ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [2PM] CNN : I'M YOUR MAN

    ลำดับตอนที่ #4 : CHAPTER IV

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 141
      2
      30 มิ.ย. 58

    © themy butter

    CHAPTER IV

              “ยังตอบไม่ครบเลยนะครับคนสวย เมื่อกี้ผมถามด้วยว่ามีแฟนหรือยังเอ่ย?” ผมเบือนหน้าหนีทันที ไม่ใช่เพราะเขินนะครับ คือมันเอือม จะว่าไงดีล่ะ ชื่อผู้ชายขนาดนี้ยังจะเรียกผมว่าคนสวย เหนื่อยใจกับมันจริง ๆ แล้วจะตอบยังไงดีล่ะ ถ้าตอบว่าไม่มีแฟนมันจะต้องรุกหนักกว่านี้แน่นอน

              ม..ไม่บอ...”

              “เห้ย พวกแก ยัยนี่เป็นเมดส่วนตัวของฉัน ห้ามมายุ่ง ถ้าไม่รู้จากนี้ก็รู้ไว้ซะ..” ดูจากบริบทคำพูดแล้ว คงไม่ต้องเดาล่ะครับว่าเจ้าของประโยคนี้เป็นใคร ต้องเป็นนายท่านเจ้ากรรมนายเวรของผมแน่นอน

              “เป็นคนของคุณชานซองเหรอครับ ขอโทษด้วยครับ ผมไม่ทราบมาก่อนกลุ่มผู้ชายที่ซุบซิบกันว่าจะมาจีบมาขอเบอร์บัดนี้ได้สลายหายไปกับฝูงชน รวมถึงสายตาอื่น ๆ ที่จ้องมองก็หายไปเช่นกัน เป็นเมดของหมอนี่ก็มีข้อดีเหมือนกันแฮะ รู้สึกเหมือนมีที่คุ้มกะลาหัวเลย

              “ทำงานวันแรกก็ร่านมาหาผู้ชายเลยงั้นเหรอ ไม่รู้หรือไงว่าฉันรอนาน...” โอ้โห ดูคำพูดสิ นี่ถ้ามันไม่ใช่ลูกอธิการบดีที่มีเส้นใหญ่เส้นยาว(?)ขนาดนี้ ผมอาจจะชกมันไปสักเปรี้ยง

              “ไม่ใช่ซะหน่อย..”

              “หางเสียงหายไปไหน” ชานซองถามเสียงเข้ม ทำไมต้องเข้มด้วย มันผิดมากขนาดนั้นเลยหรือยังไง คิดแล้วก็...

              “ค..ค่ะ(ก็ได้วะ)” ผมได้แต่ก้มหน้างุด เผด็จการจริงๆ นะหมอนี่

              “ช้า ทำงานไม่ได้เรื่อง ไม่ต้องไปซื้อแล้ว วันนี้ฉันจะกินข้าวข้างนอก” ชานซองจับแขนผมแล้วลากไปที่รถ

              รถของชานซองสีดำขลับ ดูท่าทางหรูมาก ๆ เป็นยี่ห้อที่ผมไม่คุ้นตา และผมคิดว่าจะต้องแพงมากแน่ ๆ เพราะผมบ้านจนนี่นา รู้จักแต่รถยี่ห้อตลาดที่เขาขายกันทั่วไปเท่านั้นล่ะ รถหรูหราอะไรไม่รู้จักสักอย่างหรอก

              “ขึ้นไป” ชานซองสั่งเสียงเรียบ ผมทำตามอย่างว่าง่าย แล้วเจ้าตัวก็ขึ้นไปนั่งฝั่งคนขับ

              “ทำงานไม่ได้เรื่องแบบนี้ สงสัยจะโดนลงโทษตั้งแต่วันแรก” ชานซองหันมาพูดพลางแสยะยิ้มใส่ผมอย่างน่าสยองขวัญ

              ..ขนลุก..

              นี่แค่วันแรกที่ผมมารับใช้ชานซอง ผมก็ไม่ได้เรื่องจนจะโดนไล่ออกจากมหาวิทยาลัยนี้แล้วเหรอ ตอนนี้ในหัวผมมีแต่ความเครียด ถ้าผมโดนไล่ออกจริง ๆ แล้วผมจะทำยังไง ผมจะมองหน้าพ่อแม่ติดไหม พ่อแม่จะรู้สึกยังไง แทนที่จะเรียนจบเอาใบปริญญากลับบ้านแล้วหาเงินเลี้ยงชีพพ่อแม่ กลับเรียนไม่จบเพราะดันไปมีเรื่องกับกับลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของอธิการบดีมหาลัย

              แอร์ในรถเย็นฉ่ำ แต่ผมกลับรู้สึกร้อน เหงื่อแตกเต็มตัว นี่ผมเครียดมากไปหรือเปล่า? ความจริงมันอาจจะไม่ได้โหดร้ายอย่างที่คิดก็ได้มั้งผมพยายามปลอบใจตัวเอง

              ชานซองขับรถออกจากมหาวิทยาลัยเข้ามาในตัวเมือง ตอนนี้ก็ค่ำแล้ว ร้านเหล้า ผับต่าง ๆ ก็ทยอยเปิดร้าน แล้วนี่จะพาผมไปกินข้าวที่ไหนกันล่ะเนี่ย หวังว่าจะไม่พาเข้าสถานที่อโคจรพวกนั้นนะ ในสภาพชุดนี้ผมรู้สึก..(โคตร)ไม่พร้อม

              “บทลงโทษข้อที่หนึ่ง...” ม..มันกำลังจะมาแล้วบทลงโทษ ผมหลับตาปี๋ ลุ้นในชะตากรรมตัวเอง

              “ข้าวไม่ต้องกิน กินเหล้าแทน” ...ฟู่ว โล่งไป ที่ยังไม่ใช่ไล่ออก ว่าแต่ เดี๋ยวก่อนนะ...

              “ต..แต่ผมไม่ดื่มแอลกอฮอล์นะ” ผมเถียงเสียงดัง ชานซองคงไม่ได้คิดจะฆ่ากันทางอ้อมหรอกใช่ไหม ท้องว่างกับแอลกอฮอล์นี่มันนรกมาก แล้วยิ่งผมไม่ถูกกับแอลกอฮอล์อย่างแรง หมอนี่อยากเห็นผมหมดสภาพมากใช่ไหม

              “สรรพนามเธอผิดอีกแล้ว.. เอาบทลงโทษนี้แหละ ถ้าทำไม่ได้ก็ลาออกไป!” ชานซองพูดเสียงเรียบหน้าตาย ยอมกินนิดหน่อยดีกว่าโดนไล่ออกหมดอนาคต ไม่มีเงินไปเลี้ยงพ่อแม่นะจุนโฮ ท่องไว้

              ชานซองกำลังขับรถมาจอดยังลานจอดรถของร้านเหล้าแห่งหนึ่งที่ดูหรูหรา ในร้านมีผู้คนอยู่เล็กน้อยประปรายต่างจากร้านข้างเคียงในบริเวณนั้น สาเหตุอาจจะเป็นเพราะราคาสูงเกินกว่าที่นักศึกษาทั่วไปจะมานั่งก็ได้กระมัง

              ผมเดินตามชานซองลงมายังร้านเหล้าหรูที่ว่า จากนั้นมีพนักงานสาวนุ่งสั้นจำนวนมากเกินจำเป็นออกมาต้อนรับ อาห์.. อย่าบอกนะว่าร้านนี้เป็นกิจการของพ่อหมอนี่น่ะ

              “สวัสดีค่ะคุณชานซอง วันนี้มา 2 ที่เหรอคะ จะรับอะไรดีคะ?” สาวนุ่งสั้นหนึ่งในนั้นพูด

              “วันนี้ขอ Grey Goose เอามาแค่ขวดเดียวพอ” ชานซองสั่งเครื่องดื่มที่ผมไม่รู้จักไป ผมได้แต่ภาวนาว่าให้มันเป็นแค่เครื่องดื่มที่ไม่แรงมากเถอะ สาธุในใจ

              “เชิญทางนี้ค่ะ” สาวนุ่งสั้นคนที่เหลือเดินนำทางเราสองคนไปยังโซนวีไอพี ดูส่วนตัวดีแฮะ ท่าทางราคาจะไม่ใช่เบา ๆ ด้วย ทำไมหมอนี่ต้องลงทุนขนาดนี้เพื่อที่จะทำโทษเขาด้วยนะ หรือจะเป็นแบบที่ใคร ๆ เขาว่า ว่าคนรวยทำได้ทุกอย่างเพื่อความสุขของตัวเอง

              “จ..จะให้กินจริง ๆ เหรอคะ” ผมมองชานซองอย่างเกร็ง ๆ ไม่กล้ามองตรง ๆ วุ้ย กลัว

              “ยัยงี่เง่า เธอคิดว่าฉันจะล้อเล่นหรือไง? หึ อย่าบอกนะว่าทำไม่ได้?”

              “ทำได้ค่ะ!!” ผมตอบอย่างไม่คิดชีวิตเลย ณ จุด ๆ นั้น

              .

              .

              .

              .

    เช้าวันรุ่งขึ้น   

              ผมรู้สึกปวดหัวมากครับ สงสัยจะเมาค้างเสียแล้ว วันนี้โชคดีที่ไม่มีเรียน เมื่อวานหลังจากกระดกไอ้ของเหลวที่ชานซองเรียกมันว่า Grey Goose ลงไป ผมก็รู้สึกมึนตั้งแต่อึกแรก รสชาติของมันบาดคอผมมาก ๆ ผมนึกว่าผมกำลังกินเหล้าขาว 40 ดีกรีตรารวงข้าว ที่คนเมาแถวบ้านผมชอบพูดถึง แต่ผมจะคิดเสียว่ามันคือรวงข้าวราคาแพงแล้วกันนะครับ

              ไม่รู้ว่าเมื่อคืนผมไปทำวีรกรรมอะไรไว้บ้าง ไม่รู้เรื่อง เมา มึน ผมพยุงตัวขึ้นจากเตียงแล้วก็มองไปรอบ ๆ ปรากฏว่า ที่นี่ไม่ใช่หอของผมและพี่มินจุน เตียงนี้ก็ไม่ใช่เตียงของผมด้วย อย่าบอกนะว่า...

              “อืมมม...มมม...” เสียงครางของคนนอนหลับที่อยู่ข้างตัวผมดังขึ้น แย่แล้ว แล้วอย่างนี้เมื่อคืนนี้ผมโดนทำมิดีมิร้ายอะไรไปบ้างหรือเปล่าเนี่ย ว่าแล้วก็เช็คสภาพตัวเอง

              ..เสื้อผ้าอยู่ครบ..

              เห้อออ โล่งอกไปที ผมสะบัดความคิดเรื่องอยู่บนที่นอนกับชานซองออกจากหัว ก่อนจะค่อย ๆ ลุกขึ้น ก่อนจะ

              “ห..เห้ยยยย!!!!!” ชานซองที่ผมคิดว่าหลับอยู่ อยู่ดี ๆ ก็ดึงตัวผมลงไปกอดซะแน่น อย่างกับผมเป็นหมอนข้าง หน้าผมแนบอยู่กับแผงอกของชานซอง กลิ่นกายแบบผู้ชายโชยเข้าจมูก แต่โอยยย.. อึดอัด หายใจไม่ออก เวียนหัวด้วย

              “อูยองงี่ คิดถึงจางงงง~” ชานซองพูดขึ้นมา แต่ดูจากน้ำเสียงและชื่อที่หมอนี่เรียก ผมค่อนข้างมั่นใจมากว่ามันกำลังละเมอ! อูยองคือใคร? ผมผลักตัวเองออกจากอ้อมกอดของชานซอง แต่อีกคนแรงเยอะกว่ามาก พอผมพยายามดิ้น ชานซองก็รวบแขนผมทั้งสองข้างไว้เหนือหัวด้วยมือข้างเดียว ต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว ไม่งั้นแย่แน่ ๆ

              “นายท่านคะฉันไม่ใช่อู....อื้อออออ..ออออ” ผมยังพูดไม่ทันจบประโยค ชานซองประกบริมฝีปากลงมายังริมฝีปากของผมอย่างรุนแรง ไม่นะ!! จูบแรกของผม.. จากที่ตอนแรกผมรู้สึกมึนหัวเพราะเมาค้าง ตอนนี้สร่างเลยครับ ผมพยายามที่จะหาทางปลุกให้ชานซองตื่น ดิ้นก็แล้ว อะไรก็แล้วก็ยังไม่ได้ผล ผมก็เลยกัดลิ้นของชานซองไปเต็ม ๆ

              “โอ้ยยยย!!!!” ชานซองที่เพิ่งตื่นทำหน้าเหวอแรงมากที่เห็นผมอยู่ตรงนี้ แทนที่จะเป็นอูยองในฝันของมัน(?) จึงรีบถอนริมฝีปากออกแล้วลุกขึ้น

              “ธ..เธอมาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง” ผมไม่ตอบคำถามชานซอง ตอนนี้ผมอยากจะร้องไห้ให้ได้เลย พ่อของผมเคยบอกว่าควรมอบจูบแรกให้กับผู้หญิงที่เป็นคนสำคัญหรือเป็นรักแรก และผมก็มีคนที่ตั้งใจจะมอบให้แล้วด้วย แต่จูบแรกของผมกลับเป็นคนไอ้หมอนี่ละเมอมาจูบ!

              ‘ผัวะ!’ ผมต่อยหน้าชานซองไปหนึ่งหมัดก่อนจะวิ่งออกมาจากห้องมันทั้งน้ำตา บ้าจริง ให้มันได้อย่างนี้สิจุนโฮ นี่แกจะอ่อนแอขนาดสู้ใครไม่ได้เลยหรือไง แย่ แย่มาก ๆ

              ผมวิ่งมาจนถึงหอของผม เจอพี่มินจุนเปิดประตูสวนออกมาพอดี

              “อ้าวจุนโฮ เป็นอะไร ร้องไห้ทำไม”

              “พี่มินจุนครับ จ..จูบแรกของผม ฮรืออออออออออออออออออ” เมื่อเจอหน้าพี่ชายที่รัก ผมก็ปล่อยโฮแล้วโผเข้ากอดทันที

              “ใจเย็นก่อน มีอะไรค่อย ๆ คุย เข้ามาในห้องก่อนมา” พี่มินจุนตบหลังผมเบา ๆ 2-3 ครั้ง จากตอนแรกที่พี่มินจุนดูเหมือนจะออกไปข้างนอก ตอนนี้กลับจูงมือผมเข้ามาในห้อง

              “พี่มินจุนครับ ไอ้ชานซอง..ฮึกก  ไอ้ชานซองมันจูบผม!!!” ผมโวยวายไปร้องไห้ไป รู้สึกเฟลในชีวิตเอามาก ๆ ความซวยที่เกิดขึ้นใน 3 วันที่ผ่านมานี้คือสิ่งที่ผมสมควรจะได้รับแล้วงั้นหรือ?

              “โถ่ เรื่องแค่นี้เองจุนโฮ มองโลกในแง่ดีเข้าไว้สิ อย่างน้อยเขาก็ไม่ได้ทำอะไรรุนแรงกับแกนะ” ดูเหมือนพี่มินจุนจะคิดว่าจูบไม่ใช่เรื่องใหญ่ ก็แหงสิ พี่เค้าเคยจูบแล้วนี่นา

              “ต..แต่ว่...”

              “ไม่ต้องแต่ ถ้าแกคิดจะขอคำแนะนำจากฉัน ถามฉันร้อยรอบฉันก็จะแนะนำให้แกทำยังไงก็ได้ไม่ให้โดนไล่ออก” พี่มินจุนสวนขึ้นมาหลังจากที่ผมกำลังจะเถียง

              “ฉันต้องไปเรียนแล้ว หยุดคิดเล็กคิดน้อยในเรื่องไร้สาระแล้วนอนพักซะ อย่าให้เป็นห่วง” พูดเสร็จพี่มินจุนก็เดินออกจากห้องไป

              หยุดคิดเล็กคิดน้อยงั้นเหรอ ถ้าคิดซะว่ามันเป็นแค่เรื่องบังเอิญ แล้วไม่นับว่ามันเป็นจูบแรกก็คงจะไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหม? แล้วผมก็เพิ่งนึกขึ้นได้ว่า ไม่น่าไปต่อยชานซองแบบนั้นเลย อุตส่าห์ยอมไปเป็นเมดให้มันตั้ง 1 วัน ถ้าโดนไล่ออกถือว่าขาดทุนมาก! เอาเถอะ ไว้ทำใจได้แล้วจะไปขอโทษแล้วกัน

              .

              .

              .

    Chansung’s Part

              หลังจากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันเมื่อกี้แล้ว ผมนั่งมึนงงอยู่บนเตียงประมาณ 10 นาทีกว่าสมองของผมจะกลับมาประมวลผลตามปกติ รู้สึกเจ็บนิดหน่อยกับแผลที่ลิ้น ผมลุกขึ้นจากเตียงเพื่อที่จะมาอาบน้ำให้หายฟุ้งซ่าน แต่เรื่องจูบนั่นก็ยังทำให้ผมหายคิดมากไม่ได้

              ..หวาน..

              ในฝันของผม นั่นเป็นจูบที่หวานมากเสียจนผมคิดว่าจุนโฮเป็นอูยองจริง ๆ อ้อลืมแนะนำไปสินะครับ อูยองหรือจางอูยองคือคู่หมั้นของผมเอง ที่ผมคิดถึงอูยองมากไปจนละเมอได้ขนาดนี้ก็เพราะว่าตอนนี้อูยองดรอปเรียนไปหาประสบการณ์ที่ประเทศแถบยุโรปครับ แล้วก็ไม่ต้องแปลกใจที่ผมมีคู่หมั้นเป็นผู้ชายหรอกครับ เราหมั้นกันด้วยเหตุผลที่เป็นเรื่องของของผู้ใหญ่ทั้งนั้น ผมเองก็ไม่อาจทราบได้หรอกครับว่าเหตุผลนั้นคืออะไร ครั้งแรกที่โดนจับให้หมั้นกับอูยอง ผมคัดค้านในทันที  ใครมันจะบ้าไปมีคู่หมั้นเป็นผู้ชายกันล่ะ ตัวผมเองไม่ใช่เกย์เสียหน่อย ยังชอบผู้หญิง ยังปกติดี แต่พอได้รู้จักกันนาน ๆ เข้าก็พบว่าอูยองไม่ได้เลวร้ายแบบที่ผมคิด ออกจะอ่อนหวาน เรียบร้อย พูดน้อย เย็นชาเล็กน้อยเสียด้วยซ้ำ ถึงหน้าตาจะคล้ายกันแต่ก็ไม่แสบแบบยัยเมดจุนโฮ

              มีหลายครั้งที่เผลอนึกว่าอูยองเป็นผู้หญิง จนอูยองต้องบอกผมว่าจะให้เขาแต่งตัวเป็นผู้หญิงก็ได้นะ ผมจะได้ไม่รู้สึกอายขายขี้หน้าใครที่มีคู่หมั้นเป็นผู้ชาย โอ้โหหห ดูความดีงามของอูยองสิครับ และความดีงามของอูยองนี่เองที่ทำให้ผมรู้สึก ชอบ จริง ๆ ขึ้นมา แต่ดูท่าทางแล้วอาจจะเป็นชอบข้างเดียวก็ได้ครับ บางทีความเย็นชาของอูยองก็ทำให้ผมรู้สึกหวั่น ๆ ว่าจะแห้ว

              อาบน้ำเสร็จผมก็หยิบหนังสือนิติปรัชญาขึ้นมาเล่มหนึ่ง ก่อนจะหย่อนก้นตัวเองลงบนโซฟาหรูสีคราม ยังไม่ทันจะเปิดหน้าแรก เหตุการณ์เมื่อเช้าก็วนกลับมาในหัว ยัยตุ๊ดจุนโฮทำผมไว้แสบมาก จะปลุกกันดี ๆ ก็ไม่ได้ นี่ต้องกัดลิ้นให้ผมเสียเลือด ผมไม่ใช่คนปลุกยากขนาดนั้นเสียหน่อย (เหรอ) ผมแอบเห็นว่าจุนโฮร้องไห้ แค่เรื่องจูบอะไรมันจะขนาดนั้น แต่ว่าตั้งแต่บังคับยัยนี่มารับใช้ นี่ก็เป็นครั้งแรกแฮะนี่เห็นว่าร้องไห้ จะให้ไปขอโทษงั้นหรือ? ไม่มีทางหรอก นอกจากเสียว่ายัยเมดงี่เง่านี่จะมาขอโทษเรื่องที่กัดลิ้นผมจนได้แผลก่อนน่ะนะ!!

              .

              .

    End Chansung’s Part

    รีดเดอร์ได้รับข้อมูลของตัวละครเพิ่ม 1 ea


              .

              .

    ห้องพักอาจารย์แทคยอน

              ‘ก๊อก ก๊อกเสียงเคาะประตูกระจกใสดังขึ้น อาจารย์หนุ่มผิวเข้มชูคอชะเง้อมองอีกด้านของกระจกใสก็พบว่าเป็นประธานนักเรียนชาวต่างชาตินั่นเอง

              “เข้ามาก่อนสิ” แทคยอนเดินไปเปิดประตูให้

              แทค ฉันมีเรื่องจะปรึกษา” เสียงนุ่มทุ้ม สำเนียงแปร่ง ๆ เอ่ยขึ้น

              “ว่าไงล่ะ คุนนี่~”

    .

    .

    .

    - TO BE CONTINUE –

    รีดเดอร์ได้รับข้อมูลของตัวละครเพิ่ม 1 ea


    .

    .

    .

    บ่น

    ในที่สุดก็ออกมาซะทีตัวละครลับทั้ง 2

    เราจะไม่อัพเดทที่หน้าแนะนำนิยายค่ะ

    แต่เราจะอัพเดทในตอนเดียวกัน เพื่อไม่เป็นการสปอยล์ผู้อ่านมากเกินไป !!

    ทำเหมือนเควสเกมเลยอะ 55555555555

    อ่านถึงตอนนี้ปุ๊บมีอันนี้อันนี้เด้งขึ้นมาเรื่อย ๆ ไรงี้

    หวังว่าจะมีคนอ่านนะคะ >__< จะเงาไม่เงาไม่รู้อะ อ่านก็ดีใจแล้วววว

    เข้ามาคุยกันที่ @Aisenpie ได้เน้อ <3

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×