คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : Chapter 8 ::ツ Secret Of My Heart (Special : Namcha)
(Special : NamCha Part)
คุณเคยเชื่อในเรื่องรักแรกพบมั้ย? ผมเองก็ไม่เคยเชื่อ จนวันนั้น วันแรกที่ผมได้เจอกับใครบางคน ร่างเล็กๆ นั้นกำลังรีบวิ่ง ในมือก็ถือเอกสารพรุงพรัง ในหัวผมก็คิด คิดว่าจะทำยังไงให้ร่างบางนั้นสนใจ ผมเดินเข้าไปขวางทาง จนมันเดินชน
“เดินดูทางบ้างนะไอ้เตี้ย”
ผมไม่ได้อยากพูดแบบนั้นเลย ผมอยากจะเข้าไปช่วยพยุง อยากจะช่วย แต่ปากผมกับไม่คิดแบบนั้น และผมก็รู้อีกหนึ่งอย่างว่า... มันเป็นน้องของไอ้ข้าวต้ม เพื่อนผมเอง
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
วันนี้เป็นวันเกิดของไอ้น้ำหวานน้องผมเอง มันชวนผมไปกินเลี้ยงฉลองกับมัน ตอนแรกผมก็กะจะไม่ไปหรอก คนมันขี้เกียจ แต่ไอ้น้องตัวดีมันก็ตื้ออยู่นั้นแหละ ผมก็เลยตอบตกลงไปอย่างจำใจ
และการมากินฉลองกับน้องชายของผม ก็ไม่ทำให้ผมผิดหวัง ผมได้เจอกับมันอีกครั้ง.. ผมไม่รู้เลยว่าจะเริ่มทักมันยังไง ในหัวผมพยายามสันหาเรื่องคุย แต่ผมรู้ว่ามันจะต้องเละแน่ๆ
ตุ้บ
“ไง... ไอ้เตี้ย”
ผมเดินไปวางมือไว้บนไหล่มันเบาๆ ก่อนมันจะเห็นหน้ามาทำตาตื่น
“อะ... ไอ้รุ่นพี่”
ผมเดินลากมันออกมาจากโต๊ะเพื่อไปตักอาหาร แต่ความจริงแล้วไม่ใช่หรอก ผมก็แค่อยากจะอยู่กับมันสองคน อยากจะคุยกับมัน และ... อยากรู้จักมันให้มากกว่านี้
“มึงชื่ออะไร?”
ผมกลั้นใจถามออกไป ในชีวิตนี้ผมแทบจะไม่เคยถามชื่อใครก่อน มีแต่คนวิ่งเข้าหาผม แต่มีมันนี้ล่ะแปลก...
“ชื่อ ‘ข้าวผัด’”
ชื่อข้าวผัดงั้นเหรอ... ในที่สุดผมก็รู้ชื่อมันแล้ว
“อยากกินข้าวผัดเลยแฮะ...”
ไม่รู้ว่าอะไรบอกให้ผมพูดแบบนั้นออกไป แต่ผมก็รู้สึกดีนะ... เพราะตอนที่ผมพูดผมเห็นด้วยว่ามันแก้มแดง
ผมกับมันเดินถือจานมาวางไว้ที่โต๊ะ ผมเห็นสายตามันมองไปที่เพื่อนของผมอย่างหื่นกระหาย(?) ความโมโหค่อยๆ ก่อขึ้นในใจผม ทำไมมันไม่เคยมองผมแบบนั้นบ้างล่ะ
“เลิกลวนลามเพื่อนกูผ่านสายตาได้แล้ว เพื่อนกูเขาไม่ชอบ”
ผมรู้ว่าเพื่อนผมมันชอบจะตายไป แต่เรื่องอะไรที่ผมจะยอมให้คนที่ผมชอบไปมองคนอื่น
“คิกๆๆๆๆๆ อะไรของมึงไอ้ชา ลวนลามพี่ได้ตามสบายนะครับ พี่ชอบ”
ไอ้เชสควาย มึงหุบปากไปเลย เดี๋ยวกูจะฟ้องเมียมึง
ผมแนะนำเพื่อนผมให้มันรู้จัก ดูมันจะชอบไอ้พาร์ทเป็นพิเศษ หึ... แต่น่าเสียดายมันมีคนในใจเรียบร้อย อย่าหวังว่ามึงจะได้กินเลยไอ้ข้าวผัด เพราะมึงต้องเป็นของกูคนเดียว !
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
“วันนี้ผมคิดไปเองรึเปล่านะ ทำไมรู้สึกว่าพี่ชายผมอารมณ์ดีแปลกๆ”
หึๆ เจ้าน้องชายตัวดีแซวผม ตอนนี้ผมอยู่ที่บ้านแล้วครับ แต่ไม่ได้มีผมคนเดียวหรอกมั้ง... ที่อารมณ์ดี ตั้งแต่ได้ของขวัญจากเจ้าเด็กน่ารักคนนั้นมา ก็เห็นยิ้มจนปากจะฉีก แถมมองของขวัญปานจะกลืนกินอีก ทีกล่องอื่นไม่เห็นจะสนใจ
“เปล่าหรอกหน่า ไปนอนได้แล้วไป พรุ่งนี้ต้องไปรับเขาอีกไม่ใช่รึไง?”
“ครับๆ คุณพี่ชาย ย ขอให้จีบติดนะคร้าบ บ”
ไอ้น้องตัวดีผมเอ่ยเสียงทะเล้นก่อนเดินจะฮัมเพลงขึ้นห้องตัวเองอย่างอารมณ์ดี บอกแต่พี่น่ะ... ดูตัวเองรึยังเจ้าน้องชาย เป็นเพื่อนกันมาตั้งนาน แอบชอบเขามานานตั้งหลายปี ก็ไม่ยักจะเห็นจีบ ระวังหมาคาบไปล่ะ หึๆ
ผมเดินขึ้นห้องทำธุระส่วนตัว กับเคลียร์งานนิดหน่อย ก็ปาเข้าไปเที่ยงคืนแล้ว... ตอนนี้มันจะคิดถึงผมมั้ยนะ แต่ผมคิดถึงมันชะมัด ผมหยิบไอโฟนสีดำคู่ใจขึ้นมาก่อนจะพิมพ์ข้อความ...
‘คนที่เหมาะกับมึงหน่ะ มีได้แค่กู!’
ผมส่งข้อความเดิมๆ ไปมาตั้งแต่เที่ยงคืนจนถึงเช้า ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงได้ส่งแบบนั้นไป แต่ผมรู้แน่ๆ ว่าผมกำลังชอบมัน ผมไม่ต้องการให้มันมองใครนอกจากผม ผมไม่ต้องการให้มันเป็นของคนอื่น ถ้าคนๆ นั้นไม่ใช่ผม
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
วันนี้พ่อกับแม่ผมบอกจะไม่กลับบ้าน คงจะไปฮันนีมูนกันเป็นรอบที่สิบล้านล่ะสิ
“พี่ชาวันนี้หวานจะให้ข้าวปั้นมานอนด้วยนะ”
หือ... ผมเลิกขึ้น ก่อนจะมองหน้ามันอย่างงงๆ มานอนด้วยแล้วมาบอกทำไม?
“แล้วพี่ก็ต้องไปนอนบ้านข้าวปั้นด้วยนะ”
“ทำไม?”
“เพราะบ้านข้าวปั้น... ก็คือบ้านของพี่ข้าวผัด”
หลังจากที่ผมได้ยินสิ่งที่น้องผมพูดเสร็จผมแทบจะไม่สนอาหารที่อยู่ตรงหน้า ผมรีบขึ้นไปเตรียมของใช้ส่วนตัว กับเสื้อผ้านิดหน่อย จากนั้นผมเดินไปหยิบโทรศัพท์ก่อนจะกดหาเบอร์เพื่อนคนสนิทของผม
(โหล มีไรว่ะชา?)
“ต้มเหรอ... มึงว่างมั้ย?”
(ว่างดิ มีไร?)
“มึงเล่าประวัติ กับข้อมูลของน้องมึงให้กูฟังหน่อย... คนที่ชื่อข้าวผัดน่ะ”
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ผมฟังประวัติ กับข้อมูลคร่าวๆ มาจากไอ้ต้มก่อนจะรู้ว่าไอ้ข้าวผัดเป็นน้องผมปีเดียว เรียนเก่ง แต่โรคเอ๋อกิน และรู้ว่ามันแพ้ปลาหมึก กับปู แล้วก็เกลียดผัดมาก มิหน่าถึงได้เตี้ยขนาดนั้น
ผมขี่รถไปที่ Super Market ใกล้ๆ บ้าน ก่อนจะซื้อวัตถุดิบทำอาหาร ทำอะไรให้กินดีนะ...
‘ชื่อข้าวผัด’
จู่ๆ ชื่อของมันก็มาอยู่ในหัว งั้นทำข้าวผัดให้กินแล้วกัน ผมเดินซื้อวัตถุกิบจนครบ ก่อนจะรีบขี่รถไปที่บ้านของมัน บ้านมันหลังไม่เล็กไม่ใหญ่ ขนาดกำลังดี เป็นบ้านสองชั้น ผมเดินลงจากรถลงมากดกริ่ง แต่กดไปนานหลายนาทีผมก็ไม่เห็นวี่แววว่าจะมีคนมาเปิด ทั้งๆ ที่ ในบ้านยังมีการเปิดไฟไว้อยู่
ผมพิมพ์ข้อความบอกมัน แต่ก็ไม่มีการออกมาเปิด ผมโทรศัพท์ไปมันก็รับ... แต่ก็ไม่ออกมาเปิด สิ้นสุดความอดทน ผมนับหนึ่งถึงห้ารอมันมาเปิดประตู แต่สุด... การรอคอยของผมก็สิ้นสุดลง ผมขี่รถชนประตูรั้วมันเข้ามา ก่อนจะโทรบอกให้คุณลุงของผมให้หาคนมาซ่อมประตู และเรียกประกันมาดูรถผมให้ด้วย
มันมองหน้าผมตื่นๆ ผมต้องรีบเดินเข้าไปบ้านมันไปกลัวจะเผลอจับมันตี มันเดินตามเข้ามาก่อนจะเอากระเป๋าผมขึ้นไปเก็บ หลังจากมันเดินลงมาผมถามมันว่าจะกินอะไร ทั้งๆ ที่มีเมนูในใจ แล้วใจผมกับมันก็ตรงกันเพราะมันก็อยากกินข้าวผัด ส่วนผมก็อยากกินข้าวผัดเหมือนกัน... หึๆ
“งั้นวันนี้กูจะทำข้าวผัดกุ้งกับหอยให้มึง... ส่วนมึงก็ทำข้าวผัดเปลือยมาให้กูกินแล้วกัน”
ผมไม่รู้ว่ามันจะเข้าใจสิ่งที่ผมพูดรึเปล่า... แต่ดูจากหน้ามัน ผมว่ามันเข้าใจนะ หึๆ ผมเริ่มลงมือทำข้าวผัดทะเล ก่อนจะตะโกนเรียกให้มันมาชิม ปกติผมไม่ค่อยทำอาหารหรอก อยู่บ้านก็มีแม่บ้านทำให้ และถึงผมจะทำ.. คนที่จะได้กินก็ต้องเป็นคนพิเศษด้วย ผมตักข้าวผัดใส่ปากมัน
“ร้อนๆๆๆ”
แย่ล่ะ ผมรีบเป่าก่อนที่จะให้มันกิน ไม่แปลกหรอกที่มันจะร้อน ผมย่อตัวลงก่อนจะก้มลงเป่าปากมัน
“หายร้อนยังครับ?”
ผมมันสะเพร่าจริงๆ ถ้าเกิดปากมันเป็นอะไรขึ้นมา... ผมก็ไม่ได้จุ๊บมันสิ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ผมสังเกตว่ามันไม่กินผักเลย เอาแต่เขี่ยออก ทั้งๆ ที่ผมพยายามหันให้เป็นชิ้นเล็ก เพราะมันจะได้ไม่เห็นแล้วจะได้กิน
“ทำไมไม่กินผัก?”
“ก็ผักมันไม่อร่อย”
ผมถึงขั้นถอนหายใจเลยล่ะ มันพูดเหมือนเด็กๆ ทั้งๆ ที่อายุก็จะสิบแปดอยู่แล้ว
“ผักมีประโยชน์นะ กินให้หมด”
“ไม่เอา ไม่กิน ข้าวผัดไม่ชอบ..”
เป็นครั้งแรก... ที่ผมเห็นมันแทนชื่อตัวเอง แทนที่จะใก้กูมึงที่ตอนแรกผมกับมันเคยพูด... แต่แปลกเพราะแค่นั้นมันก็ทำให้ผมยิ้มออก เพราะมันเหมือนช่องว่างระหว่างผมกับมันเริ่มน้อยลง ผมพยายามพูดหาวิธิหว่านล้อมแต่ดูเหมือนจะไร้ผล
“ชารู้ครับว่าผัดแพ้ผัก... แต่เชื่อชานะ แต่ผัดกินคำนี้ผัดจะไม่อ้วกแน่ๆ”
ผมเพิ่งรู้เหมือนกันว่ามีคนแพ้ผักในโลก กินปุ๊บอ้วกปั้บ หึๆ
“แต่เดี๋ยวผัดอ้วกใส่ชานะ...”
“คำเดียวก็พอนะครับ”
ผมยิ้มให้มันอย่างใจเย็น ผมเข้าใจ เพราะผมก็เคยเป็น แต่พ่อบอกผมว่าถ้าไม่กินเดี๋ยวไม่โตนะ สุดท้ายผมก็เลยยอมกิน ผมป้อนผักคำแรกให้มัน ก่อนจะเห็นสีหน้าของมันว่ามันพร้อมจะอ้วกแล้ว
ผมก้มลงประกบลงที่ริมฝีเล็กๆ ของมัน ก่อนจะใช้ลิ้นดันผักให้ลงกระเพาะ แต่ความต้องการของผมไม่ได้หยุดแค่นั้น ลิ้นผมตวัดไปมาในโพลงปากหวาน ผมไม่เคยต้องการอะไรมามากขนาดนี้ ผมเคยจูบกับคนมามากมาย แต่กับคนๆ นี้ ทำไมถึงทำให้ผมใจเต้นได้ล่ะ...
“ข้าวผัดจานนี้... มีน้ำชากินได้คนเดียวนะครับ”
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
Writer : Talk
เสียงในใจของพี่น้ำชาเราเป็นอย่างไรบ้าง ฮ่าๆ ใครจะเชื่อล่ะว่า... พี่ชาของเราก็หลงน้องข้าวผัดเหมือนกัน
- ., - ขอบคุณทุกๆ คอมเม้นนะคร้าบ บ ไรเตอร์ขออภัยที่อัพช้า เหตุเพราะการงานเยอะเกิน ติดเรียนซัมเมอร์ เดี๋ยวปิดคลอส์เมื่อไหร่จะมาอัพทุกวันเลย ย
ความคิดเห็น