Bond สายสัมพันธ์ในวันวาน
สิ่งที่เราเรียกว่าสายสัมพันธ์ มีอยู่มากมายหลายแบบ และความหมายอันลึกซึ้ง สายสัมพันธ์นั้นไม่มีจำกัด แต่ทว่าสายสัมพันธ์มีจำกัดนะ
ผู้เข้าชมรวม
192
ผู้เข้าชมเดือนนี้
3
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ณ ป่าอันแสนเขียวชอุ่มมีเด็กน้อย 3 คน วิ่งเล่นอย่างสนุกสนานท่ามกลางสายลมแสนอ่อนโยนที่โบกพัดเส้นผมแต่ละเส้นดั่งกำลังร่ายรำด้วยท่าทางที่แตกต่างกันต่กลับสวยงามเข้ากันอย่างน่าอัศจรรย์ แสงแดดอันอบอุ่นสว่างจ้าทำให้ใบหน้าของเด็กๆมิสามารถมองเห็นได้จากบริเวณซึ่งห่างออกไป เด็กสาวหยุดนิ่งแล้วกลับหันอย่างสง่างาม เด็กชายอีกสองคนหยุดอยู่เบื้องหน้าเธอ เสียงแห่งธรรมชาติดังก้องไปทั่วทำให้เสียงของพวกเด็กจำกัดในวงแคบ เด็กสาวหยิบบางอย่างออกมา แสงอาทิตย์ทำให้วัตถุส่องประกายจนทำให้ไม่อาจรู้ว่ามันคืออะไร เธอยื่นมันออกมาสุดแขนแล้วเด็กอีก2คนก็มาจับวัตถุนั้น รอบข้างเริ่มสงบเหมือนกับว่าธรรมชาติหยุดนิ่งเพื่อรับฟังเสียงของเด็กๆ เมฆเข้ามาบดบังพระอาทิตย์ใบหน้ายิ้มแย้มของเด็กๆเผยขึ้นมาชัดเจนเสียงของเด็กสาวกำลังพูดเริ่มชัดเจน “…ใครผิดสัญญาต้องกลืน…” เด็กทุกคนตะโกนออกมาอย่างพร้อมเพรียง “เข็มพันเล่ม!” พอพูดจบทั้ง 3 ก็ชูวัตถุนั้นขึ้น ทุกอย่างได้กลับสู่ปกติ สายลมโบกสะบัดต้นไม้ใบหญ้า แดดกลับมาเปล่งปลังอีกครา จู่ๆภาพแสนสวยงามก็แตกกระจาย เด็กหนุ่มกลับสู่โลกปัจจุบันโดยเสียงเคาะประตู “นี่กันลูกแม่จะอุดอู้อยู่ในห้องถึงเมื่อไหร่ ไปโรงเรียนได้แล้ว!!” “ไม่เอา!ยังไงวันนี้ผมก็ไม่ไป!” แม่ผู้อยู่อีกฟากของประตูนิ่งเงียบเพราะ อาจเข้าใจเหตุผลที่กันปฏิเสธไม่ไปเรียน “ตามใจลูกก็แล้วกัน…ตามเรียนให้ทันล่ะ” “ครับ…แม่…” เมื่อแม่เดินจากไปกันก็ยังคงนั่งคุดคู้อยู่บนเตียงและเหลือบมองปฏิทิน บนปฏิทินมีอยู่วันหนึ่งที่ถูกวงด้วยเมจิกสีแดงเข้ม เขาบ่นพึมพำอยู่คนเดียว”พิม…10ปีแล้วสินะ” กันหันหน้าไปอีกทางจ้องนาฬิกาเขม็ง นาฬิกาชี้เลข 9.00 น กันลุกขึ้นจากเตียงแต่งตัว แล้วเดินออกจากบ้าน ในเวลาที่เด็กคนอื่นต่างเล่าเรียนมีแต่กันเพียงผู้เดียวที่เดินตามถนนไปยังป่าที่เริ่มมีอาคาร สิ่งก่อสร้างตั้งอยู่ เขาเดินก้มหน้าผ่านต้นไม้เขียวใหญ่หลายต่อหลายต้น มุ่งสู่สถานที่ที่แสงแดดส่องเด่นสง่า เมื่อกันแหวกผ่านพุ่มไม้ก็พบชายวันเดียวกันหันหลังให้เขา ชายผู้นั้นยืนนิ่งอยู่หน้าป้ายหลุมศพ กันรู้สึกไม่สู้ดีกับชายหนุ่มจึงพยายามกลับเข้าไปซ่อนในพุ่มไม้แต่เสียงฝีเท้าเขาที่เดินบนพื้นหญ้าดังก้องชัดในป่าที่เงียบสงบ”ให้ฉันเดานะ นายคือกันสินะ” ชายหนุ่มพูดจบแล้วจึงหันหน้ามามองกันอย่างเข้มขรึม “วันนี้ธันไม่ไปโรงเรียนหรือไง?” กันพูดถามชายนามว่าธันเสียงสั่นเบาๆ ธันจับแว่นกรอบเหลี่ยมของตนยกขึ้นเล็กน้อยแล้วเอ่ยว่า “ตอนแรกกะว่าจะไม่ไปเรียนสักครึ่งวัน มาเยี่ยมพิมแล้วก็กลับแต่ดันมาเจอไอ้ฆาตกรสะนี่” คำพูดนั้นแหล่มคมทิ่มแทงใจของกัน “ก็บอกแล้วไงว่ามันอุบัติเหตุ” “ไม่ต้องพูดแก้ตัวเพราะแกทำให้พิมต้องตาย” กันก้าวขึ้นมา2ก้าวอย่างหนักแน่น “ทำมาเป็นพูดดีตอนนั้นนายเองก็อยู่ด้วยนี้ ถ้าแกคิดว่าฉันเป็นฆาตกรแกเองก็ไม่ต่างกันหรอก” ธันได้ยินเช่นนั้นก็รีบเดินพรวดเข้าหากัน “กันแก!” ธันชกหน้ากันอย่างแรง กันที่เซเพราะแรงหมัดของธันใช้ขาซ้ายยันตัวให้ตั้งตรง แล้วดึงตัวกลับมา “แก!” กันออกหมัดขวาตรงไปที่ท้องธันอย่างเต็มสุดกำลัง ทั้งคู่ซัดกันแบบเอาเป็นเอาตาย ดั่งว่าหากไม่มีใครสักคนสิ้นลมทั้ง2คงจะไม่มีทางหยุดเป็นแน่ กันผลักธันลงกระแทกกับพื้น แต่ธันกระชากผมกันไว้แน่น พวกเขาล้มลงบนพื้นพร้อมเสียงกรีดร้องของจักจั่นที่โอดครวญพยายามบอกห้ามทั่ง2 แต่ทว่าความโกรธแค้นครอบงำทำให้ทั้งคู่ไม่สนรอบข้างแม้แต่นิด พวกเขาบีบคอซึ่งกันและกันแล้วลงกลิ้งไปมาบนพื้นหญ้า ใบไม้ใบหญ้าบนพื้นปลิวว่อนไปมา พวกเขากลิ้งเลยหน้าผาสูง กันกับธันลอยนิ่งอยู่กลางอากาศ สายลมค่อยๆแรงขึ้น ภาพแม่น้ำข้างล่างใหญ่ขึ้นเรื่อยๆดั่งว่าแม่น้ำเข้าหาทั้ง 2 ไม่ใช่ทั้งคู่ต่างหากที่เป็นฝ่ายเข้าหาแม่น้ำ “อ้า!!” กันและธันตะโกนสุดเสียงพร้อมร่วงหล่นสู่ข้างล่าง วิสัยทัศน์ทั้ง 2 เริ่มมืดมน เงียบสงบภายในความมืด พวกเขากำลังไปหาพิม ทั้ง 3 กำลังจะกลับไปอยู่ด้วยกันเหมือนเมื่อ 10 ปีก่อน “!”พอทั้งคู่ได้สติก็พบว่าพวกเขาปลอดภัยอยู่ข้างแม่น้ำใสสะอาด เบื้องหน้าอดีตเพื่อนสนิท2คนคือวัตถุปริศนาโปล่งแสงที่เปล่งประกายเจิดจ้า เหล่าเมฆาเข้ามาบดบังพระอาทิตย์วัตถุนั้นเผยโฉมออกมาชัดเจนมันคือขวดพลาสติกที่มีต้นกล้าต้นเล็กอยู่ข้างใน ภาพอดีตเมื่อทั้ง 3 คนอายุ 5 ขวบ ฉายขึ้นมาในหัวสิ่งที่พิมหยิบออกมาในตอนนั้นคือขวดพลาสติกที่มีดินอยู่ข้างใน”พวกเราจะคอยดูการเจริญเติบโตของต้นไม้ต้นนี้ ถึงแม้เราจะต้องแยกจากกันแต่ขวดพลาสติกนี้จะปกป้องเมล็ดนี้ตลอดไปเหมือนกับมิตรภาพของเราที่จะอยู่ไปตลอดกาล ดังนั้นพวกเรา 3 คนจะเป็นเพื่อนกันตลอดไป“ พิม ณ เวลานั้นยื่นขวดออกมาแล้วทุกคนก็ร่วมกันจับขวดพลาสติกนั้น กันกับธันเมื่อนึกถึงเรื่องสำคัญนี้ได้ก็กลับสู่ปัจจุบัน “จริงสินะ ยังมี่เรื่องสำคัญกว่านั้นนิ” ธันพูดออกมาพร้อมจ้องขวดพลาสติกด้วยความคิดถึง “แม้เราจะแยกกันแต่ขวดนี้ก็ยังคงปกป้องเมล็ดพันธุ์จนเติบใหญ่“ กันเอ่ยขึ้นมาพร้อมน้ำตาคลอเบ้า ทั้ง 2 ก็ลุกขึ้นเดินกลับไปที่หลุมศพพร้อมขวด ทั้ง 2นั่งลงกับพื้น และวางขวดพลาสติกไว้ตรงกลาง กันพูดขึ้นว่า “ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น…” แล้วยื่นมือขวาไปจับขวด ส่วนธันก็เสริม “เราก็จะเป็นเพื่อนกัน…” พร้อมยื่นมือขวาไปจับขวดเช่นกัน “จากนี้…” มีเสียงเด็กผู้หญิงพร้อมแขนขวาเรียวเล็กดูโปล่งแสงทั้ง 2 เห็นก็ตกใจเล็กน้อยจึงมองขึ้นมานั้นคือ พิม ผู้มีใบหน้ายิ้มแย้มทำให้ทั้งคู่ไม่อาจกลั้นน้ำตาของตนไว้ได้และทั้ง 3 ก็เอ่ยคำจากก้นบึ้งจิตใจว่า “และตลอดไป......."
จุดจบของคนเรา มันไม่ใช่เวลาที่เราต้องเข้าไปอยู่ในโลงศพ แต่มันคือเวลาที่คนทุกคนบนโลกใบนี้ ไม่รู้จักเราแล้ว...
ผลงานอื่นๆ ของ ArtibeNecoL ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ ArtibeNecoL
ความคิดเห็น