ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [[+In My Mind+]]----(SNSD TVXQ SJ SHINEE)

    ลำดับตอนที่ #5 : Chapter 32 Promote

    • อัปเดตล่าสุด 13 พ.ค. 54




    คัท!!!

    หญิงสาวถอนหายใจเบาๆ เธอรู้สึกเหมือนยกภูเขาออกจากอก เมื่อการทำงานฉายเดี่ยวของเธอเสร็จสิ้นลงซะที ซอฮยอนกล่าวขอบคุณทีมงานที่ทำให้การถ่ายทำในวันนี้ผ่านไปได้ด้วยดี และกล่าวลาผู้ร่วมรายการคนอื่นๆอย่างสุภาพ จากนั้นก็มุ่งหน้าไปยังห้องแต่งตัว เพื่อที่จะเปลี่ยนเสื้อผ้าและเตรียมตัวกลับหอไปหาพวกพี่ๆเสียที

    ซอฮยอนมุ่งหน้าไปยังลานจอดรถ หลังจากที่พี่ผู้จัดการโทรมาบอกว่ารออยู่ด้านล่างเรียบร้อยแล้ว เธอเดินมาจวนจะถึงลิฟท์ และก็ต้องกึ่งเดินกึ่งวิ่งเล็กน้อย เมื่อประตูลิฟท์บานใหญ่มีท่าทีว่าจะปิดลง

    “รอด้วยค่า!!” เสียงตะโกนเบาๆเกิดขึ้น พร้อมประตูลิฟท์ที่เปิดออกอย่างใจสั่ง

    “ขอบคุณคะ..” หญิงสาวก้มหน้าโค้งขออภัยและขอบคุณคนที่ใจดีเปิดประตูลิฟท์ให้กับเธอ แล้วก็ต้องประหลาดใจเมื่อเจอกับคนที่บังเอิญเจอก่อนหน้านี้อีกครั้ง

    “อ่ะ..พี่คยูฮยอน สวัสดีคะ” สาวแก้มยุ้ยทักทาย เธอเดินเข้าไปในลิฟท์อย่างเกร็งๆ ชายหนุ่มในชุดเสื้อผ้าสบายๆยิ้มให้เธอน้อยๆ ก่อนที่ประตูลิฟท์จะปิดลง

     “เธอลงชั้นไหนละ.....”

    “ชั้นล่างสุดเลยคะ”

    ชายหนุ่มกดลิฟท์ไปยังชั้นล่างสุดทันที มันเคลื่อนตัวลงอย่างช้าๆ ในขณะที่ซอฮยอนเอาแต่มองตรงไปข้างหน้าท่ามกลางความเงียบ

    “เธอทำได้ดีเชียวนะวันนี้” คยูฮยอนเปิดบทสนทนา

    “ไม่หรอกคะ ชั้นยังต้องพัฒนาอีกมาก และพี่ก็ช่วยชั้นไว้เยอะด้วย” หญิงสาวถ่อมตัว

    “ช่วยอะไรกัน ก็ที่เธอพูดมันตลกจริงๆนี่หน่า”

    “ไม่หรอกคะ เพราะพี่มันเลยสนุกขึ้นมา”

    “จะว่าอย่างนั้นก็เถอะนะ ก็ชั้นเป็นคนตลกนิ” ชายหนุ่มพูดหน้าตายพร้อมเสียงหัวเราะน้อยๆ ในขณะที่ซอฮยอนรู้สึกผ่อนคลายและหัวเราะร่วมไปด้วย ทำเอาบรรยากาศเกร็งๆ ในสถานที่แคบๆดีขึ้นมาทันใด

    ไม่นานบานประตูลิฟท์ก็เปิดออก คยูฮยอนผายมือให้หญิงสาวเดินออกมาก่อน ก่อนที่เค้าจะตามออกมา

                “ซอฮยอนอ่า” เสียงเรียกของชายวัยกลางคนดังขึ้น พร้อมเดินเข้ามาหาในทันทีที่เห็นหญิงสาว

                “สวัสดีครับ” คยูฮยอนทักทาย

              “หวัดดี คยูฮยอน เอ๊ะ...เธอมีงานที่สถานีต่อไม่ใช่หรอ”

                “เปล่าหรอกครับ ผมกำลังจะกลับ รอพี่เค้ามารับอยู่เหมือนกัน”

                “หรอ แปลกจัง เอาเถอะๆ กลับกันดีกว่าซอฮยอน วันนี้เธอเสร็จงานเป็นคนสุดท้ายเลย พวกพี่ๆรออยู่ที่หอกันหมดแล้ว” ผู้จัดการอธิบาย

                “คะ ชั้นไปนะคะพี่ สวัสดีคะ” หญิงสาวกล่าวลาชายหนุ่ม ก่อนที่จะเดินไปที่รถตู้คันใหญ่

                คยูฮยอนยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม เค้ามองตามไปจนกว่ารถตู้สีดำคันใหญ่จะเลี้ยวลับสายตาออกไป ชายหนุ่มยิ้มน้อยๆ ก่อนที่จะหันหลังกลับเดินเข้าไปในตึกของสถานีตามเดิม

    แม้จะเป็นช่วงเวลาเพียงไม่กี่นาที แต่มันก็ทำให้เค้ามีความสุขมากมายเหลือเกิน.......

     

     

     

    “กลับมาแล้วค่า” น้องเล็กกล่าวอย่างสดใส เมื่อเดินก้าวข้ามผ่านประตูมา เธอรู้สึกแปลกไปนิดหน่อย เนื่องจากพวกพี่ๆที่มักจะคุยกันเอะอะเสียงดังเสมอ กลับเงียบผิดปกติ

    หญิงสาวเดินผ่านห้องนั่งเล่นด้านหน้า ซูยองและโฮยยอนนั่งรุมโน้ตบุคอยู่ตรงมุมห้อง ยูริและซันนี่กำลังตั้งใจดูข่าวในรายการโทรทัศน์ ในขณะที่เจสสิก้ากำลังคุยโทรศัพท์ใบหน้าเคร่งขรึม

    “ชั้นรู้สึกแปลกๆ มีอะไรกันหรอคะ” ซอฮยอนถามเมื่อเดินเข้าไปในห้องครัว และพบยุนอากำลังหอบไอศกรีมถ้วยใหญ่จากในตู้เย็น

    “อ้าว เธอไม่รู้ข่าวหรอกหรอ” ยุนอาโต้พลางเปิดฝาไอศกรีมถ้วยใหญ่นั้น

    “ข่าว..ข่าวอะไรหรอคะ...”

    ยุนอาจึงเล่าเรื่องทั้งหมดให้เธอฟัง ซอฮยอนได้ฟังเรื่องราวถึงกับเอามือปิดปากและเบิกตากว้างด้วยความตกใจ

    “พี่ก็รู้มาประมาณนี้แหละ แต่พวกพี่ๆเค้าโทรถามข่าวคราวแล้ว พี่ยุนโฮปลอดภัยแล้วนะ แต่ก็ต้องอยู่รักษาตัวอีกหลายวัน ตารางงานชะงักไปเลย”

    “หรอคะ ค่อยโล่งอกหน่อย น่ากลัวจังเลยนะคะ”

    “นั่นสิ ตอนพี่ได้ข่าวทีแรกตกใจแทบตาย” ยุนอาเล่าพร้อมตักไอศกรีมเข้าปาก

    “แล้วพี่แทยอน กับพี่ทิฟฟานีละคะ”

    “อยู่ในห้องนะ พี่แทยอนก็เงียบๆเหมือนเดิม ส่วนพี่ทิฟฟานีเนี่ยสิอาการหนักกว่าอีก ดูเศร้าไปเลย” ยุนอาอธิบายต่อตามที่ตัวเองเห็น พร้อมยื่นไอศกรีมคำใหญ่ให้น้องเล็กที่อ้าปากรับอย่างว่าง่าย....

     

     

     

    ชั้นจะฆ่ามัน!!!’ เสียงลอดผ่านทางโทรศัพท์ดูน่ากลัวอย่างที่เธอไม่เคยได้ยินมาก่อน หญิงสาวเงียบไป เธอไม่มีความเห็นใดๆ และไม่เคยคิดว่าเพราะอะไร หรือใครที่เป็นคนทำเรื่องที่เลวร้ายนี้ เธอเป็นห่วงก็เพียงแต่เค้าเท่านั้น

    “พี่ยุนโฮ......เป็นยังไงบ้างคะ” หญิงสาวเอ่ยถามผ่านโทรศัพท์ น้ำเสียงสั่นเล็กน้อย ดวงตาแดงก่ำ

    ยังตกใจอยู่ หมอให้ยานอนหลับไปแล้วละ มันจะได้ไม่ต้องคิดมาก แจจุงพยายามอธิบาย

    ......

    เธอไม่เป็นไรนะฟานี่ เจ้ายุนโฮมันไม่เป็นไรแล้ว ชายหนุ่มน้ำเสียงอ่อนลง

    ......

    ตารางงานช่วงนี้ก็พักไว้ก่อน ยุนโฮมันได้พักยาวเลยละ ไม่ต้องห่วงนะ แจจุงรีบอธิบายต่อ เมื่อไม่ได้รับคำตอบใดๆตอบกลับมา

    “คะ ....”

    ก๊อก ก๊อก

    “เอ่อ แค่นี้ก่อนนะคะ  ขอบคุณนะคะพี่แจจุง”

    ก๊อก ก๊อก

    ทิฟฟานีวางโทรศัพท์ หญิงสาวปาดน้ำตาที่จวนจะไหลลงมาเต็มที ตรวจเช็คตัวเองในกระจกบานใหญ่ ก่อนจะเดินไปเปิดประตูห้องที่ล๊อคไว้ก่อนหน้านี้

    “แทยอน...”

    “เธอทำอะไรอยู่หรอ” คนมาใหม่ถาม

    “ป..เปล่า ไม่ได้ทำอะไร.... เข้ามาคุยกันข้างในเถอะ” ทิฟฟานียิ้มเหนื่อยๆ พร้อมจูงมือคนตัวเล็กเข้าไปในห้อง

    ทั้งสองนั่งลงข้างเตียง ลีดเดอร์สาวสังเกตสีหน้าและท่าทางของเพื่อน แม้จะไม่ดูแย่หรือมีอาการฟุ้งซ่านเท่าเมื่อตอนเย็น แต่เธอก็ดูซีดเซียว ไม่สดใสเหมือนเดิม แต่มันก็ไม่แปลกนักหรอก เพราะถ้าเป็นเธอ ก็คงมีสภาพไม่ต่างไปจากนี้

    “เธอคิดเรื่องนั้นแล้วรึยัง” ทิฟฟานีถาม

    “อืม ชั้นเข้ามาหาเธอเพราะเรื่องนี้แหละ...” แทยอนตอบช้าๆ

    “ยังไงเธอก็จะไปใช่ไหม เธอคิดดีแล้วนะทิฟ” หญิงสาวถามย้ำอีกครั้ง

    “อืม......ถึงแม้พี่เค้าจะปลอดภัยแล้ว แต่ชั้น...ไม่รู้สิ ชั้นอยากไป..ค..ขอแค่เจอหน้าเค้าแค่นั้นก็ได้”

    “งั้นก็ได้ ช่วงนี้ตารางงานซาลงแล้ว ทางบริษัทจะให้เราพักก่อนที่จะออกอัลบัมใหม่ เดี๋ยวชั้นจะบอกเหตุผลให้พี่ผู้จัดการเอง”ลีดเดอร์อธิบาย

    “ขอบใจนะแท....ชั้นไม่ได้ทำให้เธอลำบากใช่ไหม”

    “ไม่หรอก ชั้นยังไม่ได้ไปบอกพวกน้องๆเลย คงดีใจกันน่าดู..”

    “นั่นสินะ ที่ผ่านมาพวกเราเหนื่อยกันมากเลย..” ทิฟฟานีเสริม

    ......

    ..........

    “แต่......ชั้น..คงไปกับเธอด้วยไม่ได้” ในที่สุดคำพูดที่แสนยากเย็นก็หลุดออกมาจากปากของเธอ

    “ทำไมละ!! เธอจะได้ไปเจอพี่จุนซูด้วยไง ไม่ดีหรอ” ทิฟฟานีท้วง เมื่อไม่เข้าใจความคิดของคนตรงหน้า

    “ไม่รู้สิทิฟ ชั้นขอโทษ....แต่..ชั้น...บอกไม่ถูกนะ..ชั้น.”

    “เธอคงไม่ได้ทะเลาะกับเค้าหรอกใช่ไหม” หญิงสางสวนทันทีเมื่อเห็นอาการอ้ำอึ้งของเพื่อน

    “เปล่า...ไม่ใช่อย่างนั้น แต่..ชั้นไม่อยากบอกลาเค้าอีก มันยากเหลือเกิน ......” แทยอนอธิบาย ภาพวันที่เธอตั้งใจจะไปส่งเข้าที่สนามบินแทรกเข้ามา หญิงสาวไม่รู้ว่าจะอธิบายความรู้สึกของเธอในตอนนี้ออกมาเป็นคำพูดได้อย่างไร เธอคิดทบทวนอยู่หลายครั้ง แต่คำตอบในใจที่ได้กลับมาก็เหมือนเดิม

    ทั้งๆที่เธอคิดถึงเค้าเหลือเกิน.........

    แต่ความวุ่นวายที่ผ่านมา มันได้ตรึงเธอไว้กับที่.......

    เธอสร้างความลำบากให้เค้ามากพอแล้ว....................

    “เธอแน่ใจนะแท” ทิฟฟานีถามย้ำพร้อมมองลึกเข้าไปในดวงตาของเพื่อน

    “อ..อืม...ชั้นขอโทษนะทิฟ”

    “ไม่เป็นไรหรอก ชั้นเดินทางคนเดียวบ่อยไป”

    “ขอโทษจริงๆนะ..”

    “ไม่เป็นไรจริงๆ ชั้นเคารพการตัดสินใจของเธอ ถ้าเธอคิดแบบนั้น ชั้นก็เชื่อว่านั่นเป็นทางที่ดีที่สุดแล้ว” ทิฟฟานีตอบ พร้อมจับมือเพื่อนปลอบๆเพื่อไม่ให้เธอรู้สึกผิด เรื่องแบบนี้ไม่สามารถมีใครคิดแทนใครได้ ซึ่งเธอก็เข้าใจแทยอนเป็นอย่างดี

    และถึงแม้จะไม่มีใครไปด้วย หญิงสาวก็ไม่คิดที่จะเปลี่ยนใจ.....

     

     

     

     

    ท้องฟ้ายามเช้ามืดเริ่มสว่าง เมื่อพระอาทิตย์เริ่มทอแสงเพื่อเป็นสัญญาณของเช้าวันใหม่ หญิงสาวในชุดสบายๆออกไปสูดอากาศยามเช้านอกระเบียงพร้อมกล่องดนตรีคริสตัล ซอฮยอนไขลานและปล่อยให้เด็กสาวเล่นเปียโนให้ฟัง เสียงใสกิ๊งของมันบวกกับอากาศที่สดชื่นทำให้เธอรู้สึกมีชีวิตชีวาเป็นพิเศษ หรืออาจเป็นเพราะได้นอนเต็มอิ่มอย่างที่ไม่เคยได้ทำในรอบหลายเดือนที่ผ่านมา

    น้องเล็กของวงตื่นขึ้นมาเป็นคนแรก ในขณะที่พวกๆพี่ต่างหลับใหลอย่างแสนสบาย วันแรกของการพักผ่อนอย่างเต็มที่เริ่มขึ้น ซอฮยอนเริ่มคิดถึงสิ่งที่ตัวเองอยากทำเมื่อมีเวลาว่างอย่างเช่นในช่วงนี้ แน่นอนที่สุดคือการใช้เวลาว่างกับครอบครัว ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ของเธอจะมาเยี่ยมในช่วงกลางสัปดาห์นี้ สมาชิกคนอื่นๆก็มีแผนการในวันว่างต่างกันไป โดยที่โฮยยอน ซันนี และแทยอนจะกลับไปเยี่ยมครอบครัวที่บ้าน ทิฟฟานีจะไปญี่ปุ่น จะมีแต่คนที่เหลือก็คือซูยอง เจสสิก้า ยุนอาแล้วก็ตัวเธอเองที่อยู่ที่หอพัก

    ซอฮยอนใช้เวลาในช่วงเช้ากับหนังสือเล่มโปรด และเตรียมอาหารเช้าแบบง่ายๆให้พวกพี่ๆ เธอจัดการอาหารมื้อเช้าของตัวเองหลังจากที่โฮยยอนและทิฟฟานีตื่นพอดี พร้อมบอกทั้งสองคนว่าเธอมีธุระที่บริษัทในวันนี้ ซึ่งทั้งสองสาวก็ไม่ได้ถามรายละเอียดใดๆ เพียงแต่รับรู้แบบครึ่งหลับครึ่งตื่นเท่านั้น หรือหากว่าพวกพี่สาวจะถาม เธอก็ไม่สามารถให้คำตอบได้อยู่ดี

    หญิงสาวเดินเข้าบริษัทด้วยสีหน้าสดใส ทักทายบรรดาทีมงานที่มาทำงานตามปกติ นาฬิกาที่ข้อมือบ่งบอกว่าใกล้ถึงเวลานัดตามที่พี่ผู้จัดการได้บอกไว้แล้ว ความสงสัยเริ่มแทรกซึมเข้ามาทีละน้อยว่าทำไมตนถึงถูกเรียกพบในวันนี้ ยิ่งคิดยิ่งทำให้เธอประหม่า ในขณะที่พยายามทบทวนบทบาทและการกระทำของตัวเอง ซึ่งเธอก็เชื่อว่าเธอไม่ได้ทำอะไรที่ผิดพลาดจนถึงขั้นที่จะต้องโดนเรียกมาตำหนิ แต่ก็นึกหาเหตุผลไม่ออกอยู่ดี ซอฮยอนจึงปัดความคิดฟุ้งซ่านต่างๆออกไป และมุ่งหน้าไปยังห้องทำงานชั้นบนสุด เพราะคำตอบที่เธอพยายามค้นหาก็จะปรากฏในไม่กี่นาทีนี้เท่านั้น

    หญิงสาวเคาะประตูไม้บานใหญ่เบาๆ ไม่นานก็มีเสียงผู้ชายใจดีตอบรับให้เข้ามาได้ ภายในห้องทำงานโออ่ากว้างขวาง เค้านั่งอยู่บนหลังโต๊ะทำงานตัวใหญ่ ส่งยิ้มใจดีให้เธอ หญิงสาวโค้งทักทายอย่างสุภาพหลังจากก้าวข้ามธรณีประตูเข้ามา

    แต่ภายในห้องหรูนั้น มีชายอีกคนยืนหันหลังให้กับเธอ ภาพด้านหลังนั้นดูคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก

    “พี่คยูฮยอน.........”

    ชายหนุ่มหันไปหา ยิ้มทักทายเธอเหมือนเคย ในขณะที่ซอฮยอนโค้งทักทายเค้าอย่างสุภาพเช่นเดียวกัน ทำเอาคนที่นั่งอยู่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับท่าทางของคนทั้งสอง

    “เอ่อ..คือ ชั้นไม่ทราบจริงๆคะว่าท่านมีแขกอยู่ เดี๋ยวชั้นจะออกไปรอข้างนอกนะคะ”

    “ไม่ ไม่เป็นไร ชั้นเรียกเธอทั้งคู่มาพร้อมกัน ไม่จำเป็นต้องมีใครออกไปรอข้างนอกกหรอก นั่งสิ ทั้งสองคน” ทั่งคู่นั่งลงตรงหน้าโต๊ะทำงานตัวใหญ่ หญิงสาวมองไปที่คนข้างๆอย่างงงๆ เมื่อสิ้นเสียงสดใสจากท่านประธาน ซึ่งชายหนุ่มก็มีสีหน้าแปลกใจปรากฏเช่นเดียวกัน

    “ช่วงนี้เป็นยังไงบ้างละ เธอทั้งสองคน”

    “ผมก็อยู่ในช่วงโปรโมทอัลบัมอยู่ครับ ก็มีทั้งรายการเพลง แล้วก็รายการโทรทัศน์นิดหน่อยครับ”

    “ส่วนหนูพึ่งได้พักจริงๆก็วันนี้นี่แหละคะ ขอบคุณมากนะคะท่าน อัลบัมหน้าหนูจะทำให้เต็มที่เลยคะ” คนทั้งสองรายงาน

    “ดีแล้วละนะ ...” ชายวัยกลางคนยิ้มตอบ มองคนทั้งสองไปมา สีหน้าครุ่นคิดเล็กน้อย

    “เอาละ....ชั้นคิดดีแล้ว ชั้นจะพูดกับพวกเธอตรงๆ แบบไม่อ้อมค้อมเลยนะ.....เมื่อวันก่อนชั้นมีโอกาสได้ดูรายการที่พวกเธอทั้งคู่ไปออกด้วยกัน...”

    ซอฮยอนกลืนน้ำลาย รายการวันนั้นหรอ เราไม่ได้ทำอะไรที่ไม่ดีนิ หรือว่ามันออกมาไม่ดีเอาซะเลย หญิงสาวเริ่มว้าวุ่น ในขณะที่ชายหนุ่มยังคงตั้งใจฟังด้วยความสงสัย

    ..........

    “พวกเธอดูเข้ากันดีมากๆเลยละ ...” ชายวัยกลางคนเอ่ยอย่างรื่นเริง

    “ค...ค่ะ??” หญิงสาวเริ่มงง

    “พวกเธอดูเข้ากันดีมากๆเลยไง ทั้งตอนเวลาพูดคุย หรือเวลาอยู่ด้วยกันอย่างตอนนี้ ดูดีทีเดียว...ชั้นไม่แปลกใจเลย ว่าทำไมแฟนๆถึงชอบจับคู่ให้พวกเธอนัก...”

    คยูฮยอนนั่งนิ่ง กำลังครุ่นคิดไปพร้อมกับคำพูดของคนตรงหน้า แต่ซอฮยอนกลับยิ่งงงมากขึ้นไปอีก คิ้วของเธอขมวดเป็นปมอย่างไม่เข้าใจ จนคนที่เห็นต้องอธิบายต่อ

    “คบกันเลยดีไหม....” ท่านประธานกล่าว น้ำเสียงแสนธรรมดาเหมือนกำลังพูดถึงเรื่องดินฟ้าอากาศยังไงยังงั้น

    “อ...อะไรนะคะ!!!” น้องเล็กฝ่ายหญิงหน้าตาเหรอหรา ในขณะที่ฝ่ายชายนั่งนิ่งเงียบเหมือนเคย เพราะสิ่งที่เค้าคาดการณ์ไว้ในใจกลับเกิดขึ้นจริง

    “ก็ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก เพียงแต่ว่าทำให้คนอื่นคิดว่าพวกเธอคบกันอยู่ พวกแฟนๆคงกระตือรือร้นตื่นเต้นกันน่าดูเลยละ”

    “มันจะดีหรอคะท่าน....ค..คือหนู..”

    “ไม่มีอะไรเสียหายนิหนูซอฮยอน ยิ่งช่วงที่พวกเธอหยุดพักเตรียมออกอัลบัมใหม่ กระแสจะได้ไม่เงียบไปไง ชั้นคิดกับทีมงานหลายๆคนแล้ว มันเป็นสิ่งที่จะมีแต่ผลดีมากกว่าผลเสียนะ” คำพูดนั้นทำเอาทั้งสองเงียบอึ้ง

    .....................

    “พวกเธอไม่ต้องตกใจกันขนาดนั้นหรอก ชั้นไม่ได้บังคับให้พวกเธอแต่งงานกันสักหน่อย ก็แค่ไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยๆ ไปตามงานก็ทักทายกันให้ดูสนิทสนมหน่อย อ่อ...ไปรายการต่างๆก็พูดถึงกันและกันบ้าง แบบว่าให้แฟนๆได้ลุ้นกันนะ พวกเธอก็ไม่ใช่คนอื่นไกลกันที่ไหน พี่น้องร่วมบริษัทเดียวกันแท้ๆ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรนะ” ท่านประธานอธิบายยืดยาว โดยที่เด็กทั้งสองได้แต่นั่งฟังอย่างเดียว

    “ว่าไงละ คยูฮยอน” เค้าหันไปถามชายหนุ่มที่เอาแต่เงียบ

    “ลำพังผมคนเดียวไม่เท่าไหร่หรอกครับ ถามซอฮยอนดีกว่า” ชายหนุ่มกล่าวอย่างสุภาพ

    “หนูซอฮยอน สิ่งนี้ก็เพื่อตัวหนูเอง แล้วก็เป็นการโปรโมทวงของหนูกับพวกพี่ๆไปในตัวด้วยไงละ มันไม่มีอะไรต้องกังวลเลย พวกเธอก็น่าจะสนิทกันอยู่แล้วนิ” ท่านประธานหันพูดอธิบายกับหญิงสาว

    ซอฮยอนแอบชำเลืองมองคนข้างๆ ในขณะที่เค้าหันหน้ามามองเธอตรงๆ จริงอยู่ว่ามันเป็นผลดีต่อแผนการโปรโมต แต่เธอกับเค้าก็ไม่ได้สนิทสนมกันมากถึงขั้นนั้น แถมยังต้องมาทำเหมือนว่าคบกัน หญิงสาวเริ่มรู้สึกอึดอัดและเคอะเขิน แถมเธอยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคนที่เป็นแฟนกันต้องทำยังไงบ้าง

    เธอไม่รู้ ไม่เคยเข้าใจเรื่องพวกนี้เลยจริงๆ.......

    ...............

    .......................

    “ผมว่า...ไม่ต้องทำถึงขนาดนั้นหรอกครับ โซนยอชิแดก็ดังอยู่แล้ว..ไม่จำเป็น..”

    “ตกลงคะ..” หญิงสาวพูดแทรกเมื่อคนข้างๆเริ่มบอกปัด ท่านประธานยิ้มร่า คยูฮยอนหันไปมองเธออย่างไม่เชื่อสายตา ถึงมันจะเป็นแค่แผนการโปรโมต แต่สิ่งที่เค้านึกถึงเป็นอันดับแรกก็คือความรู้สึกของเธอ แม้ว่าตอนนี้ใจของเค้าจะเต้นไม่เป็นจังหวะเลยก็ตาม

    “คะ........” ซอฮยอนรับ มองไปทางอื่น

    “เธอไม่จำเป็นต้องทำก็ได้ ถ้าไม่อยาก...”

    “พูดอะไรแบบนั้นละ เธอตกลงเองแท้ๆ นายจะไปพูดให้เธอลังเลทำไม” ชายวัยกลางคนท้วงอย่างไม่สบอารมณ์

    “ไม่เป็นไรคะ ชั้นจะทำ.... ชั้นเชื่อท่านประธาน มันคงไม่ใช่เรื่องยากอะไร พี่ก็ช่วยชั้นด้วยละกันนะคะ” หญิงสาวยืนยันอีกครั้ง หันไปหาคนข้างๆ

    “งั้นเอาเป็นว่าตามนี้ก็แล้วกัน” ท่านประธานสรุป

    ....

    .......

    “ตอนนี้เธอกลายเป็นคู่น้องเล็กของ sm แล้วนะ”

     

     

     

     

    หญิงสาวในชุดเดรสสั้นสีชมพูมองหน้าปัดนาฬิกาข้อมือ เมื่อเสียงประกาศภายในอาคารรองรับผู้โดยสารบ่งบอกว่าถึงเวลาแล้ว หญิงสาวเตรียมพาสปอร์ตและสิ่งของจำเป็นต่างๆ เธอคล้องกระเป๋าแบรนด์เนมไว้ในมือ พร้อมกระชับแว่นกันแดดสีดำอันใหญ่ เพื่อเตรียมเดินทางขึ้นเครื่อง

    ทิฟฟานีเคลียร์ตารางงานอย่างเร็วที่สุด เธอบอกกับเพื่อนๆไว้แล้วว่าจะไปญี่ปุ่นในช่วงวันพักผ่อนยาวนี้ ทุกคนยกเว้นแทยอนต่างแปลกใจ อาจเป็นเพราะอาการซึมเศร้าแปลกๆพักหลังมานี้ทำให้ไม่มีใครเซ้าซี้เธอมากนัก เธอบอกลาทุกๆคนแล้วเมื่อคืนก่อนเดินทาง เพื่อนๆต่างอวยพรให้เธอโชคดีและเที่ยวให้สนุก หญิงสาวไม่โกรธเลยที่ไม่มีใครไปกับเธอด้วย เพราะทุกคนก็ย่อมมีช่วงเวลาเป็นของตัวเองสำหรับโอกาสพักที่หายากเช่นนี้

    และเธอก็เลือกที่จะไปหาเค้าคนนั้น........

     หญิงสาวกุมจี้ไม้กางเขนอย่างหวงแหน ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังจุดตรวจพาสปอร์ตและวีซ่าต่างๆ แต่เธอก็ต้องชะงัก เมื่อมีเสียงเรียกแทรกขึ้นดังลั่น

    “มิยองงงงงง!!!!!!!

    คนถูกเรียกหันไปตามเสียง พบหญิงสาวผิวสองสีสวมเสื้อผ้าสบายๆลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่วิ่งมาหาเธอ แม้ว่าทั้งสองจะสวมแว่นกันแดดเช่นเดียวกัน แต่ทิฟฟานีก็รู้ได้ในทันทีว่าคนที่ตะโกนเรียกชื่อเธอดังลั่น จนคนบริเวณรอบข้างเริ่มหันมามองนั้นเป็นใคร......

    ควอน ยูริ.......

    “ทำไมไม่รับโทรศัพท์ย่ะ ชั้นโทรหาเธอจนมือจะหงิกอยู่แล้ว” คนมาใหม่หอบน้อยๆจากการวิ่ง

    “ยูริ ทำไมเธอ....” ทิฟฟานีมองกระเป๋าเดินทางของเพื่อนงงๆ

    “ชั้นคงไม่มาที่นี่พร้อมของพะรุงพะรังเพื่อมาส่งเธอหรอก ก็จะไปด้วยกันกับเธอนะแหละ ถามได้”

    “ยูริ..เอ่ออ...ชั้นไม่ได้ไปเที่ยวหรอกนะ....”

    “ไม่ได้ไปเที่ยวแล้วไปทำอะไรละ เอาน่า ชั้นอุตส่าห์คิดตั้งหลายวันว่าจะไปด้วยกันกับเธอหรือเปล่า แล้ววันนี้เธอก็ดันตื่นเช้าชะมัด” หญิงสาวบ่นยาว

    “ยูริ เธอ..”

    “ไปกันเถอะ เดี๋ยวเราจะไม่ได้ไปกันทั้งคู่เพราะตกเครื่องนะ” คนตัวสูงกว่าพูดพร้อมเดินนำไปทันที ทิฟฟานีได้แต่เดินตามเพื่อนไปอย่างจนใจ

    “มันจะยิ่งกลายเป็นเรื่องใหญ่หรือเปล่าเนี่ย......”

     

     

     มาแล้วอีกตอนค่า

    ช่วงนี้จะอัพช้าหน่อย เพราะคิดไม่ออก ฮ่าๆๆ

    คยูซอเริ่มแล้ววววววว

    โปรดติดตามตอนต่อไปค่า

    แล้วก็เหมือนเดิม เม้นเยอะๆนะ อิอิ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×