ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Au Song Fic ล้านอาถรรพ์ ร้อยคดีหลอน Saga of Evil

    ลำดับตอนที่ #1 : Daughter of Evil [ลูกสาวปีศาจ]

    • อัปเดตล่าสุด 22 ต.ค. 54


    Au Fic ล้านอาถรรพ์ ร้อยคดีหลอน (นิยายอริของรีเซ็ท)

     

    บทที่ 1 :: Daughter Of Evil [ธิดาปีศาจ]

               

    :: ล้านอาถรรพ์ ร้อยคดีหลอน Au Fiction

           :: Is Yaoi [เรทไรของมันนิ]

           :: RakaT.

     

     

    "โฮะๆๆ เอาล่ะทีนี้จงคุกเข่าลงซะ!"

    กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ณ ดินแดนแห่งหนึ่ง
    อาณาจักแห่งทรราชผู้ชั่วร้าย
    และผู้สืบทอด
    ก็คือเจ้าหญิงผู้มีชันษาเพียง 14 ปี
    เธอมีของใช้เลิศหรูมากมาย
    คนรับใช้ที่หน้าตาคล้ายเธอ
    ม้าตัวโปรดที่มีชื่อว่าโจเซฟีน
    ทุกอย่างล้วนแล้วแต่เป็นของเธอ


     

    นี้ๆเคยได้ยินตำนานที่เล่าขานกันมาไหม?...

    ตำนานไหนเหรอ?

    ก็ตำนานแห่งเมืองอเมทริท

    อืมๆเราเคยได้ยินละ

    แต่เราไม่เคยนะ เคยได้ยินแต่ตำนานของเก็ตสึ

    มาๆเราจะเล่าให้ฟัง

    อืมๆ

    ตำนานมีอยู่ว่า

     

                    ย้อนกลับไปก่อนยุคของราชาแห่งยุคแห่งหมาป่าทมิฬ

            เมืองอเมทริทแห่งนี้ เคย สงบสุขมาก่อนแต่แล้วเมื่อองค์จักรพรรณดิ กราเทล เดม วินอาร์ค ขึ้นครองราชย์เขาได้นามว่า ปีศาจแต่แล้วเมื่อเขาสิ้นพระชนม์ลงผู้ที่ขึ้นครองราชย์แทนคือ องค์ชายที่แปด

                                    ชาโดว์ คริฟ วินอาร์ค

     

            มือเรียวยกแก้วน้ำชาขึ้นอย่างงดงาม ร่างของเด็กหนุ่มถูกคลุมทับด้วยเสื้อผ้าลุ่มล่ามแบบพระราชา บนศีรษะที่ปกคลุมที่ด้วยเส้นผมสีเงินสั้นปะบ่ามีมงกุฎสีทองสวยสวมอยู่ ดวงเนตรสีเลือดมองไปยังเด็กหนุ่มข้างตัวดวงเนตรสีแซปไฟร์ของเด็กหนุ่มคนั้นสบกับพื้นดินราวกับจะหาแมลงสาปมากระทืบเล่นฆ่าเวลางั้นแหละ

                    ชิเอล….บนพื้นมีอะไรหรือ?ด้วยสงสัยทำให้องค์ชายลำดับที่แปด เอ่ยถามข้ารับใช้ของเขาผู้มีนามว่า ชิเอล เนล เอลาลีที่ตอบด้วยน้ำเสียงติดตลกตามเคย

                    พอดีเมื่อรุ่งเช้า แม่หญิงเรือนหอราตรี ท่านอเล็กซันดร้า ทรงแกล้งปล่อยแมลงสาปนะขอรับ….ข้ามาตามเก็บไปรอบหนึ่งแล้วแต่ไม่แน่ใจว่าหมดหรือไม่น่ะขอรับแม่หญิงเรือนหอราตรี? อเล็กซันดร้า? องค์ชายที่แปดขมวดคิ้วอย่างสงสัยเรียกรอยยิ้มจากข้ารับใช้หนุ่มได้อย่างดี แม่หญิงอเล็กซันดร้า เรเชนเนอร์ ว่าที่พระมเหสีขอรับองค์ชาย

                    อ้า! นี้ข้าลืมชื่อคู่หมั้นไปเสียแล้ว ข้านี้มันแย่จริงๆชาโดว์ตบหัวตัวเองอย่างหงุดหงิดเล็กๆ ชิเอลลอบยิ้มอีกครั้ง ตามตารางงานในวันนี้ ท่านต้องเสด็จไปเมืองสีม่วงด้วยนะขอรับ

                    เอ๋ จริงหรือ งั้นเราจะรีบไปเตรียมตัวนะส่วนเจ้า…”

     

                    โจเซฟีนสินะขอรับ ทราบแล้วขอรับ ไม่ทันที่องค์ชายจะกล่าวต่อข้ารับใช้หนุ่มก็แทรกขึ้นก่อน ซึ่งองค์ก็คลี่ยิ้มกับสิ่งที่อีกฝ่ายตอบ ในหมู่ข้ารับใช้ทั้งหมดมีเพียงชิเอลคนนี้ที่ รู้ในทุกความคิดของเขา องค์ชายที่แปดเดินหายลับไปด้วยใบหน้าพอใจ ข้ารับใช้หนุ่มโค้งส่งผู้เป็นนาย เสียงดัง กร๊อบ ทำให้เขาก้มหน้าลงมองที่เท้าก่อนคลี่ยิ้มอย่างพึงพอใจก่อนเดินออกไป หลังจากนั้นไม่นานสาวใช้ก็ได้มากวาดอะไรบางอย่างไป

     

     

                                    ณ อดีต เมืองสีทอง เมืองสีม่วง

                    เกรงใจนักขอรับที่ต้องให้ท่านมาเยี่ยมทุกอาทิตย์แบบนี้ ราชาของดินแดนสีม่วงแห่งนี้ ราอิล เดเรียส เอ่ยอย่างเกรงอกเกรงใจให้แก่องค์ชายที่แปดที่อายุน้อยกว่าตนถึงสามปี

                    เกรงใจ? ราอิล อย่ามาพูดสวยหรูบอกมาเถอะว่าข้ามารบกวนเวลาเล่นกับฮาเร็มของเจ้าองค์ชายที่แปดจิ๊บน้ำชาด้วยท่าทีสบายๆ ทำเอาราชาแห่งดินแดนสีม่วงสะอึก

                    ฮะ ฮาเร็มอันใดกันเล่าขอรับ ท่านก็พูดเกินไปราอิลเอ่ยทั้งที่เหงื่อตก ดวงเนตรสีเลือดลอบมองไปยังข้ารับใช้หนุ่มที่หยิบกระดาษแผ่นหนึ่งออกมาจากกระเป๋าเสื้อ

                    รายชื่อฮาเร็มของท่านราอิล เดเรียสแห่งดินแดนสีม่วง ท่านหญิงริริน เรย์นะ ท่านหญิง ซาคิโนะ สึคิ แห่งดินแดนเอโดะ ท่านหญิงมาเทล เมซีเรียส แห่งดินแดนแสงสว่าง นางสเตร่า เอเฟียเนอร์ แห่งเมืองสีเขียว ท่านหญิง ลูลินเซีย เฮล่า แห่งควาเรน แม่หญิง เมลิน่า เอลิริน แห่งดินแดนพงไพรแล้วเอ่อ…” ชิเอลละหน้าออกมาจากกระดาษมองหน้าผู้เป็นนายเชิงขออนุญาต ซึ่งมีเพียงการส่ายหน้าที่ตอบกลับมาทำให้เขาต้องเก็บกระดาษแล้วยืนอยู่ที่เดิม

                    รู้ละเอียดดีนะขอรับ แล้วแม่หญิง อเล็กซันดร้า เรเชนเนอร์แห่งเมืองราตรีนะขอรับราอิลยิ้มแห้งๆให้แก่องค์ชายที่แปด นั้นคู่หมั้นข้าอย่ายุ่ง ก่อนที่องค์ชายที่แปดจะลุกขึ้นยืน

                    กลับแล้วหรือขอรับ? ราอิลถาม    เปล่า แค่จะไปเดินเล่นแถวนี้ก่อนจะเดินออกไปชิเอลเพียงแค่โค้งส่งเท่านั้น เพราะอีกฝ่ายส่งสายตามาว่า ไม่ต้องตามมา

     

            เจ้าอยู่ที่นี้จริงๆด้วย วารีส เกรทฟาด้วยเสียขององค์ชายที่แปดทำให้เด็กสาวผมสีน้ำเงินยาวในชุดนักเต้นแบบอินเดียรีบลุกจากม้านั่ง ถะ ถวายบังคมองค์ชายที่แปดแห่งอเมทริทเพคะ

                    ทำไมเจ้ามาอยู่ที่แห่งนี้กัน วารีส ชาโดว์มองไล่ไปตามใบหน้างดงามของเด็กสาวซึ่งใบหน้าและดวงเนตรสีฟ้ากระจ่างไม่ต่างไปจากสมัยเด็กเลยสักนิด ข้าเพียงคิดว่าเขาจะจำข้าได้เท่านั้นเพคะ แต่มิเป็นไรเพคะ ขอเพียงข้าอยู่ข้างกายของเขาก็พอแล้วเพคะ

                    ให้ตายสิ ข้าไม่เข้าใจวิธีการคิดของพวกเจ้าเลยจริงๆนะ แต่เอาเถอะ องค์ชายที่แปดรวบกอดเด็กสาวเอาไว้ เจ้าเป็นเหมือนน้องสาวของข้านะวารีส หากเมื่อใดเจ้าหาทางออกมิได้ขอให้บอกข้านะ วันนี้ข้าต้องขอตัวกลับก่อนนะไว้วันหลังจะมาใหม่

                    เพคะ องค์ชายที่แปดแห่งอเมทริท

           

    แต่คำสัญญานั้นไม่อาจเป็นจริงได้อีกแล้ว

     




    หากเงินตรานั้นร่อยหรอลงเมื่อไหร่
    เธอก็จะขูดรูดเอากับประชากร
    หากใครต่อต้านเธอแล้วล่ะก็....
    จงนำตัวไปประหาร

    "เอาล่ะ คุกเข่าลงเดี๋ยวนี้"

    บุปผาแห่งปีศาจ
    ผลิบานอย่างสวยงาม
    ด้วยสีสันอันเจิดจ้า
    ทว่ารายล้อมด้วยวัชพืชน่าสมเพชมากมาย

    วัชพืชนั้นกลายเป็นสารอาหารและเน่าสลาย

     

                    ขอได้โปรดเถิด พวกข้าไม่เหลืออะไรอีกแล้วนะขอรับอย่าได้แย่งบ้านของพวกข้าไปเลย ร่างของเด็กหนุ่มผมสีเขียวเข้มคุกเข่าอยู่ตรงหน้าขององค์ชายที่แปดเขาเป็นตัวแทนของชาวบ้านทั้งดินแดน ซึ่งคำขอนั้นไม่ได้ส่งเข้าไปในจิตใจขององค์ชายตัวน้อยเลยสักนิด

                    ชิเอล ยึดทรัพย์สินของเจ้าคนถ่อยนี้มาให้หมด ทหารประหารมันตรงหน้าข้าเดี๋ยวนี้ด้วยคำสั่งนั้นทำให้พวกทหารหรือประชากรที่อยู่ตรงนั้นตกตะลึง มันเป็นการเชือดไก่ให้ลิงดูนั้นเอง

                    แต่ว่า ไม่ทันที่ชิเอลจะได้แก้ตัวแทน องค์ชายที่แปดก็ลุกจากบรรลังค์ก่อนดึงดาบออกมาจากฝัก แทงมันทะลุหัวใจของเด็กหนุ่มคนนั้น เรียกสายตาอันตกตะลึงแก่ชิเอล เสียงของเด็กหนุ่มหนึ่งในหมู่ชาวบ้านดังขึ้นซึ่งเขามีเส้นผมสีดำขลับ

                    ไอ้องค์ชายปีศาจ ข้าจะฆ่าเจ้าแน่!!!!”

     


    เจ้าหญิงทรราชก็ตกหลุมรัก
    เจ้าชายเมืองสีฟ้า ณ อีกฟากหนึ่งของท้องทะเล
    อย่างไรก็ตามสำหรับเจ้าชายแล้ว
    ได้ตกหลุมรักหญิงสาวเมืองสีเขียวที่อยู่ข้างเคียง
    อารมณ์ของเจ้าหญิงมีเพียงความริษยา
    วันหนึ่งเธอเรียกคนรับใช้เข้าพบ
    และตรัสสุรเสียงแผ่วเบาว่า

    "จงไปทำลายเมืองเขียวให้สิ้นซาก"

    บ้านเมืองมากมายถูกเผาทำลาย
    ชีวิตมากมายที่ต้องสูญเสียไป
    ความโศกเศร้าของผู้คนที่แสนทรมาน
    แต่มันไปไม่ถึงเจ้าหญิงแม้แต่น้อย

    "เอาล่ะ! ถึงเวลาอาหารว่างแล้วสินะ"

    บุปผาแห่งปีศาจ
    ผลิบานอย่างงามงด
    ด้วยสีสันที่น่าคลั่งไคล้
    แม้ว่าจะเป็นดอกไม้ที่แสนสวยเพียงใด
    แต่ก็เต็มไปด้วยขวากหนามจนไม่อาจจะแตะต้องได้



                            ณ เมืองสีเขียว

     

                    ร่างขององค์ชายที่แปดแห่งอเมทริท ลงจากหลังม้าตัวโปรด ก่อนมองไปรอบๆซึ่งเขาไม่เคยมาที่ดินแดนแห่งนี้ ซึ่งดวงเนตรสีเลือดของเขามองไปเห็นชายหนุ่มผมสีน้ำตาลเข้ม มันทำให้เขารู้ได้ทันทีว่านั้นคือ เค เซวาเรส องค์ชายแห่งเมืองสีฟ้า ด้านข้างของชายหนุ่มคือร่างของเด็กหนุ่มผมสีเขียวสด ในชุดสีเขียวใบหญ้า องค์ชายที่แปดหันกลับมาหาข้ารับใช้ของตนที่บัดนี้ดวงเนตรสีแซปไฟร์ไม่ได้มองมาที่เขา แต่มองไปยังเด็กหนุ่มคนนั้น จะเอาอะไรไปจากข้าก็ได้ทั้งนั้น มีเพียงเจ้า

     

    ทำลายประเทศสีเขียวซะ อย่าให้ใครรอดไปได้แม้แต่คนเดียว

     

     

     

    ที่ข้าไม่ยกให้ใคร!…

     


    เพื่อที่จะลบล้างเจ้าหญิงผู้ชั่วร้าย
    ท้ายสุดแล้วผู้คนมารวมตัวกัน
    ผู้ชักนำให้ผู้คนรวมตัวกันราวกับฝูงนกนั้น
    คือนักรบหญิงผู้สวมเกราะสีแดง...
    ความโกธรแค้นขยายออกไปเรื่อยๆ
    จนลุกลามไปทั้งประเทศ
    สงครามแสนยาวนานค่อยๆผ่านพ้นไป
    จนทหารไม่อาจต่อต้านข้าศึกได้
     ในที่สุดปราสาทก็ถูกปิดล้อม
    เหล่าข้ารับใช้ล้วนหนีไปจนหมดสิ้น
    เจ้าหญิงที่น่ารักและงดงาม
    ถูกจับตัวได้ในที่สุด

    "พวกเจ้า ช่างไร้มารยาทกันซะจริง"

    บุปผาแห่งปีศาจ
    ผลิบานแสนงดงาม
    ถูกแตะแต้มด้วยสีสันอันแสนโศกเศร้า
    สรวงสวรรค์ของเธอนั้น
    โอ ช่างเปราะบางและสลายไปในพริบตา

                   

                    เปลวเพลิงแห่งเมืองสีเขียวได้ดับลงไปแล้ว แม้ว่าความเสียใจของใครบางคนยังไม่ได้ดับตามลงไปก็ตาม บัดนี้ชาวบ้านต่างลุกขึ้นต่อต้านองค์ชายที่แปด โดยมีเด็กหนุ่มผมสีดำขลับในวันนั้นเป็นหัวทัพเขาอยู่ในชุดเกราะสีแดงสดราวเปลวเพลิง ด้านข้างของเขาคือเด็กหนุ่มผมสีม่วงยาวในชุดเกราะสีเงิน และองค์ชายแห่งดินแดนสีฟ้า เค เซวาเรส ไม่นานองค์ชายผู้ชั่วช้าก็ถูกจับกุมในที่สุด

     

     

    กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ณ ดินแดนแห่งหนึ่ง
    อาณาจักรแห่งทรราชผู้ชั่วร้าย
    และผู้สืบทอดนั้น
    ก็คือเจ้าหญิงผู้มีชันษาเพียง 14 ปี

    เวลาประหารคือเวลาบ่าย3
    เวลาที่ระฆังโบสถ์ส่งเสียง
    ผู้ถูกเรียกว่าเจ้าหญิงนั้น
    เธอจะคิดอย่างไรเมื่ออยู่ในคุกคนเดียว

    สุดท้ายเวลานั้นก็มาถึง
    เสียงระฆังแห่งจุดจบได้กังวานขึ้น
    เธอไม่แม้แต่จะมองเหล่าประชาราษฎ์
    และเอ่ยขึ้นว่า

    "เอาล่ะ ได้เวลาอาหารว่างแล้วสินะ"

    บุปผาแห่งปีศาจ
    ร่วงโรยอย่างงามงด
    ด้วยสีสันแสนเจิดจ้า
    ผู้คนทั้งหลายเล่าลือสืบต่อกันมา

    "เธอคือธิดาแห่งปีศาจ"

     

     

     

     

    ระฆังบอกเวลาประหารดังกังวาน

                    องค์ชายผู้กลายเป็นนักโทษคลี่ยิ้มก่อนเอ่ยประโยคหนึ่งออกมา

                   

    ไว้พบกันใหม่นะ เชล

     

     กิโยตินสีเงินตัดผ่านคอขององค์ชายหลังจากคำพูดนั้นสิ้นลง เรียกเสียงโห่ร้องขิงการเป็นอิสระจากชาวบ้านได้อย่างดีโดยไม่มีใครสังเกตเห็น ร่างของเด็กหนุ่มผมสีเงินสั้นปะบ่า ดวงเนตรสีเลือดมีหยาดน้ำตาเอ่อล้นออกมาเรือผมสีเงินถูกคลุมด้วยเสื้อคลุมสีน้ำตาลเข้ม ในมือถือขวดโหลอะไรบางอย่างเอาไว้

    จะพรากอะไรไปจากข้าก็ได้

    แต่ทำไมต้องเป็นเจ้ากัน?

     

    ---TBC.---

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×