ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    fic❜GOT7▹ WHO..? #AllBam

    ลำดับตอนที่ #23 : CH.21(100%)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.79K
      42
      6 มิ.ย. 61

    21

     

     

                “แบม ถึงแล้ว” ยูคหันมมองคนที่นั่งข้างๆที่นั่งหลับเหมือนเด็กน้อย คอพับคอเอียง เขาไม่กล้าปลุกแบม เลยดับรถและเปิดประตูลง จะลงไปอุ้มอีกคนเข้าหอ

     

                “กลับมากันแล้วเหรอ” เสียงทุ้มแบบนี้จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากมาร์ค และข้างๆที่เดินมาติดๆคือยองแจ

     

     

    “จู่ๆก็วิ่งหนี ทำเอาตกใจหมด” ยองแจพูดแล้วกอดอกมอง

     

     

    “ขอโทษครับ!”ยูคยอมโค้งลง เพราะความผิดเต็มๆที่ลักพาตัวแบมไป ถึงจะบอกขอโทษกับจูเนียร์ไปแล้ว แต่เป็นใครก็ตกใจที่วิ่งหนีไปแบบนั้น

     

     

    ปลุกแบมซะ คนอื่นรออยู่” มาร์คเป็นคนพูด สิ้นเสียงของมาร์ค เขาและยองแจก็เดินเข้าบ้านไป ยูคยอมเดินไปประเปิดประตูฝั่งแบม และเอามือลูบหัวเบาๆ

     

     

    แบมถึงหอแล้ว” แบมแบมสะลึมสะลือตื่นแล้วเอามือขยี้ตาก่อนจะพยักหน้า

     

     

                BAMBAM.

     

                ผมลืมตาขึ้นมาและพบว่ายูคกำลังปลุกผมอยู่โดยการเอามือลูบหัว แบบนี้มันไม่ทำให้ง่วงกว่าเดิมเหรอ

     

                “พวกพี่เขารอคุยอยู่อ่ะ” ยูคพูด ผมขมวดคิ้วทันที และพยักหน้าเออออ ก่อนจะลุกหยิบกระเป๋าตัวเอง

     

     

                “ขอโทษนะแบมที่สร้างปัญหา” ยูคยอมพูด ผมไม่ได้ตอบอะไรพยักหน้ารับรู้ ตอนนี้ไม่มีอารมณ์จะด่าหรืออะไรทั้งนั้นครับ ง่วง!!!

     

     

                ผมเดินเข้าบ้านพร้อมยูคยอมและเดินตรงดิ่งไปที่ห้องรับแขก และเห็นว่าทุกคนมานั่งกันพร้อมหน้าพร้อมตา

     


                ไปไหนกันมาไม่ทันจะได้นั่งพี่บีก็ถามขึ้นมาด้วยความรวดเร็ว เหมือนกลัวว่ายูคจะฉุดผมไปอีกรอบ

     

     

                พาแบมไปปรับความเข้าใจมาครับ” ยูคยอมตอบ … ผมรู้สึกขัดใจกับคำตอบ มันเหมือนว่าผมกับเขาเป็นอะไรกันอย่างนั้นแหละ

     

     

                ทำไมไม่บอกดีๆละ” พี่บีทำหน้าเข้มแล้วจ้องเขม็งมาที่ผม เหมือนผมเป็นคนผิด ไม่ใช่คนที่ยืนอยู่ข้างๆผม

     

     

                “อารมณ์ชั่ววูบละมั้ง”ยูคตอบ

     

     

                “ดูคำตอบของมัน - -*”พี่แจ็คสันพูดแล้วขยี้หัวตัวเองเหมือนหงุดหงิด

     

     

                คุยแค่นี้ใช่ไหมจะไปนอน”พี่เนียร์พูด และหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่น

     

     

                “อ้อ พรุ่งนี้จะมีคนมาปลุกเราทั้งสองคนตอนตีห้านะครับ ถ้าตื่นมาเตรียมตัวก่อนก็ดี” พี่บีบอก ผมเลิกคิ้ว

     

     

                “เอ้าเริ่มแล้วเหรอวะ ทำไมปีนี้เร็ว” พี่ยองแจหันไปมองพี่บี

     

     

                อะไรอ่ะครับ? อะไรเร็ว คือเรื่องอะไร

     

     

                “พรุ่งนี้ตื่นเช้าดีไหมน้า”พี่แจ็คพูดแล้วหัวเราะออกมา มันมีอะไรอ่ะครับ

     

     

                “มีอะไรเหรอครับพรุ่งนี้?”ผมถามไป แต่ทุกคนกลับส่ายหน้าพร้อมกันเป็นคำตอบ

     

     

                “ไม่บอกครับพี่แจ็คพูดแล้วยิ้ม

     

     

                ไปนอนได้แล้ว เดี๋ยวเพลีย”พี่บีพูด

     

     

                ผมชักอยากจะรู้แล้วนะครับว่ามันมีอะไรกันแน่!!

     

     

                “ป่ะ น้องเมทไปนอนกัน” พี่ยองแจเดินมาจูงมือผมเหมือนหมา เดินขึ้นไปห้องนอน ผมก็เดินต้อยๆตาม แต่ในหัวก็คิดว่าพรุ่งนี้มันมีอะไรกันแน่

     

     

                “พี่ยองแจพรุ่งนี้มีอะไรอ่ะ”ผมถามพี่ยองแจที่เดินออกมาจากห้องน้ำ ผมนอนไม่หลับเพราะกังวลพรุ่งนี้เนี้ยแหละ

     

     

                “ไม่บอก :X ”พี่ยองแจเดินมานอนบนเตียงข้างๆผม ผมสะดุ้งแล้วขยับหนี

     

     

                เฮ้ยๆ พี่มานอนอะไรเตียงผมเนี้ย” ผมลุกขึ้นนั่งแล้วมองอีกคนที่นอนสบายอยู่บนเตียงผม

     

     

     

                “แค่มานอนเล่นเฉยๆ ลงมานอนด้วยกันมา พี่ไม่ทำอะไรหรอก” พี่ยองแจพูดเหมือนจะไว้ใจได้ แต่ในใจผมก็แอบกลัว

     

     

                “เออแบม ชอบกินอะไรอ่ะ”พี่ยองแจไม่ได้หันมามองผม แต่มือก็ไถโทรศัพท์

     

     

                “ผมชอบกินหมูกระทะ” ผมบอกไป อ่า พูดแล้วก็หิวเลยเนี้ย

     

     

     

                “ไม่ใช่บุฟเฟต์ดิ อาหารที่ทำได้อ่ะ”ผมขมวดคิ้ว พี่ยองแจหันโทรศัพท์มาทางผม

     

     

     

                ‘100 เมนูอาหารทำเองง่ายๆสะดวก

     

     

     

                ผมเลิกคิ้ว พี่ยองแจลุกขึ้นมานั่งข้างผม

     

     

                “มาเลื่อนดูกัน ถ้าชอบอันไหนให้บอก” พี่ยองแจพูดแล้วเปิดรูปไปทีละรูป

     

     

                “พี่จะทำให้ผมกินเหรอ?ผมถาม พี่ยองแจพยักหน้าเป็นการตอบ

     

     

                จะกินได้เหรอครับ ผมไม่อยากท้องเสียนะ” ผมพูดแล้วหัวเราะ พี่ยองแจก็เอามือมาเขกหัวผมทีนึง

     

     

                “โอ้ยเจ็บนะครับ” ผมเอามือลูบหัวตัวเอง

     

     

                “นี่ทำอาหารอร่อยที่สุดในหอแล้วรู้ป่ะ ไม่อยากจะโม้

     

     

                ตอนนี้ก็โม้อยู่ …

     

     

                ผมไม่ได้ตอบอะไรไปแต่พยักหน้ารัวๆเป็นการรับรู้ พี่ยองแจก็เลื่อนเมนูต่อ ผมอยากกินผักผัดอ่ะ แต่ไม่ใช่ผัดกระหล่ำปลี อ่านึกออกแล้ว!

     

     

                “พี่ยองแจผมอยากกินผัดบล็อคโคลี่”ผมบอก พี่ยองแจหันหน้ามามองแล้วทำหน้ายี๋ๆ

     

     

                “แบมชอบกินเหรอ” พี่ยองแจทำหน้าสะอิดสะเอียน นี่ไม่ชอบกินผัก?

     

     

                “ชอบดิอร่อยออก พี่ไม่ชอบเหรอ” ผมถามกลับ

     

     

     

                “ไม่ชอบ แต่ถ้าแบมอยากกิน เดี๋ยวทำให้กิน” พี่ยองแจเลื่อนมือมาหยิกแก้มผมเบาๆ

     

     

                “เห้ยจะตีหนึ่งแล้วเหรอ”ผมเหลือบไปเห็นนาฬิกาบอกว่าตอนนี้จะตีหนึ่งแล้ว พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้า ผมผลักๆดันพี่ยองแจให้ลุกไป

     

     

                “พี่ผมจะนอนละๆๆ พี่กลับไปที่เตียงเดี๋ยวผมไม่ตื่น

     

     

                “ได้ครับได้ครับ ลุกละ”พี่ยองแจลุกไปที่เตียงของตัวเอง ผมล้มตัวลงนอน และก่อนที่จะหลับตา ผมไม่ลืมที่จะตั้งนาฬิกาปลุก

     

     

                “ปิดไฟด้วยนะครับผมนอนละฝันดีครับ” ผมคลุมโปง และหลับตา ผมได้ยินเสียงตะกุกตะกักก่อนไฟในห้องดับลง

     

     

                “ฝันดีแบม” เสียงสุดท้ายที่ผมได้ยิน และหลังจากนั้นผมก็ไม่ได้ยินอะไรเลย …

     

     

     

     

                ปรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด

     

     

     

                ปิ๊ด! ปิ๊ด! ปิ๊ด!

     

               

                “น้องปีหนึ่งหออากาเซครับ!!!!!!!!!!!!!!!”

     

     

     

                “ภายในห้านาทีออกมาหน้าหอ พร้อมใส่เสื้อยืดกางเกงวอร์ม!!!!!”

     

     

     

                “เฮือก!” ผมลุกขึ้นทันทีที่สิ้นเสียง มีเสียงเป่านกหวีดไม่หยุด อะไรกันวะ ผมหันไปมองที่เตียงพี่ยองแจ กลับไม่มีคนนอนอยู่ พี่เขาไปไหนแล้ว

     

                ผมลุกขึ้นหยิบกางเกงวอร์มขึ้นมาใส่

     

     

                ผมเดินไปที่ประตูห้องและเห็นว่ายูคออกมาจากห้องเหมือนกัน

     

     

                มีอะไรวะ”ผมถามยูคด้วยความงง แล้วเสียงเป่านกหวีดก็เร่งขึ้นมาเรื่อยๆ ทำให้ผมแถบหายใจไม่ออก มันเร่งเร้าเหลือเกิน

     

     

                “รับน้องป่ะ รีบไปเหอะ” ผมกับยูควิ่งลงมา และออกมาหน้าหอ พบรุ่นพี่ที่ไม่เคยเห็นหน้าสามคนยืนอยู่หน้าหอ

               

     

     

                “มายืนตรงนี้ครับปีหนึ่ง!” รุ่นพี่คนนึงที่น่าจะเป็นคนเป่านกหวีด ถือโทรโข่งแล้วสั่งให้ผมไปยืนข้างหน้า ผมให้ยูคยืนนำหน้าไปก่อนเลย แล้วผมต่อหลังยูค

     

     

                ทำไมมากันแค่นี้!!” พี่เขาตะโกนผ่านโทรโข่ง

     

    พี่จะตะโกนทำไมแค่เสียงโทรโข่งก็ดังแล้วไหมครับ

     

     

                เห้ยมึงหอนี้มีแค่สองคน”มีรุ่นพี่คนนึงเดินเข้ามากระซิบข้างหูพี่คนที่เหมือนจะเป็นหัวหน้า(?) แต่ถึงกระซิบผมก็ได้ยิน

     

     

                “ครบแล้วใช่ไหมครับ ตอบ!ตะคอกอีกรอบ เสียงดังจนผมอยากจะปิดหู

     

     

                ครับ!!” ผมตอบพร้อมยูค พี่เขาพยักหน้าเป็นการตอบ ผมไม่ได้แปรงฟันไม่ได้ล้างหน้าอะไรทั้งนั้น มันเป็นสถานการณ์บีบคั้น กลิ่นปากผมจะมีรึป่าววะ

     

     

                ตามพวกผมมาครับ” พี่คนนั้นพูดและเดินออกมา พี่อีกคนแนบข้าง ส่วนอีกคนก็เดินตามหลังมา คุมเหมือนนักโทษเลย ผมว่าแบบนี้ไม่ผิดแน่ๆ มันคือการรับน้อง ผมไม่ค่อยสนใจกับกิจกรรมของทางมหาลัยสักเท่าไหร่ แค่เรื่องตัวเองนี่ยังสับสนเลย

     

     

     

                ตอนนี้ผมพวกผมเดินเข้ามหาลัยไปและกำลังเดินเข้าสเตเดี้ยมของมหาลัย ผมเคยมาที่นี่ครั้งนึงตอนรายงานตัว

     

                พอเข้าในสเตเดี้ยมก็ต้องพบกับคนมากมายที่คาดว่าจะโดนให้ปลุกมาเหมือนกัน ดูเหมือนว่าผมกับยูคจะเป็นสองคนสุดท้าย

     

     

                “เชิญนั่งครับ” พี่เขาพูดแล้วให้พวกผมนั่งรวมกับคนอื่น

     

     

                “เขาจะให้ทำอะไรวะ” ผมได้ยินจากคนข้างหลังคุยกัน ผมเงี่ยหูฟัง

     

     

                “เห็นว่าจะให้ลงโคลนวะ” ผมมองสภาพตัวเองตอนนี้ เสื้อขาว … ไม่น่าเลยตู

     

     

                หมับ

     

     

                คนข้างผมไม่ใช่ใครที่ไหนก็ยูคเนี้ยแหละ จับมือผม

     

     

                เห้ย จับไมวะ” ผมหันไปมองหน้าอีกคนแล้วดึงมือออก แต่ยูคกับจับแน่นกว่าเดิม

     

     

                “ใครทำอะไรมึง กูจับต่อยหมด กูปกป้องมึงเอง” ทำเป็นเข้ม ผมดึงมือผมออก

     

     

                “ไปดูแลตัวเองก่อนดีกว่าป่ะ” ผมพูดแล้วผลักหัวยูค

     

     

                “อยากเป็นพระเอกมั่ง” ยูคทำท่าเซ็ง ผมเลยหัวเราะออกมา

     

     

                “พระเอกอะไรมึง” ผมต่อยมันไปทีนึง ผมไม่รู้ว่าทำไมมันถึงมารุกกับผมขนาดนี้ เขาชอบผมเหรอ?

     

     

                หรือแกล้งผมกันแน่?

     

     

     

                “สวัสดีครับปีหนึ่งทุกคน ยินดีต้อนรับเข้ามหาลัยนะครับ” เสียงคุ้นเคยมากๆ  ผมเงยหน้าไปมอง

     

     

                “พี่บีเหรอวะ” เสียงยูคยอมพูดขึ้นมา ใช่ครับ นั่นพี่บีครับ เป็นคนถือไมค์พูดต่อหน้าทุกๆคนในมหาลัย

     

     

                “วันนี้เราจะทำการรับน้อง รบกวนพี่ๆคัดเลือกน้องออกมาด้วยครับ” พี่บีพูด รุ่นพี่นับ 100 ได้มั่งต่างก็เดินเข้ามาในวงรุ่นน้อง และพาตัวออกไปทีละคน

     

     

                ทำอะไรกัน?

     

     

                น้องลุกขึ้นด้วยค่ะ” มีพี่คนนึงเดินมายูคแล้ว ยูคมองหน้าผมแล้วหันไปบอกพี่เขา

     

     

                “พาคนนี้ไปด้วยได้ไหมครับ?” ยูคบอกกับพี่เขา แต่พี่คนนั้นส่ายหน้าและจับแขนยูคให้ลุกขึ้นแล้วเดินไปทันที อ้าวแล้วผมละ

     

     

    ผมเห็นรุ่นพี่พาน้องนับสิบยี่สิบคน ออกจากสเตเดี้ยมไป แต่ผมไม่มีใครมาพาไปเลย

     

     

                “น้องครับ น้องคนนั้นอ่ะ มากับพี่ด้วยครับ” เสียงมันดังมาจากข้างหลังผม

     

     

                “เห้ยน้อง หันมาสิครับ นั่งนิ่งทำไม”มีคนขัดขืนเหรอวะ ทำไมพี่เขายังเรียกอยู่

     

     

                “จะไปไหมครับ” เสียงมันใกล้มากเหมือนได้ยินข้างหู  ผมหันไปมองและพบว่าพี่ยองแจยื่นหน้ามากระซิบข้างหู

     

     

                “พี่ยองแจ!!ผมตะโกน

     

     

                ไม่ทันไรพี่ยองแจก็จับมือผมและเดินออกมาจากสเตเดี้ยมเลยครับ นี่มันเกินอะไรครับ อธิบายผมที

     

                บังเอิญจังเลยนะ เป็นรูมเมทเราไม่พอ ยังมาเป็นพี่เลี้ยงเราอีก

     

     

                พี่ยองแจพูดขณะที่เดินมาข้างนอก มีคนนั่งกันเป็นกลุ่มๆ อยู่ตามที่ต่างๆของข้างนอกสเตเดี้ยม เหมือนจะมีเป็นฐานๆไป เข้าฐานเหรอ?

     

     

                แต่เดี๋ยวก่อนพี่เลี้ยง?

     

     

                “พี่เลี้ยง? คืออะไรอ่ะครับ” พี่ยองแจพาผมมานั่งในกลุ่มนึง ผมนั่งลงและพี่เขาก็เลื่อนหน้าลงมาหาผมที่นั่งอยู่

     

     

                “คนที่ดูแลเราทั้งวันนี้ไง” พี่เขายิ้มอ่อนได้แบบน่ากลัวมากครับ รู้สึกว่าวันนี้มันต้องมีอะไรสักอย่างแหละน่า ต้องเป็นอะไรที่พลิกชีวิตผม(เว่อร์ไป) ตามนั้นแหละครับ รู้สึกหายใจไม่คล่องไงไม่รู้

     

     

                “แบมแบมใช่ป่าว?” ผมได้ยินเสียงคนเรียกผมมาจากด้านหลัง ผมเลยหันไปมอง …



    ______________________________________

    จบไปแล้วอีกตอน ขอบคุณที่ยังติดตามนะคะ
    ตอนหน้ากะจะให้เป็นสเปเชี่ยวยองแจหลัง
    จากนี้จะเป็นเนื้อเรื่องรักแย่งตบ(?) ถ้าจบสเปครบทุกคน
    ขอบคุณที่ติดตามค่ะ 

    _______________________________________


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×