คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : CHAPTER II
อ่านตรงนี้ก่อน !! : Font ที่ใช้ในการแต่งฟิคเรื่องนี้คือ TH SarabunPSK นะคะ มันอาจจะอ่านยาก มองยากสักนิดนึง รีดเดอร์สามารถกดเพิ่มขนาดตัวอักษรได้ตรงปุ่มด้านบนขวามือเลยนะคะ :)
CHAPTER II
“พูดด้วยแล้วทำหยิ่งไม่ตอบเหรอ ? หึ นายรู้มั้ยว่าฉันเป็นใคร ? ฉันคือ ‘ฮวาง ชานซอง’ ลูกชายอธิการบดีของมหาลัยนี้เลยนะ ฉันบอกพ่อให้ไล่แกออกได้ง่าย ๆ ถ้าแกยังไม่ตอบอีกฉันจะ..”
“เห้ พอแล้วน่าชานซอง ไม่เห็นรึไงว่าไอ้ลูกหมานั่นมันกลัวจนตัวสั่นหมดแล้ว” คนที่จุนโฮเดาว่าน่าจะเป็นเพื่อนของชานซองเดินเข้ามาห้าม พลางตบบ่าชานซองเบาๆ แล้วพูดต่อ
“ไหนรีบไปหาพี่เลี้ยงคนสวยไงวะ จะสนใจทำไม”
“เออว่ะ เอ้อนี่ไอ้ลูกหมา เอาเบอร์แกมา เสร็จรับน้องฉันจะมาคิดบัญชีที่แกหยิ่งกับฉัน”
จุนโฮที่กำลังเอ๋อกับเหตุการณ์ทั้งหมดได้แต่นิ่ง เมื่อกี้มันอะไร นายชานซองอะไรนี่เป็นคนชนเขาแท้ ๆ แต่กลับไม่ขอโทษ ซ้ำยังบอกว่าเขาหยิ่งใส่ แล้วนี่ยังมาขอเบอร์เค้าไว้อีก นี่มันบ้าอะไรเนี่ย พอคืนสติได้จุนโฮจึงสาดคำพูดกลับ เขาไม่ใช่คนยอมคนง่ายๆ อยู่แล้ว
“ล..แล้วทำไมต้องให้ด้วย นายเป็นคนชนฉันก่อนแท้ ๆ ขอโทษสักคำยังไม่มี ไร้มารยาทจริง” ทันทีที่ได้ยินคำพูดจากไอ้ลูกหมา ชานซองก็กระชากคอเสื้อให้จุนโฮลุกขึ้นมาประจันหน้าตนใกล้ ๆ
“ฉันให้โอกาส แก ! ขอ ! โทษ ! ฉัน ! เดี๋ยว ! นี้ !!!” ชานซองตะโกนใส่หน้าจุนโฮแบบชัดถ้อยชัดคำด้วยโทสะล้น เรื่องกิจกรรมรับน้องและพี่เลี้ยงคนสวยไม่อยู่ในสมองของฮวางชานซองอีกต่อไป ตอนนี้เขาต้องการให้คนตัวเล็กขอโทษตน พลางคิด ไอ้ลูกหมานี่มันเป็นใครกันนะ ทำไมมันกล้าหือกับเขาได้มากขนาดนี้ ถ้าเป็นปกติเจอแบบนี้เขากระทืบเละจนนอนตายอยู่โรงพยาบาลแล้ว แต่แววตาไม่ยอมคนของคนตัวเล็กข้างหน้ามันบ่งบอกอะไรบางอย่าง อะไรบางอย่างที่เขารู้สึกว่าต้องได้ค้นหา
“ไม่ขอโทษ !” จุนโฮยังคงดื้อต่อไป ไม่มีเหตุผลที่เขาต้องยอมขอโทษไอ้หมีควายตรงหน้าเลย
“หึ งั้นช่วยตามมาที่ห้องพักครูคณะนิติศาสตร์ในอีก 1 ชั่วโมงข้างหน้าด้วยนะ อยากรู้ว่าจะอวดดีได้ถึงเมื่อไร” ชานซองพูดทิ้งท้ายไว้ก่อนจะเดินออกไป
“แล้วอย่าคิดจะเบี้ยวหรือหนีล่ะ โทษของนายอาจจะหนักกว่าเดิม พวกฉันตามตัวนายได้ไม่ยากอยู่แล้ว” เพื่อนของชานซองพูดเสริมก่อนจะเดินตามหัวหน้าแก๊งออกไปจากสนามกีฬากลาง ทิ้งให้จุนโฮอยู่เพียงลำพัง
อ..ไอ้บ้านั่น !! มันเรียนคณะเดียวกับเราเหรอ ?! เรียนคณะนิติศาสตร์ เรียนกฎหมาย แถมยังเป็นลูกอธิการบดีอีก แต่ยังมีหน้ามาใช้อำนาจพ่อแบบนี้ หน้าไม่อายจริง ๆ จะโดนไล่ออกอย่างที่มันว่าจริง ๆ ไหมเนี่ย หรือแค่อยากขู่ให้กลัว ? ว่าแต่เดี๋ยวก่อน นี่มันกี่โมงแล้วนะ จุนโฮคิดพลางมองนาฬิกาข้อมือสีเหลืองสดของตน '02.30 PM'
"เห้ยยยยยย" เลยเวลารับน้องมาตั้งครึ่งชั่วโมงแล้ว เรื่องไอ้หมีควายบ้านี่ไว้ก่อน ไปร่วมกิจกรรมก่อนดีกว่า แล้วก็เดินเข้าไปยังสนามกีฬา
ห้องพักคิมมินจุน & อีจุนโฮ
'ก็อก! ก็อก! ก็อก!'
“ใครมันมารบกวนเวลาเรานอนเนี่ย ถ้าไม่สำคัญพ่อจะตบเข้าให้เลย” มินจุนบ่นกับตัวเองพลางลุกจากเตียงเดินมาเปิดประตูห้อง
“อ๊ค แทคยอน นายอีกแล้ว มีธุระอะไรนักหนา ห๊ะ!? ฉันไม่อยากเจอนายก็ช่วยอย่ามาให้ฉันเห็นหน้าจะได้มั้ย?” พอเห็นหน้าอาจารย์หนุ่ม มินจุนก็ร่ายคำบ่นยาวเหยียด แต่แทคยอนก็หาได้สนใจไม่ ยังคงทำหน้าทำตายิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ตลกอาการของมินจุนเสียมากกว่า
“อย่ามัวแต่ยิ้ม สรุปมีธุระอะไรก็ว่ามาสิ เอ้ออออ ถ้าไม่มีอะไรฉันจะไปนอนต่อแล้วนะ ขับรถเหนื่อย ง่วงโคตร” มินจุนพูดเสร็จก็งับประตูปิดคืน แต่ยังไม่ทันจะปิดสนิท แทคยอนจอมเจ้าเล่ห์ก็แทรกตัวผ่านประตูเข้ามา
"เห้ยยย ออกไปปปป จะเข้ามาทำไม ไอ้แมวบ้า !!” มินจุนพยายามดันให้แทคยอนออกจากห้องของตน แต่คนตัวโตมีน้ำหนักมากเกินกว่าที่แรงของเขาจะสามารถผลักให้ออกไปได้
“โถ่ มินจุน ทำไมนายชอบผลักไล่ไสส่งฉันนักหนานะ แค่อยากมาเล่นด้วยนิดหน่อยเอง” มินจุนจ้องหน้าแทคยอนอย่างอารมณ์ไม่เล่นด้วย
“ฉันไม่อยากเล่นกับนาย ฉันจะนอนว้อยยยย คุยภาษาคนไม่รู้เรื่องรึยังไง” คนตัวเล็กเหวี่ยงใส่
“งั้นฉันนอนด้วยสิ...”
“....”
“....” ทั้งคู่เงียบกริบ มินจุนหรี่ตาอย่างสงสัยในตัวคนข้างหน้า ก่อนจะถาม
“ขอนอนด้วย? นี่นายล้อเล่นหรือนายล้อเล่นวะ? รู้ทั้งรู้ว่าฉันไม่ชอบหน้านาย แล้วยังมีหน้ามา...”
“ไม่รู้ล่ะ ฉันจะนอน แล้วตอน 5 โมงเย็นปลุกฉันด้วย มีสอน” คิมมินจุนยังพูดไม่ทันขาดคำ อ๊คแทคยอนผู้หน้าด้านก็พูดสวน แล้วกระโจนตัวเองใส่เตียงของอีจุนโฮ
“เห้ยยยยยยย ไอ้บ้า ตื่นนนนน !!!!” มินจุนพยายามดึงแทคยอนออกจากเตียงของน้องชายตนเอง ก่อนจะพบว่ามันไม่มีประโยชน์เลย
“zzzzzz”
“แน่ะ ยังจะกรนดัง จริง ๆ เลยไอ้บ้านี่!” บ่นเสร็จก็เอากำปั้นทุบอกคนตัวโตกว่าไปทีนึงด้วยความหงุดหงิด จากนั้นเดินไปปิดประตูห้อง แล้วก็นอนหลับบนเตียงของตัวเอง
.
.
แทคยอนผู้แกล้งหลับแอบลืมตาขึ้นมานิดนึงเพื่อมองหน้ามินจุน คนที่เขาแอบชอบมาตั้งแต่สมัยที่เขาเข้ามาบรรจุเป็นอาจารย์ที่นี่ ครั้งแรกที่แทคยอนเจอมินจุนนั้น คือในคลาสภาษาอังกฤษเพื่อดนตรีที่เขาสอน ซึ่งนักศึกษาคณะศิลปกรรมศาสตร์ชั้นปีที่ 1 ทุกคนต้องเรียนวิชานี้
- ย้อนความ –
“เอาละครับ นักเรียนทุกคน วันนี้เป็นคลาสแรกของพวกเราเนอะ แม้ว่าอาจารย์คนอื่นจะไม่สอน แต่ผมไม่อยากให้เวลาสูญเปล่าไป” นักเรียนทั้งคลาสทำหน้าโอดครวญ
“วันนี้ผมจะยังไม่เข้าเรื่องเกี่ยวกับดนตรี แต่อยากจะรู้พื้นฐานภาษาอังกฤษของทุกคนก่อน..” แทคยอนที่กำลังพูดอยู่หน้ากระดาน สายตาเหลือบไปเห็นนักศึกษาคนหนึ่งที่ไม่ได้ตั้งใจฟังเขา นักศึกษาคนนั้นมีกระดาษโน้ตเพลงอยู่บนโต๊ะและกำลังเขียนตัวโน้ตเพิ่มลงไปอย่างตั้งใจ เขาจึงต้องคิดหาวิธีที่จะเรียกร้องความสนใจจากนักศึกษาคนนั้นให้ฟังที่เขาพูด
“งั้นก่อนอื่น ผมอยากทราบ ว่าปิดเทอมของแต่ละคนเป็นอย่างไรบ้าง ให้ออกมาพูดที่หน้าชั้นเป็นภาษาอังกฤษนะ” จนแทคยอนพูดจบประโยคนี้แล้ว นักศึกษาคนเดิมนั้นก็ไม่ได้มีท่าทีว่าจะเตรียมบทพูดหรือให้ความสนใจเขาขึ้นมาเลย
“นี่..” แทคยอนเดินมาเคาะโต๊ะที่มินจุนนั่งเขียนโน้ตเพลงอยู่
“ค..ครับ..?” มินจุนทำหน้าตกใจมากที่อาจารย์ทราบว่าเขาไม่ได้ตั้งใจเรียนอยู่ จึงรีบเก็บของที่อยู่บนโต๊ะอย่างรวดเร็ว แต่เหมือนว่าจะไม่ทันเสียแล้ว
“คุณชื่ออะไรครับ” แทคยอนถาม
“คิม มินจุนครับอาจารย์” มินจุนตอบเหงื่อตก
“ไหนเมื่อกี้ผมพูดว่าอะไรบ้าง?” แทคยอนแกล้งถามยิ้ม ๆ
“พ..พูดว่า...เอ่อ...เราจะยังไม่เริ่มเรียนวันนี้ครับ กลับบ้านได้” มินจุนตอบมั่ว
จากนั้นทั้งคลาสรวมทั้งแทคยอนก็หัวเราะขึ้นมา
“ถ้ายิ่งอยากกลับระวังผมจะปล่อยช้ากว่าเดิมนะครับ คุณคิมมินจุน” แทคยอนยิ้มอย่างเจ้าเล่พลางเน้นเสียงตอนที่เรียกชื่อมินจุน
“...” มินจุนก้มหน้า
“โอ้ ผมกำลังหาคนที่จะออกมาพูดที่หน้าชั้นเป็นภาษาอังกฤษในหัวข้อ ‘ปิดเทอมของฉัน’ พอดีเลยครับ คุณคิมมินจุน กรุณาออกมาเล่าเรื่องปิดเทอมของคุณให้ทั้งคลาสได้ฟังด้วยนะครับ”
มินจุนลุกขึ้นจากโต๊ะเลคเชอร์ที่ตัวเองนั่งอยู่ค่อย ๆ เดินไปยังหน้าชั้นพลางทำหน้าคิด ดูท่าทางไม่ค่อยมั่นใจเลย ไม่ถนัดภาษาอังกฤษแหง
“At holiday, I play with my dogs very fun and I..” ผิดตั้งแต่เริ่มเลยแฮะ แทคยอนต้องกลั้นขำเพราะไม่อยากให้นักศึกษาของเขาไม่มั่นใจในการพูดภาษาอังกฤษไปมากกว่านี้
“and I write…”
“โอเค พอแล้ว เชิญกลับที่นั่งครับคุณคิมมินจุนจะเห็นได้ว่าพื้นฐานค่อนข้างไม่ดีนะครับ ปิดเทอมที่ผ่านมามันเป็นอดีตครับ ต้องใช้ Past Tense หรือเท้นซ์อดีต แต่ที่คุณคิมมินจุนใช้เป็น Presents Tense…”
.
.
เวลาได้ดำเนินมาจนถึงท้ายชั่วโมง แทคยอนเห็นสีหน้าของมินจุนไม่ค่อยดีเลย ดูอึดอัดในการเรียน เหมือนจะรู้สึกขายหน้ามากที่ถูกเรียกออกมาให้พูดหน้าชั้นแบบนั้น แทคยอนจึงตั้งใจจะเรียกมินจุนออกมาพูดให้กำลังใจ
“คิมมินจุน อยู่ก่อนนะครับ อย่าเพิ่งกลับ ผมมีเรื่องจะพูดด้วย”
คนอื่น ๆ ได้ทยอยออกจากห้องเรียนไปกันหมดแล้ว เหลือเพียงแทคยอนและมินจุน
“ว่าไงครับอาจารย์” มินจุนทำหน้าตาค่อนข้างกลัวที่จะถูกเขาหักคะแนนกระมัง?
“เราเกิดปีเดียวกัน คราวหลัง ถ้าไม่ได้อยู่ในคลาสก็ไม่ต้องเรียกผมว่าอาจารย์ก็ได้นะครับ”
“หา..?!” มินจุนกำลังเรียกสติของตัวเองให้กลับมา สรุปอาจารย์คนนี้ต้องการจะสื่ออะไร จะเรียกเขาไว้เพื่อพูดเรื่องแค่นี้น่ะหรือ?
“อ้อ แล้วก็ที่เรียกมาเนี่ย จะบอกว่า ถ้าตั้งใจเรียนภาษาอังกฤษให้มากกว่านี้ เวลาออกมาพูดหน้าชั้นจะได้ไม่พูดผิดพูดถูก จะได้ไม่อายเพื่อนเนอะ ฮ่า ๆ” แทคยอนพยายามพูดติดตลก มินจุนจะได้ไม่เครียด
“ครับ” มินจุนพูดเสียงเรียบ ดูเหมือนว่าเขาจะทำให้มินจุนหงุดหงิดเล็กน้อย เอ? เขาพูดอะไรผิดไปหว่า หวังว่ามินจุนจะเข้าใจว่าเขาให้กำลังใจนะ
- จบย้อนความ –
ตั้งแต่นั้นมา แทคยอนก็แอบมองมินจุนมาโดยตลอด การคุยกัน เจอกันครั้งแรกมันอาจจะธรรมดาไปสักหน่อย แต่ด้วยระยะเวลา 1 ปีเต็มที่เขาแอบมองคน ๆ นี้ เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าไปชอบตอนไหน รู้ตัวอีกทีก็ชอบแล้ว ชอบมาก ชอบแกล้ง J
แทคยอนลุกขึ้นจากเตียงของจุนโฮ เดินมายังเตียงของมินจุนแล้วเอาผ้าห่มขึ้นมาห่มให้มินจุนดี ๆ จากนั้นก็โน้มหน้าเข้าไปใกล้คนตัวเล็ก และแอบจุ๊บเข้าที่หน้าผากเบา ๆ ก่อนจะออกจากห้องนอนของมินจุนและไปทำงานต่อ
.
.
05.00 PM
ฮู่วววว กิจกรรมรับน้องวันแรกเสร็จเสียที เต้นจนปวดเอวหมดแล้ว อยากกลับไปนอนจัง จุนโฮคิด ขณะที่เดินออกมาจากโรงยิม จุนโฮก็เพิ่งนึกได้ว่าลืมอะไรบางอย่างไป
‘ตายละ ลืมไปเลยว่าต้องไปหาไอ้บ้านั่น...’
“นี่ ไอ้ลูกหมา มันเลยเวลานัดกับลูกพี่ฉันมาตั้ง 2 ชั่วโมงแล้ว แกอยากโดนดีมากใช่ไหม” นั่นไง พูดยังไม่ทันขาดคำ สมุนของไอ้หมีควายก็โผล่มาแล้ว เหมือนจะมาดักรอเราด้วยแฮะ..
“ฉ..ฉันเพิ่งเข้ากิจกรรมรับน้องเสร็จเองนะ จะไปหาลูกพี่นายได้ยังไงกัน”
“ในมหาลัยนี้ไม่มีกิจกรรมไหนสำคัญกว่าคำสั่งของลูกพี่ฉันอีกแล้ว อย่ามาเนียน มานี่!” ลูกสมุนของไอ้หมีควายเดินมาจับแขนของจุนโฮลากให้เดินตาม แต่จุนโฮพยายามจะบัดออก
“จะไปไหน! ไม่ไปนะ! รุ่นพี่ครับ ช่วยผมด้วย!” จุนโฮพยายามขอความช่วยเหลือจากรุ่นพี่สตาฟฟ์กิจกรรมรับน้องที่กำลังทำหน้าตกใจที่เห็นจุนโฮร้องขอความช่วยเหลือ
“ถ้าไม่อยากมีเรื่องกับลูกพี่ชานซอง อย่าเสนอหน้ามาช่วยไอ้เด็กนี่เว้ย!” ไอ้ลูกสมุนตะโกนไปทางรุ่นพี่สตาฟฟ์ ทุกคนจึงทำหน้าเป็นปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ในมหาลัยนี้มันเป็นแบบนี้กันไปหมดแล้วหรือ? ทำไมต้องกลัวกันหมดด้วย ใหญ่ขนาดนั้นเลยหรือไง มันจะละเมิดสิทธิส่วนบุคคลกันเกินไปแล้วนะ ได้เพียงคิดในใจ ตอนนี้จุนโฮโดนลากมาจนถึงห้องพักครูคณะนิติศาสตร์แล้ว
“เข้าไปสิ” ลูกสมุนของไอ้หมีควายถีบส่งจุนโฮเข้าไปในห้อง
ในห้องพักครูมีเพียงอาจารย์สูงอายุคนหนึ่ง และฮวางชานซอง..
“หึ กำลังรออยู่เลย แกทำฉันเสียเวลามา 2 ชั่วโมงแล้วนะรู้ไหม ไอ้เบื๊อก!” ชานซองทำท่าจะเดินมาชกจุนโฮ แต่อาจารย์ที่นั่งอยู่ในนั้นได้ลุกขึ้นมาห้ามปรามไว้
“ใจเย็น ๆ ค่ะคุณชานซอง กิจกรรมรับน้องเพิ่งจะเลิกเองนะคะ” อาจารย์สูงอายุได้พยายามพูดให้ชานซองอารมณ์เย็นขึ้น
“ป้าออกไปก่อนไป ผมจะเคลียร์กับไอ้เบื๊อกนี่ 2 คน” แต่ชานซองก็ไล่อาจารย์ออกจากห้องพักครู บัดนี้มีเพียงชานซองและจุนโฮประจันหน้ากันอยู่ในห้องพักครู
“ไง นายยังไม่คิดจะขอโทษฉันอีกเหรอ” ชานซองพยายามควบคุมอารมณ์จึงเปลี่ยนสรรพนามที่ใช้เรียกจุนโฮ
“ก..ก็นายเป็นคนวิ่งมาชนฉันเองนี่ ฉันต้องขอโทษจริง ๆ เหรอ” จุนโฮก้มหน้างุด ถึงจะปากเก่งแต่เอาจริง ๆ ในใจกลัวมาก ๆ ไม่รู้ว่านายหมีควายคนนี้มันจะทำอะไรได้บ้าง แต่ดูจากท่าทางแล้วน่าจะทั้งไล่เราออกได้ ทั้งบีบเราตายคามือได้เช่นกัน
ชานซองค่อย ๆ เดินเข้ามาใกล้จุนโฮช้า ๆ ก่อนจะกระชากหัวจุนโฮให้เงยหน้าขึ้น
“โอ้ย! มันเจ็บนะ!” จุนโฮโวยวาย
“คุยกับฉัน ใครใช้ให้ก้มหน้าคุย?” ชานซองออกแรงกระชากมากกว่าเดิม
“โอ้ยยยย !!!! เงยแล้ว!!!! ทีนี้ก็ปล่อยผมฉันซะทีสิ จะหลุดออกหมดหัวแล้วนะ!”
“หึ ตัวเองจะโดนดีอยู่แล้ว ก็ยังพูดจาดี ๆ ไม่เป็นนะ” ชานซองกัดฟันสะกดอารมณ์
“นอกจากการใช้กำลังแล้ว นายคงทำอย่างอื่นไม่เป็นเลยสินะ!!” จุนโฮก็ยังไม่ยอมลดละ โอ้ยยย ปากนะปาก ทำไมไปท้าทายเขาแบบนั้นล่ะ ถ้าโดนไล่ออกจะทำยังไงเนี่ย เขาไม่อยากทำตัวเป็นภาระพ่อแม่ที่ยากจนไปมากกว่านี้นะ..
“แล้วอย่างการ ‘ไล่ออก’ นี่เป็นอย่างอื่นนอกจากการใช้กำลังไหม? ฉันก็ทำเป็นนะ หึ”
.
.
.
- TO BE CONTINUE –
.
.
.
TALK TIME !!
ครั้งนี้ย้ายมาแต่งใน word แทนเพราะไม่ได้ทำงานที่บ้านนอกแล้ว
มีคอมใช้แล้วเย้เฮฮฮฮฮ ~ รอบที่แล้วแต่งสั้นมากค่ะ ตอนนี้พยายามให้ยาวขึ้น
แต่งเรื่องนี้คือกะเล่นแบบ SM เต็มที่ค่ะ จุนโฮบอบช้ำแน่นอน //เมนนุ้งอย่าตบเค้า
ใครคิดว่ามันจะโรคจิต/มีเนื้อหาที่รุนแรงยังไงสามารถกด x กาออกไปได้นะ
เราเขินแรงที่ต้องแต่ง แต่เราฟิน ยอมเขินละกัน 5555555
ใครเล่นทวิตเตอร์ทักเรามาพูดคุย/แนะนำ/เสนอพล็อตหรืออื่น ๆ ได้นะคะ
@Aisenpie นี่แอคเราเองง ~~~~
เราไม่อยากให้ติดแฮชแท็กมาพูดคุยแบบฟิคเรื่องอื่นอะ
คือเราเป็นโรคจิตอย่างนึงค่ะ คือเรารู้สึกว่าถ้าทำแฮชแท็กไป
จะต้องไม่มีคนเล่นกับเราแน่เลย 555555 รู้สึกเฟลในตัวเอง
เอาเป็นว่าถ้าใครอยากคุยหรืออื่น ๆ ก็คอมเม้นต์หรือทักมาในทวิตได้นะคะ
ความคิดเห็น