NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ไปสร้างประเทศกับคู่หู ณ ต่างโลก (จบ)

    ลำดับตอนที่ #21 : รุ่นอรุณที่ 18 การเริ่มบุกยึดเมืองหลวง(BLITZKRIEGจบ) กับปัญหาครั้งใหม่ (ภาครุ่นอรุณแห่งสงคราม)

    • อัปเดตล่าสุด 15 ส.ค. 65


    ตัดไปที่ก่อนหน้านี้ในมุมมองของอาณาจักรลอเรียสก่อนหน้านี้ตลอด 1 เดือนที่ผ่านมา

    หลังจากการบเสียทหารเกินครึ่งทำให้ต้องรีบเสริมกำลังกลับมาทันทีไม่งั้นประเทศรอบข้างจะบุกเข้ามาได้(ทำคนอื่นเค้าไว้เยอะ)จึงทำการเกณฑ์ทหารมาจากประชาชนกับทาสมาเข้ากองทัพทำให้ตอนแรกที่เศรษฐกิจตอนแรกแย่อยู่แล้วกลับแย่ลง เนื่องจากก่อนที่จะมีสงครามพวกเขานั้นก็ได้ลงทุนทางทหารไปประมาณ 50% 

    หลังจากที่เสียกองทัพครึ่งนึงก็เท่ากับว่าเสียงบประมาณประเทศไปเกือบ 1/3 ทันที ยิ่งตอนนี้เป็นช่วงฤดูหนาวค่าใช้จ่ายด้านอาหารที่ไม่สามารถปลูกเพิ่มได้ก็ต้องเพิ่มขึ้นจากการนำเข้า และการส่งออกเกลือรายใหญ่ของลอเรียสนั้นก็ถูกสาธารณรัฐรัสเซียอเมริกาที่ครองตลาดและส่งออกเกลือเป็นจำนวนมากกว่าและถูกกว่าถึง 2 เท่า

    ทำให้รายได้ของประเทศลอเรียสนั้นน้อยลงอย่างเห็นได้ชัดและคุณภาพชีวิตของประชากรนั้นก็ตกลงไปด้วย(ทุกการกระทำมันทีผลตามมาเสมอ) 

    เอาล่ะตัดกลับมาที่ก่อนหน้าที่ปฏิบัติการจะเริ่ม 10 นาทีดีกว่า

    ซึ่งวันนี้ก็เป็นเช้าอีกวันที่สดใสเป็นปกติของเมืองหลวงลอเรียส ชาวบ้านออกมาจับจ่ายใช้สอยกันตามปกติ และเหล่าอัศวินเองก็ฝึกกันตามปกติซึ่งวันนี้ก็ดูเป็นวันที่สดใสตามปกติวันหนึ่ง…

    แต่แล้วก็มีบางอย่างเข้ามาทำลายความสงบสุขนั้นไป

    *ฟิ้วววววว!! ปัง!! ตู้มมมม!!! โครมมม!!

    สิ่งนั้นเข้าสู่เขตเมืองหลวงอย่างรวดเร็วและออกไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน 

    *กรี้ดดด!!!

    และมันก็ทิ้งความเสียหายเอาไว้เช่นบ้านเมืองเสียหายจากการที่มันทะลุความเร็วเสียง มันทำให้ชาวบ้านที่อยู่ข้างล่างต่างพากันตกใจและขวัญผวา

     

    ตัดไปที่ในวัง

    ในตอนที่เข้ามายั๋วรอบแรกราชาวิลเลียมกำลังประชุมอยู่พอดี

    ราชาวิลเลียม"เกิดบ้าอะไรขึ้น!!!"

    (ไรท์:ไว้อาลัยให้แก่เขาหน่อยนะครับนี้เป็นตอนสุดท้ายที่เขาจะโผล่มาแล้ว55)

    และก็มีขุนนางวิ่งเข้ามาแจ้งข่าวทันที

    ขุนนาง1"พวกเราโดดบุกรุกน่านฟ้าครับ จากทางที่พวกมันมาปรากฎว่าเป็นของ…เอ่อ…สาธารณรัฐรัสเซียอเมริกาครับท่าน"

    ขุนนาง2"ไอพวกล้าหลังนั้นน่ะหรอ! เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด!!"

    ราชาวิลเลียม"พวกมันอุอาจเกินไปแล้ว! ถ้าพวกศาสนจักรมาถึงเมื่อไหร่ล่ะก็ข้าจะไปถล่มพวกมันด้วยตัวเองเลย!"

    *ปัง!

    ขุนนาง3"ท่านราชาครับ!"

    ราชาวิลเลียม"เสียมารยาทไม่เห็นพวกเราประชุมอยู่รึไง!!"

    ขุนนาง3"ข้าน้อยขออภัยอย่างสูงครับ!! ตอนนี้พวกมันกำลังจะมาอีกครั้งแล้วครับ! สายข่าวที่อยู่ในเมืองพวกมันเห็นพวกมันส่งอะไรสักอย่างขึ้นฟ้าแล้วกำลังบินมาทางเราประมาณ 15 ตัวครับ และอีก 50 ตัวกำลังจะตามมาอีกครับ!"

    ราชาวิลเลียม"ออกคำสั่งไปว่าอย่าให้พวกมันมาครองอากาศได้! และส่งกองกำลังอัศวินมังกรไปต้อนรับมันซ่ะ!"

    ขุนนาง3"ครับท่านราชา เห้ย! ได้ยินแล้วใช่ไหมไปกระจายข่าวได้"

    ลูกน้อง(ขุนนาง3)"ครับท่่าน!! ไปเร็วๆ!!"

     

    ไม่ถึงนาทีอัศวินทั้งเมืองที่คอยป้องกันเมืองอยู่ก็ได้บินขึ้นไป 

    และ 5 นาทีต่อมา

    เครื่องบินF-4e และMiG-21 ก็บินมาถึงและทำการกำจัดกองบินทางอากาศทั้งหมดภายในไม่ถึง 1 นาที และเศษซากจากไวเวิร์นก็ตกลงมาที่เมืองชาวเมืองต่างหวาดกลัวก็พากันหลบอยู่แต่ในบ้าน และเสียงเครื่องบินที่ขับผ่านไปด้วยความเร็ว 2 เท่าของเสียงก็ผ่านหัวของพวกเขาไป

    และเมื่อไร้ซึ่งอำนาจการป้องกันทางอากาศเครื่องบินทิ้งระเบิดก็ได้บินเข้ามาที่ความสูงที่ไม่มีใครไปถึง และเริ่มทิ้งระเบิดลงไปจำนวนมากลงไปเบื้องล่าง

    *ฟิ้ววววววว…! 

    จอมพลที่อยู่ในค่ายทางทิศตะวันตกของเมืองหลวงได้ตะโกนขึ้นมาหลังจากได้ยินเสียงแปลกๆ

    จอมพล"นี่มัน เสียงอะไรกัน?"

    จอมพลได้ลุกขึ้นมาและมองไปยังหน้าต่าง ภาพที่ปรากฎนั้นก็คือแสงสว่างจ้า และนั้นเองก็เป็นภาพสุดท้ายในชีวิตของเขา

    *ตู้ม!!!!!…ตู้ม!!!!!

    ระเบิด 2 ลูกได้ตกลงที่ค่ายแห่งนี้ลูกแรกตกตรงฝั่งตะวันตกของค่ายและอีกลูกตกตรงเขาพอดีที่ฝั่งตะวันออกของค่าย

    แล้วระเบิดก็ได้ระเบิดตามจุดต่างๆที่ถูกชี้เป้าไม่ว่าจะเป็นค่ายทหาร คลังอาวุธ โรงไวเวิร์น และอาคารบัญชาการ

    ก่อนเสียงระบิดจัะเงียบไป 1 นาที ก่อนจะมีเสียงระเบิดแบบต่อเนื่องราว 40 ครั้งติดต่อกัน

    เมื่อเวลาผ่านไปหลายนาที 

    ทหารผู้รอดชีวิตในวังก็ได้ตั้งสติ และพยายามออกจากเศษซากไปดูสถานการณ์ภายนอกก็พบกับซากวังที่ไม่เหลือภาพจำเดิม กลับควันที่เกิดจากระเบิดตามจุดต่างๆที่เกี่ยวกับการทหารทั้งหมด

    ทำให้ทหารผู้รอดชีวิตคนนั้นได้ขาอ่อนล้มทั้งยืนไปนั่งน้ำตาไหลอยู่ที่พื้น

    ทหารผู้รอดชีวิต"เหอะๆ ฮ่ะๆๆๆ นี่มันไม่จริงใช่ไหม!? ปีศาส พวกเรากำลังสู้กับปีศาสใช่ไหม?"

    .

    .

    เอาล่ะกลับไปที่ฝั่งสาธารณรัฐรัสเซียอเมริกาของเรากัน

    หลังจากที่เครื่องบินขนส่งรอบที่สองได้บินขึ้น แซมก็ได้รับการติดต่อจากคัทยูช่าที่กลับไปถึงเมืองMCVแล้วมา

    คัทยูช่า"ฮัลโหล…"

    แซม"ยืนยันความเสียหายของระเบิดที่ไปทิ้งหน่อย"

    คัทยูช่า"ใจเย็นๆหน่อยสิ ถ้างั้นเอาเป็นว่าระเบิดทั้งหมดตรงเป้าไม่โดนประชาชน และฐานทัพซัตรูถูกทำลายทั้งหมด"

    แซม"เยี่ยม แล้วกองร้อยทั้งสองที่ไปเป็นแนวหน้าล่ะ"

    คัทยูช่า"หน่วยปืนใหญ่พวกนั้นทำลายป้อมปราการหมดแล้วอีก 20 นาทีเฟส 3 จะเริ่มทันทีที่เครื่องนายไปถึง"

    แซม"งั้นแล้วเจอกันของไปทำภารกิจให้เสร็จก่อน"

    คัทยูช่า"รับทราบ"

     

    แล้วแซมก็เริ่มไปเซ็คเชือกที่มัดรถถังต่างๆ ร่มชูชีพว่าปลอดภัยไหม เมื่อเช็คเสร็จแล้วแซมก็ไปเตรียมตัวที่ทางออกทันที เพราะเวลาเหลืออีก 10 นาทีจะถึงที่แล้ว

    นักบิน"ท่านผู้นำครับจะถึงในอีก 10 นาทีแล้วครับ"

    แซม"ช่างไปเตรียมตัวปล่อยรถถังทั้งหมดได้แล้ว"

    ช่าง"รับทราบครับท่าน!"

    แล้วแซมก็ติดต่อหาเคียฟกับเร็กษ์ที่อยู่ที่พื้นทันที

    แซม"รายงานสถานการณ์มา"

    เร็กษ์"ตอนนี้กองทัพพวกมันเริ่มออกจากเมืองมาตั้งแถวเตรียมรบแล้วครับ"

    เคียฟ"ตอนนี้พวกนั้นกำลังเสริมเวทย์อยู่ครับ"

    แซม"เดียวไปJAMให้ตั้งแถวเตรียมBLITZKREGได้เลย รถถังจะไปเสริมในอีกไม่เกิน 8 นาที"

    พลสื่อสาร"ท่านครับF-4กับMiG-21อย่างล่ะ 25 ลำกำลังจะมาถึงเป้าหมายใน 10 นาทีแล้วครับ"

    แซม"บอกพวกนั้นให้เครื่องล่ะ 10 ลำไปถล่มแนวหน้าทันทีที่ถึงที่เหลือเตรียมซัพพอร์ต"

    พลสื่อสาร"ครับท่าน"

     

    7 นาทีต่อมา

    *แอ็ด!! แอ็ด!! แอ็ด!!

    เมื่อถึงจุดแล้วช่างก็ปลดสายออกแล้วส่งรถถังMBT-70กับT-72ลงทันที ส่วนแซมก็กระโดดลงไปแล้ว

    แซม"ยะฮู้วว!!….JAM!!!"

    แซมได้ทำการใช้มือเล็งไปที่นักเวทย์ฝั่งนั้นที่กำลังจะร่ายเสร็จพอดี แล้วสั่งJAMทันทีทำให้วงเวทย์แตกแล้วเกิดระเบิดจากทีี่วงเวทย์ไม่สมบูรณ์ทันที

     

    *อ้ากก!!

    นักเวทย์"กะ--เกิดอะไรขึ้นทำไมมานาแถวนี้หายไปหมดเลย-"

    นายกอง1"นั้นมันอะไรว่ะนะ"

    นายกอง2"มันปล่อยอะไรลงมาว่ะนั้นน่ะ"

     

    ตัดไปที่แนวหน้า

    ตอนนี้แซมอยู่เหนือแนวหน้าสูง 30 เมตรพอดีจึงตัดรมชูชีพทิ้งและดิ่งลงไปข้างล่างทันที

    *ฟิ้วว! ตึง!!!

    แซม"ไปเตรียมตัวได้ทันทีที่รถถังลงถึงพื้นก็ขึ้นไปขับ และบุกขึ้นหน้าทันที!"

    เหล่าพลรถถัง"ครับท่าน!"

    แซม"เคียฟแกไปคุมการบุกปีกขวา ส่วนเร็กษ์ไปคุมการบุกปีกซ้าย เดียวฉันนำทัพตรงกลางเอง"

    เคียฟ/เร็กษ์"ครับท่าน!"

    เมื่อออกคำสั่งเสร็จทุกคนก็รีบไปประจำที่ทันที 

     

    10 วินาทีต่อมารถถังทั้งหมดก็ถึงพื้น และพลรถถังทั้งหมดก็ขึ้นและเริ่มบุกเข้าไปในทันที

    *ฟิ้ววว!! ตู้มมมม!! ตู้มมมม!! ตู้มมมม!! ตู้มมมม!! ตู้มมมม!! ปังง!! ปังง!! ปังง!! ปังง!! ตู้มมมม!! ตู้มมมม!! ตู้มมมม!! 

    ในเวลาที่ปืนใหญ่รถถัง ปืนใหญ่สนามได้ยิงพร้อมกัน และเครื่องบินก็เข้ามาทิ้งระเบิดในเวลาเดียวกันพอดี

    รถถังทั้งหมดได้เดินขึ้นหน้า พร้อมกับหน่วยทหารที่วิ่งตาม

     

    *ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!! ตู้ม! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!! ตู้ม!

    กระสุนปืนจำนวนมากได้สาดเข้าใส่ทหารที่กำลังป้องกันแนวอยู่ ถึงอีกฝ่ายจะมีนักเวทย์อยู่เยอะ แต่เวทมนต์ก็โดนแจมไปแล้วทำให้ไร้ประโยชน์ทันที 

    ไม่กี่นาทีผ่านไป รถถังจากกลุ่มปีกข้างก็มาถึงหน้าประตูเมืองโดยได้ล้อมทหารนับหมื่นให้อยู่กลางวงล้อม

    รถถังบางส่วนได้ยิงประตูและเจาะเข้าไปในเมือง ส่วนที่เหลือได้ล้อมฆ่าศัตรูทั้งหมดทันที

    นักเวทย์1"มันยิงปืนโดนแขนข้า! อ้ากกก!"

    นักเวทย์2"ปืนบ้าอะไรวะเนี่ยยิงได้เร็วชิบหาย! อ้ากกก! ข้าโดนยิง!"

    นักเวทย์3"สัตว์ปีศาสของพวกมันล้อมพวกเราแล้ว! อ้ากกก-"

    หลังจากนั้นกองทัพหน้าเมืองก็ถูกยิงตายจนหมดเพราะพวกมันไม่มีการยอมแพ้เลยสักคน

    เมื่อแนวหน้าแตกยับ การต่อสู้ก็เข้าไปในเมือง ถึงจะมีการต่อต้านจากทหารอยู่บ้างแต่ก็ไร้ประโยชน์

    เวลาผ่านไปไม่นานกองทัพของแซมก็เข้าสู่ใจกลางเมืองได้แล้วก่อนจะบุกไปยังวังที่สภาพเละเป็นขี้อยู่ทันที

    *ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! 

    แซม"ซอยขวาเคลียร์"

    นายทหาร1"ซอยซ้ายก็เคลียร์แล้วครับ!"

    แซม"ตรงไป เราจะมอบความเป็น“ประชาธิปไตย”อันหล่อเท่(รึป่าววะ?)ให้พวกกับพวกลอเรียสกัน!"

    นายทหารทั้งหมด"โอ้!!"

    ไม่กี่นาทีต่อมาทหารของแซมก็ได้ยึดเมืองหลวงเสร็จสิ้น ก่อนจะนำกองกำลังไปตั้งกองกำลังป้องกันพวกกองทัพขุนนางที่คุมเมืองขึ้นอื่นอยู่

    แซม"รีบขุดสนามเพาะซะอีกไม่เกินชั่วโมงครึ่งทัพเสริมพวกมันจะบุกมาถึง!"

    หน่วยปืนใหญ่(ท.)"ท่านครับตั้งปืนใหญ่เสร็จแล้วพร้อมใช้งานแล้วครับ"

    หน่วยรถถัง"ขุดดินป้องกันรถถังเสร็จแล้วครับ"

    แซม"ดีมาก"

    ไม่กี่สิบนาทีหลังจากนั้น ก็มีเสีงระเบิดจากระยะไกลเป็นสักพัก ก่อนที่เครื่องบินF-4จะบินกลับมาโดยระเบิดหมด นั้นเป็นความหมายว่าพวกมันใกล้มาถึงแล้ว

    แซม"เตรียมปืนใหญ่ได้!"

    หน่วยปืนใหญ่1(ท.)"ครับท่าน!"

    หน่วยปืนใหญ่2(ท.)"ท่านครับศัตรูจะเข้าระยะยิง 5 นาทีจากที่C-130ของเราได้ไปลาดตระเวณมาครับ!"

    แซม"ถ้าพวกมันเข้าระยะแล้วก็จัดได้ตามที่ต้องการเลย"

    การวางกองกำลังของแซมนั้นให้ทหาร 200 นาย อยู่สนามเพาะ และอีก 50 นายอยู่บนกำแพง(อีก 50 นายควบคุมความสงบในเมือง)(ทหารอีก 1 กองร้อยก็ได้มาเพิ่มหลังจากที่ยึดเมืองเสร็จ) ส่วนปืนใหญ่ตั้งไว้หลังเมือง 10 กระบอก และรถถังและIFV 40 คัน(มาเพิ่มหลังจากที่ยึดเมืองได้เสร็จ)ก็ตั้งแนวหน้ากระดานห่างกัน 5 เมตรเพื่อค่อยช่วยทหาร

    ส่วนเครื่องบินที่เหลือจำนวน 10 ลำก็จะต้องกลับภายใน 10 นาที แซมจึงสั่งให้ไปทิ้งระเบิดทั้งหมดใส่พวกมันแล้วกลับได้เลย

    ไม่กี่นาทีต่อมาพวกเราก็เห็นพวกมันที่เส้นขอบฟ้าแล้ว และเสียงปืนใหญ่ที่หนักแน่นได้ยิงถล่มไปสักพักแล้วก็ได้เร่งการยิงเพิ่มขึ้นไปอีก

    แซม"ถ้าพวกมันเข้าระยะของหน่วยไหนแล้ถล่มได้ไม่ยั้งได้เลย!!"

    *ปัง!!! ปัง!!! ปัง!!! ปัง!!! ปัง!!! ปัง!!! 

    รถถังที่อยู่ด้านหลังแนวได้เริ่มยิงปืนใหญ่กันแล้วแสดงว่าเข้าระยะ 2 กม. แล้ว 

    และพวกมันก็ขยับเข้ามาเร็วขึ้นแต่จำนวนทหารที่วิ่งเข้ามาตอนแรกมี 200,000 นาย จนตอนนี้เหลือ 150,000 นายหลังจากที่เข้าระยะ 600 เมตร. ทำให้เหล่าทหารที่อยู่ในสนามเพาะและบนกำแพงได้เปิดฉากถล่มเข้าไปเพิ่ม ส่วนเครื่องบินทิ้งระเบิดอย่างB-52Hก็ได้เข้ามาช่วยถล่มอีกแรง 4 ลำที่ทำภารกิจในเฟส 2 ได้เข้ามาช่วยจากการที่คัทยูช่าสั่งให้ไปช่วยแนวหน้า

    *ปัง!! ปัง! ปัง! ตู้ม!!! ปัง! ปัง! ตู้ม!!! ปัง!! ตู้ม!!! ตู้ม!!! ตู้ม!!! ตู้ม!!! ตู้ม!!!

    ทั้งเสียงปืนจากปืนใหญ่รถถัง เสียงปืน เสียงระเบิดที่ทิ้งลงมา รวมถึงจากปืนใหญ่ดังขึ้นอยู่ตลอดเวลาทำให้คนในเมืองต่างหลบอยู่แต่ในบ้านและงานคุมคนในเมืองก็ง่ายขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

    ไม่นานหลังจากนั้น การต่อสู้ก็จบลงโดยฝั่งแซมไร้การสูญเสีย มีเพียงได้รับบาดเจ็บจากโดนธนูปักไหลอยู่ราว 30 นาย ส่วนฝั่งทหารลอเรียสที่บุกเข้ามาก็ล้มตายไปเกือบ 80% ที่เหลือบาดเจ็บสาหัส 12% และที่เหลือโดนจับเป็นเชลยศึก 8% 

    ปฏิทินกลางศาสนจักร ปี 1201 เดือน 1 วันที่ 7 เวลา 9.03 น.

    เวลาผ่านไป 6 วันข่าวการพ่ายแพ้ของกองทัพเมืองหลวงและกำลังเสริมที่เข้าไปช่วยได้แตกพ่ายไปแล้วไปถึงพวกเมืองต่างๆในอาณาจักร ขุนนางที่คุมเมืองอยู่บางรายก็ยอมแพ้ บ้างจะสู้ต่อบ้างแต่ก็โดนเมืองขึ้นเหล่านั้นลุกฮือ(เมืองขึ้นส่วนใหญ่ได้รับการกดขี่อย่างหนักเพราะเป็นพวกกึ่งมนุษย์ทำให้โดนอาณาจักรที่คลั่งศาสนากดขี่อย่างน่าสงสารไม่ว่าจะเป็นการบังคับให้เป็นทาส ไม่ก็โดนบังคับรุมขมขืน(ไรท์:ยุคกลางมันโหดร้ายมันไม่ได้สวยหรูหรอกนะ))

    และสุดท้ายเชื้อพระวงศ์คนสุดท้ายอย่างวิลเลียมที่2ก็ได้ประกาศยอมแพ้จึงเข้าสู่โต๊ะเจรจา

    .

    การเจรจาเป็นไปอย่างตึงเคลียด เฉพาะฝั่งลอเรียสเพราะตัวเองไปเริ่มก่อนทำให้กลัวว่าจะโดนอะไรต่างๆนาๆ แต่สุดท้ายก็ไม่มีอะไรที่เป็นการกดขี่แม้แต่อย่างเดียว (ไรท์:หรือว่ามีว่ะ)


    สนธิสัญญา

    -สนธิสัญญา-

    -ให้เหล่าขุนนางและเชื้อพระวงศ์ทั้งหมดสละตำแหน่งกลับไปเป็นคนธรรมดา

    -ยกเลิกระบบทาสทั้งหมด

    -เปลี่ยนระบอบการปกครองเป็นประชาธิปไตย

    -ห้ามตั้งกองทัพเกินสองแสนห้าหมื่นนาย

    -ทางสาธารณรัฐรัสเซียอเมริกาจะขอทิ้งทหารไว้ 1 กองร้อยเพื่อป้องกันประเทศแห่งนี้จากประเทศรอบข้างเพื่อความปลอดภัยจนกว่าจะตั้งตัวได้

    -ทางสาธารณรัฐรัสเซียอเมริกาจะทำการสัมปทานเหมืองแร่ทางทิศตะวันตก 1 เหมืองเป็นเวลา 10 ปี และทำการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานเมืองเพื่อป้องกันโรคระบาด


    วิลเลียมที่2"มีแค่นี้ใช่ไหม?"

    แซม"ไม่มีเหตุผลที่ต้องการมากกว่านี้อยู่แล้วล่ะ"

    วิลเลียมที่2"ถ้าแค่นี้ข้าพอยอมรับได้อยู่"

    แซม"งั้นก็ดีแล้ว…แล้วอดีตเมืองขึ้นล่ะจะมารวมกันเป็นสหพันธรัฐไหม ทางเราจะได้คุ้มครองพวกท่านได้"

    ตัวแทนอดีตเมืองขึ้น1"ข้าเห็นด้วยครับท่าน พวกข้าเห็นเป็นประจักษ์ว่ากองทัพพวกท่านแข็งแกร่งเพียงใด"

    ตัวแทนอดีตเมืองขึ้น2"ข้าด้วย!"

    ตัวแทนอดีตเมืองขึ้น3-5"พวกข้าก็ด้วย!"

    แซม"งั้นก็ดีการเจรจาสันติภาพจะจบลงแต่เพียงเท่านี้!"

    และสุดท้ายสงครามครั้งนี้ก็จบลงด้วยดีด้วยความที่วิลเลียมที่2ค่อนข้างเกลียดคำสอนของศาสนจักรเลยยอมรับโดยไม่รอศาสนจักรเข้ามาไกล่เกลียทันที

    หลังจากการเจรจาเสร็จสิ้นพวกทหารทั้งหมด 2 กองร้อยพร้อมยุทโธปกรณ์ได้ทำการขนกลับเมืองโดยทิ้งกองร้อย 1 กองร้อยเอาไว้และจะมาเปลี่ยนกองทุกๆ 1 เดือน และรัฐบาลใหม่ของลอเรียสได้ตั้งขึ้นและทำการประกาศการเปลี่ยนระบอบการปกครอง และแจ้งถึงเรื่องต่างๆทั้งหมด ถึงแม้จะมีคนไม่เห็นด้วยอยู่บ้าง(40%) แต่สุดท้ายก็กลับมาสงบสุขดี

    ทางด้านสาธารณรัฐรัสเซียอเมริกาก็ได้ทำการจ้างงานคนงานเหมืองให้มาทำงานพร้อม กับเอาของที่อยู่ในประเทศมาขาย และซื้อบ้างเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้คงตัว

    แล้วแซมก็เดินทางกลับเมือง และเดินทางไปยังMCV

    แซม"กลับมาแล้ว"

    คัทยูช่า"ยินดีต้อนรับกลับนะ!"

    รอบนี้คัทยูช่าได้พุ่งเข้ามาตามปกติแต่แซมไม่หลบและกอดคัทยูช่าเอาไว้

    แซม"รอบนี้ไม่หลบแล้วนะ"

    คัทยูช่า"ในที่สุด!"

    แซม"ไม่ไปทำงานต่อหรอ"

    คัทยูช่า"ขอกอดอีกหน่อยเดียวไปทำงานต่อแล้ว"

    แซม"อ่ะๆ"

    .

    .

    .

    ปฏิทินกลางศาสนจักร ปี 1201 เดือน 2 วันที่ 7 เวลา 11.03 น.

    เป็นเวลากว่า 1 เดือนแล้วหลังจากที่สงครามได้จบลง และความสงบสุขของเมืองก็ได้อยู่มาตั้งแต่นั้นมา พ่อค้ากลับมาค้าขายเพิ่มขึ้น รวมถึงทาสจำนวนมากที่หลบนีมาจากประเทศของตนก็ได้หนีมาแล้วขอการเป็นประชนกันเต็มไปหมด

    และวันนี้ก็เป็นวันที่ยุ่งของคัทยูช่าเป็นธรรมดาอีกด้วย

    คัทยูช่า"เฮ้อ! เอกสารเต็มไปหมดเลยง่า--"

    *ครึกก…

    พนักงานส่งเอกสาร"ท่านครับมีจดหมายจากศาสนจักรครับ"

    คัทยูช่า"หืม… เอามาวางไว้ตรงนี้แล้วก็ไปทำงานต่อได้"

    พนักงานส่งเอกสาร"ครับท่าน…"

    แล้วคัทยูช่าก็เปิดอ่านไม่นานหลังจากนั้นก็มีพลังเวทย์จำนวนมากที่รั๋วไหลออกมาจากห้องทำงานของคัทยูช่า

    แซม"หืม เกิดอะไรขึ้นล่ะเนี่ย"

    *ก็อกๆ ครึด แอดด..

    แซม"เกิดอะไรขึ้นรึป่าว"

    คัทยูช่า"ก็นิดหน่อยน่ะ…เอาไปดูเองเดียวก็รู้เองแหละ…"

    แซม"หืม…อืมม…ให้ตายเถอะพึงจบปัญหาไปเองนะเนี่ย"

    เนื้อความจดหมาย1

    ตัวข้าสมเด็จพระสันตะปปาปาโพปที่ 2 

    เราได้รับรู้ความจริงแล้วว่าราชาวิลเลียมที่ 1 นั้นได้ประกาศสงครามใส่พวกท่านก่อน ปัญหานั้นเราจะขอให้ถือว่ามันจบลงไปเพียงเท่านี้แต่ทางเรานั้นเห็นกองทัพของท่านยังไม่ถอนออกจากลอเรียส ซ้ำปฏิเสธการขึ้นครองราชย์ของวิลเลียมที่2ซึ่งเป็นเชื้อพระวงศ์คนเดียวที่เหลือรอดและยังเปลี่ยนระบอบการปกครอง โปรดแสดงเมตตาวิลเลียมที่2ได้ขึ้นครองราชย์ด้วยเถิด

    ลงชื่อ: สมเด็จพระสันตะปาปาโพปที่ 2 

    แซม"ไร้สาระว่ะ"

    คัทยูช่า"แล้วจะทำยังไงต่อดีล่ะ?"

    แซม"ก็เขียนจดหมายกลับไปที่นั้นสิ เนื้อความก็อย่างที่รู้ๆกันอยู่"

    คัทยูช่า"เห้อ ได้สิ แต่ถ้าเป็นอย่างงั้น-"

    แซม"ต้องกลัวด้วยหรอ"

    คัทยูช่า"ไม่อยู่แล้วน่า!!!"

    แล้วคัทยูช่าก็เขียนจดหมายกลับ

    เนื้อความจดหมาย2

    การที่พวกเราไม่ถอนทหารออกจากประเทศลอเรียสนั้นเป็นเพราะว่าพวกเรากังวลว่าอาณาจักรที่เคยเป็นปฏิปักษ์ต่อลอเรียสอาจจะใช้ช่วงเวลานี้ในการบุกยึดเพื่อป้องกันเหตุการณ์นั้นเราจึงทิ้งทหารจนกว่าสหพันธรัฐลอเรียสนั้นจะยืนขึ้นได้ด้วยตัวเอง และการที่เปลี่ยนระบอบนั้นเชื้อพระวงศ์คนเดียวที่เหลือรอดได้ทำการสละราชบังลังและมอบอำนาจให้ประชาชนแทนแล้ว พวกเราไม่อาจจะยึดอำนาจที่ให้ประชาชนชาวลอเรียสไปแล้วกลับมาได้

    ลงชื่อ: คัทยูช่า

    แล้วคัทยูช่าก็ส่งกลับไปที่ศาสนจักรทันที

     

     

     

     

     

    ตัด ตัด ตัด 

     

     

     

     

     

    วันนี้พอแค่นี้ก่อน

    [22.41] [14/8/2565]

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×