คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : CHAPTER III
CHAPTER III
“แล้วอย่างการ
‘ไล่ออก’ นี่เป็นอย่างอื่นนอกจากการใช้กำลังไหม?
ฉันก็ทำเป็นนะ หึ” ชานซองแสยะยิ้มใส่จุนโฮ เยาะเย้ยในชะตากรรมของจุนโฮข้อหาที่ปากดีใส่เขา
รวมถึงข้อหาที่ปล่อยให้ลูกน้องที่เขาส่งไปดักรอนานถึง 2 ชั่วโมง
นั่นไง..
จุนโฮนะจุนโฮ ทีนี้จะทำยังไงดีละเนี่ย.. ดูจากท่าทางของชานซองที่สั่งอาจารย์ได้ราวกับสั่งคนรับใช้แบบนั้น
น่าจะไล่เราออกได้จริง ๆ สินะ
“แต่ถ้านาย
‘อ้อนวอน’ กราบเท้าฉันงาม ๆ สักครั้ง
อาจจะพอลดโทษให้ได้อยู่นะ” ยังไม่สาแก่ใจชานซอง เขายังต้องการที่จะเล่นสนุกกับจุนโฮอยู่จึงแกล้งพูดไป
แม้ว่าในใจจะกะไล่ออกอยู่แล้วก็ตาม
ณ
จุด ๆ นี้ อีจุนโฮละทิ้งความหยิ่งยโส ศักดิ์ศรีทุกอย่างในชีวิต
แล้วคุกเข่ากราบเท้าชานซอง
คิดเพียงแค่ว่าเขาไม่ต้องการให้พ่อแม่ต้องมาลำบากเพราะการกระทำของเขา
“ฉ..ฉัน
ข..ขอโทษ พ..พอใจรึยังเล่า” คนตัวเล็กเงยหน้าแล้วทำหน้าสำนึกผิดเต็มที่
“ถ้านายยอมทำตามคำสั่งฉัน
ฉันอาจจะรู้สึกพอใจก็ได้นะ” ชานซองยิ้มกวน
จุนโฮเห็นชานซองได้คืบจะเอาศอกก็เริ่มโวยวาย
“อะไรกันน่ะ!
ไหนเมื่อกี้จะให้แค่กราบเท้าอย่างเดียวไง!?” ชานซองเดินมาใกล้
ๆ จุนโฮที่นั่งคุกเข่าอยู่แล้วเชยคางคนตัวเล็กขึ้น
“อีจุนโฮ
คิดดี ๆ นะ สภาพนี้นายยังต่อรองอะไรได้อีกงั้นเหรอ...?”
“....”
จุนโฮพยายามสะกดกลั้นอารมณ์ของเขาไว้ ไอ้หมีควายบ้านี่มันกวนตีนจริง ๆ
แต่ก็ต้องท่องไว้ว่าเขาจะโดนไล่ออกไม่ได้ เขาจะโดนไล่ออกไม่ได้..
“เงียบแปลว่าตกลง..
งั้นวันพรุ่งนี้เป็นต้นไป นอกเวลาเรียนของนาย นายต้องมาเป็น ‘เมด’ ส่วนตัวของฉัน ทำตามที่ฉันสั่งทุกอย่าง
จนกว่านายจะเรียนจบ ไม่งั้นนายโดนไล่ออก” ชานซองพูดขึ้นมาหวังแกล้งจุนโฮ
เขาคิดว่าคนหยิ่งอย่างจุนโฮอาจจะรับไม่ได้กับข้อเสนอแล้วลาออกไปเอง หรือถ้าจะฝืนทำก็คงจะเป็นภาพที่ตลก
บันเทิงเขาได้มากเลยทีเดียว ไม่ว่าจะทางใดเขาก็สนุกทั้งนั้น โอเค
คุ้มค่าที่อดทนไม่อัดเจ้าหมอนี่น่วมเข้าโรงพยาบาลไป
“ร..เรียกว่าพ่อบ้านหรือคนรับใช้ก็ได้มั้ง
ฉ..ฉันเป็นผู้ชายนะ” จุนโฮรู้สึกอายเป็นอย่างมาก แต่จะให้ทำยังไงล่ะ เขาจะโดนไล่ออกไม่ได้
(รีดเดอร์บอก เออกูรู้แล้ว มึงพิมพ์คำนี้ซ้ำมารอบที่ 3 แล้วไอ้ไรท์เตอร์)
“ผู้ชายงั้นเหรอ?
ฉันคิดว่านายเป็นตุ๊ดเสียอีก หน้าหวานอย่างกับอะไรดี ฮ่า ๆ ยัยตุ๊ด อย่าลืมพูดคะ
ขา แล้วเรียกฉันว่านายท่านด้วยล่ะ เดี๋ยวจะไม่ครบเครื่อง” ชานซองหัวเราะสะใจแรงมากที่ได้แกล้งจุนโฮ
เขาเกลียดคนตัวเล็กที่ต่อปากต่อคำกับเขา จะต้องทำให้รู้สึกแย่ที่สุดให้ได้
จุนโฮสั่นทั้งร่าง
ไม่แน่ใจว่าเขากำลังโกรธ กำลังกลัว หรือกำลังรู้สึกอย่างไรกันแน่..
“ฉ..ฉันไม่ใช่ตุ๊ดนะ! ว..ว่าแต่ถ้าฉันยอมทำจริง ๆ จะไม่ไล่ออกใช่มั้ย...” จุนโฮแหวขึ้นมาอย่างลืมตัว
แล้วก็พูดประโยคหลังอย่างหงอย ๆ
“อ้อ
นอกซะจากว่านายจะขัดคำสั่งฉันน่ะนะ ฉันจะไล่นายออกทันทีเลยล่ะ หึหึ”
“ก..ก็ได้
ห..ให้ทำอะไรก็ได้ ต..แต่อย่าไล่ออกเลยนะ!!”
จุนโฮทำหน้าทำตาอ้อนวอนชานซองอีกครั้ง
“ก็ดี
J
เดี๋ยวเรื่องชุดเมด ฉันจะให้ป้าเตรียมให้ พรุ่งนี้เลิกเรียนก็ไปหาฉันที่หอ
นายต้องคอยปรนนิบัติฉันที่นั่น” พูดจบ ชานซองก็เดินออกจากห้องพักครูไป
ทิ้งให้จุนโฮอยู่ในห้องเพียงลำพัง
‘ซวย’ คือคำเดียวที่จุนโฮจำกัดความของเหตุการณ์นี้ไว้
นี่เขาต้องไปรับใช้ไอ้บ้านี่น่ะเหรอ โอ้ยยย จุนโฮนะจุนโฮ
ขอโทษตั้งแต่ทีแรกก็ไม่เกิดเรื่องแบบนี้แล้ว จะหยิ่งทำไมกันนะ
ต่อไปนี้เขาจะต้องแก้นิสัยของตัวเองให้ได้ จะไม่หาเรื่องใส่ตัวเองอีกแล้ว ยิ่งบ่นยิ่งอยากร้องไห้
ฮืออออออ
ร่างเล็กทึ้งหัวตัวเองก่อนจะเดินออกมาจากห้องพักครูไปยังศาลารอรถเพื่อกลับหอ
แล้วก็นึกขึ้นได้ว่าในเวลาแบบนี้เขาควรจะกลับหอไปหาพี่มินจุนก่อนสินะ
พี่ชายของเขาคงจะให้คำปรึกษาอะไรเขาได้บ้างในเหตุการณ์แย่ ๆ แบบนี้ L
‘ตรู๊ด....ตรู๊ด.....’
“ฮัลโหล
จุนโฮเหรอ.. โทรมามีอะไรล่ะ ฮ้าวววว.. หรือจำไม่ได้ว่าต้องขึ้นรถสายไหนกลับหอ?”
เสียงมินจุนดูงัวเงีย ท่าทางพี่ชายของเขาจะเพิ่งตื่น
“เปล่าครับพี่มินจุน..”
จุนโฮทำเสียงหงอย
“แล้วเป็นอะไรรึเปล่าน่ะ
ทำไมทำเสียงแบบนั้นล่ะ?”
“เจอเรื่องนิดหน่อยครับ
เดี๋ยวผมจะรีบกลับไปเล่าให้ฟัง...”
.
.
.
ห้องพักคิมมินจุน &
อีจุนโฮ
“..เรื่องมันก็เป็นแบบนี้แหละพี่มินจุน
ผมอยากจะร้องไห้ให้ตายไปเลย ฮือออ ทำไมเรื่องแบบนี้ต้องเกิดกับผมด้วย
ทำไมผมต้องไปเป็นเมดรับใช้ไอ้หมีควายนั่นด้วย ฮืออออออ” มินจุนก็ได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดจากน้องชายก็คิดหนัก
ไม่รู้จะช่วยเหลือด้วยวิธีใด จุนโฮพยายามอดทนไม่ร้องไห้มาตั้งนาน ในที่สุดก็ต้องร่ำไห้ออกมาต่อหน้าพี่ชายของเขาจนได้
“เฮ้อ..
พี่ก็ลืมบอกแกไปว่าที่นี่น่ะ เล่นเส้นแรง ไม่ควรไปยุ่งกับพวกผู้มีอิท..”
“แต่ถ้าให้ว่ากันตามความจริงแล้ว
ผมไม่ใช่คนผิดนี่ครับ ไอ้บ้านั่นมันวิ่งมาชนผมชัด ๆ เลยนะ!” มินจุนที่ยังพูดไม่ทันจบประโยค ก็โดนจุนโฮสวนขึ้นมาทั้งน้ำตา
มินจุนเดินมาตบบ่าน้องชายที่นั่งอยู่บนเตียงของตัวเอง
“มันว่ายังไงก็คงต้องทำตามไปก่อนละนะ
ดูจากที่นายเล่ามาแล้วก็น่าจะมีอำนาจพอที่ไล่นายออกได้จริง ๆ....” จุนโฮทำหน้าบึ้ง
เบะใส่คนพี่ทันทีที่มินจุนพูดจบประโยคนี้
“แต่ถ้าเกิดเหตุการณ์อะไรร้ายแรงขึ้น
อย่างเช่น หมอนั่นมันทำร้ายร่างกายนาย ก็บอกฉันนะ ฉันจะไปคุยเรื่องนี้กับอธิการบดีด้วยตัวเอง”
ประโยคต่อมาของมินจุนช่วยให้จุนโฮรู้สึกดีขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพราะเขาก็ยังต้องไปเป็นเมดรับใช้ชานซองอยู่ดี
‘แอ๊ดดดดดดด...’
เสียงประตูห้องเรียกความสนใจจากสองพี่น้องไปได้
“ไง
อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาเลยนะ~”
เป็นแทคยอนนั่นเองที่เข้ามา มินจุนหยิบหนังสือข้างตัวขว้างไปที่อาจารย์หนุ่มอย่างไม่ลังเล
แต่อาจารย์หนุ่มก็รับได้สบาย ๆ
“แล้วทำไมนายถึงไม่เคาะประตูก่อนห๊ะ
มันเสียมารยาทรู้ไหม? ไม่สิ
ใครใช้ให้นายเข้ามา!!”
มินจุนโวยวายทันทีที่เห็นว่าแทคยอนรับหนังสือที่เขากะจะปาแสกหน้าได้อย่างสบาย ๆ
นี่ถ้ามันรับไม่ได้เขาอาจจะเปลี่ยนใจจากโวยวายเป็นหัวเราะสมน้ำหน้าแทน
“โถ่มินจุนที่รัก
ไม่คิดจะถามสักหน่อยเหรอว่าผมหายไปจากห้องคุณตั้งแต่เมื่อไรน่ะ
อ้าวแล้วนั่นจุนโฮเป็นอะไร ร้องไห้ทำไม ไหนเล่าให้ผมฟังซิ”
แทคยอนหันมาถามจุนโฮด้วยความเป็นห่วงทันทีที่เห็นว่าจุนโฮนั่งร้องไห้อยู่
“ผ..ผมไม่....”
“อย่ามายุ่งกับน้องฉัน
ออกไปได้แล้วไอ้บ้า แล้วไม่ต้องมาเรียกว่าที่รักด้วย ขยะแขยง!!!”
จุนโฮยังไม่ทันตอบจบประโยค มินจุนก็ผลักไสไล่ส่งแทคยอนอีกครั้ง
ชีวิตอ๊คแทคยอนช่างน่าสงสารอะไรเยี่ยงนี้
นี่เขาสอบโทอิคได้เต็มมาเพื่อพระแสงอะไรกันล่ะนี่ เพื่อให้คนที่เขาแอบชอบรู้สึกขยะแขยงเขาอย่างนั้นหรือ
(เกี่ยวไรวะ 555555555555) เขาสอบโทอิคได้เต็มเชียวนะ มินจุนควรจะปลื้มในตัวเขาสิ!?
(ยัง ยังไม่จบเรื่องโทอิคอีก)
มินจุนถีบเข้าไปที่หลังของแทคยอนเต็ม
ๆ เพื่อไล่ให้ออกจากห้อง นี่กะจะกระโดดถีบขาคู่ด้วยซ้ำถ้าไม่ติดว่าปวดเข่า
มินจุนคิด
“พี่มินจุน
ทำไมต้องไล่อาจารย์แทคยอนอย่างนั้นด้วยล่ะ
การที่เค้าโผล่มาน่ะทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นนะ อาจารย์เค้านิสัยแปลกดี
เห็นแล้วรู้สึกขำจนลืมความทุกข์วันนี้ไปเลยละครับ ฮ่าๆ”
จุนโฮถามขึ้นมาพร้อมบอกเล่าข้อดีของแทคยอนให้มินจุนผู้ไม่คิดจะรับฟังได้รู้
“ก็แกไม่ได้เจอแบบฉันน่ะสิ
หมอนั่นน่ะกวนประสาทจะตาย เลิกพูดถึงมันได้แล้ว รีบไปอาบน้ำนอนไป พรุ่งนี้ต้องไปเจอชานซองไม่ใช่รึไง
ปรับอารมณ์ดี ๆ ล่ะ อย่าไปวีนไปเหวี่ยงใส่เขาอีก เดี๋ยวซวยเพิ่ม เข้าใจมั้ย”
“อ..เอ่อ
ค..ครับ” จุนโฮตอบรับคำเสร็จ มินจุนก็กระโดดขึ้นเตียงของตัวเอง ห่มผ้า และหลับไป
จุนโฮทำตามคำแนะนำของมินจุน
เขารีบอาบน้ำและเข้านอน แต่ไม่ว่าจะพลิกตัวท่าไหนก็ไม่ทำให้นอนหลับลงได้เลย
ก็เรื่องของชานซองมันใช่เรื่องเล็ก ๆ ซะที่ไหนกันล่ะ...
.
.
.
วันรุ่งขึ้น
เมื่อคืนนี้จุนโฮนอนไม่หลับเลย
วันนี้เลยได้แต่สัปผงกในชั้นเรียน
เพราะมัวแต่คิดมากเรื่องที่เขาต้องไปเผชิญในช่วงเย็นของวันนี้ นอกจากจะง่วงแล้วยังปวดหัวอีก
ไข้ขึ้นหรือเปล่าเนี่ย..
‘ป้าบ!’
“โอ้ยยยยย! มันเจ็บนะรู้ไหม!”
เสียงดังป้าบที่มาพร้อมกับความเจ็บที่บริเวณศีรษะนี่มันอัลไลกัน
(วิบัติเพราะพอใจ) ใครมันมาแกล้งเขาเนี่ย คนยิ่งปวดหัว + นอนไม่พออยู่ ว่าแล้วก็เงยหน้าขึ้นมาด้วยความหงุดหงิด
ชานซอง...
“แค่มาเช็คสภาพดูว่ายังไม่ตาย
ฉันไม่อยากได้เมดสภาพร่อแร่” พูดเสร็จก็แสยะยิ้มใส่ สะใจมากเลยสินะ ไอ้บ้า!
“ฉันจะร่อแร่เพราะนอนไม่หลับ
มัวแต่เครียดเรื่องนายนี่แหละ ชิ” จุนโฮเบะปาก
นั่นยิ่งทำให้ชานซองรู้สึกชอบใจมากกว่าเดิม
“หึ
ไม่ต้องเครียดไปหรอก มีเรื่องน่าสนุกให้ทำตั้งเยอะ J”
.
.
.
.
อีจุนโฮ’s
Part (คือตอนนี้ไรท์สับสนค่ะ
ว่าจะใช้ใครบรรยายดี เอาเป็นว่าอย่าเพิ่งงงนะคะ จะพยายามเขียนกำกับไว้ 555555)
“เนี่ยอะเหรอเรื่องน่าสนุก
มันสนุกตรงไหนกันห๊า!!?” จุนโฮแหวออกมา ก็จะไม่บ่นได้ยังไงเล่า
ก็ไอ้หมอนี่มันใช้ให้เขาใส่ชุดเมดออกไปจ่ายตลาดข้างนอกแทนแม่บ้านที่มีหน้าที่ประจำ
นอกจากจะต้องใส่ชุดบ้า
ๆ นี่แล้วยังจะต้องเดินออกไปให้ประชาชีได้เห็นสภาพอันน่าอนาถของผมอีก
มีอะไรน่าอายไปกว่านี้ไหมเนี่ย
“ใครสั่งให้
‘เธอ’ บ่น? ถ้าไม่ทำตามระวังจะโดน ‘ทำโทษ’ นะ” ว่าแล้วก็ขออธิบายความ Unique ของฟิคเรื่องนี้สักนิดนะครับ คำว่าทำโทษ
ถ้ามันอยู่ในฟิคเรื่องอื่นรีดเดอร์ก็คงจะเข้าใจว่าเป็นการทำโทษแบบหื่น ๆ ใช่ไหมล่ะ
แต่ในเมื่อมันอยู่ในฟิคเรื่องนี้ซึ่งไอ้ไรท์เตอร์บ้าไม่พึงประสงค์ฉาก NC ทุกประการ มันก็เลยจะไม่ใช่แบบนั้นน่ะสิครับ ไอ้หมีควายนี่มันประกาศตัวเองชัดเจนว่าเป็นพวกซาดิสม์
มันจะต้องเอาแส้ฟาดผมแล้วเอาน้ำเกลือราดแผล หรือไม่ก็จับผมล่ามโซ่ขังไว้ในคุกใต้ดิน(?)แน่
ๆ เอ เดี๋ยวก่อน หรือว่าผมจะไม่สบายจนคิดอะไรพิสดารแบบนี้ออกมา
ความจริงมันอาจจะไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้นก็ได้กระมัง
“ไม่บ่นก็ได้ ขู่ได้ขู่ดีจริง ๆ เลยนะ” ผมเบะปากเป็นรอบที่หนึ่งร้อยยี่สิบห้าของวัน
“สงสัยจะได้ไล่ออก
ปฏิบัติตามข้อตกลงได้ไม่ครบ...” หืออ เขาพลาดอะไรไป
เขากำลังจะไปจ่ายตลาดให้อยู่ไม่ใช่เหรอ ข้อตกลงอะไรอีกล่ะ
“อะไรเล่า
ก็กำลังจะไปให้อยู่นี่ไง ใจเย็น ๆ สิ” พอเห็นว่าผมไม่เข้าใจสิ่งที่ตัวเองพูด
ชานซองจึงขยับปากมาใกล้ ๆ หูของผมแล้วพูดด้วยน้ำเสียงดุดัน
“ฉันสั่งให้เธอทำตัวเป็นผู้หญิง
พูดคะ ขากับฉัน รวมถึงใช้สรรพนามเรียกฉันว่านายท่าน.. แค่นี้ก็จำไม่ได้เหรอ
สมองกลวง” ด้วยความที่ผมเป็นคนที่มีความทะเยอทะยานสูงมาก
จึงอยากจะเถียงออกไปว่าผลการเรียนของผมน่ะอยู่ในระดับทอปนะ มาด่ากันสมองกลวงได้ยังไง
แต่ก็คงจะได้แต่เถียงในใจ จะมีชีวิตรอดอยู่ต่อในมหาวิทยาลัย ก็คงต้องยอมลดความหยิ่งและศักดิ์ศรีลงจริง
ๆ สินะ
“ค..ค่ะ
นายท่าน” โอ้ยยย พูดไปก็อาย นี่ต้องทนเรียกไอ้บ้านี่ว่านายท่านตลอด 4 ปีเลยเหรอ
อยากจบ 3 ปีครึ่งจัง ทำไมรุ่นผมต้องเป็นรุ่นแรกที่ห้ามจบก่อน 4 ปีด้วย
ไม่ยุติธรรมแรง
“ดี
รีบออกไปซื้อของแล้วกลับมาทำสปาเก็ตตี้พริกไทยดำกุ้งไม่ใส่หัวหอมและกระเทียมให้ฉันกินด้วย
หิวจะแย่แล้ว” เรื่องมากชะมัด ไอ้หมีควาย
เมื่อผมเดินออกจากหอของชานซองมาจนถึงตลาดมอ
(ย่อมาจากตลาดนัดประจำมหาวิทยาลัย) ผมก็รู้สึกได้ว่ามีสายตาประมาณสิบล้านคู่จ้องมองมาที่ผม
และเริ่มมีเสียงซุบซิบนินทาจากสายตาเหล่านั้น
“น้องคนนั้นน่ารักดีเนอะ
ใส่ชุดเมดขึ้นมากเลย”
“นั่นน่ะสิ
อยู่คณะไหนนะ จะตามไปจีบ”
“เห้ยยยย
น่ารักขนาดนี้ กูพลาดไม่รู้จักได้ไงวะ เอาไงดี มึงไปถามชื่อกับขอเบอร์ดิ๊”
“เห้ยจะบ้าเหรอ
กูมีแฟนแล้วเว้ย มึงอะอยากได้ก็ไปขอเองดิ แล้วเอามาแบ่งกูด้วย”
อ..เอ่อ
เสียงซุบซิบนินทาที่แปลกประหลาดนี่มันอะไรกันครับ พวกคุณจะไม่คิดว่าผมเป็นผู้ชายกันสักนิดนึงเหรอ
ผมเป็นผู้ชายนะโว้ยยยยยย
“ชื่ออะไรเหรอครับ
สวยขนาดนี้มีแฟนหรือยังเอ่ย ^^?”
หนึ่งในผู้ชายที่ซุบซิบกันเหล่านั้นเดินตรงมาหาผมประหนึ่งเดินมาจีบสาว นี่เขาจะไม่ลองใช้สมองไตร่ตรองพิจารณากันจริง
ๆ เหรอ
“ชื่อจุนโฮ..”
ชื่อเป็นผู้ชายขนาดนี้ควรจะรู้ตัวได้แล้วมั้งงงงงง
“ยังตอบไม่ครบเลยนะครับคนสวย
เมื่อกี้ผมถามด้วยว่ามีแฟนหรือยังเอ่ย ?”
ผมเบือนหน้าหนีทันที ไม่ใช่เพราะเขินนะครับ คือมันเอือมอะ จะว่าไงดีล่ะ
ชื่อผู้ชายขนาดนี้ยังจะเรียกผมว่าคนสวย เหนื่อยใจกับมันจริง ๆ แล้วจะตอบยังไงดีล่ะ
ถ้าตอบว่าไม่มีแฟนมันจะต้องหนักกว่านี้แหง =___=
“ม..ไม่บอ...”
“เห้ย
พวกแกอะ...”
.
.
.
-
TO BE CONTINUE –
.
.
.
TALK
วันนี้ไปวัดมาอีกละเซ็ง
ไม่รู้ทำบาปมาเยอะแค่ไหนทำไมได้ไปบ่อยจัง เบื่อแรงงง T____T
กลับมาจากวัดดึก
เลยปั่นฟิคดึกเลยค่ะ ปกติจะนอนก่อนเที่ยงคืน
ตอนนี้ตี
1 แล้ว //ร้องไห้แรง
คือจริง
ๆ กะว่าจะลงตอนนี้พร้อมแฟนอาร์ตจุนโฮสาวเมดที่วาดเองค่ะ
แต่ดูเหมือนสติและร่างกายจะไม่พร้อมวาด ไว้จะลงในตอนอื่นแทนนะคะ ต้องขออภัยด้วย T^T
ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านนะคะ
แม้ไม่ได้ทิ้งคอมเม้นต์ไว้ก็ไม่เป็นไร
ขอบคุณจางเอิงเอยด้วยที่เม้นให้ตั้งแต่ตอนแรก
แถมยังช่วยแนะนำการแต่งฟิคของเราอีก
ดีใจมาก ๆ เลย =w=
ใครที่มีข้อเสนอแนะ/อยากพูดคุย/อยากด่า/อยากระบายอกหักรักคุดตุ๊ดเมิน
สามารถมาคุยกันได้ที่ทวิตเตอร์
@Aisenpie
เลยนะคะ
ออนตลอดเวลายกเว้นเวลาที่สัญญาณโทรศัพท์/ไวไฟเข้าไม่ถึงค่ะ
55555
ทำไมวันนี้พูดมากจัง
เขิน ไปดีกว่า ถถถถถถถ
EDIT เพิ่มเติม
รู้สึกจะวาดแฟนอาร์ตทันก่อนที่จะมีคนเปิดอ่านตอนนี้ค่ะ
55555555555 ยัดไว้ตรงนี้ละกัน
ความคิดเห็น