คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Daughter of Evil [ลูกสาวปีศาจ]
Au Fic ล้านอาถรรพ์ ร้อยคดีหลอน (นิยายอริของรีเซ็ท)
บทที่ 1 :: Daughter Of Evil [ธิดาปีศาจ]
:: ล้านอาถรรพ์ ร้อยคดีหลอน Au Fiction
:: Is Yaoi [เรทไรของมันนิ]
:: RakaT.
"โฮะๆๆ เอาล่ะทีนี้จงคุกเข่าลงซะ!"
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ณ ดินแดนแห่งหนึ่ง
อาณาจักแห่งทรราชผู้ชั่วร้าย
และผู้สืบทอด
ก็คือเจ้าหญิงผู้มีชันษาเพียง 14 ปี
เธอมีของใช้เลิศหรูมากมาย
คนรับใช้ที่หน้าตาคล้ายเธอ
ม้าตัวโปรดที่มีชื่อว่าโจเซฟีน
ทุกอย่างล้วนแล้วแต่เป็นของเธอ
…นี้ๆเคยได้ยินตำนานที่เล่าขานกันมาไหม?...
…ตำนานไหนเหรอ?…
…ก็ตำนานแห่งเมืองอเมทริท…
…อืมๆเราเคยได้ยินละ…
…แต่เราไม่เคยนะ เคยได้ยินแต่ตำนานของเก็ตสึ…
…มาๆเราจะเล่าให้ฟัง…
…อืมๆ…
…ตำนานมีอยู่ว่า…
ย้อนกลับไปก่อนยุคของ ‘ราชาแห่งยุค’ แห่งหมาป่าทมิฬ
เมืองอเมทริทแห่งนี้ ‘เคย’ สงบสุขมาก่อนแต่แล้วเมื่อองค์จักรพรรณดิ กราเทล เดม วินอาร์ค ขึ้นครองราชย์เขาได้นามว่า ‘ปีศาจ’ แต่แล้วเมื่อเขาสิ้นพระชนม์ลงผู้ที่ขึ้นครองราชย์แทนคือ ‘องค์ชายที่แปด’
‘ชาโดว์ คริฟ วินอาร์ค’
มือเรียวยกแก้วน้ำชาขึ้นอย่างงดงาม ร่างของเด็กหนุ่มถูกคลุมทับด้วยเสื้อผ้าลุ่มล่ามแบบพระราชา บนศีรษะที่ปกคลุมที่ด้วยเส้นผมสีเงินสั้นปะบ่ามีมงกุฎสีทองสวยสวมอยู่ ดวงเนตรสีเลือดมองไปยังเด็กหนุ่มข้างตัวดวงเนตรสีแซปไฟร์ของเด็กหนุ่มคนั้นสบกับพื้นดินราวกับจะหาแมลงสาปมากระทืบเล่นฆ่าเวลางั้นแหละ
“ชิเอล….บนพื้นมีอะไรหรือ?” ด้วยสงสัยทำให้องค์ชายลำดับที่แปด เอ่ยถามข้ารับใช้ของเขาผู้มีนามว่า ‘ชิเอล เนล เอลาลี’ ที่ตอบด้วยน้ำเสียงติดตลกตามเคย
“พอดีเมื่อรุ่งเช้า แม่หญิงเรือนหอราตรี ท่านอเล็กซันดร้า ทรงแกล้งปล่อยแมลงสาปนะขอรับ….ข้ามาตามเก็บไปรอบหนึ่งแล้วแต่ไม่แน่ใจว่าหมดหรือไม่น่ะขอรับ” แม่หญิงเรือนหอราตรี? อเล็กซันดร้า? องค์ชายที่แปดขมวดคิ้วอย่างสงสัยเรียกรอยยิ้มจากข้ารับใช้หนุ่มได้อย่างดี “แม่หญิงอเล็กซันดร้า เรเชนเนอร์ ว่าที่พระมเหสีขอรับองค์ชาย”
“อ้า! นี้ข้าลืมชื่อคู่หมั้นไปเสียแล้ว ข้านี้มันแย่จริงๆ”ชาโดว์ตบหัวตัวเองอย่างหงุดหงิดเล็กๆ ชิเอลลอบยิ้มอีกครั้ง “ตามตารางงานในวันนี้ ท่านต้องเสด็จไปเมืองสีม่วงด้วยนะขอรับ”
“เอ๋ จริงหรือ งั้นเราจะรีบไปเตรียมตัวนะส่วนเจ้า…”
“โจเซฟีนสินะขอรับ ทราบแล้วขอรับ” ไม่ทันที่องค์ชายจะกล่าวต่อข้ารับใช้หนุ่มก็แทรกขึ้นก่อน ซึ่งองค์ก็คลี่ยิ้มกับสิ่งที่อีกฝ่ายตอบ ในหมู่ข้ารับใช้ทั้งหมดมีเพียงชิเอลคนนี้ที่ รู้ในทุกความคิดของเขา องค์ชายที่แปดเดินหายลับไปด้วยใบหน้าพอใจ ข้ารับใช้หนุ่มโค้งส่งผู้เป็นนาย เสียงดัง ‘กร๊อบ’ ทำให้เขาก้มหน้าลงมองที่เท้าก่อนคลี่ยิ้มอย่างพึงพอใจก่อนเดินออกไป หลังจากนั้นไม่นานสาวใช้ก็ได้มากวาดอะไรบางอย่างไป…
ณ อดีต เมืองสีทอง ‘เมืองสีม่วง’
“เกรงใจนักขอรับที่ต้องให้ท่านมาเยี่ยมทุกอาทิตย์แบบนี้” ราชาของดินแดนสีม่วงแห่งนี้ ‘ราอิล เดเรียส’ เอ่ยอย่างเกรงอกเกรงใจให้แก่องค์ชายที่แปดที่อายุน้อยกว่าตนถึงสามปี
“เกรงใจ? ราอิล อย่ามาพูดสวยหรูบอกมาเถอะว่าข้ามารบกวนเวลาเล่นกับฮาเร็มของเจ้า”องค์ชายที่แปดจิ๊บน้ำชาด้วยท่าทีสบายๆ ทำเอาราชาแห่งดินแดนสีม่วงสะอึก
“ฮะ ฮาเร็มอันใดกันเล่าขอรับ ท่านก็พูดเกินไป”ราอิลเอ่ยทั้งที่เหงื่อตก ดวงเนตรสีเลือดลอบมองไปยังข้ารับใช้หนุ่มที่หยิบกระดาษแผ่นหนึ่งออกมาจากกระเป๋าเสื้อ
“รายชื่อฮาเร็มของท่านราอิล เดเรียสแห่งดินแดนสีม่วง ท่านหญิงริริน เรย์นะ ท่านหญิง ซาคิโนะ สึคิ แห่งดินแดนเอโดะ ท่านหญิงมาเทล เมซีเรียส แห่งดินแดนแสงสว่าง นางสเตร่า เอเฟียเนอร์ แห่งเมืองสีเขียว ท่านหญิง ลูลินเซีย เฮล่า แห่งควาเรน แม่หญิง เมลิน่า เอลิริน แห่งดินแดนพงไพรแล้วเอ่อ…” ชิเอลละหน้าออกมาจากกระดาษมองหน้าผู้เป็นนายเชิงขออนุญาต ซึ่งมีเพียงการส่ายหน้าที่ตอบกลับมาทำให้เขาต้องเก็บกระดาษแล้วยืนอยู่ที่เดิม
“รู้ละเอียดดีนะขอรับ แล้วแม่หญิง อเล็กซันดร้า เรเชนเนอร์แห่งเมืองราตรีนะขอรับ”ราอิลยิ้มแห้งๆให้แก่องค์ชายที่แปด “นั้นคู่หมั้นข้าอย่ายุ่ง” ก่อนที่องค์ชายที่แปดจะลุกขึ้นยืน
“กลับแล้วหรือขอรับ?” ราอิลถาม “เปล่า แค่จะไปเดินเล่นแถวนี้”ก่อนจะเดินออกไปชิเอลเพียงแค่โค้งส่งเท่านั้น เพราะอีกฝ่ายส่งสายตามาว่า ‘ไม่ต้องตามมา’
“เจ้าอยู่ที่นี้จริงๆด้วย วารีส เกรทฟา”ด้วยเสียขององค์ชายที่แปดทำให้เด็กสาวผมสีน้ำเงินยาวในชุดนักเต้นแบบอินเดียรีบลุกจากม้านั่ง “ถะ ถวายบังคมองค์ชายที่แปดแห่งอเมทริทเพคะ”
“ทำไมเจ้ามาอยู่ที่แห่งนี้กัน วารีส” ชาโดว์มองไล่ไปตามใบหน้างดงามของเด็กสาวซึ่งใบหน้าและดวงเนตรสีฟ้ากระจ่างไม่ต่างไปจากสมัยเด็กเลยสักนิด “ข้าเพียงคิดว่าเขาจะจำข้าได้เท่านั้นเพคะ แต่มิเป็นไรเพคะ ขอเพียงข้าอยู่ข้างกายของเขาก็พอแล้วเพคะ”
“ให้ตายสิ ข้าไม่เข้าใจวิธีการคิดของพวกเจ้าเลยจริงๆนะ แต่เอาเถอะ” องค์ชายที่แปดรวบกอดเด็กสาวเอาไว้ “เจ้าเป็นเหมือนน้องสาวของข้านะวารีส หากเมื่อใดเจ้าหาทางออกมิได้ขอให้บอกข้านะ วันนี้ข้าต้องขอตัวกลับก่อนนะไว้วันหลังจะมาใหม่”
“เพคะ องค์ชายที่แปดแห่งอเมทริท”
แต่คำสัญญานั้นไม่อาจเป็นจริงได้อีกแล้ว
หากเงินตรานั้นร่อยหรอลงเมื่อไหร่
เธอก็จะขูดรูดเอากับประชากร
หากใครต่อต้านเธอแล้วล่ะก็....
จงนำตัวไปประหาร
"เอาล่ะ คุกเข่าลงเดี๋ยวนี้"
บุปผาแห่งปีศาจ
ผลิบานอย่างสวยงาม
ด้วยสีสันอันเจิดจ้า
ทว่ารายล้อมด้วยวัชพืชน่าสมเพชมากมาย
วัชพืชนั้นกลายเป็นสารอาหารและเน่าสลาย
“ขอได้โปรดเถิด พวกข้าไม่เหลืออะไรอีกแล้วนะขอรับอย่าได้แย่งบ้านของพวกข้าไปเลย” ร่างของเด็กหนุ่มผมสีเขียวเข้มคุกเข่าอยู่ตรงหน้าขององค์ชายที่แปดเขาเป็นตัวแทนของชาวบ้านทั้งดินแดน ซึ่งคำขอนั้นไม่ได้ส่งเข้าไปในจิตใจขององค์ชายตัวน้อยเลยสักนิด
“ชิเอล ยึดทรัพย์สินของเจ้าคนถ่อยนี้มาให้หมด ทหารประหารมันตรงหน้าข้าเดี๋ยวนี้”ด้วยคำสั่งนั้นทำให้พวกทหารหรือประชากรที่อยู่ตรงนั้นตกตะลึง มันเป็นการเชือดไก่ให้ลิงดูนั้นเอง
“แต่ว่า” ไม่ทันที่ชิเอลจะได้แก้ตัวแทน องค์ชายที่แปดก็ลุกจากบรรลังค์ก่อนดึงดาบออกมาจากฝัก แทงมันทะลุหัวใจของเด็กหนุ่มคนนั้น เรียกสายตาอันตกตะลึงแก่ชิเอล เสียงของเด็กหนุ่มหนึ่งในหมู่ชาวบ้านดังขึ้นซึ่งเขามีเส้นผมสีดำขลับ
“ไอ้องค์ชายปีศาจ ข้าจะฆ่าเจ้าแน่!!!!”
เจ้าหญิงทรราชก็ตกหลุมรัก
เจ้าชายเมืองสีฟ้า ณ อีกฟากหนึ่งของท้องทะเล
อย่างไรก็ตามสำหรับเจ้าชายแล้ว
ได้ตกหลุมรักหญิงสาวเมืองสีเขียวที่อยู่ข้างเคียง
อารมณ์ของเจ้าหญิงมีเพียงความริษยา
วันหนึ่งเธอเรียกคนรับใช้เข้าพบ
และตรัสสุรเสียงแผ่วเบาว่า
"จงไปทำลายเมืองเขียวให้สิ้นซาก"
บ้านเมืองมากมายถูกเผาทำลาย
ชีวิตมากมายที่ต้องสูญเสียไป
ความโศกเศร้าของผู้คนที่แสนทรมาน
แต่มันไปไม่ถึงเจ้าหญิงแม้แต่น้อย
"เอาล่ะ! ถึงเวลาอาหารว่างแล้วสินะ"
บุปผาแห่งปีศาจ
ผลิบานอย่างงามงด
ด้วยสีสันที่น่าคลั่งไคล้
แม้ว่าจะเป็นดอกไม้ที่แสนสวยเพียงใด
แต่ก็เต็มไปด้วยขวากหนามจนไม่อาจจะแตะต้องได้
ณ เมืองสีเขียว
ร่างขององค์ชายที่แปดแห่งอเมทริท ลงจากหลังม้าตัวโปรด ก่อนมองไปรอบๆซึ่งเขาไม่เคยมาที่ดินแดนแห่งนี้ ซึ่งดวงเนตรสีเลือดของเขามองไปเห็นชายหนุ่มผมสีน้ำตาลเข้ม มันทำให้เขารู้ได้ทันทีว่านั้นคือ เค เซวาเรส องค์ชายแห่งเมืองสีฟ้า ด้านข้างของชายหนุ่มคือร่างของเด็กหนุ่มผมสีเขียวสด ในชุดสีเขียวใบหญ้า องค์ชายที่แปดหันกลับมาหาข้ารับใช้ของตนที่บัดนี้ดวงเนตรสีแซปไฟร์ไม่ได้มองมาที่เขา แต่มองไปยังเด็กหนุ่มคนนั้น …จะเอาอะไรไปจากข้าก็ได้ทั้งนั้น มีเพียงเจ้า…
“ทำลายประเทศสีเขียวซะ อย่าให้ใครรอดไปได้แม้แต่คนเดียว”
…ที่ข้าไม่ยกให้ใคร!…
เพื่อที่จะลบล้างเจ้าหญิงผู้ชั่วร้าย
ท้ายสุดแล้วผู้คนมารวมตัวกัน
ผู้ชักนำให้ผู้คนรวมตัวกันราวกับฝูงนกนั้น
คือนักรบหญิงผู้สวมเกราะสีแดง...
ความโกธรแค้นขยายออกไปเรื่อยๆ
จนลุกลามไปทั้งประเทศ
สงครามแสนยาวนานค่อยๆผ่านพ้นไป
จนทหารไม่อาจต่อต้านข้าศึกได้
ในที่สุดปราสาทก็ถูกปิดล้อม
เหล่าข้ารับใช้ล้วนหนีไปจนหมดสิ้น
เจ้าหญิงที่น่ารักและงดงาม
ถูกจับตัวได้ในที่สุด
"พวกเจ้า ช่างไร้มารยาทกันซะจริง"
บุปผาแห่งปีศาจ
ผลิบานแสนงดงาม
ถูกแตะแต้มด้วยสีสันอันแสนโศกเศร้า
สรวงสวรรค์ของเธอนั้น
โอ ช่างเปราะบางและสลายไปในพริบตา
เปลวเพลิงแห่งเมืองสีเขียวได้ดับลงไปแล้ว แม้ว่าความเสียใจของใครบางคนยังไม่ได้ดับตามลงไปก็ตาม บัดนี้ชาวบ้านต่างลุกขึ้นต่อต้านองค์ชายที่แปด โดยมีเด็กหนุ่มผมสีดำขลับในวันนั้นเป็นหัวทัพเขาอยู่ในชุดเกราะสีแดงสดราวเปลวเพลิง ด้านข้างของเขาคือเด็กหนุ่มผมสีม่วงยาวในชุดเกราะสีเงิน และองค์ชายแห่งดินแดนสีฟ้า เค เซวาเรส ไม่นานองค์ชายผู้ชั่วช้าก็ถูกจับกุมในที่สุด…
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ณ ดินแดนแห่งหนึ่ง
อาณาจักรแห่งทรราชผู้ชั่วร้าย
และผู้สืบทอดนั้น
ก็คือเจ้าหญิงผู้มีชันษาเพียง 14 ปี
เวลาประหารคือเวลาบ่าย3
เวลาที่ระฆังโบสถ์ส่งเสียง
ผู้ถูกเรียกว่าเจ้าหญิงนั้น
เธอจะคิดอย่างไรเมื่ออยู่ในคุกคนเดียว
สุดท้ายเวลานั้นก็มาถึง
เสียงระฆังแห่งจุดจบได้กังวานขึ้น
เธอไม่แม้แต่จะมองเหล่าประชาราษฎ์
และเอ่ยขึ้นว่า
"เอาล่ะ ได้เวลาอาหารว่างแล้วสินะ"
บุปผาแห่งปีศาจ
ร่วงโรยอย่างงามงด
ด้วยสีสันแสนเจิดจ้า
ผู้คนทั้งหลายเล่าลือสืบต่อกันมา
"เธอคือธิดาแห่งปีศาจ"
ระฆังบอกเวลาประหารดังกังวาน
องค์ชายผู้กลายเป็นนักโทษคลี่ยิ้มก่อนเอ่ยประโยคหนึ่งออกมา
“ไว้พบกันใหม่นะ เชล”
กิโยตินสีเงินตัดผ่านคอขององค์ชายหลังจากคำพูดนั้นสิ้นลง เรียกเสียงโห่ร้องขิงการเป็นอิสระจากชาวบ้านได้อย่างดีโดยไม่มีใครสังเกตเห็น ร่างของเด็กหนุ่มผมสีเงินสั้นปะบ่า ดวงเนตรสีเลือดมีหยาดน้ำตาเอ่อล้นออกมาเรือผมสีเงินถูกคลุมด้วยเสื้อคลุมสีน้ำตาลเข้ม ในมือถือขวดโหลอะไรบางอย่างเอาไว้
…จะพรากอะไรไปจากข้าก็ได้…
…แต่ทำไมต้องเป็นเจ้ากัน?…
---TBC.---
ความคิดเห็น