ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic KNB] Love PaRalleL

    ลำดับตอนที่ #8 : :PaRalleL 7:

    • อัปเดตล่าสุด 16 ธ.ค. 58


     

     

        

    Chapter 7

     

                    08.34 น.

                    ผมนั่งมองคิเสะคุงวิ่งวุ่นผ่านไปผ่านมาอยู่บนโซฟา สายป่านนี้แล้วยังไม่ได้ขยับออกจากบ้านเลยสักนิดเพราะคิเสะคุงดันตื่นสายซะงั้น ไอ้ที่เห็นว่าลุกขึ้นมานั่งสะลึมสะลือบนเตียงตอนนั้นก็แค่ละเมอเฉยๆ ส่วนคุณฮิวงะกับฟุริฮาตะคุงก็ออกไปตั้งแต่เจ็ดโมงกว่าๆแล้ว ตอนนี้ทั้งบ้านก็เหลือแค่สองหน่อคือผมและคิเสะคุง

     

                    คุโรโกจจิ หากุญแจรถให้หน่อยสิ!” คิเสะคุงตะโกนออกมาจากห้อง ผมขานรับน้อยๆก่อนจะเดินไปที่เคาวเตอร์ซึ่งปกติกุญแจรถมันจะวางไว้ตรงนี้เสมอ แต่ตอนนี้มันกลับว่างเปล่า

     

                    อยู่ตรงไหนครับ ผมถาม

     

                    บนเคาวเตอร์ไม่มีหรอ คิเสะคุงชะโงกหัวออกมามอง หัวไหล่ขาวเนียนบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าคงจะยังไม่ได้ใส่เสื้อแน่นอน

     

                    คิเสะคุงเกาหัวพลางยู่หน้าไปมาเหมือนกำลังใช้ความคิด แต่ดูจากลักษณะแล้วคงจะคิดไม่ออกแน่ๆ ฝ่ามือเรียวเลยขยี้ผมตัวเองจนฟูฟ่องพ่นลมหายใจฮึดฮัดอย่างไม่สบอารมณ์ จนผมที่ยืนมองอยู่ยังอดหัวเราะไม่ได้

     

                    ไปแต่งตัวเถอะครับ เดี๋ยวผมหาให้เองก็ได้!” ผมบอกยิ้มๆ อีกคนทำหน้ายู่ก่อนจะพยักหน้ารับน้อยๆแล้วกลับเข้าห้องไป

     

                    อ่า ถึงจะบอกว่าเดี๋ยวหาให้ก็เถอะ แล้วผมจะรู้มั้ยเนี่ยว่ามันไปอยู่ส่วนไหนของบ้านอ่ะ...

     

                    ผมเดินวนไปเวียนมา เปิดนู่นดูนี่จนรอบบ้านแต่ก็ยังไม่เห็นวี่แววกุญแจรถของคิเสะคุงสักนิดเดียว เลยตันสินใจเลิกหาแล้วมาทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาเหมือนเดิม มือคว้ารีโมทมาเปิดทีวีดูฆ่าเวลาไปก่อนล่ะกัน

     

                    ติ๊งต่อง~~~ ติ๊งต่อง~~~

                    กำลังนั่งหาวกับข่าวในจอสี่เหลี่ยม จู่ๆเสียงออดหน้าประตูก็ดังขึ้น ผมแงะไปมองนิดๆ คิดในใจว่าใครมา จะว่าคุณฮิวงะกับฟุริฮาตะคุงก็ไม่น่าจะกลับมาเร็วขนาดนี้ หรือว่าเป็นคุณยูกิ แล้วเขาจะมาทำอะไรล่ะ ว่าแต่ผมจะมานั่งสงสัยทำไมล่ะก็เดินไปเปิดดูให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยสิ

     

                    เสียงออดดังขึ้นเป็นรอบที่สองจนผมต้องรีบลุกขึ้นเดินไปยังประตู ก่อนจะค่อยๆแง้มที่ละนิดๆแล้วชะโงกหน้าออกไปดู บอกตามตรงว่าตั้งแต่มาอยู่ที่นี่รู้สึกไม่ไว้ใจอะไรทั้งสิน เพราะสายอาชีพของคนที่ผมอาศัยอยู่ด้วยมันค่อนข้างจะอันตรายนิดนึง แต่อันที่จริงมันก็ไม่นิดหรอกนะ วันดีคืนดีอาจจะมีใครบุกมาฆ่าปาดคอก็ได้ ผมเลยต้องระวังตัวเป็นพิเศษ

     

                    “สวัสดีครับ!” ผมยังไม่ทันจะได้เงยหน้ามองเสียงเหนือหัวก็ดังขึ้น

     

                    อ่า... สวัสดีครับ!”

     

     

                    ผู้ชายร่างบางกำลังยืนยิ้มให้ผมอย่างเป็นมิตร เขาสวมเสื้อเชิ๊ตสีขาวกางเกงขายาวสีดำ ใบหน้าเรียวเนียน จมูกโด่งเป็นสัน มองบางมุมก็หล่อ แต่มองบางมุมก็น่ารักเหมือนคิเสะคุงเลย แล้วเขามาทำอะไรที่นี่ล่ะ คนรู้จักของคิเสะคุงหรือป่าวนะ

     

                    มาหาใครครับ!” ผมถามอย่างเกร็งๆ ไม่ชินกับคนหล่อครับผมบ่องตรง

     

                    มาหาทุกคนที่อยู่ที่นี่^^” พูดจบก็ยิ้ม อ่า... มันเป็นรอยยิ้มที่ทำให้โลกสดใสมากนะ ถ้าไม่ติดว่าที่มุมปากนั้นมีรอยช้ำจางๆอยู่ด้วย

     

                    ฉันเข้าไปได้มั้ย!” เขาถามผม

                   

                    จะว่าไงดีล่ะ ผมยังไม่รู้จักเขาเลยนี่ จะให้คนที่ไม่รู้จักเข้าบ้านมันก็ยังไงๆอยู่ ถ้าเกิดเป็นศัตรูแล้วผมโดนฆ่าหมกส้วมขึ้นมาจะทำไงล่ะ ผมก็กลัวเป็นเหมือนกันนะ

     

                    นี่ไม่ไว้ใจฉันหรอ!” เขายิ้มน้อยๆจนเกือบจะกลายเป็นหัวเราะ ผมยืนอ้ำๆอึ้งๆอย่างไม่รู้จะตอบยังไง ฝ่ามือเรียวก็เอื้อมมาลูบหัวผมเบาๆ

     

                    ฉันชื่อทาคาโอะ คาซึนาริ เรียกว่าทาคาโอะเฉยๆก็ได้ฉันไม่ถือ เป็นคนรู้จักของมิโดริมะและหน่วยย่อยที่สองของนาย!”

     

                    คนรู้จักของคุณมิโดริมะงั้นหรอ...

     

                    ผมคุโรโกะ เท็ตสึยะครับ ขอโทษที่เสียมารยาท เชิญเข้ามาข้างในก่อนครับ!” ผมเขยิบตัวเปิดทางให้คุณทาคาโอะ เขายิ้มน้อยๆให้ผมก่อนจะเดินผ่านหน้าไป

     

                    อ่า... ไม่ได้มาตั้งนานเลยแหะ!” เขากวาดตามองไปรอบๆก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงที่โซฟา ผมเดินเลี่ยงเข้ามาในครัวและกลับออกไปพร้อมแก้วน้ำในมือ

     

                    ใครมาหรอคุ... O.O!” คิเสะคุงที่ก้มหน้าก้มตาจัดเสื้อผ้าของตัวเองชะงักทันทีที่เงยหน้ามาเห็นบุคคลที่นั่งยิ้มอยู่บนโซฟา

     

                    ทาคาโอจจิ มาได้ไงO[]O!”

     

                    แล้วทำไมต้องทำหน้าเหมือนเห็นผีแบบนั้นด้วยล่ะเนี่ย!” คุณทาคาโอะฉุดมือคิเสะคุงให้นั่งลงข้างๆก่อนจะกอดคอเอาไว้

     

                    นี่รู้จักกันจริงๆสินะ....

     

                    ก็เล่นหายไปตั้งหลายเดือน ผมก็นึกว่าจะโดนคุณมิโดริมะฆ่าหมกป่าไปแล้วซะอีก!”

     

                    ฉันไม่ตายง่ายๆขนาดนั้นหรอกน่า ยังต้องอยู่ฟาดแข้งกับมิโดริมะไปอีกนาน ฮ่าๆๆ หัวเราะร่า มือที่กอดคออยู่เปลี่ยนมาเป็นขยี้หัวอย่างเมามัน ผมก็ได้แต่นั่งมองอยู่เงียบๆเพราะไม่รู้จะพูดอะไรดี

     

                    คนนี้สินะเด็กใหม่ ยังเด็กอยู่เลยแหะ!” ผมแอบสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อตาคมหันมามองหน้าผม

     

                    อ่าฮะ เห็นงี้ไม่ใช่เล่นๆนะจะบอกให้ ข้างนอกถึงจะดูไร้เดียงสา แต่ถ้าข้างในระเบิดออกมาล่ะก็เป็นเรื่องแน่ๆ!” คิเสะคุงกระโดดมานั่งข้างผม

     

                    เนอะคุโรโกจจิ!”

     

                    อ่า... ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ ผมยิ้มแห้งๆกับไป

     

                    อะไรเนี่ย เห็นคนหน้าตาดีแล้วเขินรึไงห๊ะ!” คิเสะคุงแกล้งผลักหัวผมเบาๆ เสียงหัวเราะเล็กๆของคุณทาคาโอะดังขึ้น จนผมต้องก้มหน้ามองพื้นแก้เก้อ

     

                    “ว่าแต่มานี่มีอะไรหรอครับ!” ผมเงยหน้าขึ้นมอง

     

                    ก็จะมาเป็นคนดูแลให้ชั่วคราวน่ะ เห็นว่าวันนี้ฮิวงะไม่ว่างนี้น่า!”

     

                    คุณมิโดริมะสั่งหรอ!” คิเสะคุงถาม ใบหน้าสวยของอีกคนหม่นลงเล็กน้อยก่อนที่จะกลับมาเป็นปกติเพียงเสี่ยววินาที

     

                    ป่าวหรอก ฉันออกมาเองน่ะ!”

     

                    ไม่เป็นไรแน่หรอทำแบบนี้ เดี๋ยวคุณมิโดริมะจะโกรธเอานะ ผมว่า...!”

     

                    ไม่เป็นไรหรอกน่า ตัวฉันช่างมันเถอะ ห่วงแต่พวกนายมากกว่า ไม่มีหัวหน้าคุมแล้วจะทำงานกันอีท่าไหนห๊ะ!” คิเสะคุงยังพูดไม่ทันจบก็โดนสวนขึ้นมาก่อน

     

                    ผมไม่ได้กระจอกขนาดนั้นนะ!” คิเสะคุงทำหน้ายู่

     

                    เรื่องนั้นช่างมันก่อนล่ะกัน ตอนนี้ก็ไปกันเถอะ เตรียมพร้อมแล้วใช่มั้ย!” คุณทาคาโอะลุกขึ้นยืน คิเสะคุงดูจะอ้ำๆอึ้งๆแปลก

     

                    คือพอดีว่าผมหากุญแจรถไม่เจออ่ะ ฮ่าๆ ก็ได้แต่หัวเราะแห้งๆจนโดนฝ่ามือเรียวแกล้งผลักหัวไปทีหนึ่ง

     

                    นายคิดว่าฉันเดินมารึไง รถฉันก็มีนะ!” คุณทาคาโอะล้วงกุญแจรถขึ้นมาควง คิเสะคุงยกยิ้มอย่างมีเลสนัยไม่แพ้กับอีกคนเลย

     

                    นี่คิดอะไรกันอยู่เนี่ย กระผมงง...

     

                    งั้นไปเถอะ เสร็จงานเมื่อไรไปล่อนกัน!” คุณทาคาโอะพูดอย่างอารมณ์ดีก่อนจะคว้าคอทั้งผมและคิเสะคุงให้เดินไปพร้อมกันโดนที่ไม่ลืมจะปิดล็อคประตูอย่างดีเพื่อป้องกันบุคคลไม่หวังดีเข้ามาได้

     

                    ตอนนี้มันทั้งตื่นเต้นและกลัว กลัวจะทำพลาด กลัวจะทำให้ทุกคนเจ็บ และที่สำคัญคือกลัวเป็นตัวถ่วง แต่ถ้ามัวคิดแบบนั้นมันก็ไม่มีอะไรดีขึ้น สู้พยายามจนถึงที่สุดดีกว่า

                                                   

     

                    ผมนั่งกระสับกระส่ายอยู่ในรถของคุณทาคาโอะสายตาจับจ้องไปยังตึกสูงที่อยู่อีกฟากของถนน คิเสะคุงที่นั่งอยู่ข้างๆผมอยู่จะไม่รู้สึกอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว อาจจะเป็นเพราะเขาเป็นมืออาชีพแล้วก็ได้ โดยเฉพาะสายตาที่หนักแน่นและเฉียบคมนั้นผมเทียบไม่ติดเลยสักนิดเดียว

     

                    เฮ่อ ผมแอบถอนหายใจเบาๆ แต่มันคงจะไม่เบาพอให้คนในรถที่เงียบสนิทได้ยิน คุณทาคาโอะที่นั่งอยู่เบาะคนขับหันมายิ้มให้ผมที่อยู่เบาะหลัง ฝ่ามือเรียวเอื้อมมาขยี้หัวผมเบาๆ

     

                    ไม่ต้องกังวลหรอกนะ มันไม่น่ากลัวขนาดนั้นหรอก!” คิเสะคุงคว้ามือของผมไปจับไว้หลวมๆ แต่สายตาก็ยังไม่ล่ะไปจากภาพนอกกระเจาะรถ

     

                    ถึงจะพูดแบบนั้นก็เถอะ แต่ผมมันแค่มือใหม่ที่ยังไม่รู้เรื่องอะไรเลยนะ จะไม่ให้กลัวก็ไม่ได้หรอก และยิ่งรู้ว่าไอ้ตึกที่อยู่ตรงหน้ามันเป็นที่ๆผมจะบุกเข้าไปในอีกไม่กี่วันข้างหน้าแล้วผมยิ่งกลัวหนักเข้าใหญ่

     

                    ถอยตอนนี้ก็คงไม่ทันแล้วสินะ....

     

                    ผมคิดในใจโดยที่ลืมไปสนิทว่ายังมีมนุษย์ที่อ่านความคิดคนอื่นได้นั่งอยู่ข้างๆ คิเสะคุงหันมามองหน้าผมยิ้มๆก่อนจะขยี้หัวผมเบาๆ

     

                    ไม่ต้องกลัวหรอกนะ!” คิเสะคุงยิ้มให้ผมอย่างอ่อนโยน จนผมต้องเผลอยิ้มตาม

     

                    มาแล้ว!”

                    เสียงคุณทาคาโอะแทรกเข้ามาทำให้ผมละสายตาจากคิเสะคุงแล้วหันไปมองตามทิศทางที่คุณทาคาโอะมองอยู่

                   

                    รถเบ็นซ์สีดำเงาคันหรูสองคันขับมาช้าๆก่อนจะหยุดที่หน้าตึก การ์ดที่ยืนอยู่หน้าตึกสองคนรีบวิ่งเข้ามาช่วยเปิดประตูให้ราวกับว่าคนในรถเป็นบุคคลที่สำคัญมากๆ ผู้ชายวัยกลางคนที่อยู่ในชุดสูทสีดำก้าวลงมาจากรถทั้งสองคัน หนึ่งในนั้นคือคนที่ผมเห็นในรูปที่คิเสะคุงเอามาให้ดูเมื่อวันก่อน และถ้าผมจำไม่ผิดคนๆนั้นนั่นแหละคนที่พวกผมต้องกำจัด

     

                    คนนี้ใช่มั้ยครับ ผมหันไปถามคิเสะคุง

     

                    อ่าใช่ เท่าที่ได้ข้อมูลมาก็หมอนี่แหละที่เป็นบอสใหญ่ขององค์กรกระจอกๆนั่นน่ะ!” คิเสะคุงพูดหน้านิ่ง สายตาที่จ้องมองผู้ชายคนนั้นของคิเสะคุงมันดูแข็งกราวจนน่ากลัว

     

                    “แล้วตอนนี้จะต้องทำอะไรบ้างครับ ผมถามอีกรอบ คิเสะคุงหันมามองหน้าผมนิ่งๆ

     

                    เข้าไปข้างในกัน!”

     

                    ห๊ะ ผมอุทานอย่างตกใจ

     

                    นี่ผมยังไม่ได้เตรียมใจเลยนะ ไหนคุณฮิวงะบอกจะมาหาทางหนีทีไล่กับมาล็อคเป้าหมายเฉยๆไง แล้วนี่จะให้เข้าไปข้างในที่มีพวกมันอยู่ยั้วเยี้ยเนี่ยนะ ไปโดนฆ่าปิดปากรึไง

     

                    ฉากหน้าของพวกมันคือบริษัทที่ทำเกี่ยวกับการค้าขายเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์และสถานเริงรมต่างๆ แล้วรู้สึกตอนนี้จะกำลังรับสมัครพนักงานทำความสะอาดด้วย!” คิเสะคุงบอกโดยไม่ได้หันมามองสีหน้าผมเลยสักนิดเดียว

                   

                    มันคงจะไม่ได้เป็นแบบที่ผมคิดสินะ...

     

                    มันก็อย่างที่นายคิดนั่นแหละ!” คิเสะคุงหันมามองหน้าผม

     

                    อ่า... ปลอมตัวสินะ!” คุณทาคาโอะที่นั่งเงียบมานานพูดขึ้นยิ้มๆ

     

                    นี่เอาจริงหรอ จะปลอมตัวจริงๆใช่ม่ะ ขอเวลาเครียดแปป...

     

                    ไปกัน!” คิเสะคุงทำท่าจะเปิดประตูรถผมเลยต้องรีบคว้าแขนเอาไว้ก่อน

     

                    เดี๋ยวสิครับ แล้วชุดอ่ะ เอกสารอ่ะ จะไปสมัครงานไม่ใช่หรอครับ

     

                    ก็แค่สมัครคนทำความสะอาดคงไม่ต้องใสสูทหรอกมั้ง แค่แต่งตัวให้เรียบร้อยก็พอแล้ว!” คุณทาคาโอะตอบแทน ก่อนจะชูแฟ้มสีฟ้าในมือขึ้นมาให้ดู

     

                    แล้วก็เอกสารฉันเตรียมมาให้ เผื่อจำเป็นต้องใช้!” ยิ้มอย่างภูมิใจก่อนจะยัดใส่มือผมกับคิเสะคุง ฝ่ามือเรียวเอื้อมมาจัดทรงผมให้ผมเล็กน้อย ลูบไปมาสองสามทีแล้วฉีกยิ้มกว้าง

     

                    เอาล่ะ ดูดีแล้ว ไปลุยงานกัน!”  พูดจบร่างเพรียวก็เปิดประตูรถลงไปทันที

     

                    ไม่ต้องห่วงหรอก!” คิเสะคุงยิ้มน้อยๆแล้วเปิดประตูตามลงไปอีกคน ผมนั่งทำใจอยู่ประมาณห้าวิแล้วผลักประตูออกไปเผชิญความจริงข้างนอก

     

                    “อย่าทำตัวมีพิรุธเด็ดขาดเลยนะ คุณทาคาโอะที่เดินนำหน้าย้ำอีกครั้งขณะเดินมายังตึกของเป้าหมาย ยามที่อยู่ด้านหน้าเดินตรงเข้ามาหาพวกผมทันที

     

                    มาทำอะไรกันครับ!” เขามองพวกผมตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างไม่ไว้ใจ จนผมต้องเขยิบเข้าไปใกล้คิเสะคุงมากขึ้น

     

                    ก็เห็นว่าเปิดรับสมัครคนทำความสะอาด ผมก็เลยพาน้องชายมาสมัครน่ะ มหาลัยมันยังไม่เปิดเรียนกัน ก็เลยไม่อยากให้อยู่บ้านเฉยๆ!” คุณทาคาโอะตอบเรียบๆ ไม่มีทีท่าว่าจะตื่นเต้นหรืออะไรเลย

     

                    อ้อ อยู่มหาลัยแล้วหรอเนี่ย นึกว่ามัธยมซะอีก!”

     

                    แล้วมามองหน้าผมทำไมครับ = =

     

                    “อ่านั้นแหละ ต้องไปทางไหนหรอ!” คุณทาคาโอะถามอีกครั้ง ลุงยามขี้เสือกก็เดินนำไปที่ประตูกระจกทางเข้าของตึก พวกผมก้มหัวขอบคุณเล็กๆแล้วเดินเข้ามา

     

                    ด้านในตึกมันใหญ่และหรูพอสมควร มีทั้งพนักงานและคนที่มาติดต่องานเดินผ่านกันไปมา พวกผมเดินมาที่เคาวเตอร์เพื่อสอบถามรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ และเมื่อได้คำตอบก็เดินมายังห้องที่ให้ลงสมัคร

     

                    ผมแยกตรงนี้นะครับ!” เมื่อเดินมาถึงทางแยกซ้ายขวาคิเสะคุงก็พูดขึ้นทำเอาผมงงเป็นไก่ตาแตก เลยต้องร้องถามอีกคนที่ทำท่าจะเดินหนีไปแล้ว

     

                    คิเสะคุงจะไปไหนครับ

     

                    ไปหาห้องทำงานของบอสใหญ่!” คิเสะคุงตอบเบาๆ แล้วหันหลังเดินไปทันที ผมเงยหน้ามองคุณทาคาโอะอย่างขอความช่วยเหลือ

     

                    ไม่เป็นไรหรอก หมอนั่นถึงจะถนัดใช้สมอง แต่งานภาคสนามแบบนี้ก็เก่งนะ!” ปากเรียวยกยิ้มให้ผมคลายกังวล

     

                    อ่า... แล้วตอนนี้ผมจะต้องทำอะไรล่ะ

     

                    คิเสะไปหาบอส งั้นเราก็ไปหาทางหนีทีไล่กันดีกว่า!” คุณทาคาโอะยิ้มไม่หยุด ไม่มีทีท่าว่าจะกลัวเลยสักนิดที่มาอยู่ในดงศัตรูแบบนี้ ส่วนผมก็ได้แต่ถอนหายใจแล้วเดินตามคุณทาคาโอะไปเงียบๆ

     

                    ผมกับคุณทาคาโอะเดินสำรวจนู่นนี่ไปทั่ว มีบางครั้งที่พนักงานในบริษัทเข้ามาถามว่ามาทำอะไร พวกผมก็เนียนๆตอบไปว่ามาสมัครงานแต่ดันเดินหลงทาง พวกนั้นก็ดันเชื่อซะงั้นเลยอาสานำทางให้จนมาส่งถึงหน้าห้อง แต่พอลับตาปุ๊ปพวกผมก็ชิ่งหนีไปทางอื่นอีก ตอนนี้เลยรู้เส้นทางในตึกนี้พอจะให้หนีได้แล้ว

     

                    มันเป็นตึกขนาดยี่สิบห้าชั้นแต่ละชั้นก็มีทางหนีไฟเป็นปกติของตึกทุกตึกอยู่แล้ว แต่จะต่างก็ตรงที่มันมีอยู่ทางหนึ่งซึ่งถูกซ้อนไว้หลังประตูที่ดูเหมือนจะเป็นแค่ห้องทำงานธรรมดาแล้วบังเอิญผมดันเปิดเข้าไปดูพอดีก็เลยเจอ ด้วยความอยากรู้ผมเลยเดินไปดูก็พบว่ามันเป็นทางออกอีกทางของตึกนี้ที่อยู่ด้านหลังเหมือนกับว่ามันจะเป็นทางขนส่งอะไรสักอย่างผมก็ไม่แน่ใจ ถ้าคิดจะหนีก็อาจจะใช้ทางนี้

     

                    คุณทาคาโอะที่เดินอยู่ข้างๆผมใช้ปากกาจดรายละเอียดโครงสร้างทางเดินเอาไว้ซึ่งต่างจากผมที่ไม่ชอบจด แต่ใช้การจำเอาล้วนๆเพราะเวลาเกิดเหตุฉุกเฉินคงจะไม่มีเวลามานั่งเปิดสมุดพกดูหรอกมั้ง

     

                    ทำไมคิเสะไปนานจัง!” คุณทาคาโอะเปรยขึ้นเบาๆ

                    มันก็จริงนะ ตั้งแต่เข้ามาที่นี่ก็จะครบชั่วโมงแล้วมั้ง คนที่นี่ก็เริ่มจะสงสัยแล้วด้วยที่เห็นพวกผมเดินวนไปเวียนมาอยู่ที่นี่ ถ้าอยู่นานกว่านี้แล้วศัตรูรู้สึกตัวอาจจะโดนลากไปฆ่าก็ได้

     

                    หรือว่าคิเสะคุงจะโดนจับได้....

     

                    คุณทาคาโอะ ผมว่าเราไปตามคิเสะคุงกันเถอะครับ ผมเป็นห่วงแล้ว ผมหันไปบอกคนที่ยืนอยู่ข้างๆ คุณทาคาโอะพยักหน้ารับน้อยๆ

     

                    งั้นนายไปรอที่รถนะ เดี๋ยวฉันไปตามเอง!” คนตรงหน้ายัดกุญแจรถใส่มือผมแล้วทำท่าจะเดินหนีไป ผมเลยรีบคว้าแขนเอาไว้

     

                    ผมไปด้วยครับ

     

                    ไม่ได้หรอก ยิ่งเราอยู่นานมันยิ่งอันตราย เพราะถ้าเกิดคิเสะโดนจับจริงๆ ตอนนี้นายยิ่งต้องรีบหนี เขาแกะมือผมที่เกาะแขนอยู่ออกช้าๆ ก่อนจะใช้มือขยี้หัวผม

     

                    ไปรอฉันที่รถนะ ไม่ต้องห่วงคิเสะ เดี๋ยวฉันไปตามกลับมาเอง!” ในสถานการณ์แบบนี้คนตรงหน้าผมก็ยังคงยิ้มได้ ผมควรจะเชื่อใจใช่มั้ย

     

                    ผมมองแผ่นหลังผอมบางที่เดินห่างไปจนลับสายตา ก่อนจะหันมาหาทางเดินของตัวเองบ้าง ตอนนี้อยู่คนเดียวแล้วยิ่งกลัวแหะ ถ้าพวกมันลากผมไปฆ่าหมกส้วมจะทำไงเนี่ย คิเสะคุงก็ไม่รู้ไปอยู่ไหน คุณทาคาโอะก็ไม่อยู่ด้วยอีก

     

                    ผมเดินลัดเลาะมาจนเกือบจะถึงทางออก ตรงแยกสุดท้ายที่จะไปสู่โถงใหญ่ตรงทางเข้าอย่างปลอดภัย ถึงแม้ตลอดทางจะมีสายตาหลายสิบคู่มองผมอย่างคาดเดาอารมณ์ไม่ได้ก็เถอะนะ

     

                    ผลัก!!!

                    ขอถอนคำพูดเมื่อกี้ ตอนนี้มันไม่ปลอดภัยแล้วเพราะตัวผมกำลังจะดิ่งลงไปจูบพื้นด้วยแรงกระแทกจากใครบางคนที่เดินสวนมาตรงทางแยก แล้วมันไม่ใช่เบาๆเลยนะ มันกระแทกเต็มแรกชนิดว่าดั้งแทบหัก โลกนี่หมุนเลยอ่ะ

     

                    ชนคนหรือชนควายครับเนี่ย!?

     

                    ในขณะที่ผมจะลงไปกระแทกพื้นอีกรอบแขนของคนที่คาดว่าจะเป็นคนชนมันก็คว้าเอวของผมเอาไว้แล้วดึงกลับ ด้วยความที่ไม่ได้ตั้งตัวหน้าของผมเลยกระแทกเข้ากับแผงอกคนตรงหน้าอย่างจังจนตาลายเห็นดาวลอยอยู่บนหัวเป็นสิบดวง

     

                    ตาบอดรึไงเนี่ย!” เสียงของคนที่กอดเอวผมอยู่ดังขึ้น ผมสะบัดหัวไล่ความมึนออกไปก่อนจะเงยหน้ามอง

     

                    ชายร่างสูงหัวแดงแซมดำ คิ้วสองแฉก หน้าตาไม่ค่อยจะเป็นมิตรสักเท่าไร แต่ก็ถือว่าหล่อในระดับหนึ่งอ่ะนะ

     

                    อ๊ะ!? ผมร้องเมื่อตัวของผมถูกเหวี่ยงทิ้งอย่างไม่ทันได้ตั้งตัวเพราะมัวแต่ตื่นเต้น โดยฝีมือไอ้คนที่ผมพึ่งจะชมว่าหล่อไปตะกี้นี้จนล้มตึงลงไปตูดกระแทกพื้นอย่างจัง

     

                    ทำบ้าอะไรเนี่ย ผมจ้องหน้ามันเขม็งอย่างเอาเรื่อง นี่ถ้าไม่ติดว่าไม่รู้จักนะ พ่อจะด่าให้เละเลย

     

                    ทำไม มีปัญหารึไงไอ้เตี้ย!”

                   

                    โอ้โห จี๊ดเลย พูดงี้คุโรโกะจี๊ดเลยครับฉันน้อง ขอถอนคำพูดเมื่อกี้ได้ป่ะที่ชมว่ามันหล่อ ตอนนี้หน้าตาแม่งโคตรกวนส้นเลยครับ แล้วรู้สึกว่าจะใจบุญเลี้ยงหมาไว้ในปากหลายตัวซะด้วย

     

                    ทำไม มีปัญหาแล้วทำไมครับ... คุณคิ้วสองแฉก!” ผมเน้นสองคำท้ายหนักๆจนมันหันขวับมาจ้องหน้าผมอย่างกับจะจับผมหักคอจิ้มน้ำพริกกิน

     

                    ฉันชื่อคาคามิ ไม่ใช่คิ้วสองแฉก อย่ามาปากเสีย เดี๋ยวไม่ตายดีหรอกไอ้เตี้ย!” มันก้มลงมาขู่ผมพร้อมกับคำจี้ใจดำ ผมเลยเด้งตัวขึ้นขี้หน้ามัน

     

                    ผมก็ชื่อคุโรโกะ ไม่ใช่ไอ้เตี้ย อย่ามาปากเสีย เดี๋ยวตบคว่ำ ผมจ้องหน้ามันเขม็ง

     

                    ตบถึงหรอตัวเตี้ยขนาดนี้!” มันมองผมตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าแล้วทำหน้าแหย่ๆ เห็นแล้วมันน่าจับไปโดนไปไอ้เข้ในสวนสัตว์กินจริงๆ

     

                    ทำไมเตี้ยแล้วทำไมครับ  มันหนักส่วนไหนของนายไม่ทราบ ว่าแต่นายเถอะไปโดนใครตำหน้ามารึไงคิ้วมันถึงได้แยกแบบนั้นน่ะครับ

     

                    พูดงี้จะเอาหรอ!!!”

     

                    ไม่เอาได้มั้ยครับ

     

                    ไอ้เด็กนี่!!”

     

                    มีอะไรกันหรอครับ!” มันที่ทำท่าจะเดินเข้ามากินหัวผมชะงักทันทีเมื่อมีผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาทัก สงสัยผมกับไอ้คิ้วแยกจะตีกันเสียงดังเกินไปแน่ๆเลย

     

                    “อ้อ ป่าวครับ ไม่มีอะไร!” ไอ้คิ้วแยกตอบ ก่อนจะฉีกยิ้มกว้าง แต่หางตาแอบมาเหล่มองผมด้วยความอาฆาต ผมเลยยกยิ้มกวนส้นทีนไปให้มันแทน

     

                    “ผมขอตัวนะครับ อยู่นานๆแล้วเหม็นขี้หน้าใครบางคน!” มันหันไปยิ้มให้คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าแล้วหันหลังเดินหนีไป ผมเลยแลบลิ้นใส่มันไปทีนึง

     

                    น้องมาทำไรหรอครับ!” ผมดึงลิ้นกลับแทบไม่ทันเมื่อผู้ชายตรงหน้าหันมาถาม เขายิ้มให้ผมบางๆ

     

                    “พอดีพี่ชายมาทำธุระน่ะครับ เลยตามมาด้วย!” ผมบอก เขาพยักหน้ารับน้อยๆ

     

                    ผมควรจะไปได้แล้วแหะ เสียเวลาตีกับไอ้บ้านั่นตั้งนาน...

     

                    ผมขอตัวนะครับ!” ผมก้มหัวให้เขาน้อยๆ ตั้งท่าจะเดินหนีก็โดนเขาคว้าแขนเอาไว้ก่อน

     

                    พี่ชื่อฮิมุโระ ทัตสึยะครับ หรือจะเรียกว่าอะไรก็ได้แล้วแต่ น้องชื่อไรหรอ!” ผมขมวดคิ้วเล็กน้อยด้วยความสงสัย คือผมไม่ได้อยากรู้ไงประเด็น

     

                    คุโรโกะ เท็ตสึยะครับ!”

     

                    “เท็ตสึยะกับทัตสึยะหรอ... เข้ากันดีเนอะ ฮ่าๆๆ คนตรงหน้ายิ้มอย่างอารมณ์ดี

     

                    จะกลับแล้วหรอ!” เขาค่อยๆปล่อยมือจากแขนของผมแล้วยกมือขึ้นเกาท้ายทอยตัวเองเบาๆ

     

                    ป่าวครับ แค่จะไปรอพี่ที่รถเฉยๆ

     

                    อ่อ งั้นถ้าว่างเราไปหาไรกินกันมั้ย แบบไปเป็นเพื่อนพี่หน่อยไรงี้ พี่ก็จะอยู่เป็นเพื่อนน้องจนกว่าพี่ของน้องจะกลับมา!” เขายิ้มให้ผมอย่างจริงใจ

     

                    จะไปด้วยมันก็ไม่เสียหายนะเพราะผมก็ไม่อยากอยู่คนเดียวเหมือนกัน แล้วดูท่าคนๆนี้ก็น่าจะไว้ใจได้ ดูแล้วเป็นคนดี

     

                    เอางั้นก็ได้!” ผมตอบ เขาฉีกยิ้มกว้างก่อนจะเดินนำผมไป

     

                    ผมเรียกว่าพี่ฮิมุโระนะครับ ผมถามขึ้นเรียบๆ เขาหันมายิ้มให้ผมก่อนจะพยักหน้ารับ

     

                    อ่า... นี่ผมมาทำงานแน่หรอเนี่ย ตัวเองหนีไปหาของกินสบายใจแต่ปล่อยให้อีกคนสองทำงาน ซึ่งตอนนี้ไม่รู้จะเป็นไงกันบ้าง แต่ผมตอนนี้คงทำอะไรมากไม่ได้ในเมื่อมันเป็นคำสั่งของคุณทาคาโอะ  ที่ทำได้แน่ๆก็แค่รอแล้วก็ภาวะนาขออย่าให้สองคนนั้นเป็นอะไรก็พอแล้ว




    TBC...




    ------------------------------------------------------------------------------------------------------
    รู้สึกว่าแต่ละคู่ที่เจอกันเป็นต้องกัดกันตลอดเลย555555
    คางามิโผล่มาแล้ว พร้อมกับฮิมุโระ งานนี้จะมีศึกชิงนางหรือไม่ มาลุ้นกัน

    ทาคาโอะเรื่องนี้ไม่เรียนมิโดจินว่าชินจังนะครับ ไม่หน่อมแหน่มไปสำหรับความเถื่อนของเรื่องนี้5555



     

     

    T H E M E
    ◈ B L & W H ◈
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×