ตอนที่ 2 : Chapter 1
หญิงสาวผมสีน้ำเงินเข้มใส่แว่นสีแดงนามว่าทาชิงิ กำลังลากตัวเหล่าโจรสลัดที่ถูกใส่กุญแจมือหินไคโรขึ้นเรือของกองทัพเรือ
เหล่าทหารเรือควบคุมโดยพลจัตวาสโมคเกอร์กำลังจะไปจับกุมกลุ่มโจรสลัดหน้าใหม่ ... กลุ่มโจรสลัดบัคเกอร์นั่นเอง กัปตันของกลุ่มโจรสลัดกลุ่มนี้มีค่าหัวถึง 35 ล้านเบรี เขาเป็นผู้ที่กินผลปีศาจเปลี่ยนสภาพเข้าไปทำให้ร่างกายของเขาสามารถเปลี่ยนไปตามสภาพแวดล้อมได้ แม้ว่ากลุ่มโจรสลัดบัคเกอร์จะพึ่งรวบรวมคนได้ไม่มากนัก แต่ก็สร้างปัญหาให้กับชาวบ้านไม่น้อย
เมื่อเหล่าทหารเรือได้เผชิญหน้ากับโจรสลัด ทาชิงิได้ต่อสู้กับพวกนั้นอย่างตั้งใจ และสามารถจัดการกับศัตรูได้อย่างรวดเร็ว แต่เมื่อหันไปมองทางสโมคเกอร์ เธอพบว่าเขากำลังถูกรุมเล่นงาน หญิงสาววิ่งไปทางสโมคเกอร์ทันที เมื่อสโมคเกอร์เห็นก็รีบใช้พลองติดหินไคโรฟาดใส่หน้าโจรสลัด2คน ก่อนจะหันไปตะโกน
"ทาชิงิ ถ้าไม่มีหินไคโรก็อย่าเข้ามา!!"
ศัตรูที่เห็นสโมคเกอร์เผลอ ได้ใช้จังหวะนั้นผลักสโมคเกอร์ล้มจนพลองกระเด็นหลุดไป
ทางด้านทาชิงิ เธอวิ่งมาเรื่อยๆแต่เมื่อหันไปมองก็พบกับความว่างเปล่า .. หญิงสาวขมวดคิ้วอย่างกังวล การต่อสู้กับศัตรูที่มองไม่เห็นเป็นอะไรที่เสียเปรียบชัดๆ
"เมื่อกี้เธอกล้าเตะฉันเหรอ? สาวน้อย" แล้วบัคเกอร์ก็หัวเราะในลำคอ
"หึๆ หยิ่งซะด้วย"
เธอจับดาบแล้ววิ่งเข้าไปฟันร่างของคนตรงหน้าทันที แต่เธอเร็วไม่พอ! เขาหายไปอีกแล้ว!!
"พูดดีๆด้วยไม่ชอบ งั้นก็ไปตายซะเถอะ สาวน้อย"
เธอหลับตาปี๋.. ตะโกนเรียกสโมคเกอร์อยู่ในใจ
เพียงเสี้ยววินาทีที่บัคเกอร์กำลังจะทำร้ายเธอ แต่เขากลับถูกทำร้ายซะเอง!
ทาชิงิรีบหันไปมองคนที่มาใหม่ในทันที เขาเป็นผู้ชายผมสีดำใส่หมวกปีกกว้างประดับด้วยขนปุกปุยสีฟ้าอ่อน ด้านหลังเหน็บดาบเล่มโตเอาไว้หนึ่งเล่ม
"คุณมิฮอร์ค.. ขอบคุณมากนะคะ" ทาชิงิตะโกนไล่หลัง
ตาเหยี่ยว มิฮอร์คไม่ได้หยุดเดินหรือหันกลับมามอง แต่ทาชิงิยังคงมองตามแผ่นหลังของเขาไปด้วยความรู้สึกขอบคุณ เพราะถ้าไม่มีเขา เธอคงโดนมันฆ่าไปแล้ว
"อยู่นี่ค่าาา"
'น้านนน โดนจริงๆด้วย ฮืออ' เธอเบะปากก่อนจะตะโกนตอบ
"ค่ะ"
สโมคเกอร์ที่นั่งรออยู่ในห้องเงยหน้าจากเอกสารที่กองตรงหน้ามาดูนาฬิกาที่แขวนอยู่บนฝาผนัง ก่อนจะยิ่งหงุดหงิดเมื่อทาชิงิยังไม่มา เขาจึงลุกจากเก้าอี้เพื่อจะออกไปตาม
'โป้ก'
"โอ้ยย" หญิงสาวครางเมื่อโดนประตูกระแทกหน้าเมื่อสโมคเกอร์เปิดประตูออกมาอย่างอารมณ์เสีย
"มาแล้วทำไมไม่เข้าไป" เขามองเธอด้วยแววตานิ่งเรียบ
"เอ่อ คือ ฉันพึ่งมาถึงค่ะ"
เขาล้วงไปหยิบซิก้าออกมา 2 อันก่อนจะจุดมันแล้วคาบในปาก หลังจากนั้นก็เดินกลับเข้าห้องโดยไม่หันไปมองเธออีกเลย
ทาชิงิคร่ำครวญในใจ ก่อนจะรีบก้าวตามเข้าไปในห้อง เธอยืนอยู่ข้างๆประตู ประสานมือ พร้อมก้มหน้าลง รอเขาพูดธุระกับเธอ
"..."
"ข้อตกลงของพวกเราคืออะไร?"
"..."
"ฉันถามว่าคืออะไร!!"
"หะ .. ห้ามสู้กับพวกมีพลังผลปีศาจ ถ้าไม่มีหินไคโร หรือใช้ฮาคิไม่เป็น หรือสู้กับอะไรก็ตามที่รู้ว่าตัวเองจะต้องแพ้"
"แล้วเธอทำยังไง?"
"ฉัน.. วิ่งเข้าไปถีบมัน"
"แล้วเป็นยังไง?"
ทาชิงิกลืนน้ำลายลงคอก่อนจะตอบว่า "เกือบตาย.."
"วันหลังถ้ารู้ว่าสู้ไม่ได้ก็อย่าไปสู้สิโว้ยยย!!"
"แต่ตอนนั้นสโมคเกอร์ซังกำลังอยู่ในอันตราย! จะให้ฉันยืนดูอยู่เฉยๆได้ยังไง"
"นี่ฉันเป็นใคร? ห๊าาา ถ้าคำพูดของฉันมันไม่มีความหมาย เธอก็ไม่สมควรมาขึ้นเรือของฉัน!"
ทาชิงิสะอึกกับคำพูดของอีกฝ่าย ก็จริงที่เธอขัดคำสั่งของเขา แต่ถึงกับไล่เธอลงจากเรือ เธอก็ว่ามันแรงไปเหมือนกัน
"ขอโทษค่ะ.."
"ไปได้" สโมคเกอร์พูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ก่อนจะหันไปใส่ใจเอกสารตรงหน้าต่อ
"ค่ะ" หญิงสาวตอบเสียงอ่อย
เมื่อเธอก้าวเท้าพ้นออกจากขอบประตู น้ำตาก็ไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ เธอรีบถอดแว่นตาแล้วเช็ดมันออก ก่อนจะวิ่งกลับห้องพักของตนเอง
ความเสียใจและน้อยใจเอ่อออกมา ทั้งๆที่เธอทำงานกับเขามาตั้งนาน ร่วมผ่านอะไรกันมาตั้งเยอะ แต่ทำไม.. เขากลับไล่เธอไปได้อย่างง่ายดาย
ที่ผ่านมาเธออยากจะแข็งแกร่งขึ้น อยากจะเป็นนักดาบที่ดี และเก็บดาบดีๆให้พ้นจากมือคนอันธพาลทั้งหลาย การที่เธอมาเป็นส่วนหนึ่งของทหารเรือก็เพราะเธอจะได้แข็งแกร่งขึ้น เพื่อที่เธอจะได้ช่วยกำจัดคนไม่ดีออกไปจากสังคม แต่หลังจากที่เธอได้มาอยู่หน่วยเดียวกับคุณสโมคเกอร์ เขาก็เอาแต่ปกป้องเธอ ไม่ยอมให้เธอลงมือ แล้วอย่างนี้เธอจะแข็งแกร่งขึ้นได้ยังไง! หรือเพราะเธอเป็นผู้หญิง เธอถึงต้องคอยแต่ให้คนอื่นมาปกป้องอย่างงั้นเหรอ
'ก๊อกๆๆ'
ความจริงเมื่อวานสโมคเกอร์เองก็เครียด เขาเองก็รู้สึกตัวว่าตนเองพูดแรงไป แต่ที่เขาทำไปทั้งหมดก็เพื่ออยากให้เธอเชื่อฟังเขา เพราะเขาเป็นห่วงเธอเท่านั้น
ภาพเมื่อวานที่เธอกระโดดถีบหมอนั่น มันยังวนเวียนอยู่ในหัวของเขา ถ้าไม่ได้ตาเหยี่ยวช่วย เขาคงต้องเสียลูกน้องคนสนิทอย่างทาชิงิไปโดยที่ตัวเองทำอะไรไม่ได้เลย
"ว่าไง?" สโมคเกอร์ถาม
"คือฉันมีเรื่องจะบอกคุณค่ะ"
"เฮ้~ สโมคเกอร์~!" อยู่ๆสาวผมตรงสีชมพูก็เดินเข้ามาในห้อง
"มาได้ไงเนี้ย ยัยคุณหนูฮินะ"
"ฮะๆ มีเรื่องจะคุยนิดหน่อยน่ะ"
"เรื่องไรหล่ะ" ฮินะสบัดหน้ามามองทาชิงิ เป็นเชิงว่า 'ยัยนี้ยังอยู่ พูดตอนนี้ไม่ได้'
"มีเรื่องอะไรไว้คุยกันทีหลังนะ ทาชิงิ" สโมคเกอร์บอก
ทั้งๆที่เธอเดินเข้าไปก่อน แต่เธอกลับต้องรอเขาคุยธุระกันสองคน แต่สองคนนั้นก็ดูเหมาะสมกันจริงๆนั้นแหล่ะ มากซะจนเธอรู้สึกต่ำต้อยแล้วยังสะเออะไปชอบคนยศสูงอย่างเขา
ทุกๆอย่างที่ผ่านมาทำให้เธอยิ่งมั่นใจในการตัดสินใจของตนเอง เธอเดินกลับเข้าห้องพักพร้อมเริ่มต้นเขียนจดหมาย
"ลูฟี่ เราเอาเนื้อที่เจ้าชอบมาให้แล้วนะ"
ไม่มีเสียงตอบรับจากชายตรงหน้าของหญิงผู้งดงาม.. เธอคือจักรพรรดินีแห่งอณาจักรคุจานั่นเอง หญิงงามที่ได้กินผลเมโร เมโรเข้าไป จนทำให้ใครหลายคนต่างถูกสาปเป็นหินเพราะความสวยของเธอ แต่พลังปีศาจของเธอกลับใช้ไม่ได้ผลต่อชายคนนี้ ทั้งร่างกายและจิตใจ เธอแพ้แก่เขาอย่างราบคาบ
"ลูฟี่ กินอะไรหน่อยเถอะ เดี๋ยวเจ้าจะเป็นโรคกระเพราะนะ"
ชายตรงหน้ายังคงนิ่ง เหมือนเธอไม่มีตัวตน
หญิงสาวในชุดกี่เพ้าสีแดงสดถอนหายใจ.. พลางคิดว่าเธอจะทำยังไงให้เขากลับมาสดใสร่าเริงเหมือนเดิม เธอไม่อยากเห็นเขาเศร้าแบบนี้ ใจของเธอเจ็บยิ่งกว่าเขาอีก
โบอา แฮนค็อกวางจานใส่เนื้อลงข้างๆ ก่อนจะให้กำลังใจตัวเอง
'เราจะไม่ยอมแพ้ เพื่อความรักของเราและลูฟี่ จะต้องทำให้เขากลับมาเป็นคนเดิมให้ได้'
เธอเอื้อมมือออกไปจับใบหน้าของลูฟี่ให้หันมามองเธอ ถึงสายตาของเขาจะมองมา แต่ในนั้นว่างเปล่าเหลือเกิน
แฮนค็อกจึงก้มหน้าไปใกล้ๆเพื่อให้เขาสังเกตเธอได้ แล้วเรียกชื่อเขาดังๆ
"ลูฟี่! เอสน่ะ พี่ชายของเจ้าเขาไปสบายแล้ว การที่เขาปกป้องเจ้าได้ เขาคงมีความสุขมากๆเลยนะ"
เหมือนเขาจะได้ยินเสียงของเธอแล้ว แต่ก็ยังคงมองหน้าเธอแล้วเงียบ ไม่ได้ตอบอะไร
"เจ้าน่ะ ไม่ว่ายังไง.. ก็ยังมีเราอยู่ข้างๆเสมอ.. อ้ะ"
หญิงสาวพูดยังไม่ทันจบ ลูฟี่ก็ดันร่างของตนเองเบียดเข้าไปหาแฮนค็อกแล้วประกบปากลงบนปากบางๆของเธอ
แฮนค็อกหน้าแดง ทำตัวไม่ถูก.. นี่เป็นจูบแรงของเธอ
"ฉันมันไม่เอาไหน ฉันมัน.. แค่ปกป้องเอสยังทำไม่ได้ ฉันนี่มันกระจอกจริงๆ"
"ลูฟี่.. เจ้ายิ่งใหญ่สำหรับเรานะ อย่ามองสิ่งที่เสียไปสิ จงมองในสิ่งที่เจ้ามี"
ลูฟี่เงียบไป ก่อนจะพึมพำ
"โซโล นามิ อุซป ซันจิ ช็อปเปอร์ โรบิน แฟรงกี้ บรู๊ค.." ลูฟี่เริ่มได้สติ นั่นสิ เขายังมีพวงพ้องอยู่นี่นา ลูฟี่เริ่มกลับมาเป็นคนเดิม เมื่อตั้งสติได้ เขาก็พึ่งสังเกตว่าคนที่อยู่ตรงหน้าของเขาคือ
".. แฮนค็อก"
'เขาหมายความว่าเราก็เป็นสิ่งที่เขามีงั้นเหรอ เราสำคัญต่อเขาเหมือนกันสินะ อ้ายยยยยย >___< แถมยังเรียกชื่อเราถูกอีกต่างหาก'
"โรบิน ดีใจจริงๆที่เจอเธอ" มังกี้ ดี ดราก้อนพูด
โรบินยิ้มมุมปาก ก่อนจะตอบ "ฉันขอมาพักที่นี่ ซัก 2 ปีได้มั้ย?"
"แน่นอน เธอเป็นแขกพิเศษของพวกเรา จะพักกี่ปีก็ย่อมได้ ซาโบ้ ช่วยพาโรบินไปที่ห้องพักทีนะ"
ครั้งแรกที่ซาโบ้เห็นโรบิน เขารู้สึกว่าเธอสวยกว่าในใบประกาศจับมาก ผมสีดำเป็นประกายนั้น เข้ากับใบหน้าของเธออย่างลงตัว ใจของซาโบ้เต้นอย่างที่ไม่เคยเป็นกับใครมาก่อน
"ซาโบ้!"
"ครับ?"
"พาโรบินไปที่ห้องพักที"
"ครับๆ"
โรบินหัวเราะให้กับท่าทีเปิ่นๆของซาโบ้ ซาโบ้หน้าขึ้นสีเล็กน้อย ก่อนจะรีบเดินนำไปทันที
โคอาล่า หญิงสาวในกองกำลังปฏิวัติเพื่อนสนิทของซาโบ้พูดขึ้น
"อื้ม สวยมากเลย"
"รู้ป่าว เธอมาจากเกาะโอฮาร่าด้วยแหละ เกาะที่มีแต่นักโบราณคดีเก่งๆ แต่น่าสงสารเธอนะ โดนตั้งค่าหัวตั้งแต่อายุ 8 ปี คงมีชีวิตที่ลำบากมากๆเลยหล่ะ"
"เหรอ.." ซาโบ้นึกภาพตาม เด็ก 8 ขวบต้องหนีเอาตัวรอดแทบเป็นแทบตาย
"อื้อ ฉันน่ะ มีคุณโรบินเป็นไอดอลเลยรู้ป่าว"
"เธอเป็นแบบเขาไม่ได้หรอก ยัยเบ๊อะ เทียบไม่ติดเลยด้วยซ้ำ ฮ่าๆๆๆ"
"ซาโบ้!!!!" แล้วโคอาล่ากับซาโบ้ก็เริ่มง้องแง้งใส่กัน จบด้วยการที่ซาโบ้บีบจมูกของโคอาล่า จนเธอหายใจไม่ออก แล้วซาโบ้ก็ปล่อยออกพร้อมหัวเราะเยาะเธอแล้ววิ่งหนีกลับเข้าห้องพักตัวเอง
ซาโบ้จะรู้มั้ยนะ ว่าการกระทำของเขานั้นทำให้ผู้ถูกกระทำหวั่นไหวแค่ไหน
"อ้าก ว้ากกกก ว้ากกกกก"
ซันจิที่กระโดดหลบกระเทยกรีดร้องโวยวาย นี่มันแย่มาก แย่มากมาก! ถ้าไอ้เวร บาโซโลมิว คุมะ มันจะใจร้ายไม่ส่งเขาไปเกาะสตรี หรือเกาะเงือกแล้วหล่ะก็ อย่างน้อยขอแค่ไม่เอากระเทยมันขอมากไปรึงายยยย~!
ระหว่างที่ซันจิโดนกระเทยรุมอย่างไม่มีทางหนี สุดท้ายเขาก็กระโดดหลบขึ้นไปบนฟ้า และสามารถใช้ท่า 'เดินชมจันทร์' ได้
'หาาา เดินบนฟ้าได้หรอเนี้ย ดีหล่ะ! งั้นขอออกไปจากเกาะบ้านี่ก่อนแล้วกัน อย่าเจอกันอีกเลย ไอ้พวกกระเทย' ซันจิแลบลิ้น แล้วกระโดดขึ้นไปบนฟ้าสูงขึ้นเรื่อยๆ
นามิที่กำลังศึกษาเมฆต่างๆจาก ฮาริเดส นักวิทยาศาสตร์ที่ช่วยชีวิตเธอเอาไว้ จู่ๆก็โดนอะไรบางอย่างเหยียบเข้าที่หัวเต็มๆ
"โอ้ยยย" เธอครางพร้อมลูบหัวตัวเองเบาๆ ก่อนจะหันไปเอาเรื่องไอ้บ้าที่มาเหยียบหัวเธอ!
"โอ้ะ นามิซวังงงงง ขอโทษจริงๆครับ ดีใจที่สุดเลยที่เจอคุณ คุณนามิ <3 "
"ไอ้บ้าซันจิ! นายมาได้ยังไงยะ"
"ตามหัวใจมาคร้าบบ"
"-__-" แล้วนามิก็จัดการเขกกระโหลกซันจิไปหนึ่งที
"นามิซวังงงง ผมเหนื่อยมากๆอ่ะ วิ่งขึ้นมาถึงที่นี่ ขอนอนพักแปปนึงนะ"
"เห? อืมๆ"
แล้วซันจิก็ฟุบหัวลงไปบน.. หน้าอกของหญิงสาวผมส้ม
"หมอนนุ้มมมนุ่มมม"
"ไอ้เวรซันจิ - -^"
แล้วซันจิก็กระเด็นหายไป~
หลังจากที่ตาเหยี่ยว มิฮอร์คยอมรับโซโลเป็นศิษ อยู่ๆก็เกิดเสียง บึ้มมม! ขึ้นมา
ทาชิงิที่ลืมตาตื่นขึ้นมา ก็พบว่าเธออยู่ในห้องที่แปลกตา ผนังทุกด้านทำจากหิน ของตกแต่งภายในห้องดูเหมือนปราสาทในสมัยโบราณแถบยุโรป เธอพยายามจะยันตัวลุกขึ้นแต่ก็ล้มลงไปนอนใหม่ ร่างกายปวดร้าวระบมไปทั่ว เมื่อลองนึกทวนสิ่งที่เกิดขึ้นก็ตกใจ
เธอเสียใจจริงๆที่คงไม่มีโอกาสได้ยืนหยัดข้างกองทัพเรือ แต่ตอนนี้สโมคเกอร์ซังคงกำลังยุ่งๆ การที่เธอหายไปตอนนี้คงจะดีที่สุด
ทาชิงิหันกลับไปมองเรือลำที่สโมคเกอร์นั่งอยู่เป็นครั้งสุดทัาย ก่อนจะเดินจากมาเงียบๆ แต่ยังไม่ทันเดินไปไหนได้ไกล เธอก็ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายของเหล่าทหารเรือ
"เฮ้ยยย ทุกคนถอยไปเร็ว! แปซิฟิสต้า 0 เกิดขัดข้อง อลาวาดขึ้นมาแล้ว!!"
ทาชิงิตกใจ รีบหันไปมอง พบแปซิฟิสต้า อาวุธมนุษย์ที่ทำขึ้นมาจากร่างของบาโซโลมิว คุมะ กำลังยิงแสงเลเซอร์ใส่เหล่าทหารเรือ ทาชิงิรีบวิ่งไปจะช่วยเหล่าทหารเรือตามสัญชาตญาณ แต่ตัวเองกลับโดนปุ่มเนื้อจนลอยออกมาตกอยู่ที่นี่ซะงั้น นี่มันซวยจริงๆ!
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

130 ความคิดเห็น
-
#102 Shirata-chan (จากตอนที่ 2)วันที่ 11 เมษายน 2559 / 21:34ลูฟี่ นายแน่มาก#1020
-
#64 Here.I.Am (จากตอนที่ 2)วันที่ 26 กันยายน 2557 / 15:50เพโรน่าน่ารักดีนะ (=..=) อุซปก็ความจำเสื่อม ลำบากอีกแน่ๆเลย เป็นกำลังใจให้นาย!#640
-
#26 oงค์xญิงง่วงuou (จากตอนที่ 2)วันที่ 8 พฤษภาคม 2557 / 23:33ชอบทาชิงิมากๆเลย อ่ะ#260
-
#19 Aim (จากตอนที่ 2)วันที่ 7 พฤษภาคม 2557 / 21:51โห นับถือไรเตอร์มวากกๆ แต่ละคนอยู่คนละที่แบบนี้ยังไม่เจอกันได้ เข้าใจคิดดีนะคะ ฮาซันจินามิมากเลย คู่นี้ถ้ารักกันคงจะฮาน่าดู6555555#190
-
#10 thamolwan31308 (จากตอนที่ 2)วันที่ 1 พฤษภาคม 2557 / 21:26อัพเร็วๆน่ะค่ะ เนื่อเรื่องน่าติดตามมากๆค่ะ#100
-
#9 STAR (จากตอนที่ 2)วันที่ 1 พฤษภาคม 2557 / 19:39ซันจิหายไปอีกและจะไ้ด้เจอกันก็ลอยไปเลย#90