ผมรู้สึกเจ็บปวดไปกับคุณด้วย"
หล่อนยังร้องไห้ไม่หยุด หล่อนน้อยใจเขาที่เขาไม่ยอมหยุด หล่อนน้อยใจเขาที่เขาไม่ยอมฟังหล่อนพูด หล่อนน้อยใจเขาที่เขาเริ่มจะเบื่อหล่อนและกำลังจะจากหล่อนไปหาคนอื่น และหล่อนน้อยใจตัวเองที่หล่อนเผลอรักผู้ชายคนนี้เข้าไปแล้ว
หล่อนหยุดร้องไห้แล้วเพราะประโยคที่ชายหนุ่มพูดขึ้น
"ไม่ร้องไห้แล้วนะครับคนดี..ผมสัญญาว่าจะไม่ทำแบบนี้อีกถ้าคุณไม่เต็มใจ..แต่..ถ้าคุณยังอยู่ในสภาพนี้ผมจะถือว่าคุณเต็มใจให้ผมนะ" เขาพูดล้อ
หญิงสาวนึกขึ้นได้ก็รีบผละจากอ้อมแขนของเขาหันหลังและรีบติดกระดุมมือไม้สั่น เขาทำท่าจะเข้ามาช่วยแต่ถูกหญิงสาวห้ามเอาไว้ก่อน
"อย่าเข้ามานะ..เพราะใครล่ะที่ทำให้ฉันอยู่สภาพนี้"
"ก็ผมจะช่วยติดกระดุมให้คุณไงเพื่อเป็นการไถ่โทษ"
"ไม่ต้องมาตบหัวแล้วลูบหลังเลยนะ..ฉันจะฟ้องคุณย่า"
"จะฟ้องว่าไง..จะบอกว่าผมปล้ำเมียตัวเองเหรอ..คุณย่าได้รู้เรื่องแน่"
"ชิ" หล่อนค้อนเขาวงใหญ่เมื่อทำอะไรเขาไม่ได้เพราะเขาถือไพ่เหนือกว่า
"แล้วนั้นจะไปไหนเรายังคุยกันไม่จบเลยนะ"
ชายหนุ่มพูดขึ้นเมื่อเห็นหญิงสาวทำท่าจะลุกเดินออกไปแต่เขาก็ขวางเอาไว้แล้วจูงมือหล่อนมานั่งอยู่ที่เดิม
อีกล่ะประโยคนี้อีกหล่ะทำไมพวกผู้ชายถึงชอบพูดกันนะ หล่อนอยากจะไปทำใจก่อนยังไม่อยากจะพูดด้วยตอนนี้
"ฉันก็จะไปทำงานนะสิหายไปตั้งนานแล้ว..เดี๋ยวจะมีคนสงสัย"
"ไม่ต้องไปทำแล้วเดี๋ยวจะบอกให้ริณีไปลาให้..อยู่ที่นี้กับผมไม่ต้องไปไหนทั้งนั้น"
หล่อนย่นจมูกใส่ชายหนุ่มที่เดินตรงไปยังโต๊ะทำงานแล้วยกหูโทรศัพท์ขึ้นแล้วทำตามที่เขาพูดเมื่อกี้
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น