หัวใจจอมทัพ (จบแล้ว) - หัวใจจอมทัพ (จบแล้ว) นิยาย หัวใจจอมทัพ (จบแล้ว) : Dek-D.com - Writer

    หัวใจจอมทัพ (จบแล้ว)

    ความรักของข้า แม้นพรากก็มิอาจลืม หากเมื่อต้องการพบรักใหม่ ข้าย่อมตัดใจเพื่อหัวใจตนเอง

    ผู้เข้าชมรวม

    967

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    4

    ผู้เข้าชมรวม


    967

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    2
    หมวด :  นิยายวาย
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  4 ก.ย. 60 / 07:27 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
        ตอนเดียวจบ- ทุกอย่างล้วนแต่งขึ้นสนองเราเท่านั้น

    #หัวใจจอมทัพ
          


           ต้นท้อบนเนินเขาของเมืองหนึ่งในเว่ยเฉียง  กลิ่นอายของความรักและอดีตอันแสนงดงามกำลังฉายความทรงจำอย่างมิอาจห้ามใจได้... 

      ชายหนุ่มร่างสูงสมชายชาติทหารยืนทอดสายตามองไปที่หลังคาหมู่บ้านจากเนินเขาใต้ต้นท้อ เขาผลิยิ้มออกมาอย่างสบายใจเมื่อเห็นความสงบสุขของเหล่าประชาชนที่เขาปกป้องเอาไว้ได้ตลอดมา...  

      เพียงแค่เสี้ยวหนึ่งเท่านั้นที่เขารู้สึกถึงความภาคภูมิต่อหน้าที่นี้... 

      " ท่านแม่ทัพขอรับ  จวนจะถึงเวลาของการมอบเหรียญกล้าหาญแล้วนะขอรับ"   

      แม้นสิ่งนั้นจะเป็นตราแห่งเกียรติยศ  แม้จะเป็นความภาคภูมิใจของใครหลายๆคนอยากมี... แต่สำหรับเขาแล้ว...มันก็แค่สิ่งที่ไร้ประโยชน์  ไม่สามารถเรียกหนึ่งชีวิตที่จากไปกลับคืนสู่อ้อมอกเขาเช่นเดิม...  

      ไม่มีวัน... 
     
        .
    .
    .
    .  

     "ยินดีด้วยนะท่าน  คราวนี้ต่อให้อีกห้าทศวรรษก็จะมิเกิดสงครามขึ้นอีก นั่นเพราะท่านแท้ๆเลยขอบคุณท่านจริงๆ  "  

     "ไม่ใช่หรอก...ไม่ใช่เพราะข้า"....พวกเจ้ารู้อยู่แก่ใจแท้ๆ...

     " ฮะๆ  อย่าถ่อมตนไปเลยน่าท่านแม่ทัพฉาง  ท่านเก่งกล้าสามารถถึงเพียงนี้  จะมิใช่ท่านแล้วเป็นใครได้เล่า  เอาล่ะๆข้าขอตัวไปพบแขกในงานก่อนนะขอรับ  เชิญท่านพักผ่อนเถิด "   

      คำกล่าวลาของเสนาผู้ชื่นชอบ'เลียแข้งเลียขา' ทำให้ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองผืนฟ้าสีดำที่ถูกเติมเต็มไปด้วยดวงดาวพราวระยับ...   

      'เพ่ย... ข้าได้ตรามาแล้วนะ...ได้มาอย่างที่เจ้าอยากให้ข้าได้แล้ว... ข้าคิดถึงเจ้าเหลือเกิน... ดวงใจของข้า..'  

    .
    .
    .

       'คิก!  ท่านฉาง เกินไปแล้วๆไม่เอาหน่าข้าจักจี้ขอรับ!! '  

       เสียงใสของหนุ่มวัยหัวเราะขึ้นท่ามกลางความเงียบใต้ต้นท้อยามคืนที่ดาวพราวระยับสวยงามเช่นเดียวกับหัวใจของทั้งสองในยามนี้...  

    หนึ่งคือแม่ทัพแห่งเว่ยเฉียงผู้เกรียงไกรที่กระทำการสู้รบปกป้องบ้านเมืองปานเลือดเนื้อของตน  

      อีกหนึ่งคือแม่ทัพอายุน้อยของศรัตรูคู่แค้น...  

        ต่อให้เกลียดถึงเพียงไร  สิ่งที่ไม่มีใครคาดถึงในยามนี้คือ 'ทั้งสองมีใจแก่กัน'....    

      "เพ่ย  อย่าดิ้นสิ  ข้าไม่อยากเห็นเจ้ากลิ้งตกลงไปหรอกนะ! "     

      "หน่าๆ ท่านก็อย่าลูบท้องข้าสิ  แต่ถึงกลิ้งลงไปท่านก็คว้าข้าไว้ได้อยู่ดี~"  

         สีหน้าทะเล้นเกินคำว่าแม่ทัพของชายตรงหน้าทำให้ผู้นำทัพฉางรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมามาก...  ทั้งที่ก่อนหน้านี้ เคยจะฆ่าคนๆนี้ไปแล้วแท้ๆ...   แต่ตอนนี้แม้แต่รอยแผลที่ไม้ข่วนบนผิวเนียน แค่เห็นก็ปวดใจแล้ว  

       "เจ้าคิดว่าจะจบสงครามครั้งนี้ถาวรอย่างไรดี.." 

     จู่ๆเสียงทุ้มของแม่ทัพฉางก็ดังขึ้นมา...   เพ่ยเหลือบสายตาไปที่คนข้างกาย.. ใบหน้าคมกำลังกังวลอย่างเห็นได้ชัด....กังวลเรื่องของผู้อื่นที่ไม่เคยทำให้เขามีความสุขเลย... หน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบด้วยชีวิต  แม้นตายไปก็มีแต่ชื่อเสียงที่ถูกกล่าวขานเท่านั้น... 

      แม่ทัพเพ่ยไม่เคยเห็นดีกับความเจ็บปวดนี้....  

    แต่คำว่าหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบต่อมวลชนก็ค้ำคอจนมิอาจก้มลงไปที่ๆต่ำกว่านั้นได้...สิ่งที่ควรจะเป็นก็ต้องทำให้มันเป็นอย่างที่ถูกกำหนดเอาไว้...  

     "ข้ารอท่านถามคำๆนี้มานานแล้ว... ว่างใจข้าเถิด  ข้ามีแผนแน่ๆ "   

    รอยยิ้มของบุรุษตรงหน้าช่างงดงามตราตรึงในอกของแม่ทัพฉางจนสว่างวูบวาบปานไฟที่ถูกจุดประกาย  
    เขายื่นมือไปคว้าร่างนั้นเข้ามาในอ้อมกอด  แนบดวงหน้าของศรัตรูต่างกองทัพต่างแคว้นมาไว้ในอ้อมอกอย่างรักใคร่...    ไม่มีใครรู้ว่าความสุขนี้จะนานเพียงไร   แต่พวกเขาชื่นชอบต่อกันและกันปานขาดใจแม้นจากกัน...  

    ใต้ต้นท้อคือที่นัดพบของใจสองดวงอันบริสุทธิ  ความรัก  ความหลงใหล  ความปราถนา  และหน้าที่... 

       ไม่มีใครรู้ว่าสิ่งที่แม่ทัพเพ่ยจะกระทำเพื่อชาวเมืองทั้งสองคือการสละชีพตนเอง...จวบจนถึงกาลนั้น...  

      เขากลับกลายเป็นเพียงธาตุอากาศที่ทุกคนจงใจลืมเลือน....

    .
    .
    .
    .

       'รัก'     

       "ท่านแม่ทัพ  ท่านมิมีผู้ใดหมายหมั้นไว้หรือไรขอรับ   นี่จวนจะ30 แล้ว ท่านจะครองทัพฝึกทหารไปทั้งที่ไม่มีสงครามเช่นนี้รึขอรับ  "  

        การยุติสงครามผ่านไปเพียงสองปี... พวกเขามั่นใจถึงขนาดนี้เลยหรือ?.... 

       "ข้าไม่อยากอยู่เฉยๆ... "      ฟุ้งซ่าน...  การอยู่เฉยๆคือสิ่งที่ทำให้เขาฟุ้งซ่านจนแทบคลั่ง... ฉางเชินคือแม่ทัพผู้ไร้พ่ายต่อสิ่งใดๆ.... แต่มิใช่ยามนี้... เขาอ่อนแอยิ่งนัก... 

       คิดถึง....  

     โหยหา....  

      ข้าไปหาเจ้าได้หรือไม่....  เพ่ยเฟิง....

     
            ให้ผ่านไปอีกเท่าไหร่กับการสูญเสียความรักครั้งนี้...เท่าไหร่ถึงจะกลับมามีชีวิตเช่นเดิมอีกครั้ง...  

       เขาไม่อยากเจ็บปวดเช่นนี้อีกแล้ว...  

    "ท่านแม่ทัพ !  ท่านแม่ทัพพพ!!!!! "  

    "อ..อะไร? "        ห้วงคำนึงถึงจิตใต้สำนึก....   เขาเกลียดตนเองนักที่กลายเป็นคนเช่นนี้ไปได้...  

     " ท่านดูไม่สบายนะขอรับ  พักผ่อนบ้างเถิด ข้ารู้นะว่าท่านมักจะฝึกทุกคืนหลังทหารซ้อมเสร็จ...  อย่าหักโหมเลย พวกข้าเป็นห่วงท่านมากนะขอรับ "

          นายทหารผู้กล้า...ได้เสี่ยงตายเข้ามาเอ่ยเตือนแม่ทัพของตนด้วยใจที่ห้าวหาญ...  แม้นจะจับไม้สั้นไม้ยาวแล้วตนถูกพระพุทธองค์เล่นตลกก็เถอะ  แต่อย่างไรเสีย  สิ่งที่เขากล่าวออกมาล้วนจากความรู้สึกจริงทั้งนั้น... 

      "....ข้าเห็นเขา "... จู่ๆแม่ทัพฉางก็กล่าวขึ้นมา  

       "ขอรับ? "   

     "ข้าเห็นเขา.... เพ่ยเฟิง... แม่ทัพที่ทำให้พวกเราเลิกสงครามได้... ข้าเห็นเขา...ข้า...ห้ามมิให้ตนเองคิดถึงเขาไม่ได้..... " 

         ทหารศักดิ์น้อยเหงื่อตก....   ตกไปถึงตาตุ่มเมื่อรู้ว่าตนมารับรู้บางอย่างที่ไม่ควรรู้...  แม้นจะเคยได้ยินมาบ้างว่าท่านแม่ทัพของเราไปเกี้ยวกับแม่ทัพศรัตรู... แต่กระนั้น..มิเคยเชื่อจวบจนวินาทีที่ได้เห็นสีหน้าที่อ่อนแรงของชายแกร่งตรงหน้า.... 

       'เห็นทีต้องให้เขาได้พักเสียบ้างแล้ว....'  

       ทหารหนุ่มคิดในใจ 

      "ท่านได้โปรดเถอะ... พักบ้าง...แล้วท่านจะรู้ว่าชีวิตของท่านมิได้มีเพียงคนๆเดียวที่จากท่านไป "

     ' อยากบอกเสียเหลือเกิน... อยากกล่าวออกไปเสียเหลือเกินว่าข้าเพียงผู้เดียวมิอาจลืมเลือนความเงียบเหงานั้นได้... มิเช่นนั้นข้าจะมาคอยฝึกกับพวกเจ้าที่นี่งั้นหรือ?..'

     "อืม...ขอบใจเจ้ามาก  แล้วนี่ถูกพนันให้มาพูดกับข้านี่เท่าไหร่กันล่ะ? "   

      ทหารหนุ่มแข็งทื่อ ก่อนจะยิ้มแหย่ๆ คาดไม่ถึงว่าจะถูกดูออกซะโปร่งโล่งขนาดนั้น  

     "ฮะๆ...ข้าจับได้ไม้สั้นมาน่ะขอรับ ...ขอโทษที่เอาท่านไปเป็นหัวข้อในครั้งนี้นะขอรับ...ไม่สิ..ทุกครั้ง=__="

         ชายหนุ่มยิ้มให้กับผู้ที่อายุน้อยกว่า  รู้อยู่แก่ใจว่าทุกคนนั้นเป็นห่วงในสภาพกายและจิตใจเขาถึงเพียงไร  แต่ทว่าหัวใจก็มิอาจหักห้ามมิให้หวนคืนสู่อดีตที่เคยสูญเสียนั้นได้... เพราะรัก...ถึงต้องจากลางั้นหรือ? 

     "ข้าขอบใจทุกคนมาก  ข้าจะพยายามก็แล้วกันข้าขอตัวนะ "  

          กลิ่นอายของหน้าหนาวเริ่มปะทะผิวหน้าของแม่ทัพใหญ่แห่งเว่ยเฉียง   เขายกมือขึ้นแตะผิวหน้าเบาๆขณะเดินไปตามถนนของเมืองเพื่อมุ่งหน้าไปสู่ 'ต้นท้อ '   

       ...สุดท้ายแล้วทุกๆวันสองขาจะพาร่างกายมาสู่ที่แห่งนี้โดยที่สมองไม่ได้สั่งการ...  

      ทั้งหมดเพราะอะไรกันนะ?...  

     'หนาว...ท่านฉาง...ข้าหนาวเหลือเกิน '      

     เสียงใสที่ตราตรึงใจตลอดมาดังแว่วมาจากต้นท้อบนเนิน...  สองขาที่เคยก้าวตามสัญชาติญาณ บัดนี้กำงังเร่งความเร็วด้วยใจที่เต้นรัว...  

      ' ฉางเชิน... ข้าหนาวเหลือเกิน...'      

       ราวภาพถ่ายที่เลือนลาง...  ภาพเบื้องหน้าคือบุรุษที่โหยหามาตลอด...  เขากำลังสั่นสะท้านเพราะความหนาวเหน็บ..
     ...ด้วยร่างกายชุ่มเลือดสีแดงฉาน...   

      "เพ่ย... เพ่ย!   รอข้า รอข้าก่อน!  "       เสียงแหบแห้งตะโกนออกไปพร้อมสองขาที่ก้าวสู่ใต้ต้นไม้แห่งรัก...  
       ร่างนั้นหยุดนิ่ง....  ค่อยๆหันกลับมายิ้มอ่อนแรงให้กับคนรักที่พยายามดึงดันมาหาตน...  
       
      'ฉางเชิน... ลืมข้าเถอะ... ลืมข้าเถิด...ได้โปรด..ข้าไม่อยากเห็นท่านเจ็บปวดอีกแล้ว... ข้าขอร้อง..ท่านแม่ทัพ.. "

         หัวใจของมนุษย์ผู้แข็งแกร่งหยุดเต้นไปชั่วขณะ ปานถูกปิดแทงด้วยกริชเอาไว้....สองขาพลันหยุดตรงหน้าของอีกคนที่โหยหามานาน...ด้วยน้ำตา 

       "ข้า...ทำไม่ได้..."         

       'อย่าพยายามดึงดันในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้เลย...ท่านรู้อยู่แก่ใจ...ข้าไม่ใช่สิ่งที่มีอยู่จริง... '

          มือหนายื่นออกไปปาดเช็ดเกล็ดหิมะที่เริ่มโปรยปรายลงมาสู่ใบหน้าของคนรัก....    ทั้งที่เป็นเพียงอากาศที่ถูกฉายภาพของคนรัก...   

       หลอกตนเอง...  

       ทั้งอย่างนั้น... เขากลับมีความสุขในสิ่งที่เป็นเช่นนี้.... 

      "ข้าขอ...แค่เพียงสักนิด...ข้าอยากเห็นเจ้าตลอดไป... ข้า   ขอแค่เจ้า...ได้หรือไม่ เพ่ยเฟิงของข้า "   

      'ข้าทำไม่ได้...ข้าขอโทษ... ข้าไม่ใช่สิ่งที่ท่านต้องการ ลืมข้า..ลืมข้าไปซะ... ข้าจะไปสู่เส้นทางของข้า...ได้โปรดทิ้งข้าไปเสียเถิด...ท่านแม่ทัพฉาง '   

     ไม่

     ไม่! 

     ไม่!!     

      อย่าไป  ข้าไม่ให้เจ้าไป!!!    เพ่ยเฟิง!!!!


         .
    .
    .
    .

          "ตื่นแล้วๆ..  ท่านไม่คิดว่าตนเองจะตายในกองหิมะหนาวๆใต้ต้นท้อหรือไงกันนะ  ถึงได้นอนอย่างนั้น "   

       ใบหน้าเรียวขาวมีความเป็นบุรุษของคนตรงหน้าทำให้คนที่เพิ่งกลับจากการหลับใหล  เข้าสู่ภวังค์อีกครั้ง...   

      "เพ่ยเฟิง... ?"       รอยยิ้มอ่อนแรงผุดขึ้นมาบนริมฝีปาก...มือหนายื่นออกไปจับเบาๆอย่างโหยหา ก่อนจะต้องชักมือกลับด้วยสีหน้าตื่นตระหนก 
    อุ่น...  ร่างกายคนผู้นี้อุ่น!      
     
     "อ่า...ข้ามีนามว่า ฟ่านปิง  หมอประจำเมืองน่ะ  ข้าบังเอิญผ่านไปเจอท่านด้วยอะไรสักอย่างที่ทำให้ข้าเกิดพิศวาสอยากไป  และนั่นก็ทำให้ข้าได้พบท่านนอนแข็งอยู่บนนั้น... เอาจริงๆข้าเคยได้ยินชื่อเสียงของท่านมาไม่น้อยเลย"  

      ท่าทางของคนที่ใช้สมองมากกว่ากำลังของคนตรงหน้าทำให้แม่ทัพฉางได้ตระหนักถึงความแตกต่างกันของคนรักกับชายหน้าเหมือนคนนี้ไปโดยสิ้นเชิง...   

      ทั้งที่ใกล้จะคว้าเอาไว้ได้ทันแท้ๆ...  ทั้งที่กำลังจะได้กอดร่างเย็นเฉียบนั่นเอาไว้แท้ๆ.... 

      "ไม่กล่าวอะไรหน่อยหรือ? "      พอรู้สึกถึงความอึดอัดที่อีกฝ่ายไม่ยอมปริปากแล้วก็ยิ่งทำให้หมอหนุ่มเกิดวิตกขึ้นมา  เพราะเกรงว่าจะทำให้แม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่เคืองโกรธเอาได้    แต่พอเห็นกริยาท่าทางกลับรู้สึกเศร้าใจอย่างบอกไม่ถูก...   

    อยากปลอบ... อยากทำให้คนๆนี้สบายใจ...  

    ทำไมกันนะ...?  

      "  ท่านแม่ทัพ... ให้ตาย...   ตายๆไปซะ ความรู้สึกทั้งหมดของท่าน...ข้าจะช่วยท่านเอง  "   ...  

      หมอหนุ่มกัดฟันกับประโยคต่อไปที่กำลังจะกล่าวด้วยท่าทีหวาดกลัว.....กลัวหัวใจของตนเองที่กำลังสั่นคลอน.. ทั้งที่คิดมาตลอดว่าจะไม่สนใจ  ต่อให้เห็นหน้าก็จะไม่ยอมให้ตนเองหลงรักเขาอีกเป็นอันขาด... 

      เพราะแอบรักมาตลอดหรือเปล่านะ...  

      ต่อให้หนีแค่ไหน  แค่เห็นใบหน้าที่คอยเฝ้ามองตลอดหลายปีมานี้...หัวใจก็ไม่อาจห้ามมิให้ตกหลุมรักมนตราที่เขาสร้างขึ้นเองได้...  

      ท่านแม่ทัพฉาง....  

      จะรังเกียจข้าไหม..  ถ้าข้าจะบอกว่า หมอผู้ต่ำต้อยผู้นี้หลงรักท่านมายี่สิบกว่าปี... และตอนนี้ข้าอยากเป็นคนดูแลหัวใจดวงนี้ของท่าน... 

      'จะรังเกียจข้าไหม?'  

       "เจ้าไม่ใช่เพ่ยเฟิง จริงๆ..ใช่ไหม? ''          

       หน้าข้าเหมือนคนรักเก่าของท่านถึงเพียงนั้นเชียวรึ..

      เช่นนี้...ข้าจะมิเป็นตัวแทนของคนๆนั้นหรอกหรือ... ไม่ ข้าไม่ต้องการเช่นนั้น...

       "ข้าไม่ใช่ใครทั้งนั้น "       
    จู่ๆรอยยิ้มที่ข้ามองมาตลอดก็ประดับขึ้นบนริมฝีปากหนา...   เขากำลังพึงพอใจ....   

      " คุณหมอ   กระผมเป็นแผลเหวอะหวะที่หัวใจด้านซ้าย...จอนนี้มันอักเสบมากเพราะกระผมหลอกตนเองมาสองปีจนบาดแผลไม่แห้งสักที... คุณหมอช่วยรักษากระผมทีเถอะ "     

       ใบหน้าข้าร้อนผาวกับคำตอบนั้น... กับหัวใจที่เต้นระรัวราวกับจะทะลุออกมานอกอก...   ทั้งที่คิดมาตลอดว่าไม่มีทางแทรกกายลงไปนั่งบนใจแข็งกล้าดวงนี้ได้...  

      ทั้งที่คิดว่าไม่มีทางแทรกทั้งสองคนได้.... 

      "เช่นนั้น...ข้าบอกไว้ก่อนว่าหมออย่างข้า มีเพียงคนเดียวในโลก "

     "ข้าก็ไม่ได้บอกว่าท่านมีหลายคนนี่  "     แม่ทัพฉางเชิงเอ่ยด้วยท่าทีกวนๆ..  เขาตัดสินใจแล้วเมื่อเห็นน้ำตาของเพ่ยเฟิง...  ยิ่งเขาทรมานมากเท่าไหร่....เพ่ยเฟิงทรมานมากเท่านั้น....  ไม่สิ...แค่เขาเพียงผู้เดียว...  

      สองปีมานี้....  เพ่ยเฟิงคงได้มองเขาจากสวรรค์มาตลอด..  เขาอยากทำให้เพ่ยเฟิงรู้...ว่าเขาอยู่ได้ด้วยตัวเองจริงๆ...  แม้จะเปิดใจให้คนใหม่ก็ตาม... แต่เพ่ยก็จะอยู่ในใจเขาตลอดไป...  

       'คิกๆ...ข้าดีใจที่ท่านคิดได้..ท่านฉาง  ขอให้มีความสุขขอรับ'    

      สายลมที่พัดหอบเอาเสียงกระซิบมาสู่ใบหู... ฉางเชินผุดยิ้ม... เป็นรอยยิ้มที่ไม่ได้เสแสร้งหรือหลอกตนเองอย่างที่เคยทำ....  

      เสียงกระซิบเองก็เช่นกัน...
      

     " เอาล่ะ... รักษาข้าได้เลยหมอ... ท่านจะได้รักษาข้าจนท่านเหนื่อยใจเลยล่ะ "    


    .

             The End

    .
    .
    .
    .
    .

    #จริงๆเรื่องนี้กะจะให้จบแบบ...พระเอกตายตามไรเงี้ย..

    #ยาวชิบหา*เลย



    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×