คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #74 : ยุคแห่งการสำรวจที่ 69 แผ่นจานทองคำจากดาวเคราะห์สีน้ำเงิน
วันที่ 23 ธันวาคม U.C. 25
1 ปีกว่าๆหลังจากวันนั้น ณ กองยานสำรวจที่ 3
ฝ่ายเซ็นเซอร์"ท่านครับ มีบางอย่างกำลังตรงมาทางนี้ครับ"
หัวหน้ากอง"ใช้ก้อนอุกาบาตรึป่าว?"
ฝ่ายเซ็นเซอร์"ไม่ใช่ครับ จากระบบแล้วมันถูกระบุว่าเป็นดาวเทียมครับ!"
หัวหน้ากอง"หืม? ดาวเทียมเศษขยะอวกาศพวกนั้นลอยมาถึงนี้เชียว"
ฝ่ายเซ็นเซอร์"ไม่ครับ มันไม่ใช่ของพวกเราไม่มีสัญญาณมันไม่ได้ปล่อยสัญญาณที่พวกเราใช้กันอยู่ครับ"
หัวหน้ากอง"…หรือว่าจะเป็นพวกของสิ่งมีชีวิตชั้นสูงอื่นๆรึป่าวนะ…เอาเถอะส่งโดรนไปเก็บกลับให้มาที"
ฝ่ายควบคุมโดรน"รับทราบคำสั่งครับ ทำการขออนุญาติปล่อยโดรนเก็บกู้ที่ช่อง 1 ครับ"
ฝ่ายหอควบคุมที่1"อนุญาติให้โดรนเก็บกู้ที่ช่อง 1 ออกไปทำภารกิจ"
แล้วโดรนก็ออกไปเก็บกู้ในทันที…
ตัดไปที่กองยานสำรวจที่ 4
ฝ่ายเซ็นเซอร์"ท่านครับมีดาวเทียมที่ไม่ได้ลงทะเบียบไว้ในระบบกำลังลอยอยู่กลางInterstellarครับ!"
หัวหน้ากอง"เก็บกู้มันมาซ่ะ"
ฝ่ายควบคุมโดรน"รับทราบคำสั่งครับ"
.
ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา…
แซม"อย่าให้เรื่องนี้ส่งไปถึงรัฐบาล ส่งมาให้พวกเราตรวจสอบก่อน"
หัวหน้ากองสำรวจที่ 1และ4"รับทราบครับท่าน"
หลังจากนั้น 1 ชั่วโมงยานขนส่งขนาดเล็กสองลำก็ได้ ออกมาจากวาร์ป มันได้เข้ามาที่ท่าเทียบยาน ซึ่งก็มีแซมและคัทยูช่ายืนรอรับของนั้นอยู่ ด้วยสีหน้าที่ไม่อาจคาดเดาได้ แต่ภายในใจของทั้งสองนั้นได้ภาวนาถึงอายุของดาวเทียมนี้ว่าขอให้ไม่มากเกินไป
คัทยูช่า"เตรียมห้องพิสูทจ์อายุสิ่งของและห้ามคนที่ไม่มีการ์ดแดงเข้าใกล้เด็ดขาด!"
เจ้าหน้าที่1"รับทราบครับ! รหัสแดงที่ห้องพิสูทจ์หมายเลข 1 !!"
เจ้าหน้าที่2"ไปเคลียร์ทางซ่ะ!"
ไม่นานนักพวกเราก็มาถึงห้องพิสูทจ์อายุ อุปกรณ์มากมายก็ได้เริ่มเคลื่อนไหวทันที ที่ได้สั่งการเข้าไป ภายในห้องนั้นมีเพียงแค่ 2 คนอยู่เท่านั้น…
คัทยูช่า"ได้โปรดเถอะ…"
แซม"…"
และในที่สุดเพียงแค่ 15 วินาทีหลังจากที่เครื่องได้เดินผลก็ได้นั้นทำให้คัทยูช่าถึงกับเข่าทรุด แต่แซมก็ช่วยประคองตัวไวได้ทัน ก่อนจะดึงเข้ามากอด… ---แผ่นเสียงทองคำอายุ 3,053,747,203,338,201 ปี--- ก่อนที่ระบบคอมพิวเตอร์จะทำการถอดรหัสได้เสร็จและเสียงก็ได้เล่นออกมา…
.
หลังจากที่ฟังจบแซมก็เดินออกจากห้องซึ่งก็ผ่านเหล่าผู้กล้าที่เพิ่งมาถึงหน้าประตูไป
มิคาโตะ"ก-เกิดอะไรขึ้นคุณแซม?"
ฟูจิวาเสะ"เดี๋ยวสิตอบคำถามพวกผมก่อน!"
นานามิ"…ไปถามพี่คัทยูช่าข้างในดีกว่าเผื่อจะได้อะไรขึ้นมา"
มายุมิ"อืม! ไปกันเถอะ"
แล้วทั้งสี่ก็เดินเข้าไปเจอคัทยูช่ากำลังยืนเอามือปิดตาอยู่กลางห้อง
นานามิ"เอ่อ เกิดอะไรขึ้นหรอพี่คัทยูช่า?"
ซึ่งคัทยูช่าก็ไม่ได้ตอบอะไร แต่ก็ได้ชี้ไปที่แผ่นทองคำ และตัวเลขอายุของมัน…
มิคาโตะ"แผ่นทองคำ?"
มายุมิ"มันมีอะไรรึป่าว?"
ฟูจิวาเสะ"ข้างหลังนี่ใช่…อย่างที่ผมคิดป่าว?"
แล้วคัทยูช่าก็ผงกหัวให้เป็นคำตอบ…
*ฟุบ!…
ทันใดนั้นก็มีเสียงคนล้มลงไปนั่งที่พื้น ซึ่งก็ทำให้ทุกคนหันไปหาทันที
มายุมิ"เกิดอะไรขึ้นฟุจิวาเสะคุง!? ทำไมนายร้องไห้ละ!"
ฟูจิวาเสะ"ผะ-แผ่น---นั้นน่ะ…มันคือแผ่นที่บันทึกโลกที่พวกเราจากมาทั้งใบไว้…และเมื่ออายุมันนานขนาดนั้นแล้ว…แต่เรากลับไม่พบใครในจักรวาลเลย…มันก็หมายความว่า…อารยธรรมมนุษย์บนดาวโลกได้…สูญสลายไปแล้ว…ยังไงล่ะ"
สิ้นเสียงทุกคนก็ถึงกับเข่าทรุด
นานามิ"มะ-หมายความว่า…พวกเราจะไม่มีทางกลับไปหาพ่อแม่ได้แล้วใช่ไหม?"
คัทยูช่า"ถึงไม่อยากจะพูด…แต่ว่าถูกแล้วล่ะเธอพูดถูกแล้วล่ะ เวลานานขนาดนั้นดวงอาทิตย์ก็คงดับไปนานแล้วด้วย…"
.
หลังจากวันนั้นพวกเราก็ใช้เวลาไปกว่า 1 เดือนกว่าพวกเราจะทำใจได้
ณ ห้องทำงานของแซม
เพียงเวลาผ่านไปได้แค่ 1 วันก้นบุหรี่จำนวนมากก็ได้ถูกเก็บกวาดจนสะอาดเหมือนเมื่อ 1 เดือนก่อน
แซม"เอาเถอะ…เราไม่มีที่ให้กลับไปแล้ว…เพราะงั้นก็ต้องเดินหน้าไปให้ถึงที่สุดแทน อดีตพวกนั้นน่ะเราจะลืมมันไปเพื่อที่จะเดินหน้าต่อไป…"
แล้วแซมก็ลุกจากเก้าอี้ และเริ่มทำงานที่ดองไว้ตลอด 1 เดือนทำให้มีเอกสารกองเป็นภูเขากว่า 18 กองให้ทำทั้งวันทั้งคืน
แซม"เอาล่ะเข้ามาได้เลยศัตรูตลอดกาลของฉัน…งานเอกสาร"
ตัดไปที่คัทยูช่า
ในที่สุดตอนเย็นของวันเธอก็สามารถปล่อยวางได้สำเร็จ และกลับมาทำงานเต็มที่เหมือนเดิม นั้นทำให้เธอตัดสินใจไม่พักผ่อน และตั้งหน้าตั้งตาทำงานอย่างเดียวตลอด 1 สัปดาห์เพื่อเป็นการทำงานส่วนที่ควรจะทำตลอด 1 เดือน แต่นั้นก็ไม่เป็นไรเพราะสำหรับร่างกายของพวกที่เหนือมนุษย์นั้น แทบไม่ต้องพักผ่อนก็สามารถอยู่ได้อยู่แล้ว
คัทยูช่า"จริงสิ…ด้านเทคโนโลยีชีวภาพพวกเรายังไม่เคยไปจริงจังกับมัยเลยนี่น่า…จะเป็นยังไงน้า ถ้าพวกเราทำการดัดแปลงพันธุกรรมของพวกเราให้มีความสามารถมากขึ้นได้ หรือจะเป็นการสกัดแล้วเอามาทำเป็นยาเพิ่มอายุไขดี…จริงสิ พวกเซลล์อมตะ ฉันลืมไปได้ยังไงเนี่ย?"
ในตอนนี้ความคิดของคัทยูช่าที่เกี่ยวกับพันธุกรรมวิศวกรรมก็ได้โลดแล่นเข้ามาในหัว
คัทยูช่า"ถ้าหาก…พวกเราสามารถเอาข้อดีของSuper-humanกับSpecial-humanมารวมกันได้ล่ะ…ชักจะน่าสนใจขึ้นมามากซ่ะแล้วสิ…ได้เวลาเริ่มโปรเจคพัฒนาสายพันธุ์บนโลกของพวกเราแล้วสิ"
.
หลายวันต่อมา…
ณ ห้องทดลองพิเศษสำหรับคนที่มีการ์ดแดงเท่านั้นที่จะเข้ามาได้
หลังจากที่คัทยูช่าได้แอบไปหยิบเลือดของทุกเผ่าพันธุ์ในห้องเก็บตัวอย่างเลือด ที่ปกติจะเอาไว้ตรวจสอบการกลายพันธุ์ของเซลล์ของพวกที่ทำหน้าที่ไปสำรวจระบบอื่นๆทุกๆ 1 เดือน เพื่อป้องกันความผิดปกติที่เกิดขึ้น ซึ่งปกติมันก็จะไม่ได้ใช้ทำอะไรจึงเอาไปเก็บไว้ในห้องเก็บเลือดทั่วไปสำหรับพวกเผ่าพันธุ์แวมไพร์ที่มาทำงานที่นี่
คัทยูช่า"เวลานี้พวกนั้นคงไปนอนกันหมดแล้ว ทีนี้ก็ไม่ต้องระวังไม่ให้ใครเห็นอีกแล้ว จะได้ใช้สมาธิได้เต็มที่สักที"
แล้วคัทยูช่าก็เริ่มใช้เครื่องแยกรหัสDNAออกจากกัน เพื่อทำการตรวจแต่ละจุดเพื่อหาจุดที่ทำให้เกิดข้อเสีย หรือจุดที่ทำให้เกิดข้อดี เช่นของเผ่าเอลฟ์พวกเขามีDNAที่สามารถทำให้พวกเขาสามารถรับมานาได้มากกว่ามนุษย์ทั่วไป ของเผ่าคนเคราะห์พวกเขามีDNAที่สามารถทำให้พวกเขามีสมาธิที่สูงมากตั้งแต่เกิด
ของเผ่าโอเกอร์พวกเขามีความอดทนต่อความเจ็บปวดได้สูงมาก ของเผ่าเงือกพวกเขาสามารถหายใจในน้ำได้ ของเผ่ามนุษย์มีความฉลาดที่สูงที่สุด ของเผ่ามารพวกเขามีความสามารถลดความเสียหายจากเวทมนต์ และมีมานาสูงที่สุด เผ่าครึ่งสัตว์ทั้งหลายต่อมน้ำลายของพวกเขามีการสร้างน้ำลายที่เป็นสุดยอดการรักษาตัวเอง
คัทยูช่า"แน่นอน…ทุกอย่างมีข้อเสียเพราะงั้นเราต้องหาวิธีแยกมันออกไป"
ข้อเสียของเผ่ามนุษย์เลยนั้นก็คือเซลล์ที่กระหายสงคราม ของเผ่าเอลฟ์นั้นร่างกายของพวกเขาอ่อนแอมากไม่ว่าจะเป็นทางกายภาพ หรือทางจิตใจ ของเผ่าคนเคราะห์พวกเขานั้นมีความสูงที่ไม่ถึงมาตราฐานทั่วไป ทำให้พวกเขาต้องใช้อุปกรณ์ที่มากกว่าเผ่าอื่นๆ
ของเผ่าโอเกอร์พวกเขามีเซลล์ที่ทำให้พวกเขาโมโหง่ายหายยาก ของเผ่าเงือกพวกเขาไม่สามารถหายใจบนบกได้ตามปกติพวกเขาต้องการน้ำแทบจะตลอดเวลา ของเผ่ามารพวกเขานั่นเล่ห์เหลียมเกินกว่าที่จะคาดถึง เผ่าครึ่งสัตว์ทั้งหลายพวกเขามีเซลล์ที่มีโอกาศจะกระตุ้นสัญชาติญาณดิบสูงเป็นพิเศษ
คัทยูช่า"ทีนี้เราก็ต้องแยก และลองประกอบเซลล์พวกนั้นเข้าด้วยกัน และต้องดูด้วยว่าแบบไหนนั้นสามารถใช้งานได้จริง…"
ตัด ตัด ตัด
วันนี้พอแค่นี้ก่อน
[22.46] [20/4/2566]
ความคิดเห็น